ลืมตาตื่นอีกครั้งในร่างของคนอื่นว่าแย่แล้ว วิญญาณเจ้าของร่างก็ยังตามทวงร่างคืนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นแย่กว่า
ลืมตาตื่นอีกครั้งในร่างของคนอื่นว่าแย่แล้ว วิญญาณเจ้าของร่างก็ยังตามทวงร่างคืนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นแย่กว่า
ณ พัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ดินแดนอันเลื่องชื่อจากการมีรถไฟลอยน้ำบนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สะพานผุดกลางแม่น้ำ ทุ่งทานตะวันเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งเมือง ก็ยังมีอีกของดีอีกอย่างหนึ่งที่รอวันถูกค้นพบ
มนุษย์ที่เป็นมิตรกับสรรพสิ่งบนโลก ไม่เว้นแม้แต่...
“หนูลูก มาหาพี่เร็ว อย่าไปทางนั้นเลย พวกพี่สาวเขาตกใจ”
พนักงานคนหนึ่งของร้านนั่งชิลเบะปากออกคล้ายอยากร้องไห้ ซ่อนตัวเองอยู่หลังเสาพลางตะโกนบอกกับอีกฝ่าย “อย่ามัวแต่คุยได้ไหม คนอื่นจะหัวใจวายตายอยู่แล้ว”
ชายหนุ่มกลับยิ้ม ไม่ได้ถือสาอะไรที่เจ้าหล่อนพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์
“น่า ใจเย็นๆ ต้องให้เวลาน้องเขาด้วย”
เหล่าพี่สาวต่างก็ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายไม่รู้จักหยุดเมื่อ ‘น้อง’ ตัวนั้นไม่ยอมเลื้อยเข้าขวดสักที
สายตาทุกคู่มองดูงูเห่าตัวเล็กที่หัวดื้อไม่ยอมให้ ‘คีรี’ จับง่ายๆ ยังคงดึงเชิงประวิงเวลาอยู่อย่างนั้น ถ้าปากขวดอยู่ทางซ้ายงูก็จะเลื้อยไปทางขวา ถ้าปากขวดอยู่ทางขวางูก็จะเลื้อยไปทางซ้าย เป็นแบบนี้มาหลายนาที คนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ลุ้นตัวโก่ง เพราะแม้จะเป็นลูกงูแต่ก็เป็นงูเห่าที่มีพิษร้ายแรง บางจังหวะน้องของคีรียังชูคอแผ่แม่เบี้ยขู่ฟ่อๆ อยู่เลย
มันน่าเอ็นดูตรงไหนทำไมเจ้านั่นถึงยังมองสัตว์ชนิดนี้ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนกัน
ห้านาทีให้หลังลูกงูเห่าก็เลื้อยเข้าไปอยู่ในขวดที่เจาะรูระบายอากาศเรียบร้อย ทำให้พนักงานของทางร้านพากันถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะจวนจะถึงเวลาเปิดร้านแล้ว หากเจองูช่วงที่มีลูกค้าคงได้วุ่นวายกว่านี้ ดีที่พนักงานขนส่งนำพัสดุชิ้นสุดท้ายที่ลูกค้านัดรับมาส่งให้พนักที่ร้านพอดี ผนวกกับมีทักษะอยู่บ้างเลยช่วยจับงูไว้ได้โดยไม่ต้องถึงมืออาสากู้ภัย
“ขอบใจแกมากนะคีน”
“ไม่เป็นไรครับพี่ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมพาน้องไปไว้ที่ศูนย์ก่อนแล้วกันครับ”
ใช้เวลาไม่กี่นาทีคีรีก็มาถึงที่หมาย ชายหนุ่มสืบเท้าเข้าไปในมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมขวดพลาสติกที่บรรจุเจ้างูน้อยไว้หนึ่งตัว เมื่อเจอกับใครสักคนที่ทำงานอยู่ในนี้ก็ส่งขวดที่ว่าให้ “ผมฝากพี่พาน้องไปปล่อยด้วยนะครับ”
อีกฝ่ายก็รับมาถือไว้อย่างไม่อิดออด เพ่งพินิจเพียงครู่สั้นๆ ก็เอ่ยปากถาม “งูเห่ารึ”
“ครับพี่ ไปได้มาจากร้านเฮียผา”
“เอ็งจับงูเป็นตั้งแต่เมื่อไร”
“เคยเห็นในเน็ตครับ เลยเอามาปรับใช้”
“ครั้งแรก?” เขาพยักหน้ารับ “คนจริงว่ะ ไงก็ขอบใจเอ็งมาก เอาๆ กลับบ้านไปนอนได้แล้ว”
คีรีรับปากพี่กู้ภัยเสียดิบดี แต่แล้วก็มาติกแหง็กอยู่ด้านหน้าศูนย์กับสุนัขหลังอานแสนขี้อ้อนที่เดินมาพันแข้งพันขา พอเขายอบกายลงไปหาพลางยื่นมือไปเกาพุงให้เท่านั้นล่ะ ดูเหมือนเจ้าด่างนี่จะชอบใจมากทีเดียว
คล้อยหลังการเกาพุงน้องหมาเสร็จเป็นที่เรียบร้อย พี่ชายใจดีก็กล่าวเสียงอ่อน “ไว้พี่มาเล่นด้วยนะคนเก่ง”
แล้วจึงได้ฤกษ์กลับสำนักงานเพื่อทำเรื่องเลิกงาน
มอเตอร์ไซค์คู่ใจเคลื่อนไปบนท้องถนนอย่างไม่เร่งรีบ แต่ไม่นานก็มาถึงที่ทำงาน คีรีนำพัสดุที่ส่งไม่สำเร็จในวันนี้ไปเก็บ เนื่องจากลูกค้าไม่สะดวกที่จะรับของและเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้แทน เขาจัดการทุกอย่างด้วยใบหน้าเจือรอยยิ้มบางๆ แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน
คีรีเดินทางกลับบ้านช่วงหนึ่งทุ่มเศษๆ เขาแวะซื้ออาหารสำหรับคนเดียวเพื่อนำกลับไปทานที่บ้านเช่า
เกิดมายี่สิบห้าปีคีรีไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง เขาอยู่บ้านเช่ามาตั้งแต่จำความได้ ในบ้านหลังนั้นเคยมีเขา พ่อ แม่และย่า แต่ตอนนี้เหลือแค่เขาคนเดียวแล้ว โดยที่สมาชิกของครอบครัวคนสุดท้ายเพิ่งจากไปเมื่อสองปีที่แล้วเพราะโรคชรา ในขณะที่พ่อและแม่เสียไปเมื่อช่วงโรคระบาดหนักๆ ทั้งโลกเมื่อห้าปีที่แล้ว
การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินใจจะทำ
ระหว่างทางกลับบ้านต้องผ่านคลองสายเล็กๆ สายหนึ่ง ปกติแล้วเขาก็แค่ต้องขี่รถข้ามสะพานไป แต่วันนี้ต่างไปจากเดิมเมื่อมีรถหรูทะเบียนกรุงเทพฯ คันหนึ่งจอดอยู่ที่เชิงสะพานซึ่งไม่ค่อยมีใครนิยมจอดรถตรงนี้ พอขี่ผ่านมาครู่หนึ่งสายตาก็สบเข้ากับร่างของใครบางคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ราวสะพาน
คีรีผ่อนความเร็วลงในขณะที่สายตาไม่ละไปจากแผ่นหลังนั้น ในที่สุดล้อรถก็หยุดหมุน พร้อมชายหนุ่มที่ตวัดขาลงไปยืนอยู่ที่พื้น เขาก้าวเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างๆ คนที่อายุน่าจะไล่เลี่ยกัน
ชายผู้นั้นหันหน้ามามองคนมาใหม่ ก่อนหันกลับไปทางเดิม
ความเงียบปกคลุมพื้นที่อยู่นาน ก่อนเจ้าถิ่นจะเอ่ยขึ้นหวังชวนคุย “สวัสดีครับ ผมคีนนะ คุณล่ะ” อีกฝ่ายไม่ตอบโต้ “มายืนทำอะไรตรงนี้คนเดียวครับ ลมแรงออก”
ชายหนุ่มผิวพรรณดีชำเลืองมองคนปากมากเป็นระยะ “ยุ่ง”
“กินข้าวยังครับ กินข้าวก่อนไหม ที่นี่มีร้านอาหารอร่อยๆ เยอะเลย” เพราะคำว่ายุ่งหรือท่าทีไม่เป็นมิตรนั้นไม่สามารถพรากความมีไมตรีจิตของคีรีไปได้ เขาก็แค่อยากให้คนคนนี้ได้มีชีวิตอยู่ต่อเท่านั้น “ผมไม่รวยหรอกนะ แต่มื้อนี้ผมเลี้ยงคุณได้”
“อย่ามายุ่ง จะไปไหนก็ไป”
คงจะเจอเรื่องไม่ดีมาสิท่า
“นั่นรถคุณเหรอ คันหรูๆ นั่นน่ะ” คนเจ้าอารมณ์ยังคงเงียบ “ไปนั่งบนรถแพงๆ แบบนั้นเถอะ อย่ามายืนตากลมตรงนี้เลย”
“โคตรน่ารำคาญ” ว่าจบก็หมุนตัวเดินกลับไปทางซีดานสีขาว
คีรีไม่ยี่หระกับคำตำหนิ แค่เห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะเปลี่ยนใจไม่มายืนสุ่มเสี่ยงตรงราวสะพานก็พอใจแล้ว เขาตะโกนไปว่า “นี่คุณ ถ้าไม่ให้ผมเป็นเจ้ามือก็อย่าลืมหาข้าวอร่อยๆ กินสักมื้อนะ”
แล้วจึงควบมอเตอร์ไซค์มุ่งหน้ากลับบ้านของตน ทว่ายังไม่ทันจะพ้นเชิงสะพานอีกฝั่ง เสียงวัตถุบางอย่างก็ตกกระแทกผืนน้ำจนเกิดเสียงดังสนั่น เขารีบพาตัวเองเข้าไหล่ทางพร้อมกับที่ได้ยินเสียงชาวบ้านแถวนั้นตะโกนพูดว่ามีคนกระโดนสะพาน
หัวใจกระตุกวูบ
เป็นคนคนนั้นหรือ คนที่เขาเพิ่งคิดว่าได้ช่วยไว้แล้ว
คีรีว่ายน้ำเป็น และเขาก็ห้ามขาตัวเองไม่ทันถึงได้รีบถอดรองเท้าแล้วกระโดดลงไปในน้ำ ก่อเกิดเสียงกระแทกไม่ต่างจากเมื่อครู่ เขาออกแรงว่ายสุดแรงเกิดเพื่อไปให้ถึงจุดที่มีมือของผู้ประสบภัยชูขึ้นหวังขอความช่วยเหลือ เขาคว้าตัวของชายผู้นั้นไว้ได้ในที่สุด แต่แล้วพ่อหนุ่มหน้ายุ่งก็กอดรัดรอบลำคอและพยายามตะเกียกตะกายเพื่อพาตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำ ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เพราะนอกจากจะต้องช่วยคนอื่นแล้ว คีรียังต้องช่วยตัวเองให้ไม่จมดิ่งสู่ใต้น้ำ
ไม่ทันที่คีรีจะได้พาอีกฝ่ายขึ้นฝั่ง ร่างทั้งสองก็จมดิ่งไปพร้อมๆ กัน
จริงอยู่ที่คีรีว่ายน้ำเป็น แต่เขาไม่เคยช่วยคนจมน้ำ เขาลืมไปชั่วขณะว่าหากไม่มีความเชี่ยวชาญก็ไม่ควรเสนอตัวทำเรื่องเกินความสามารถ แต่นาทีนั้นมันยั้งขาตัวเองไม่ทัน
เขายังไม่อยากตาย แต่ความทรมานนี้บอกเขาว่าตัวเองใกล้สิ้นใจแล้ว
พ่อ แม่ ย่า ผมกำลังจะไปหานะ
ในท้ายที่สุดภาพทุกอย่างก็ดับลง...
⋆ ˚。⋆୨୧˚ ˚୨୧⋆。˚ ⋆
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
หยุนซีแต่งงานกับกู้ซือเฉิน คุณชายที่สูญเสียสิทธิ์ที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลแทนน้องสาว ตอนแรก พวกเขาเพียงแค่ว่าที่สามีภรรยาในนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวของหยุนซีถูกค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตาม ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างที่คิดเลย ใครจะไปคิดว่าเธอเป็นทั้งแฮ็กเกอร์มืออาชีพ นักประพันธ์เพลงลึกลับ และทายาทคนเดียวของนักแกะสลักที่มีชื่อเสียงระดับชาติ.... มีทั้งนักร้องชื่อดัง นักแสดงที่เคยได้รับรังวัลมากมายและผู้สืบทอดของตระกูลที่ร่ำรวยมาตามจีบว่าที่ภรรยาของเขา กู้ซือเฉินควรทำอย่างไรดี?
ซ่งเซียงทำสิ่งที่น่าอายที่สุดในชีวิต คือการเป็น "เลขานุการส่วนตัว" ให้กับเหยียนลี่หานนานถึงห้าปี เธอมอบทุกสิ่งให้เขา แต่ผู้ชายที่น่ารังเกียจกลับบอกว่าเบื่อ แล้วส่งเธอไปอยู่ในที่ที่ห่างไกลไม่มีใครสนใจ ชีวิตที่ถูกส่งไปอยู่ที่ห่างไกลนั้นไม่ง่าย แต่โชคดีที่เคราะห์ร้ายได้ผ่านพ้นไป เมื่อซ่งเซียงมาถึงระดับล่าง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปวดหลังปวดขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เธอจึงอดทนทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ มีหนุ่มน้อยมาไล่ตาม ผู้ใหญ่ใจดีมอบผลงานให้ พ่อที่ไม่เคยพบหน้าเป็นมหาเศรษฐีใกล้ตาย พยักหน้าก็ได้รับมรดก ชีวิตมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ เหยียนลี่หานคนโชคร้ายแน่ๆ! ในงานเลี้ยงเหยียนลี่หานถือแก้วไวน์ มองไปที่อดีตเลขานุการที่ไม่ได้เจอหลายวันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย "ยังคิดถึงฉันจนต้องมาที่งานเลี้ยงนี้ใช่ไหม?" ซ่งเซียงยิ้มเยาะ "คุณเหยียน ฉันไม่ได้เชิญคุณนะ" เหยียนลี่หานตอบ "เธอคิดอะไรอยู่?"
เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด