เรื่องสั้นแนวผิดบาป ความสัมพันธ์ร้อนแรงของคุณแม่สาวใหญ่กับลูกเขยวัยรุ่น เมื่อลูกสาวทำงานหนักจนร่างกายอ่อนแอมีลูกไม่ได้ ลูกเลยขอให้แม่เอากับผัวตัวเองเพื่อทำลูกให้แทน
เรื่องสั้นแนวผิดบาป ความสัมพันธ์ร้อนแรงของคุณแม่สาวใหญ่กับลูกเขยวัยรุ่น เมื่อลูกสาวทำงานหนักจนร่างกายอ่อนแอมีลูกไม่ได้ ลูกเลยขอให้แม่เอากับผัวตัวเองเพื่อทำลูกให้แทน
งานสุดคุ้มอุ้มบุญแทนลูก
ตอน จับลำลูกเขย
สุชาดาเป็นสาวใหญ่ที่ยังสดสวยเหมือนดาราตัวแม่ในวงการละคร เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอดตั้งแต่เสียสามีรักจากอุบัติเหตุไปเมื่อหลายปีก่อน
ลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอคือนิด้า สาววัยทำงานที่มุ่งมั่นสร้างธุรกิจจนร่างกายอ่อนแอ
นิด้าแต่งงานกับแฟนหนุ่มชื่อว่าเจตตั้งแต่เรียนจบ ทั้งสองสร้างธุรกิจร้านเครื่องดื่มเฟรนไซส์จนสามารถตั้งตัวได้ในเวลาอันสั้น แต่ผลที่ตามมาคือนิด้าไม่สามารถมีลูกได้เพราะว่าไปตรวจแล้วมดลูกอ่อนแอ
ปัญหานี้เกือบทำให้ลูกสาวกับแฟนเกือบเลิกรากัน สุชาดาคอยเป็นกาวประสานให้ให้ลูกสาวกับสามีคืนดีกันจนได้ ในที่สุดลูกๆทั้งสองก็เริ่มฝากธุรกิจให้กับคุณแม่คนสวยดูแลแล้วออกไปเที่ยวต่างประเทศและพยายามทำลูกกันอย่างหนัก
พอถึงกำหนดกลับจากเมืองนอกนิด้าและเจตก็มาค้างที่บ้านของวิชุดา ทั้งสองเรียกคุณแม่มาคุยกลางดึกกลางดื่นอยู่ในห้องรับแขก
ฮ้าว! คุณแม่คนสวยนั่งบนโซฟาและหาววอดๆ ในใจคิดว่าลูกสาวกับลูกเขยที่นั่งกับพื้นตรงหน้าคงจะทำอะไรผิดมา
ลูกสาวคลานเข้ามาจับหัวเข่าแม่แล้วเงยหน้ามองตากลมโตของหล่อนอย่างอ้อนวอน
"แม่คะ ช่วยมีอะไรกับเจตได้ไหมคะ"
ห๊ะ! คุณแม่อ้าปากค้าง ขนลุกซู่จนลืมง่วง
"คือ นิด้าอยากให้ผมมีลูกกับคุณแม่ยายน่ะครับ" ลูกเขยเอ่ยขณะเอามือเกาหัว
"จะบ้าเหรอ ทำไมไม่ไปจ้างหมอเขาทำให้ล่ะ เขาเรียกอะไรนะ เดี๋ยวนี้เขาทำได้นี่" คุณแม่คนสวยตวาดเสียงดัง
"มันแพงแม่ แล้วก็ใช่ว่าจะติด ถ้าไม่ติดก็เสียเงินฟรี" ลูกสาวตอบ
"ใช่ครับ อีกอย่างคือว่าเงินที่เอามาลุงทุนเฟรนไชส์พวกเรากู้มาครับ ไม่มีเหลือไปจ้างหมอทำกิฟต์หรอก" ลูกเขยเสริม
"ธุรกิจมันอยู่ได้เพียงแต่ต้องให้เงินมันหมุนเวียนในเฟรนไชส์น่ะครับ ไม่ใช่ดึงเงินออกมาทำอย่างอื่น"
"งั้นทำไมไม่ไปขอเด็กกำพร้ามาเลี้ยงล่ะ ให้แฟนไปมีกับคนอื่นก็ได้นี่ ถ้าอยากได้ลูกขนาดนั้นน่ะ" คุณแม่ยังสาวตอบ
"เด็กกำพร้าไม่ใช่สายเลือดเรานี่แม่ ให้ผัวหนูไปเอากับคนอื่นหนูก็ทำใจไม่ได้หรอกนะ สายเลือดเราก็ไม่ตกถึงลูกด้วย" ลูกสาวตอบ
"คือคุณแม่กับนิด้ามีDNA เหมือนกันไงครับ ลูกที่เกิดมายังไงก็สายเลือดในครอบครัวของเรา ลูกที่จะเกิดจากคุณแม่กับผมยังไงก็ไม่ต่างจากลูกของผมกับนิด้าหรอกครับ"
ลูกเขยเอ่ยขณะเงยหน้ามองเนื้อตัวอิ่มอวบของแม่ยายด้วยแววตาที่แปลกไป
"คือ เดี๋ยวนะ ผัวแกมีอะไรกับฉันนี่แกทำใจได้หรือยัยนิ" แม่ก้มหน้าถามลูกสาวอย่างอึดอัด แต่ใจก็สั่นระรัวผิดปกติ รู้สึกตัวร้อนรุ่มด้วยเลือดสาวที่ฉีดพล่านไปทั่วเรือนกาย
"ถ้าทำลับหลังหนูก็ทำใจไม่ได้หรอก ต้องทำกันตอนที่หนูอยู่ด้วย" นิด้าตอบและเขย่าขาขาวของแม่
"นะแม่ นะคะ" มือลูกบีบขาอ่อนแม่จนแดงเป็นปื้น
"คือ เรื่องแบบนี้มันจะให้มีอะไรกับปุบๆปับๆเลยก็ไม่ใช่เรื่องนะ"
คุณแม่เอ่ยขณะมองหน้าหล่อขาวของลูกเขย พอชายตามองเป้ากางเกงขาสั้นของเค้าก็ต้องตกใจหันหน้าหนีเพราะว่าแท่งเอ็นแข็งดันกางเกงจนชี้โด่
แม่ยายคนสวยรู้เลยว่าลูกเขยต้องอยากทำอะไรกับเธอแล้วแน่ๆ มันทำให้น่าตกใจเพราะเขาไม่น่าจะพร้อมมากขนาดนั้น
"งั้นก็ลองค่อยๆสัมผัสกันก่อนนะคะ เจตขึ้นมานั่งข้างแม่สิ" ลูกสาวตัวดีดึงแขนสามีให้ลุกมานั่งบนโซฟาข้างๆคุณแม่
"จับมือกันก่อนก็ได้ค่ะ ค่อยๆเรียนรู้ร่างกายกันไปก่อน ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน" ลูกสาวยุแยง แถมยังยักคิ้วหลิ่วตาเป็นสัญญาณให้สามีสุดหล่อเอามือมาจับแม่ยายคนสวย
หมับ! ลูกเขยจับมือน้อยของแม่แล้วหันมาสบตา
ลูกสาวถอยไปนั่งมองจากโซฟาตรงข้ามเพื่อให้ทั้งสองผ่อนคลาย
ลูกเขยตัวดีไม่เพียงจับมือคุณแม่ เขายังดึงมือน้อยอันนุ่มนิ่มของหล่อนมาสัมผัสตรงเป้ากางเกงขาสั้นอีกด้วย
อือ! สุชาดาครางทันทีที่อุ้งมือโดนแท่งเอ็นแข็งๆภายนอกเนื้อผ้า เธอพยายามชักมือกลับแต่ว่าลูกเขยบีบมือเธอให้กุมกำแท่งเอ็นร้อนแน่นขึ้น
"ถอดกางเกงสิ หล่อนจะได้ดู" ลูกสาวนั่งไขว่ห้างและออกคำสั่งสามี
ฟุ่บ! จู่ๆเจตก็ดึงร่นกางเกงนักบอลลงไปที่หัวเข่าพร้อมกับกางเกงใน แท่งเอ็นยาวโง้งดีดผึงขึ้นมาฟาดมือแม่ดังป่าบ!
อึก! สุชาดากลืนน้ำลายเหนียวลงคอเมื่อเห็นแท่งเอ็นอันยาวโง้งที่ลูกสาวตั้งใจหมายมั่นว่าจะให้แทงเข้ามาในหว่างขาของเธอ
"ยังไม่พร้อม ไม่ใช่วันนี้นะ" คุณแม่เอ่ยและมองตาลูกเขยก่อนจะหันมามองลูกสาวอย่างรนๆ
"ไม่ใช่ก็ได้ค่ะ งั้นจับดูไปก่อน จะได้หายกลัว" นิด้ากอดอกบอกแม่
หมับ! คุณแม่กำบีบตรงกลางแท่งเอ็น ใบหน้าสวยก้มลงเหมือนว่าหนักอึ้งจนโงหัวไม่ขึ้น
ลูกเขยบีบข้อมือน้อยแล้วบังคับให้คุณแม่กำรูดแท่งเอ็นขาวๆขึ้นลง ส่วบ! ๆ เห็นหัวดอกเห็ดบานใหญ่สั่นหงึกหงัก มีน้ำใสปริ่มออกมาล้นปากรูจนเลอะติดฝ่ามือ มันลื่นมาก
กลางลำยาวมีเส้นเอ็นปูดๆพันหยักโดยรอบ ส่วนโคนใหญ่มากแถมมีขนดกดำขึ้นอยู่โดยรอบ เรียกได้ว่าความเป็นชายของลูกเขยเหนือกว่าพ่อของลูกสาวมาก ทั้งความยาวและความใหญ่
ส่วบ! ๆ ๆ รู้สึกเสียวอุ้งมือแปล๊บๆเหมือนมีไฟฟ้าช๊อตแล่นขึ้นมาถึงแขน ในอกหวิวๆเหมือนยืนบนที่สูงแล้วกำลังจะตก ร้อนวูบๆวาบๆที่หว่างขาจนกางเกงในเปียกชุ่ม
อือ! ๆ คุณแม่ครางกระเส่าขณะเงยมองหน้าหล่อๆสลับกับก้มลงมองแท่งเอ็นยาวๆที่โดนรูดจนแดงเถือกคามือ
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
จากชายหนุ่มที่บังเอิญได้รับมรดกตกทอดของบรรพชนสกุลเฉินเพราะอุบัติเหตุ และในที่สุด จากลูกเขยที่ไร้ค่าไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่ง กลับกลายมาเป็นหมอเทวดาที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศยิ่ง
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด