เล่ห์มายาลวง - เล่ห์กลแห่งความใคร่ที่นำพาสองครอบครัวต้องมาผูกแรงแค้นต่อกัน กลกามนั้นสร้างรอยแผลและความเจ็บปวด แต่ใดๆ นั้น ความรักจะเยียวยาเอง
เล่ห์มายาลวง - เล่ห์กลแห่งความใคร่ที่นำพาสองครอบครัวต้องมาผูกแรงแค้นต่อกัน กลกามนั้นสร้างรอยแผลและความเจ็บปวด แต่ใดๆ นั้น ความรักจะเยียวยาเอง
สนามบินสุวรรณภูมิ
เริงฤดี เลอวาณิชกุล สาวน้อยร่างสูงโปร่ง ผิวขาวอมชมพูใบหน้าโฉบเฉี่ยวได้รูปถูกปิดบังไว้ครึ่งใบหน้าจากหมวกใบหนึ่งที่สวมพรางสายตาของผู้คน แว่นกลมโตสีชาคล้องสายห้อยอยู่ที่ลำคอระหง จังหวะก้าวเดินด้วยรองเท้าส้นเข็มสูง ๒ นิ้วราวกับนางแบบบนแคทวอร์ค ผิดก็เพียงแต่ในมือของเธอไสรถเข็นเพื่อจะมารับกระเป๋าเดินทาง เธอหยุดรอกระเป๋าใบโตที่สายพานลำเลียงกระเป๋าของสนามบิน ด้ามพัดจิ๋วในมือถูกคลี่ออกแล้วโบกเบา ๆ
“เดาว่าคุณคงกลับมาจากเมืองหนาว มาถึงเมืองไทย เปิดแอร์ขนาดนี้คุณยังร้อน”
เสียงร้องทักจากเบื้องหลังเป็นเสียงของชายหนุ่ม แต่เธอไม่เสียสายตาหันกลับไปมองแม้เพียงนิด ออกอาการเพียงแค่ขยับตัวไปข้างหน้า เป็นการแสดงว่าไม่ประสงค์จะพูดคุย เสียงหัวเราะหึๆ แว่วผ่านเข้ามาแล้วเดินจากไป เธอแค่นยิ้มแล้วพึมพำออกมาอย่างลำพองตัว
“เห็นคนสวยเป็นไม่ได้ ระริกระรี้เข้ามาเชียว ผู้ชายก็ยังงี้แหละ”
เริงฤดี ขยับตัวยกกระเป๋าใบใหญ่ ๒ ใบ ออกจากสายพานลำเลียงขึ้นรถเข็นด้วยตัวเอง แม้จะมีชายหนุ่มที่ขยับจะมาช่วย แต่ไม่ทันกับความว่องไวของเธอที่คุ้นชินกับการช่วยเหลือตัวเองมาตลอด
“สวย แต่ดูหยิ่งชะมัด”
เสียงพูดคุยเบาๆ ห่างออกไปจากชายหนุ่มที่หาญกล้าไปทักเธอก่อน
“หยิ่ง?"
ชายหนุ่มหน้าคมมีสีหน้าสงสัย เขาเพิ่งกลับมาจากดูงานในประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้เครื่องดีเลย์ ทำให้กลับมาช้ากว่ากำหนดเดิม อารมณ์จึงค่อนข้างหงุดหงิดอยู่พอสมควร
“ฉันลองเข้าไปทักดู จะหันมามองหนุ่มหล่ออย่างฉันสักนิดก็ไม่มี หึ หึ”
“อ้อ พอไม่หันมามองนาย เลยว่าหยิ่ง ความหล่อของนายก็ช่วยอะไรไม่ได้”
“กริช คนทักกันอย่างน้อยต้องหันมามองกันบ้าง นี่อะไร ไม่หันมามอง แถมขยับตัวหนี ทำยังกะเราเป็นพวกโรคจิต สักวันเถอะจะเจอดี”
เสียงคนพูดราวคับแค้น ยิ่งฟังคำพูดเรื่อยๆ ของคนเป็นเพื่อนยิ่งทำให้ดูเหมือนถูกดูแคลน
“นายจะพาลให้มันได้อะไรขึ้นมา แค่เขาไม่สนใจก็ปล่อยเขา ผู้หญิงในฮาเร็มนายมีตั้งมาก จะมาอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”
คมกริช อัครโอภาส ส่ายหน้าระอานิสัยของเพื่อน เบื่อหน่ายที่จะพูดคุยเรื่องผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน แต่เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน แถมยังเป็นคู่ค้าทางธุรกิจจึงต้องคบหากันเรื่อยมา ดุบ้าง ด่าบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็กลับมาสนิทกันเหมือนเดิม
“ยากๆ อย่างนี้ ฉันชอบ”
คมกริช มองตามร่างโปร่งที่ขยับย้ายสะโพกกลมกลึงไปกับย่างก้าวที่เดินออกไปทางประตูแล้วถอนใจ เสี้ยวหน้าที่เขาเห็นเพียงแวบเดียวนั้น บอกให้รู้ว่าเธอสวยมาก แต่ในกรุงเทพมหานคร มันไม่ได้เล็กๆ ที่เราจะเจอกันอีก
“ขอให้โชคดี เจอเขาอีกครั้งก็แล้วกัน”
คมกริชบอกเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจ ก้าวนำไปรอกระเป๋าเดินทาง ซึ่งเริ่มลำเลียงเข้ามาแล้ว
“แล้วนายจะรู้ ฉันน่ะดมกลิ่นสาวๆ สวยๆ ไวเสมอ อยากรู้นักว่า ถ้าเจอหน้าหล่อๆ อย่างฉันจังๆ ยังจะกล้าเชิดใส่ฉันไหม”
“วุธ จะทำอะไรให้คิดถึงคู่หมั้นของนายไว้ให้ดี แค่สาวๆ ที่นายสับหลีกอย่างกับนายช่างรถไฟ คุณนุชเขาก็ปวดหัวจะแย่แล้ว”
อาวุธ พินิจนันท์ หัวเราะอย่างไม่ยี่หระ นงนุชเขาก็รัก แต่จะให้เขาเลิกกับสาวสวยรายอื่นๆ รอไปก่อน เพราะยังไง เขาก็ยังไม่แต่งงาน ฉะนั้นอย่ามาหึงหวงมากมาย เขาไม่ชอบ
กระเป๋าถูกลำเลียงมาจนถึงคิวของชายหนุ่ม ทั้งคู่จึงไสรถเข็นออกไปด้านนอก ตรงไปยังลานจอดรถที่จอดไว้ข้ามวันข้ามคืน คมกริชไม่ยอมนั่งแท็กซี่ แต่ยินดีที่จะขับรถมาเองโดยเสียค่าเช่าจอดรถดีกว่า แม้ว่าอาวุธจะบ่นพึมว่ากลับมาเหนื่อยๆ ยังจะต้องมาขับรถกลับบ้าน แถมยังต้องเสียเงินที่ไม่ควรจะเสียอีก
“เราแยกกันตรงนี้ ฉันนัดกับนุชเขาไว้ คืนนี้กลับมาจะฉลองกันหน่อย”
อาวุธบอกอย่างเจ้าเล่ห์ อารมณ์ดี คมกริชเข็นรถไปเพียงลำพัง มุมเลี้ยวที่เขาต้องไสรถเข็นไปนั้นสะดุดกับกระเป๋าใบใหญ่ที่วางนอนอยู่บนรถเข็นหน้าประตู ทำให้เขาชะงักแล้วหันกลับไปก้มหัว ขอโทษกับเจ้าของกระเป๋า
“ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณไม่ได้ตั้งใจ”
เสียงหวานใสนั้นตอบกลับมาทันที คมกริชเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงอย่างสนใจ ผู้หญิงคนนั้นเอง ยามนี้เธอถอดหมวกใบโตออกแล้วสวมแว่นไว้เสียครึ่งหน้า แต่ก็ปิดบังความสวยงามของใบหน้าคมเฉี่ยวไว้ไม่ได้ คมกริชปรายตามองกระเป๋าใบโตสองใบและเครื่องแต่งกายที่หล่อนสวมอยู่ปราดเดียวก็พอประเมินว่าเธอกลับมาจากประเทศเมืองหนาวและรอคนมารับ เพราะในมือถือโทรศัพท์ไว้ คมกริชยิ้มให้เล็กน้อยขยับที่จะเดินต่อ
“ฉันจะไปรอแท็กซี่ได้ที่ไหนคะ”
เสียงนั้นคล้ายลังเล ไม่แน่ใจว่าจะถามเขาดีหรือไม่ แต่ก็ถามออกไปอย่างเก้อๆ เขินๆคมกริชชะงัก หันมามองหญิงสาวเต็มตา ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ด้านล่างนะครับ แต่คงต้องรอนานหน่อย และผมว่าค่อนข้างอันตรายกับผู้หญิงสวยอย่างคุณในเวลานี้”
คมกริชเปิดช่องให้ตัวเอง เสือซุ่มอย่างเขา อาวุธยังตามไม่ทัน
“ฉันโทรหาคนที่บ้าน ไม่มีคนรับ ยังไงก็ต้องไปแท็กซี่ค่ะ ขอบคุณนะคะที่บอก”
เริงฤดีหันตัวกลับจะเข้าไปในอาคารอีกครั้ง
“เดี๋ยวซิคุณ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมไปส่งให้ก็ได้นะครับ”
“คุณจะไปส่งฉันหรือคะ แล้วคุณปลอดภัยกว่าแท็กซี่?”
เริงฤดีแค่นยิ้ม ผู้ชายก็เหมือนกันทุกคน
“นี่ครับนามบัตรผม เผื่อคุณจะไว้ใจ”
คมกริชยื่นนามบัตรให้ ตำแหน่งในนามบัตรระบุถึงตัวตนของเขา เริงฤดีนิ่งคิด ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปางบางเล็ก ไรหนวดเหนือริมฝีปากนั้นเย้ายวน ......บ้า เธอคิดอะไรนี่ เริงฤดีรีบสลัดความคิดของเธอออก บอกตัวเองว่าอย่าสนใจชายหนุ่มคนนี้
“เชิญเถอะครับ รถผมจอดอยู่ทางนี้”
คมกริชเดินนำหน้า โดยไม่ได้รีรอว่าเธอจะปฏิเสธหรือตอบรับ เริงฤดีนิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนเข็นรถตามออกไป
“บ้านคุณอยู่แถวไหนครับ”
เพลิงรักไฟราคา เป็นซีรีย์ของคุณนายและพลทหาร คุณนายผู้พัน - สิชล สาวใหญ่ที่ยังมีไฟราคะอยู่เต็มเปี่ยม เมื่อถูกทอดทิ้งเธอจึงทำในสิ่งที่ผิดพลาด แล้วผู้พัน สามีของเธอจะตัดสินใจอย่างในเรื่องนี้? พลทหารอาสา - นายยอด ทหารเกณฑ์อาสาตัวแสบที่ชอบหว่านเสน่ห์ให้กับหญิงสาว ทำให้เขาไม่เคยขาดแคลนความใคร่ แต่ในเรื่องของความรัก เขาจะสมหวังหรือไม่? โชคชะตาที่เขาเลือกเท่านั้นที่จะตอบได้
ซีรีย์รักต่างวัย เรื่องของความรักที่ไม่อาจหักห้าม แม้วัยต่างกันแต่หัวใจเร่าร้อนอยู่ด้วยกัน เสน่หาหญ้าอ่อน: มีนา หรือมีน สาวน้อยวัย 19 ต้องเข้าไปพัวพันธุรกิจของเหมืองนิลดีที่มี อรรคพล หนุ่มใหญ่ใจดีเป็นเจ้าของ เมื่อญาติของเธอทุจริต เธอจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่จะเป็นไรไปล่ะ เมื่อเธอก็ยินยอมพร้อมใจอยู่แล้ว เสน่หาโคแก่: พฆัคฆ์หรือเสือ นักธุรกิจพันล้าน หนีรักเข้าป่า จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไม่ได้ชาวบ้านและเด็กสาวที่ชื่อ แป้งร่ำช่วยเอาไว้ และนั่นเป็นที่มาของโคแก่ที่เล็งหญ้าอ่อนไว้
ซีรีย์พ่อเลี้ยง สองเรื่องราว สองคู่ ระหว่างพ่อเลี้ยงที่แตกต่างความคิดกันอย่างสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือความรักให้คนที่ชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง จำเลยพ่อเลี้ยง /พฤศตะวัน - เมื่อหญิงสาวต้องกลายเป็นเครื่องมือการติดตามแม่ของเธอ จากชายหนุ่มที่เคยรักแม่ แต่...เสน่ห์ของจำเลยอย่างเธอ พ่อเลี้ยงหรือจะอดใจไหว พ่อเลี้ยงบำเรอรัก/ พฤศตะวัน - วิชนี เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อทวงมรดกของแม่คืนจากพ่อเลี้ยง ทว่า พ่อเลี้ยงที่เธอนึกเกลียดเขามาตลอดนั้นว่าแย่งแม่ของเธอไปจากพ่อ กลับกลายเป็นแค่ตัวหลอก และเป็นผู้ปกป้องเธอมาตลอด
ซีรีย์ดอกไม้สวาท ความแตกต่างคือความงาม ดอกไม้ 2 ชนิดที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เกสรดอกชู้ /พันตะวัน - ธีธัช หนุ่มหล่อผู้มีความสามารถกลับมาเมืองไทยกะทันหัน หลังจากแม่เสียชีวิต ต้นเหตุมาจากแม่ลูกคู่หนึ่ง ซึ่งเขาจะต้องเอาคืนให้ได้ และอันดาคือเหยื่อในความแค้นครั้งนี้ ผกากลีบทอง /พันตะวัน - บุหงาและอาทิตย์ ต้องแต่งงานตามความต้องการของผู้ใหญ่ แต่เส้นทางความรักของคนทั้งคู่ ต่างมีสิ่งที่ต้องปกปิดกันและกัน บุหงาสาวสวยเสนห์แรงจึงต้องเผชิญเรื่องรักในทิศทางที่เธอไม่อาจควบคุม
ซีรีย์บาป 2 เรื่อง 2 รส กับความรักที่ปนเปไปด้วยความใคร่และความรู้สึกผิด บาปหวาน / พฤศตะวัน - ผิดไหม? ที่เธอรักพ่อเลี้ยง สามีใหม่ของแม่ที่ตายไปนานแล้ว แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อพ่อเลี้ยงของเธอ ยังคงรักแม่ของเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะลืม บาปสวาท /พันตะวัน - เมื่อความใคร่เข้ายึดครองการใช้ชีวิต คู่แต่งงานที่ต่างก็หมดรักกัน จึงต้องหาทางออกเพื่อให้ตัวเองสมประโยชน์
มนตราพญามาร - บ้านไร่ตะวันฉายของตฤณพบ ต้องต้อนรับผู้หญิง 2 คน คือ ไอรดา และปิยฉัตร ทั้งคู่ มีคำถามต่อเขาถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าสงสัย แต่ตฤณภพก็ใช้ความใคร่ปะปนไปกับความรักจนสยบเด็กสาวทั้งคู่ได้
ในคืนแต่งงาน เธอไม่ได้พบเจ้าบ่าว ชายแปลกหน้าที่บุกเข้ามา ทำลายทุกอย่างของเธอ แม่สามีทั้งทุบตีและดูหมิ่น สามีเย็นชาและไร้ความปรานี อีกทั้งยังมีหญิงอื่นหัวเราะเยาะและอวดโอ้ เธอจึงถูกไล่ออกไปจากบ้าน ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นทนายความมือหนึ่ง ที่สามารถใช้เอกสารฟ้องร้องชายที่ทำลายชีวิตเธอได้ แต่เธอไม่รู้ว่าชายคนนั้นคือเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในเมืองใหญ่ คนผู้นี้ผ่านผู้หญิงมาหลายคนแต่ไม่เคยผูกพันกับใครเลย มีความสะอาดอย่างมาก อารมณ์แปรปรวน เป็นคนดื้อรั้นและเผด็จการ บังคับให้เธอแต่งงานกับเขา ทำทุกวิธีทางที่เขาจะทำได้ เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม...
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’
นางไร้หัวใจ ไม่คิดรักองค์ฮ่องเต้แม้เพียงสักครั้ง เขายับยั้งใจ กลับตกอยู่ใต้ห้วงเสน่หาสนมเอกผู้นี้
ไอ้เพื่อนหื่นมันล่อทั้งเมียและแม่ยายเพื่อนสนิทอย่างรุนแรงดุเดือดเลือดพล่าน
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด