การแก้แค้นที่แสนหอมหวาน...จับลูกสาวศัตรูมาทำเมีย
การแก้แค้นที่แสนหอมหวาน...จับลูกสาวศัตรูมาทำเมีย
หวงรักลูกสาวมาเฟีย
Part 1 Bastet
ป้ายสีชมพูเขียนข้อความ “Happy 8th Birthday” แขวนอยู่บนผนัง แน่นอนว่าวันเกิดก็ต้องมีเค้ก
สาวน้อยที่เกิดวันนี้โปรดปรานช็อกโกแลตทุกรูปแบบ บิดาจึงสั่งทำเค้กช็อกโกแลตประดับหน้าด้วยเจ้าหญิงน้อยนั่งอ่านหนังสือในสวนดอกไม้
“ขอบคุณค่ะปาป๊า สวยมากเลย” พีโอนี่กอดและหอมแก้มพ่อด้วยความดีใจเพราะเค้กถูกใจทุกอย่าง
“หนูอธิษฐานแล้วเป่าเทียนนะ” ราฟาเอลปิดไฟในห้องเพื่อให้แสงเทียนส่องประกาย สาวน้อยหลับตาอธิษฐานขอพรอยู่ในใจ เมื่อเพลงวันเกิดจบเทียนก็ดับ
“ไม่อยากเชื่อว่าหนูจะโตขนาดนี้แล้ว เหมือนเมื่อวานหนูเพิ่งหัดเดิน”
“เสียดายที่หม่ามี้ไม่อยู่นะคะ”
“หม่ามี้อยู่ในใจเราสองคนตลอดเวลา ไม่ได้ไปไหนเลย”
“ค่ะปาป๊า เรากินเค้กกันดีกว่าเนอะ”
“ขอบใจจ้ะสำลี” แม่บ้านนำกาแฟและชามาให้ พีโอนี่บอกขอบคุณสำลีซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเธอด้วย
สำลีอยู่กับพีโอนี่ตั้งแต่เกิด มารดาของพีโอนี่เป็นคนไทยที่มาพบรักกับชาวต่างชาติ เขาร่ำรวยมีเงินเหลือเฟือบ้านช่องใหญ่โต เมื่อภรรยาสุดที่รักให้กำเนิดลูกสาว เขาจึงประกาศรับสมัครพี่เลี้ยง
เธอผ่านการสัมภาษณ์และการทดลองงานด้วยความโล่งใจ งานที่นี่ได้เงินดีแถมมีที่อยู่ที่กินไม่ต้องจ่ายเองสักบาท เงินที่ได้จึงส่งให้พ่อแม่ที่เมืองไทยเกือบทั้งหมด เธอเก็บไว้กับตัวเพียงนิดหน่อยเผื่อไว้ใช้ยามจำเป็น
สำลีทำงานดีและซื่อสัตย์จึงได้รับความไว้ใจจากเจ้านายโดยเฉพาะพวงแก้วที่เป็นสาวไทยพลัดถิ่นเหมือนกัน เธอเป็นแม่บ้าน พี่เลี้ยงและเพื่อนได้ดีเยี่ยม
เมื่อพวงแก้วจากไป พีโอนี่โศกเศร้าอยู่หลายเดือน ก็ได้สำลีช่วยปลอบใจให้คลายทุกข์ระทม
“สวีทพี เหมือนมายเลิฟของผมขึ้นทุกวัน สำลีว่าไหม”
“เหมือนคุณพวงแก้วย่อส่วนค่ะ”
“ลูกผู้หญิงเหมือนแม่จะอาภัพ”
“หนูพูดเรื่องอะไร , ใครบอกคะคุณหนู” ราฟาเอลกับสำลีถามพร้อมกัน
“นั่นสิ หมายความว่าอะไร ปาป๊าไม่เห็นเข้าใจเลย”
“คุณหนูไปได้ยินมาจากไหนคะ”
“แม่ของเพื่อนค่ะ แม่อรสา”
“พิโธ่ ! เป็นแค่ความเชื่อของคนไทยค่ะ คุณหนูอย่าเก็บมาใส่ใจเลย”
“หนูไม่ได้เหมือนแค่หม่ามี้สักหน่อย เหมือนปาป๊าด้วยทั้งความสูง สีตา สีผิวและที่เหมือนกันที่สุดก็คือ …”
“จมูก” สำลีกับพีโอนี่พูดพร้อมกัน
พีโอนี่คือลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่ลงตัวมากๆ เธอมีความเอเชียและยุโรปอยู่บนใบหน้า ไม่แปลกที่จะโดดเด่นดึงดูดสายตาผู้คน เธอเหมือนตุ๊กตาที่มีชีวิต หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา สูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นลอนคลื่น นัยน์ตาสีเขียวอมเทา ปากและแก้มเจือสีแดงโดยธรรมชาติ
“ใช่แล้ว จมูกสวยๆ แบบนี้ มาจากปาป๊าแน่นอนแต่ดีแล้วที่ได้ไปแค่อย่างเดียว” ราฟาเอลหัวเราะร่วนเพราะส่วนอื่นของใบหน้าไม่ค่อยน่าพอใจนัก เขามีริมฝีปากหนา ตาเล็ก คิ้วดกเหมือนมีปลิงเกาะอยู่บนหน้าผาก
“ปาป๊าของหนูหล่อที่สุดในโลก”
“มีแค่สวีทพีกับมายเลิฟนี่แหละ ที่คิดว่าปาป๊าหล่อกว่าใคร” แม้ราฟาเอลจะไม่พอใจส่วนต่างๆ บนใบหน้าแต่พอมารวมกันแล้วมันก็ดูดีไม่น่าเกลียด ยิ่งตอนนี้มีทั้งเงินและอำนาจ จึงน่าดึงดูดกว่าเดิมหลายเท่า
“ค่ำนี้เสียงดังหน่อยนะสำลี เธอเข้านอนแต่หัวค่ำเลยก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่ช่วยดีกว่า วันเกิดคุณหนูจะรีบนอนได้ยังไง”
“สำลีอยู่เถอะ ถ้าไม่อยู่ฉันเหงาแย่เลย ปาป๊าต้องคอยต้อนรับคนที่มางาน”
เค้กช็อกโกแลตมีขนาดแค่ครึ่งปอนด์เพราะสั่งทำเพื่อคนสามคนส่วนเค้กของงานเลี้ยงค่ำนี้ก้อนใหญ่อลังการเพราะมีผู้มาร่วมงานหลายร้อยคน
นอกจากอวดลูกสาว ราฟาเอลก็อยากอวดบารมีและเส้นสายของตัวเอง เขาเชิญนักการเมือง นักธุรกิจ ตำรวจ ทหารและคนมีชื่อเสียงมาร่วมงานคับคั่ง
สองคนพ่อลูกดื่มด่ำกับชาและกาแฟพร้อมละเลียดเค้กไปด้วย เมื่อได้เวลาราฟาเอลก็ไปแต่งตัว พีโอนี่ก็เช่นกันโดยมีสำลีเป็นผู้ช่วยเพราะต้องทำผมให้สวยเป็นพิเศษ
“เรียบร้อยค่ะ คุณหนูชอบไหมคะ” สำลีบรรจงรวบผมสีน้ำตาลอ่อนแค่ด้านบนแล้วคาดด้วยมงกุฎเพชรอันเล็ก ส่วนผมที่เหลือปล่อยให้มันสยายยาวเต็มหลังเพื่ออวดความเงางามให้เต็มที่
“ชอบจ้ะ ขอบคุณสำลีที่สุดในโลกเลย” พีโอนี่กอดสำลีแล้วหลับตาพริ้ม เธอไม่ใช่แค่พี่เลี้ยงแต่เหมือนแม่คนที่สอง
“ไปกันเลยไหมคะ คุณราฟน่าจะรออยู่แล้ว”
“ไปเลยจ้ะแล้วสำลีไม่เปลี่ยนชุดสวยๆ เหรอ”
“ไม่ต้องเปลี่ยนหรอกค่ะ ใส่ชุดนี้ดีแล้ว คนที่มางานจะได้เรียกใช้ถูก”
“แบบนี้ปาป๊าต้องจ่ายเงินพิเศษให้นะเนี่ย สำลีทำงานเกินเวลา”
“คุณราฟจ่ายให้ตลอดค่ะ คุณหนูไม่ต้องห่วง”
“องค์หญิงพีโอนี่” ราฟาเอลโค้งคำนับให้ลูกสาวที่สวมชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่อง
“เจ้าชายของหนู” พีโอนี่ถอนสายบัวให้พ่อ เธอคล้องแขนกับเขาแล้วออกเดินพร้อมกัน
สนามหน้าบ้านถูกเนรมิตเป็นพระราชวัง สิ่งของตกแต่งล้วนหรูหราแวววาวเพราะอยู่ในธีมสีทองกับชมพู ในงานไม่มีโต๊ะและเก้าอี้เพราะจัดแบบค็อกเทล ผู้คนจะได้เดินพูดคุยกันไม่นั่งติดที่
ราฟาเอลกล่าวเปิดงาน พีโอนี่พูดขอบคุณเล็กน้อยเพราะประหม่า แล้วงานเลี้ยงก็เริ่มต้น
“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว”
“ต้องมาสิครับ วันเกิดคนสำคัญของพี่” บาสท์ ลองแมนน์เข้ามากอดราฟาเอล
“วันนี้มาคนเดียวเหรอ ผิดคาดนะเนี่ย”
“งานทางการแบบนี้ควงคนที่ยังไม่ทางการมาไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยววุ่นวาย”
“ฮ่าๆๆ ต้องยังงี้สิไอ้น้องรัก จัดลำดับความสำคัญได้ดีเยี่ยม”
“พีโอนี่โดนล้อมอยู่ ผมฝากของขวัญไว้กับพี่แล้วกัน”
“ได้ๆ เจ้าของวันเกิดก็ต้องโดนล้อมแบบนั้นแหละ” ราฟาเอลหันไปมองลูกสาวด้วยความปลื้มใจ เธอกำลังเล่นเปียโนขับกล่อมผู้คนในงาน
“เรื่องนั้น ยังสนใจอยู่รึเปล่าบาสท์”
“สนใจครับแต่ยังติดปัญหาเรื่องเงิน ผมยื่นกู้ไปแล้ว น่าจะทราบผลเดือนนี้”
“พี่ก็อยากได้หุ้นส่วนที่คุ้นเคยไว้ใจกันได้ ถ้าแกตกลงเราแบ่งกันครึ่งต่อครึ่งไปเลย ไม่ต้องสี่สิบหกสิบอะไรแล้ว”
“จริงเหรอพี่”
“จริงสิ กับคนอื่นพี่จะแบ่งแค่สามสิบด้วยซ้ำแต่นี่น้องก็ต้องแบ่งกันแบบใจๆ”
“ขอบคุณครับพี่ราฟ ผมหวังว่าจะกู้ผ่าน ไม่น่ามีปัญหาอะไร”
“พ่อกับแม่แกนี่ใจแข็งดีนะ ไม่ช่วยลูกเลย ทั้งที่รวยขนาดนั้น”
“ผมทำของผมเองดีกว่า ไม่อยากโดนดูถูกว่าเอาตัวไม่รอด”
“มันก็ใช่แต่พ่อแม่ส่วนมากทนเห็นลูกลำบากไม่ค่อยได้”
“ยกเว้นพ่อแม่ผมนี่แหละ ช่างเถอะพี่ มาดื่มกันดีกว่า งานเลี้ยงทั้งที อย่าคุยเรื่องงานเลย”
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY