นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
ถ้าหลานร่าน หลานขอโทษ
ตอน แอบดูมังกรคนสวน
แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านผ้าม่านลูกไม้เนื้อดี สีขาวบริสุทธิ์ เข้ามากระทบกับพื้นไม้ปาร์เกต์ขัดเงาวับในห้องนอนของคุณหนูน้ำฟ้า คฤหาสน์หลังงามสไตล์โคโลเนียล ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนสวยเนื้อที่หลายร้อยไร่ ในซอยเงียบสงบใจกลางกรุง เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วดังแว่วมาจากภายนอก บ่งบอกถึงความร่มรื่นและเป็นส่วนตัว
คุณหนูน้ำฟ้าในวัยสิบแปดปี กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ที่ปูด้วยผ้าไหมอิตาลีสีชมพูอ่อน ผมยาวสลวยสีดำขลับแผ่สยายไปทั่วหมอน เธอสวมชุดนอนผ้าซาตินสีขาวบางเบา ปลายแขนเสื้อและชายกางเกงตกแต่งด้วยลูกไม้ละเอียดอ่อน บ่งบอกถึงรสนิยมอันเลิศหรูของคุณหญิงยาย
คุณหญิงศศิประภา ผู้เป็นยายของน้ำฟ้า เป็นสตรีสูงศักดิ์ที่สง่างามและมีอิทธิพล แม้จะมีอายุล่วงเลยเข้าสู่วัยชรา แต่ผิวพรรณของนางก็ยังคงเปล่งปลั่ง ดวงตาคมกริบยังคงฉายแววเฉลียวฉลาดและเด็ดเดี่ยว เครื่องประดับเพชรพลอยชิ้นงามที่นางสวมใส่อยู่เสมอ บ่งบอกถึงฐานะอันร่ำรวยและรสนิยมอันหรูหรา คุณท่านพิพัฒน์ ผู้เป็นสามี เป็นชายชราใจดี ใบหน้ามีรอยยิ้มเมตตา ท่านมักจะตามใจคุณหญิงยายเสมอ ทั้งสองใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้
เรื่องราวของน้ำฟ้าเริ่มต้นขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน เมื่อคุณหญิงยายตัดสินใจรับเด็กหญิงกำพร้ามาเลี้ยงเป็นหลานสาว เพื่อเติมเต็มความหวังที่จะมีทายาทสืบสกุล หลังจากที่ลูกสาวคนเดียวของท่านตัดสินใจหนีตามชายชาวต่างชาติไป และไม่เคยหวนกลับมาอีกเลย
ลูกสาวแท้ๆ ของคุณหญิงศศิประภานั้นถูกเลี้ยงดูมาอย่างเข้มงวดกวดขัน ห้ามมีแฟน ห้ามมีเพื่อนผู้ชาย สนใจแต่เรื่องเรียนและกิริยามารยาทตามแบบกุลสตรีที่สูงศักดิ์ แต่สุดท้ายเธอก็ทนกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดไม่ไหว ใจแตก หนีไปกับชายชาวต่างชาติโดยไม่ร่ำลา ทิ้งให้คุณหญิงยายต้องผิดหวังเสียใจอย่างแสนสาหัส คุณหญิงยายจึงรับน้ำฟ้ามาเลี้ยงเพื่อให้เป็นทายาทคนต่อไป
คุณหนูน้ำฟ้าจึงเติบโตมาในคฤหาสน์หลังใหญ่นี้ภายใต้ความรักและความเอาใจใส่ของคุณตาและคุณยายมาก
ตอนสาย คุณหนูน้ำฟ้ากำลังตามหา ปังปิ้ง สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวโปรดของเธอ ปังปิ้งมักจะชอบวิ่งเล่นซุกซนไปทั่วสวน และชอบไปคลอเคลียอยู่กับบรรดาคนสวน
น้ำฟ้าลุกจากเตียง เดินลงบันไดหินอ่อนที่ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้าคริสตัลอย่างสง่างาม เธอเดินออกจากตัวบ้านไปยังสวนด้านหลัง แสงแดดยามเช้าส่องกระทบดอกไม้นานาชนิดที่กำลังเบ่งบาน อากาศบริสุทธิ์สดชื่น เสียงน้ำพุดังเบาๆ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
เธอเดินตามหารอบสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ริมสวน พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นศาลาริมน้ำหลังเล็ก ที่ปกติคุณท่านตาชอบมานั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ แต่วันนี้กลับมีร่างของใครบางคนนอนหลับอยู่บนเก้าอี้หวาย
น้ำฟ้าเดินเข้าไปใกล้ด้วยความสงสัย เมื่อเข้าไปใกล้ เธอก็พบว่าเป็นพี่ทอง คนสวนวัยประมาณสามสิบปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำแดด บ่งบอกถึงการทำงานกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอ กล้ามเนื้อแขนและขาของเขาดูแข็งแรงและแน่นกระชับ พี่ทองนอนหลับตาพริ้ม ใบหน้าผ่อนคลาย
ใจของน้ำฟ้าเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อสายตาของเธอเลื่อนลงต่ำไปหยุดอยู่ที่บริเวณช่วงเอวของพี่ทอง เสื้อยืดสีเข้มของเขาเลิกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นขอบกางเกงยีนส์เก่าๆ น้ำฟ้าไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เธอค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ศาลาอย่างเงียบเชียบ หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นทุกขณะ มือเล็กๆ เริ่มเย็นชื้น เธอรู้สึกตื่นเต้น ประหม่า และอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด
เธอค่อยๆ ย่อตัวลงข้างเก้าอี้ที่พี่ทองนอนหลับอยู่ มือของเธอสั่นเล็กน้อยขณะค่อยๆ เอื้อมไปเปิดกระดุมกางเกงยีนส์ของเขาอย่างช้าๆ ทีละเม็ด สองเม็ด สามเม็ด ในที่สุด ขอบกางเกงก็เลื่อนลงเล็กน้อย เผยให้เห็นส่วนที่ซ่อนอยู่ภายใน
น้ำฟ้ากลั้นหายใจ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือแท่งเนื้อสีคล้ำขนาดใหญ่ ที่กำลังหลับใหลอย่างสงบอยู่ภายใต้ร่มผ้า พี่ทองไม่ได้สวมกางเกงใน กลิ่นกายของผู้ชายและกลิ่นดินอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูกเล็กๆ ของเธอ หัวใจของน้ำฟ้าเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก
เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้า ความตื่นเต้นและความอยากรู้อยากเห็นปะทะเข้ามาอย่างท่วมท้น เธอไม่กล้าที่จะสัมผัส แต่ก็ไม่อาจละสายตาไปจากภาพนั้นได้
พี่ทองชายวัยสามสิบปี ผู้ดูแลสวนของคฤหาสน์นี้ ไม่ได้ทำหน้าที่แค่คนสวนเท่านั้น เขายังรับจ็อบขับรถส่งของตอนกลางคืนเพื่อหารายได้เสริม ทำให้บ่อยครั้งที่เขามักจะอ่อนเพลียจนหลับเป็นตายในช่วงพักเที่ยง เช่นเดียวกับวันนี้ เขานอนหลับอย่างสงบอยู่บนเก้าอี้หวายในศาลาริมน้ำกลางสวน แสงแดดยามบ่ายอ่อนๆ ส่องลอดเงาไม้เข้ามาต้องใบหน้าคมเข้มของเขา
คุณหนูน้ำฟ้ายังคงนั่งนิ่งอยู่ข้างพี่ทอง สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่แท่งเอ็นสีดำแดงของเขาที่ยังคงหลับใหลอยู่ มันดูอวบอ้วนหนังหุ้มปลายปิดมิดชิด ความอยากรู้อยากเห็นผลักดันให้เธอค่อยๆ ก้มตัวลงช้าๆ หัวใจของเธอเต้นระรัวราวกับกลองศึก
มือเล็กๆ ของน้ำฟ้าสั่นเทาเล็กน้อยขณะค่อยๆ เอื้อมไปสัมผัสแท่งเอ็นของคนสวนอย่างแผ่วเบา สัมผัสแรกที่ปลายนิ้ว เธอรู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มและไออุ่นจากแท่งเอ็นนั้น มันร้อนผ่าวและเต้นตุบๆ อยู่ในกำมือของเธอ ความรู้สึกแปลกประหลาดและตื่นเต้นแล่นไปทั่วร่าง คุณหนูน้ำฟ้า เธอร้อนรุ่มและหายใจถี่ขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
เธอตัดสินใจลองบีบแท่งเอ็นนั้นเบาๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มแรงขึ้น มันสั่นสู้มือเล็กๆของเธออย่างน่าประหลาดใจ หัวใจของคุณหนูน้ำฟ้าเต้นแรง ตึ่ก! ๆ ๆ ราวกับจะหลุดออกมานอกอก
ทั้งๆ ที่พี่ทองยังคงหลับไหลไม่ได้สติ แต่แท่งรักของเขากลับค่อยๆ แข็งตึงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ผงาดโด่จนล้นกำมือของคุณหนู หนังหุ้มปลายลำค่อยๆ เปิดลอกออก เผยให้เห็นหัวดอกเห็ดสีแดงที่บานโต
ส่วบ! ๆ ๆ สาวน้อยลองกำรูดแท่งรักโดยเลียนแบบจากหนังโป๊ของคุณท่านตาที่เคยแอบดูในคอมพิวเตอร์ของท่าน เธอรู้สึกถึงลำร้อนที่สากๆบาดอุ้งมือจนสยิวปนจั๊กกะจี้
อือออ! ๆ พี่ทองในลำคอเบาๆ ราวกับละเมอ ทำให้คุณหนูน้ำฟ้าสะดุ้งสุดตัว มือเล็กๆ ปล่อยแท่งเอ็นของเขาอย่างรวดเร็วแล้วรีบวิ่งหนีออกจากศาลาเข้าไปในสวนผลไม้ด้วยใจที่เต้นระทึก
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
รวมเรื่องสวิงกิ้งจากสาวๆและสามีหลายๆท่าน มีหลายตอน หลายเหตุการณ์ สัมผัสถึงรสชาติสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ นอกกายแต่ไม่นอกใจ
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
“ไอ้พร้อม ไอ้ห่า มึงมันหยาบเกินคน มึงไม่เป็นลูกผู้ชาย” “ก่อนจะว่าแบบนั้น มึงดูเอ็นกูยัง มึงดูเอ็นกูแข็งร้อนขนาดนี้ มึงยังปากดีว่ากูไม่เป็นลูกผู้ชายอีกเหรอ”
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY