เขา…ชายหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว เธอ…เด็กสาวขาพิการผู้ไม่เคยสิ้นหวัง
เขา…ชายหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความโดดเดี่ยว เธอ…เด็กสาวขาพิการผู้ไม่เคยสิ้นหวัง
“พิรุณ” แปลว่าฝน สำหรับบางคนฝนคือสายน้ำแห่งความสดชื่นชุ่มฉ่ำคือหยาดฝนที่ทำให้รู้สึกมีความสุขหรืออย่างน้อยๆ ได้มองเม็ดฝนที่ข้างหน้าต่างก็คงเป็นความเพลิดเพลินได้พอสมควรแต่ไม่ใช่กับผู้ชายคนหนึ่ง
เขาชื่อ “พิรุณ” อายุยี่สิบแปดปี ทั้งชีวิตมีแค่ความโดดเดี่ยวเป็นเพื่อนข้างกาย หลังเข้าชั้นประถมได้ไม่กี่วันแม่แท้ๆ ก็พาไปหาย่าแล้วก็ไม่เคยกลับมาให้เห็นหน้าอีกเลยเคราะห์ซ้ำกรรมซัดให้หนักขึ้นเมื่อคนเพียงคนเดียวที่รักเขาดั่งดวงใจก็มาด่วนจากไปตอนอยู่ประถมปีที่สาม หลังจากนั้นพิรุณก็ระเหเร่ร่อนย้ายโรงเรียนย้ายบ้านไปเรื่อยตามแต่ความเวทนาสงสารของเหล่าญาติๆ ว่าปีนั้นใครจะรับไปดูแล เขาเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความหมางเมินและไม่เคยได้รับความรักและอ้อมกอดจากใครเลย
พิรุณคือฝนแห่งความโดดเดี่ยว ฝนแห่งความอ้างว้าง คล้ายๆ ว่าเขาคือบ่อเกิดแห่งความโศกเศร้า ชีวิตหลังย่าจากไปเขาก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลยไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตามส่วนรอยยิ้มคือสิ่งที่หาได้ยากยิ่งจากคนแบบเขา
“พิรุณ” เกิดตอนฝนโปรยปรายเขาคือสายฝนแห่งความชื่นใจของมารดาอย่างแท้จริงส่วนชื่อเล่นคือ “ฟ้า” เพราะเด็กสาวที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่เรียนมัธยมต้นรักการมองท้องฟ้าเป็นที่สุด หลายครั้งที่ท้อแท้เธอมักจะแหงนหน้าขึ้นไปมองแผ่นฟ้ากว้างใหญ่แล้วก็จะมีแรงใจขึ้นมาทันทีเธอบอกกับตัวเองว่าถ้ามีลูกไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายจะตั้งชื่อว่าฟ้าแน่นอน
“ฟ้า เดี๋ยวช่วยดูแลคนไข้คนนี้ทีดูแลเป็นพิเศษนะ” หญิงสาววัยกลางคนเข้ามาแจ้งข่าวให้ผู้ร่วมงาน พิรุณเข้าใจทันทีถึงสิ่งที่เธอย้ำประโยคสุดท้ายว่ามันหมายความถึงอะไร ปีละครั้งสองครั้งเขาจะได้รับคำสั่งแบบนี้
“สวัสดีค่ะ” ตุลยดาและพรรัมภายกมือไหว้ชายหนุ่มท่าทางภูมิฐาน ทั้งคู่แปลกใจมากแต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้สุดฤทธิ์เพราะเจ้าหน้าที่ด้านหน้าแจ้งให้มาพบผู้บำบัดในห้องซึ่งก็คือผู้ชายคนนี้ เขาหนุ่มมากไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นนักบำบัดได้บอกว่ายังเรียนไม่จบก็ไม่แคลงใจแต่อย่างใด
“สวัสดีครับ ผมขอตรวจอาการเบื้องต้นนะครับ” พิรุณขออนุญาตก่อนเพราะเขาต้องโดนตัวคนไข้ เขาใช้มือสัมผัส กดและเตะไปทั่วขาของเด็กสาวที่นั่งอยู่บนรถเข็นด้วยความตั้งใจ
ตุลยดาขนลุกเล็กน้อยจากสัมผัสที่ได้รับ นอกจากพี่ชายแล้วก็ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนถูกเนื้อต้องตัวแบบตั้งอกตั้งใจขนาดนี้มาก่อน ที่ผ่านมาเธอพบแต่ผู้บำบัดและหมอที่เป็นผู้หญิงเท่านั้นมันจึงอดหวิวๆ ไม่ได้เมื่อเขาลูบไล้เรียวขาของเธอซ้ำไปซ้ำมา
“สนใจคอร์สวารีบำบัดใช่ไหมครับ คนไข้ว่ายน้ำเป็นไหมครับ”
“เป็นค่ะ แต่ แต่ไม่ได้ว่ายนานแล้วไม่รู้จะยังว่ายได้อยู่ไหม” ตุลยดาตอบ
“ไม่ต้องห่วงครับเราแค่ถามเพื่อกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ถึงว่ายไม่เป็นก็เข้าคอร์สได้ครับเพราะเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดหนึ่งต่อหนึ่งส่วนคนไข้ที่เคยว่ายน้ำเป็นแต่ห่างหายไปนานส่วนมากพอลงน้ำก็ว่ายได้เหมือนเดิมครับหรืออาจจะใช้เวลาสักพักเท่านั้นครับร่างกายก็จะเรียกความสามารถส่วนนั้นกลับมา”
“ไม่ทราบว่าญาติคนไข้เข้าไปดูการบำบัดได้ไหมคะ” พรรัมภาถาม เธอไม่อยากปล่อยน้องสาวให้อยู่ตามลำพังกับผู้ชายในชุดว่ายน้ำเธอรู้ว่าต่อไม่พอใจแน่ๆ และเธอก็ไม่ชอบใจเช่นกันเพราะเห็นสายตาประหลาดๆ ของเขา
“ได้ครับเพราะคนไข้จองคอร์สส่วนตัวมาปกติถ้าเป็นคอร์สธรรมดาจะไม่ให้เข้าครับ”
“คนไข้ต้องการรถรับส่งไหมครับ”
“ไม่ค่ะ เดี๋ยวพีชมารับมาส่งเอง”
พิรุณซักถามข้อมูลจากคนไข้อีกพักใหญ่เพราะต้องการรายละเอียดให้มากที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการรักษาและออกแบบคอร์สบำบัดที่เหมาะสมกับคนไข้ พรรัมภาพอใจมากกับความใส่ใจและมีมาตรฐานของศูนย์บำบัดคิดไม่ผิดเลยที่ยอมจ่ายเงินให้กับที่นี่ถึงมันจะแพงกว่าที่อื่นๆ ตั้งห้าเท่าก็ตาม
“พบกันสัปดาห์หน้านะครับ” ผ่านไปเกือบชั่วโมง พิรุณก็บอกลาคนไข้และพี่สาวของเธอ
“พี่พีชคะ” ตุลยดาเรียกว่าที่สะใภ้ของเธอด้วยเสียงกระซิบ
“ไหนว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วไง” พรรัมภาบอกแล้วจับมือน้องสาวมากุมไว้ เธอรู้ว่าสาวน้อยหน้าหวานจะพูดเรื่องอะไร
“มันแพงมากเลย” ตุลยดาบอกแล้วจู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา ตอนพี่พีชรูดบัตรเครดิตจ่ายเงินเธอเกือบจะร่วงตกจากรถเข็นเพราะราคามันห่างครึ่งล้านไปนิดเดียวเท่านั้น ศูนย์แห่งนี้เป็นที่หนึ่งด้านวารีบำบัดและหัตถบำบัดพี่พีชเลือกคอร์สหกเดือนแบบ VIP ทุกรูปแบบทั้งผู้ดูแล ห้องบำบัดหรือแม้แต่อาหารการกินและเธอต้องมาที่นี่สัปดาห์ละสี่วัน
“ทำให้พี่ไม่ได้เหรอมันคงลำบากและต้องใช้ความอดทนมากแต่พี่ก็อยากให้ตาลลองดูส่วนเรื่องเงินพี่ขอพูดแบบนี้แล้วกัน ในเมื่อพี่มีเยอะกว่าพี่ก็อยากดูแลตรงนี้แล้วถ้าพี่จะซื้อความสุขด้วยเงินมันก็ไม่แปลกใช่ไหมความสุขของพี่คืออยากเห็นตาลกลับมาเดินได้ตาลช่วยทำให้ความฝันของพี่เป็นจริงได้ไหม”
“ค่ะ พี่พีช ตาลจะพยายามตาลจะไม่ดื้อ”
“สัญญาด้วยว่าจะเลิกคิดเรื่องค่าใช้จ่าย สิ่งเดียวที่พี่อยากให้ตาลทำก็คือตั้งใจกับการบำบัด”
“ค่ะพี่พีช ตาลสัญญา”
พรรัมภาพาตุลยดาไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อชุดว่ายน้ำทั้งสองคนเห็นตรงกันว่าควรซื้อแบบชุดชิ้นเดียวมีกระโปรงปิดบั้นท้ายและสีเข้มๆ เข้าไว้ หลังจากเลือกกันอยู่นานจึงได้มาทั้งหมดสามชุด
“ตาลคิดว่าคุณพิรุณเขาเป็นยังไง” พรรัมภาถามระหว่างที่กินของหวาน
“ก็ดีนะคะ เขาพูดจาเข้าใจง่ายดีไม่ใช้ภาษาหมอหรือศัพท์ยากๆ ที่ฟังแล้วงง”
“แล้วต้องอยู่กับเขาครึ่งปีคิดว่าไหวไหม” พรรัมภายังคงถามต่อไป เธอว่าเธอเดาสายตาของอีกฝ่ายไม่ผิดถึงเขาพยายามจะซ่อนมันไว้ก็เถอะแต่ไม่รอดพ้นคนช่างสังเกตแบบเธอหรอก
“ไหวสิคะแล้วตาลก็ไม่ได้อยู่กับเขาสักหน่อยแค่ไปบำบัดสี่วันเองครั้งละไม่กี่ชั่วโมงด้วย”
“ทำไมพี่พีชถามแปลกๆ คะ”
“เปล่าจ้ะพี่แค่อยากแน่ใจว่าตาลโอเคกับมันจริงๆ พี่ก็คิดเองเออเองหลายอย่างกลัวจะเป็นการบังคับตาลมากไป”
“ไม่เลยค่ะพี่พีชอย่าคิดแบบนั้น ทุกคนหวังดีกับตาลค่ะตาลเข้าใจแล้วก็ดีใจมาก”
“น้องสาวของพี่น่ารักที่สุดเลย” พรรัมภาหอมแก้มใสๆ ของตุลยดาแล้วทั้งคู่ก็กอดกัน เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรักและทุ่มเทให้เด็กคนนี้มากมายเหลือเกิน เธอกับตาลไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขกัน ญาติห่างๆ ก็ไม่ใช่แถมเพิ่งรู้จักกันแค่ไม่นานแต่ระยะเวลาอันน้อยนิดกลับสร้างความผูกพันระหว่างเธอกับเด็กคนนี้ได้ยิ่งใหญ่มหาศาล
“กลับกันเลยไหม พี่ต่อคงชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟแล้ว”
“กลับเลยค่ะพี่พีช” พรรัมภาโบกมือให้คนขับรถที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป จริงๆ เธออยากให้มานั่งด้วยกันแต่เขาก็ปฏิเสธทุกครั้งเพราะความเกรงใจ เธอเคยอ้อนวอนปนขอร้องสำเร็จครั้งนึงแล้วก็คิดว่าการแยกโต๊ะคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพราะวันนั้นลุงตุ่มแทบไม่กระดิกตัวเลยระหว่างนั่งทานอาหาร
ตุ่มคือคนขับรถที่บ้านพรรัมภา พ่อกับแม่จ้างไว้ให้ลูกสาวคนเดียวโดยเฉพาะเธอเพิ่งจะมาใช้บริการเมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัยปีสี่เพราะต้องใช้รับส่งตุลยดาที่เดินไม่ได้และต้องมีรถเข็นติดตัวตลอดเวลา ก่อนหน้านั้นพรรัมภาวิ่งหนีตัวตนและความร่ำรวยของตัวเองสุดกำลังเพราะเธอไม่เห็นคุณค่าว่าการมีเงินมากมายล้นฟ้ามันดียังไงแต่ตอนนี้เมื่อเธอได้รู้จักตุลยดาเธอก็รู้ว่าสิ่งที่เธอมีจะทำให้เด็กสาวคนนึงมีชีวิตที่ดีขึ้นมันทำให้เธอมีความสุขเหลือเกิน
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
ซ่งเซียงทำสิ่งที่น่าอายที่สุดในชีวิต คือการเป็น "เลขานุการส่วนตัว" ให้กับเหยียนลี่หานนานถึงห้าปี เธอมอบทุกสิ่งให้เขา แต่ผู้ชายที่น่ารังเกียจกลับบอกว่าเบื่อ แล้วส่งเธอไปอยู่ในที่ที่ห่างไกลไม่มีใครสนใจ ชีวิตที่ถูกส่งไปอยู่ที่ห่างไกลนั้นไม่ง่าย แต่โชคดีที่เคราะห์ร้ายได้ผ่านพ้นไป เมื่อซ่งเซียงมาถึงระดับล่าง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปวดหลังปวดขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เธอจึงอดทนทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ มีหนุ่มน้อยมาไล่ตาม ผู้ใหญ่ใจดีมอบผลงานให้ พ่อที่ไม่เคยพบหน้าเป็นมหาเศรษฐีใกล้ตาย พยักหน้าก็ได้รับมรดก ชีวิตมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ เหยียนลี่หานคนโชคร้ายแน่ๆ! ในงานเลี้ยงเหยียนลี่หานถือแก้วไวน์ มองไปที่อดีตเลขานุการที่ไม่ได้เจอหลายวันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย "ยังคิดถึงฉันจนต้องมาที่งานเลี้ยงนี้ใช่ไหม?" ซ่งเซียงยิ้มเยาะ "คุณเหยียน ฉันไม่ได้เชิญคุณนะ" เหยียนลี่หานตอบ "เธอคิดอะไรอยู่?"
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เผิงฟู่หลิน บุตรสาวราชครูเผิงผู้ยิ่งใหญ่ นางทั้งรูปงาม ทั้งเพียบพร้อมด้วยความสามารถ แต่ผู้คนกลับตราหน้าว่านางเป็นคุณหนูใจโฉด ทั้งร้ายกาจ ทั้งเอาแต่ใจ ในเมื่อนางรักมั่นทั้งหัวใจ แต่กลับได้รับเพียงความว่างเปล่า เช่นนั้นนางจะหันหลังให้บุรุษทุกคน....
นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด