เรื่องสั้นแนวผิดบาป ความสัมพันธ์ร้อนแรงของคุณแม่สาวใหญ่กับลูกเขยวัยรุ่น เมื่อลูกสาวทำงานหนักจนร่างกายอ่อนแอมีลูกไม่ได้ ลูกเลยขอให้แม่เอากับผัวตัวเองเพื่อทำลูกให้แทน
เรื่องสั้นแนวผิดบาป ความสัมพันธ์ร้อนแรงของคุณแม่สาวใหญ่กับลูกเขยวัยรุ่น เมื่อลูกสาวทำงานหนักจนร่างกายอ่อนแอมีลูกไม่ได้ ลูกเลยขอให้แม่เอากับผัวตัวเองเพื่อทำลูกให้แทน
งานสุดคุ้มอุ้มบุญแทนลูก
ตอน จับลำลูกเขย
สุชาดาเป็นสาวใหญ่ที่ยังสดสวยเหมือนดาราตัวแม่ในวงการละคร เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอดตั้งแต่เสียสามีรักจากอุบัติเหตุไปเมื่อหลายปีก่อน
ลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอคือนิด้า สาววัยทำงานที่มุ่งมั่นสร้างธุรกิจจนร่างกายอ่อนแอ
นิด้าแต่งงานกับแฟนหนุ่มชื่อว่าเจตตั้งแต่เรียนจบ ทั้งสองสร้างธุรกิจร้านเครื่องดื่มเฟรนไซส์จนสามารถตั้งตัวได้ในเวลาอันสั้น แต่ผลที่ตามมาคือนิด้าไม่สามารถมีลูกได้เพราะว่าไปตรวจแล้วมดลูกอ่อนแอ
ปัญหานี้เกือบทำให้ลูกสาวกับแฟนเกือบเลิกรากัน สุชาดาคอยเป็นกาวประสานให้ให้ลูกสาวกับสามีคืนดีกันจนได้ ในที่สุดลูกๆทั้งสองก็เริ่มฝากธุรกิจให้กับคุณแม่คนสวยดูแลแล้วออกไปเที่ยวต่างประเทศและพยายามทำลูกกันอย่างหนัก
พอถึงกำหนดกลับจากเมืองนอกนิด้าและเจตก็มาค้างที่บ้านของวิชุดา ทั้งสองเรียกคุณแม่มาคุยกลางดึกกลางดื่นอยู่ในห้องรับแขก
ฮ้าว! คุณแม่คนสวยนั่งบนโซฟาและหาววอดๆ ในใจคิดว่าลูกสาวกับลูกเขยที่นั่งกับพื้นตรงหน้าคงจะทำอะไรผิดมา
ลูกสาวคลานเข้ามาจับหัวเข่าแม่แล้วเงยหน้ามองตากลมโตของหล่อนอย่างอ้อนวอน
"แม่คะ ช่วยมีอะไรกับเจตได้ไหมคะ"
ห๊ะ! คุณแม่อ้าปากค้าง ขนลุกซู่จนลืมง่วง
"คือ นิด้าอยากให้ผมมีลูกกับคุณแม่ยายน่ะครับ" ลูกเขยเอ่ยขณะเอามือเกาหัว
"จะบ้าเหรอ ทำไมไม่ไปจ้างหมอเขาทำให้ล่ะ เขาเรียกอะไรนะ เดี๋ยวนี้เขาทำได้นี่" คุณแม่คนสวยตวาดเสียงดัง
"มันแพงแม่ แล้วก็ใช่ว่าจะติด ถ้าไม่ติดก็เสียเงินฟรี" ลูกสาวตอบ
"ใช่ครับ อีกอย่างคือว่าเงินที่เอามาลุงทุนเฟรนไชส์พวกเรากู้มาครับ ไม่มีเหลือไปจ้างหมอทำกิฟต์หรอก" ลูกเขยเสริม
"ธุรกิจมันอยู่ได้เพียงแต่ต้องให้เงินมันหมุนเวียนในเฟรนไชส์น่ะครับ ไม่ใช่ดึงเงินออกมาทำอย่างอื่น"
"งั้นทำไมไม่ไปขอเด็กกำพร้ามาเลี้ยงล่ะ ให้แฟนไปมีกับคนอื่นก็ได้นี่ ถ้าอยากได้ลูกขนาดนั้นน่ะ" คุณแม่ยังสาวตอบ
"เด็กกำพร้าไม่ใช่สายเลือดเรานี่แม่ ให้ผัวหนูไปเอากับคนอื่นหนูก็ทำใจไม่ได้หรอกนะ สายเลือดเราก็ไม่ตกถึงลูกด้วย" ลูกสาวตอบ
"คือคุณแม่กับนิด้ามีDNA เหมือนกันไงครับ ลูกที่เกิดมายังไงก็สายเลือดในครอบครัวของเรา ลูกที่จะเกิดจากคุณแม่กับผมยังไงก็ไม่ต่างจากลูกของผมกับนิด้าหรอกครับ"
ลูกเขยเอ่ยขณะเงยหน้ามองเนื้อตัวอิ่มอวบของแม่ยายด้วยแววตาที่แปลกไป
"คือ เดี๋ยวนะ ผัวแกมีอะไรกับฉันนี่แกทำใจได้หรือยัยนิ" แม่ก้มหน้าถามลูกสาวอย่างอึดอัด แต่ใจก็สั่นระรัวผิดปกติ รู้สึกตัวร้อนรุ่มด้วยเลือดสาวที่ฉีดพล่านไปทั่วเรือนกาย
"ถ้าทำลับหลังหนูก็ทำใจไม่ได้หรอก ต้องทำกันตอนที่หนูอยู่ด้วย" นิด้าตอบและเขย่าขาขาวของแม่
"นะแม่ นะคะ" มือลูกบีบขาอ่อนแม่จนแดงเป็นปื้น
"คือ เรื่องแบบนี้มันจะให้มีอะไรกับปุบๆปับๆเลยก็ไม่ใช่เรื่องนะ"
คุณแม่เอ่ยขณะมองหน้าหล่อขาวของลูกเขย พอชายตามองเป้ากางเกงขาสั้นของเค้าก็ต้องตกใจหันหน้าหนีเพราะว่าแท่งเอ็นแข็งดันกางเกงจนชี้โด่
แม่ยายคนสวยรู้เลยว่าลูกเขยต้องอยากทำอะไรกับเธอแล้วแน่ๆ มันทำให้น่าตกใจเพราะเขาไม่น่าจะพร้อมมากขนาดนั้น
"งั้นก็ลองค่อยๆสัมผัสกันก่อนนะคะ เจตขึ้นมานั่งข้างแม่สิ" ลูกสาวตัวดีดึงแขนสามีให้ลุกมานั่งบนโซฟาข้างๆคุณแม่
"จับมือกันก่อนก็ได้ค่ะ ค่อยๆเรียนรู้ร่างกายกันไปก่อน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน" ลูกสาวยุแยง แถมยังยักคิ้วหลิ่วตาเป็นสัญญาณให้สามีสุดหล่อเอามือมาจับแม่ยายคนสวย
หมับ! ลูกเขยจับมือน้อยของแม่แล้วหันมาสบตา
ลูกสาวถอยไปนั่งมองจากโซฟาตรงข้ามเพื่อให้ทั้งสองผ่อนคลาย
ลูกเขยตัวดีไม่เพียงจับมือคุณแม่ เขายังดึงมือน้อยอันนุ่มนิ่มของหล่อนมาสัมผัสตรงเป้ากางเกงขาสั้นอีกด้วย
อือ! สุชาดาครางทันทีที่อุ้งมือโดนแท่งเอ็นแข็งๆภายนอกเนื้อผ้า เธอพยายามชักมือกลับแต่ว่าลูกเขยบีบมือเธอให้กุมกำแท่งเอ็นร้อนแน่นขึ้น
"ถอดกางเกงสิ หล่อนจะได้ดู" ลูกสาวนั่งไขว่ห้างและออกคำสั่งสามี
ฟุ่บ! จู่ๆเจตก็ดึงร่นกางเกงนักบอลลงไปที่หัวเข่าพร้อมกับกางเกงใน แท่งเอ็นยาวโง้งดีดผึงขึ้นมาฟาดมือแม่ดังป่าบ!
อึก! สุชาดากลืนน้ำลายเหนียวลงคอเมื่อเห็นแท่งเอ็นอันยาวโง้งที่ลูกสาวตั้งใจหมายมั่นว่าจะให้แทงเข้ามาในหว่างขาของเธอ
"ยังไม่พร้อม ไม่ใช่วันนี้นะ" คุณแม่เอ่ยและมองตาลูกเขยก่อนจะหันมามองลูกสาวอย่างรนๆ
"ไม่ใช่ก็ได้ค่ะ งั้นจับดูไปก่อน จะได้หายกลัว" นิด้ากอดอกบอกแม่
หมับ! คุณแม่กำบีบตรงกลางแท่งเอ็น ใบหน้าสวยก้มลงเหมือนว่าหนักอึ้งจนโงหัวไม่ขึ้น
ลูกเขยบีบข้อมือน้อยแล้วบังคับให้คุณแม่กำรูดแท่งเอ็นขาวๆขึ้นลง ส่วบ! ๆ เห็นหัวดอกเห็ดบานใหญ่สั่นหงึกหงัก มีน้ำใสปริ่มออกมาล้นปากรูจนเลอะติดฝ่ามือ มันลื่นมาก
กลางลำยาวมีเส้นเอ็นปูดๆพันหยักโดยรอบ ส่วนโคนใหญ่มากแถมมีขนดกดำขึ้นอยู่โดยรอบ เรียกได้ว่าความเป็นชายของลูกเขยเหนือกว่าพ่อของลูกสาวมาก ทั้งความยาวและความใหญ่
ส่วบ! ๆ ๆ รู้สึกเสียวอุ้งมือแปล๊บๆเหมือนมีไฟฟ้าช๊อตแล่นขึ้นมาถึงแขน ในอกหวิวๆเหมือนยืนบนที่สูงแล้วกำลังจะตก ร้อนวูบๆวาบๆที่หว่างขาจนกางเกงในเปียกชุ่ม
อือ! ๆ คุณแม่ครางกระเส่าขณะเงยมองหน้าหล่อๆสลับกับก้มลงมองแท่งเอ็นยาวๆที่โดนรูดจนแดงเถือกคามือ
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY