นานิคือนางเอกที่ถูกเก็บมาเลี้ยงในครอบครัวร่ำรวย เธอมีพ่อเลี้ยงที่หล่อเหลาและใจดี วันนึงเธอบังเอิญไปเห็นคุณแม่แอบมีอะไรกับอาและลุงจนเกิดใจแตก ต่อมาไม่นานเธอเองก็ตกเป็นนางบำเรอให้กับพ่อเลี้ยง อา และลุงเช่นเดียวกับคุณแม่
นานิคือนางเอกที่ถูกเก็บมาเลี้ยงในครอบครัวร่ำรวย เธอมีพ่อเลี้ยงที่หล่อเหลาและใจดี วันนึงเธอบังเอิญไปเห็นคุณแม่แอบมีอะไรกับอาและลุงจนเกิดใจแตก ต่อมาไม่นานเธอเองก็ตกเป็นนางบำเรอให้กับพ่อเลี้ยง อา และลุงเช่นเดียวกับคุณแม่
ทำหน้าที่คนดีแทนแม่
ตอน เห็นแม่กับคุณลุง
นานิเป็นสาวมหาลัยปีสองที่ยังไม่เคยไม่แฟนเพราะว่าคุณพ่อกับคุณแม่หวงเธอมาก ถึงจะเป็นพ่อแม่บุญธรรมที่รับมาอุปการะเลี้ยงดูแต่นานิก็รักพ่อพอสกับแม่เมย์มาก ตั้งแต่จำความได้ก็มีทั้งสองดูแลเธอมาตั้งแต่สามขวบ โดยรับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
บ้านของพ่อพอสรวยมาก เป็นตระกูลใหญ่ที่อยู่รวมกันในคฤหาสน์ มีคุณลุงกับคุณอาอยู่ด้วย ทั้งคู่ยังโสดและไม่เคยแต่งงานแม้จะมีอายุใกล้วัยกลางคน นั่นก็เพราะลุงอาร์มติดเหล้า ส่วนอาเยี่ยมติดการพนัน คงไม่มีผู้หญิงตระกูลผู้ดีคนไหนปลาบปลื้มนั่นเอง
กระนั้นผู้ใหญ่ทุกคนในบ้านก็เก่งเรื่องการทำงาน คุณพ่อพอสเป็นเจ้าของโรงงานทอผ้าที่ได้รับสืบทอดมาจากคุณหญิงรัศมี ลุงอาร์มทำงานเป็นเจเนอร์รัล เมเนเจอร์ คอยดูแลรวมๆ อาเยี่ยมเป็นผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด แม่เมย์ทำงานฝ่ายบัญชี เมื่อทุกคนร่วมมือกันบริหารโรงงานทอผ้าจึงผ่านพ้นทุกวิกฤติทางเศรษฐกิจมาจวบจนวันนี้
ถึงจะไม่มีแฟนแต่นานิก็มีเพื่อนมากเพราะว่าเธอคุยเก่งแถมยังเรียนเก่ง เรียกว่าเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนได้ทั้งชายและหญิง
วันนี้ที่มหาลัยอาจารย์ยกคลาสเรียน สาวสวยวัยยี่สิบจึงกลับบ้านมาเร็วกว่าปกติ เธอนั่งรถตู้สีขาวที่มีลุงคนขับแก่ๆชื่อลุงชัย เขาเป็นคนขับรถประจำตระกูลที่เคยขับรถให้คุณหญิงยายมาก่อน ตอนนี้เขามาขับรถคอยรับส่งนานิไปทุกที่ ทั้งมหาลัย ห้างสรรพสินค้า และที่เที่ยวต่างๆ
เอี๊ยด! รถตู้สีขาวจอดหน้าลานน้ำพุหน้าคฤหาสน์ใหญ่ ประตูบานเลื่อนไฟฟ้าเปิดออกช้าๆขณะที่นิสิตสาวผมยาวหันมองออกมาและยิ้มกว้าง
"ขอบคุณค่ะลุงชัย" คนสวยยกมือไหว้คนขับรถแล้ววิ่งลงมาจุ่มมือเล่นสระปลา ร้องเพลงขณะกระโดดเขย่งขาหันข้างบนลานหญ้าเรียบเตียน
"เอ๊ะ! ทำไมรถคุณแม่จอดในบ้านล่ะ กลับมาแล้วเหรอ"
สาวน้อยยืนจ้างรถเก๋งหรูสีแดง พอชะเง้อมองห้องโถงกว้างขวางก็เจอกับแม่เมย์นั่งอยู่บนโซฟารับแขก หล่อนสวมชุดทำงานสีขาวกับกระโปรงแดงและหันหลังมาทางลูกสาว
ฮิ! นานิยิ้มแล้วกะจะเดินย่องเข้ามาข้างหลังคุณแม่เพื่อสะกิตหล่อนให้ตกใจ รองเท้านักศึกษาถอดทิ้งไว้หน้าบ้านขณะที่ร่ายกายเพรียวสวยแบบสาวขายาวเดินย่องเข้ามาทางหลังโซฟารับแขกในระยะสิบเมตร
จู่ๆดวงตากลมแป๋วก็เบิกกว้างเมื่อเห็นคุณลุงยืนขึ้นมาจากหน้าขาคุณแม่ อุ๊บ! นานิรีบลงมาคุกเข่าหลบอยู่ข้างหลังเปียโนและชะโงกหน้าเรียวขาวมองภาพบาดตาตรงหน้า
เธอเห็นเต็มตาว่าปากลุงอาร์มเลอะน้ำอะไรมันๆ จมูกโด่งก็แดงช้ำ ถึงจะไม่เห็นข้างหน้าคุณแม่แต่จากการลุกยืนของลุงทำให้เด็กสาวจินตนาการออกว่าก่อนหน้านั้นเขาคุกเข่าเอาหน้ามุดหว่างขาคุณแม่แน่ๆ
"รีบๆทำสิคะ" เสียงแม่เอ่ยขณะเงยหน้ามองลุงที่สวมชุดสูทสีเทา
"แปบนึงซิจ๊ะ" ลุงอาร์มเอ่ยแล้วหันหลังไปหยิบขวดวิสกี้น้ำสีทองยกกระดก เขาอมเหล้านอกไว้ในปากแล้วก้มลงมาประกบจูบกับคุณแม่
จุ๊บ! ๆ อึก! อาาา! คุณแม่เงยหน้าทาบสองมือกับแก้มลุงแล้วจูบตอบ แถมยังดูดปากแย่งกินเหล้าในปากลุงอย่างเร่าร้อน
ทั้งสองจูบกันอยู่นานสองนานก่อนคุณแม่จะดันอกลุงอาร์มให้ยืนตรง หล่อนถอดเข็มขัดลุงแล้วดึงกางเกงขายาวสีเทาลงถึงหัวเข่า ภาพตรงหน้าแม่ต่อจากนั้นนานิมองไม่เห็นแล้วเพราะหลังหล่อนบังอยู่
ตุบ! ๆ ๆ เด็กสาวคลานจากหลังเปียโนไปถึงบันไดขึ้นชั้นสอง ก้าวขึ้นมาห้าขั้นแล้วมองคุณแม่จากมด้านข้างมุมสูง
อึก! เธอกลืนน้ำลายเหนียวลงคอและใจเต้นดัง ตูม! ๆ เห็นคุณแม่กำโคนแท่งเอ็นลำใหญ่ของลุงจนมือสั่น แถมยังแลบลิ้นเลียส่วนหัวที่บานใหญ่ รูปร่างของมันราวกับดอกเห็ดสีแดง
แผล็บ! ๆ แม่เลียกินน้ำใสที่ไหลปริออกทางปากลำรูคุณลุงก่อนจะคาบหัวดอกเห็ดแดงดูดจั๊บๆเหมือนจะเค้นคั้นน้ำออกมากินอีก
ตึ่ก! ๆ ๆ สาวมหาลัยใจสั่นแรงจนตาพร่ามัวเหมือนจะเป็นลม แก้มสองข้างก็ชาเหมือนโดนตบ หูอื้ออึงจนไม่ได้ยินว่าคุณลุงกำลังพูดอะไรตอนที่ก้มหน้าและลูบหัวคุณแม่
เมี๊ยว! ๆ จู่ๆแมวสก็อตติชสีเทาที่เลี้ยงไว้ก็ดมกลิ่นเจ้าของและเดินลงมาจากชั้นบน มันร้องเรียกนานิที่กำลังนั่งจับราวบันใดในสภาพตัวสั่น
"ไปก่อน ขึ้นไปก่อนอาเทอร์" นานิโบกมือไล่แมวที่อยู่ขั้นบนสุดของบันได
หม่าววว! แมวอ้วนร้องตอบ ทำเอาคุณแม่กับคุณลุงตกใจและหันมา
อุ๊บ! นานิรีบหมอบนอนคว่ำทอดตัวยาวบนขั้นบันไดบ้านจวนเกือบจะกลิ้งลงมา
"แมวมันเห็นอะไรน่ะ หนูอีกแล้วเหรอ" ลุงอาร์มบ่น
"ป่ะ ไปทำที่อื่นกันเถอะ" คุณแม่ลุกยืนแล้วเดินนำคุณลุงออกจากบ้าน ลุงจอมหื่นก็รีบดึงกางเกงขึ้นมา สวมเข็มขัดแล้ววิ่งตามหลังแม่ไปติดๆ
"เสียเรื่องหมดเลยอาเทอร์" นานิเงยหน้าดุแมวอ้วนก่อนจะอุ้มมันวิ่งขึ้นห้องนอน
ศิริธารา สาววัย18ปีที่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เธอคือทายาทหญิงเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลผู้ดีมั่งคั่ง ทว่าการต้องนอนป่วยทำให้เธอถูกชายหลายคนในบ้านรุกล้ำ ด้วยอยู่กันเป็นตระกูลใหญ่จึงทำให้หนุ่มๆแอบเกินเลยกับธาราทุกครั้งที่มีโอกาส สุดท้ายแล้วเธอต้องรักษาตัวจนหายดี กว่าจะถึงวันนั้นไม่รู้ต้องตกเป็นของใครบ้าง (นางเอกไม่ได้ใสซื่อ เธอฉลาดและร้ายลึก)
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด