การแก้แค้นที่แสนหอมหวาน...จับลูกสาวศัตรูมาทำเมีย
การแก้แค้นที่แสนหอมหวาน...จับลูกสาวศัตรูมาทำเมีย
หวงรักลูกสาวมาเฟีย
Part 1 Bastet
ป้ายสีชมพูเขียนข้อความ “Happy 8th Birthday” แขวนอยู่บนผนัง แน่นอนว่าวันเกิดก็ต้องมีเค้ก
สาวน้อยที่เกิดวันนี้โปรดปรานช็อกโกแลตทุกรูปแบบ บิดาจึงสั่งทำเค้กช็อกโกแลตประดับหน้าด้วยเจ้าหญิงน้อยนั่งอ่านหนังสือในสวนดอกไม้
“ขอบคุณค่ะปาป๊า สวยมากเลย” พีโอนี่กอดและหอมแก้มพ่อด้วยความดีใจเพราะเค้กถูกใจทุกอย่าง
“หนูอธิษฐานแล้วเป่าเทียนนะ” ราฟาเอลปิดไฟในห้องเพื่อให้แสงเทียนส่องประกาย สาวน้อยหลับตาอธิษฐานขอพรอยู่ในใจ เมื่อเพลงวันเกิดจบเทียนก็ดับ
“ไม่อยากเชื่อว่าหนูจะโตขนาดนี้แล้ว เหมือนเมื่อวานหนูเพิ่งหัดเดิน”
“เสียดายที่หม่ามี้ไม่อยู่นะคะ”
“หม่ามี้อยู่ในใจเราสองคนตลอดเวลา ไม่ได้ไปไหนเลย”
“ค่ะปาป๊า เรากินเค้กกันดีกว่าเนอะ”
“ขอบใจจ้ะสำลี” แม่บ้านนำกาแฟและชามาให้ พีโอนี่บอกขอบคุณสำลีซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเธอด้วย
สำลีอยู่กับพีโอนี่ตั้งแต่เกิด มารดาของพีโอนี่เป็นคนไทยที่มาพบรักกับชาวต่างชาติ เขาร่ำรวยมีเงินเหลือเฟือบ้านช่องใหญ่โต เมื่อภรรยาสุดที่รักให้กำเนิดลูกสาว เขาจึงประกาศรับสมัครพี่เลี้ยง
เธอผ่านการสัมภาษณ์และการทดลองงานด้วยความโล่งใจ งานที่นี่ได้เงินดีแถมมีที่อยู่ที่กินไม่ต้องจ่ายเองสักบาท เงินที่ได้จึงส่งให้พ่อแม่ที่เมืองไทยเกือบทั้งหมด เธอเก็บไว้กับตัวเพียงนิดหน่อยเผื่อไว้ใช้ยามจำเป็น
สำลีทำงานดีและซื่อสัตย์จึงได้รับความไว้ใจจากเจ้านายโดยเฉพาะพวงแก้วที่เป็นสาวไทยพลัดถิ่นเหมือนกัน เธอเป็นแม่บ้าน พี่เลี้ยงและเพื่อนได้ดีเยี่ยม
เมื่อพวงแก้วจากไป พีโอนี่โศกเศร้าอยู่หลายเดือน ก็ได้สำลีช่วยปลอบใจให้คลายทุกข์ระทม
“สวีทพี เหมือนมายเลิฟของผมขึ้นทุกวัน สำลีว่าไหม”
“เหมือนคุณพวงแก้วย่อส่วนค่ะ”
“ลูกผู้หญิงเหมือนแม่จะอาภัพ”
“หนูพูดเรื่องอะไร , ใครบอกคะคุณหนู” ราฟาเอลกับสำลีถามพร้อมกัน
“นั่นสิ หมายความว่าอะไร ปาป๊าไม่เห็นเข้าใจเลย”
“คุณหนูไปได้ยินมาจากไหนคะ”
“แม่ของเพื่อนค่ะ แม่อรสา”
“พิโธ่ ! เป็นแค่ความเชื่อของคนไทยค่ะ คุณหนูอย่าเก็บมาใส่ใจเลย”
“หนูไม่ได้เหมือนแค่หม่ามี้สักหน่อย เหมือนปาป๊าด้วยทั้งความสูง สีตา สีผิวและที่เหมือนกันที่สุดก็คือ …”
“จมูก” สำลีกับพีโอนี่พูดพร้อมกัน
พีโอนี่คือลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่ลงตัวมากๆ เธอมีความเอเชียและยุโรปอยู่บนใบหน้า ไม่แปลกที่จะโดดเด่นดึงดูดสายตาผู้คน เธอเหมือนตุ๊กตาที่มีชีวิต หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา สูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นลอนคลื่น นัยน์ตาสีเขียวอมเทา ปากและแก้มเจือสีแดงโดยธรรมชาติ
“ใช่แล้ว จมูกสวยๆ แบบนี้ มาจากปาป๊าแน่นอนแต่ดีแล้วที่ได้ไปแค่อย่างเดียว” ราฟาเอลหัวเราะร่วนเพราะส่วนอื่นของใบหน้าไม่ค่อยน่าพอใจนัก เขามีริมฝีปากหนา ตาเล็ก คิ้วดกเหมือนมีปลิงเกาะอยู่บนหน้าผาก
“ปาป๊าของหนูหล่อที่สุดในโลก”
“มีแค่สวีทพีกับมายเลิฟนี่แหละ ที่คิดว่าปาป๊าหล่อกว่าใคร” แม้ราฟาเอลจะไม่พอใจส่วนต่างๆ บนใบหน้าแต่พอมารวมกันแล้วมันก็ดูดีไม่น่าเกลียด ยิ่งตอนนี้มีทั้งเงินและอำนาจ จึงน่าดึงดูดกว่าเดิมหลายเท่า
“ค่ำนี้เสียงดังหน่อยนะสำลี เธอเข้านอนแต่หัวค่ำเลยก็ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่ช่วยดีกว่า วันเกิดคุณหนูจะรีบนอนได้ยังไง”
“สำลีอยู่เถอะ ถ้าไม่อยู่ฉันเหงาแย่เลย ปาป๊าต้องคอยต้อนรับคนที่มางาน”
เค้กช็อกโกแลตมีขนาดแค่ครึ่งปอนด์เพราะสั่งทำเพื่อคนสามคนส่วนเค้กของงานเลี้ยงค่ำนี้ก้อนใหญ่อลังการเพราะมีผู้มาร่วมงานหลายร้อยคน
นอกจากอวดลูกสาว ราฟาเอลก็อยากอวดบารมีและเส้นสายของตัวเอง เขาเชิญนักการเมือง นักธุรกิจ ตำรวจ ทหารและคนมีชื่อเสียงมาร่วมงานคับคั่ง
สองคนพ่อลูกดื่มด่ำกับชาและกาแฟพร้อมละเลียดเค้กไปด้วย เมื่อได้เวลาราฟาเอลก็ไปแต่งตัว พีโอนี่ก็เช่นกันโดยมีสำลีเป็นผู้ช่วยเพราะต้องทำผมให้สวยเป็นพิเศษ
“เรียบร้อยค่ะ คุณหนูชอบไหมคะ” สำลีบรรจงรวบผมสีน้ำตาลอ่อนแค่ด้านบนแล้วคาดด้วยมงกุฎเพชรอันเล็ก ส่วนผมที่เหลือปล่อยให้มันสยายยาวเต็มหลังเพื่ออวดความเงางามให้เต็มที่
“ชอบจ้ะ ขอบคุณสำลีที่สุดในโลกเลย” พีโอนี่กอดสำลีแล้วหลับตาพริ้ม เธอไม่ใช่แค่พี่เลี้ยงแต่เหมือนแม่คนที่สอง
“ไปกันเลยไหมคะ คุณราฟน่าจะรออยู่แล้ว”
“ไปเลยจ้ะแล้วสำลีไม่เปลี่ยนชุดสวยๆ เหรอ”
“ไม่ต้องเปลี่ยนหรอกค่ะ ใส่ชุดนี้ดีแล้ว คนที่มางานจะได้เรียกใช้ถูก”
“แบบนี้ปาป๊าต้องจ่ายเงินพิเศษให้นะเนี่ย สำลีทำงานเกินเวลา”
“คุณราฟจ่ายให้ตลอดค่ะ คุณหนูไม่ต้องห่วง”
“องค์หญิงพีโอนี่” ราฟาเอลโค้งคำนับให้ลูกสาวที่สวมชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่อง
“เจ้าชายของหนู” พีโอนี่ถอนสายบัวให้พ่อ เธอคล้องแขนกับเขาแล้วออกเดินพร้อมกัน
สนามหน้าบ้านถูกเนรมิตเป็นพระราชวัง สิ่งของตกแต่งล้วนหรูหราแวววาวเพราะอยู่ในธีมสีทองกับชมพู ในงานไม่มีโต๊ะและเก้าอี้เพราะจัดแบบค็อกเทล ผู้คนจะได้เดินพูดคุยกันไม่นั่งติดที่
ราฟาเอลกล่าวเปิดงาน พีโอนี่พูดขอบคุณเล็กน้อยเพราะประหม่า แล้วงานเลี้ยงก็เริ่มต้น
“นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว”
“ต้องมาสิครับ วันเกิดคนสำคัญของพี่” บาสท์ ลองแมนน์เข้ามากอดราฟาเอล
“วันนี้มาคนเดียวเหรอ ผิดคาดนะเนี่ย”
“งานทางการแบบนี้ควงคนที่ยังไม่ทางการมาไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยววุ่นวาย”
“ฮ่าๆๆ ต้องยังงี้สิไอ้น้องรัก จัดลำดับความสำคัญได้ดีเยี่ยม”
“พีโอนี่โดนล้อมอยู่ ผมฝากของขวัญไว้กับพี่แล้วกัน”
“ได้ๆ เจ้าของวันเกิดก็ต้องโดนล้อมแบบนั้นแหละ” ราฟาเอลหันไปมองลูกสาวด้วยความปลื้มใจ เธอกำลังเล่นเปียโนขับกล่อมผู้คนในงาน
“เรื่องนั้น ยังสนใจอยู่รึเปล่าบาสท์”
“สนใจครับแต่ยังติดปัญหาเรื่องเงิน ผมยื่นกู้ไปแล้ว น่าจะทราบผลเดือนนี้”
“พี่ก็อยากได้หุ้นส่วนที่คุ้นเคยไว้ใจกันได้ ถ้าแกตกลงเราแบ่งกันครึ่งต่อครึ่งไปเลย ไม่ต้องสี่สิบหกสิบอะไรแล้ว”
“จริงเหรอพี่”
“จริงสิ กับคนอื่นพี่จะแบ่งแค่สามสิบด้วยซ้ำแต่นี่น้องก็ต้องแบ่งกันแบบใจๆ”
“ขอบคุณครับพี่ราฟ ผมหวังว่าจะกู้ผ่าน ไม่น่ามีปัญหาอะไร”
“พ่อกับแม่แกนี่ใจแข็งดีนะ ไม่ช่วยลูกเลย ทั้งที่รวยขนาดนั้น”
“ผมทำของผมเองดีกว่า ไม่อยากโดนดูถูกว่าเอาตัวไม่รอด”
“มันก็ใช่แต่พ่อแม่ส่วนมากทนเห็นลูกลำบากไม่ค่อยได้”
“ยกเว้นพ่อแม่ผมนี่แหละ ช่างเถอะพี่ มาดื่มกันดีกว่า งานเลี้ยงทั้งที อย่าคุยเรื่องงานเลย”
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]
ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
© 2018-now MeghaBook
บนสุด