นางไร้หัวใจ ไม่คิดรักองค์ฮ่องเต้แม้เพียงสักครั้ง เขายับยั้งใจ กลับตกอยู่ใต้ห้วงเสน่หาสนมเอกผู้นี้
นางไร้หัวใจ ไม่คิดรักองค์ฮ่องเต้แม้เพียงสักครั้ง เขายับยั้งใจ กลับตกอยู่ใต้ห้วงเสน่หาสนมเอกผู้นี้
รัชศกอู่กวงที่สี่ ปลายฤดูใบไม้ผลิ
ณ อุทยานหลวงใต้ผืนฟ้าเหนือแผ่นดิน สถานที่อันแปดเปื้อนเต็มไปด้วยการหลั่งเลือด ไม่ด้อยไปกว่าสนามรบแห่งนี้ คือ ‘วังหลัง’ ที่ผู้คนต่างกล่าวถึงอย่างเป็นทางการว่า พระราชวังต้องห้าม
เมื่อสนมเอกอันดับหนึ่งอย่าง ‘เมี่ยวกุ้ยเฟย’ เยี่ยมชมความงดงามหมื่นบุปผา เหล่าคณะข้าราชบริพารก็ก้าวถอยหลัง เคลื่อนตัวออกจนหมด
เป็นที่รู้กันดีว่า เมี่ยวกุ้ยเฟยจบสิ้นแล้ว ฮ่องเต้หมดความโปรดปรานในตัวหญิงงามผู้นี้แล้ว
ภาพฉากนางสนมขึ้นสุดลงสุด มีให้เห็นกันนักต่อนัก แม้กระทั่งโฉมงามอันดับหนึ่งแห่งแผ่นดิน ยังรั้งพระหทัยไว้ได้ไม่ครบหนึ่งปีด้วยซ้ำ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อรุ่งสางมาเยือน วังหลังเกิดเรื่องใหญ่โตสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแปดทิศ เมื่อโอรสแห่งสวรรค์จักรพรรดิเซี่ยเฉิงสวี ใคร่ครวญถึงข้อครหาที่พระองค์ตัดสินโทษประหารอดีตฮองเฮา การตายของสนมเอกฉีกุ้ยเฟยและจางผิน ความวิปลาสของสนมรองชุนกุ้ยเหริน ไปจนถึงโทษสถานหนักของสนมเอกหนิงเฟย
ทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้น หลังจากสตรีสกุลฮวาเข้าวัง
เพียงหกเดือน นางใช้เวลาเพียงหกเดือนเท่านั้น เพื่อก้าวข้ามสตรีทั้งวังหลัง ทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งกุ้ยเฟย
กระนั้นในความทรงจำขององค์จักรพรรดิ กลับไม่เหลือร่องรอยของสนมเอกเมี่ยวกุ้ยเฟย ผู้ที่ทรงลุ่มหลงโปรดปรานคนนี้ ข้าราชบริพารในวังล้วนตัดสินไปในทางเดียวกันว่า สนมเอกสกุลฮวาใช้วิชาปีศาจชักจูงฮ่องเต้ ก่อความโกลาหลสะเทือนไปถึงรากฐานของต้าโจว
โทษนี้ทัดเทียมโทษกบฏชิงแผ่นดิน จะกล่าวว่าไม่ใหญ่ย่อมเป็นไปไม่ได้
ผู้คนทั่วทั้งวังจึงรอคอยผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ
ไม่ว่าโทษทัณฑ์จะหนักเบาเพียงใด หญิงงามอันดับหนึ่งผู้นี้ คงไม่อาจชูคอเหนือสตรีทั้งวังอีกต่อไป!
ฮวาซิงอีกัดริมฝีปาก หรี่นัยน์ตาจับจ้องดอกโบตั๋นสีแดงสดพุ่มใหญ่ตรงหน้า หญิงงามคู่ราชินีบุปผา เหมาะสมคู่ควรเป็นยิ่งยวด
มุมมองคนนอกในขณะนี้ นางประหนึ่งนางเซียน ผู้หลุดออกมาจากบทกวีชื่นชมบุปผา
ทว่าภายในใจของสนมเอกผู้นี้ กลับมีเพียงคำว่า เฮงซวย!
ใช่แล้ว มีเพียงคำนี้เท่านั้น
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน นางยังเป็นเพียง ‘หยางซิงอี’ หญิงสาวธรรมดาสามัญ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีคนรัก ครั้นอายุใกล้ครบสามสิบ ญาติผู้หวังดีได้นัดดูตัวบุคคลชั้นยอดมาให้ ใครจะคิดว่าคนผู้นั้นจะป่วยเป็นโรคร้าย นัดบอดหาคู่เพื่อหาคนร่วมเดินทางไปปรโลกด้วย
หลังถูกวางยาในมื้อเย็น วิญญาณของนางไม่ได้ไปปรโลกอย่างที่คิด กลับหลุดเข้ามาในนิยายเรื่องโปรดอย่าง ‘ข้าคือแสงจันทร์ขาวของจักรพรรดิทรราช’
มันคงเป็นเรื่องดี หากตัวตนของนางคือ ‘นางเอกผู้โชคดี’ ไม่ใช่ ‘นางร้ายตัวประกอบ’ ที่ตายตั้งแต่บทแรกเช่นนี้
ฮวาซิงอีมีตัวตนเพื่อตีแผ่ความอันตรายของวังหลัง ทำให้เรื่องราวเข้มข้นชวนตะลึง!
ยิ่งบทบรรยายกล่าวถึงนางร้ายผู้นี้ โหดเหี้ยมสะเทือนแผ่นดินมากเพียงใด ยิ่งขับเน้นจิตใจอ่อนโยนของนางเอกมากเท่านั้น
ทว่านักเขียนหน้าใหม่ผู้โด่งดังกะทันหัน ยังขาดประสบการณ์อยู่มาก จึงไม่ได้แต่งเรื่องราวสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ เพื่อขับเน้นบทบาทของสนมปีศาจ การกระทำหลายสิ่ง ไม่ได้เกิดจากหูตามากมาย ชาญฉลาดเต็มไปด้วยเล่ห์กล แต่เป็นเพราะฮวาซิงอีไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป!
แม้ไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอกอย่างที่ถูกก่นด่า แต่นางเป็นปีศาจดอกท้อผู้มีพลังปลาหลี่ดำ พลังในการสาปแช่งศัตรู ทำให้ผู้อื่นล่มจม
บุคคลเช่นนี้ กลับกลายเป็นบันไดหินของนางเอก ยิ่งขับเน้นความ ‘โชคดี’ ของนางเอกไม่ใช่หรือ
“ใจเย็นไว้ๆ” ฮวาซิงอีสูดลมหายใจแผ่วเบา ท่องคำว่าห้ามอารมณ์เสียไปแปดเก้ารอบ ดวงตาหงส์เพ่งมองกลางอากาศ เห็นภาพระยะไกลทั้งหมดภายในสามลี้
หากไม่มีสูตรโกงสักอย่าง คนธรรมดาผู้ไม่เคยมีเรื่องปวดหัวในชีวิตเช่นนาง คงไม่มีความกล้าท้าทายชะตากรรมเป็นแน่
หลังสำรวจร่างเดิมเต็มที่ นางค้นพบความสามารถสามประการ หนึ่งคือเสน่ห์ลุ่มหลง ซึ่งมาจากเผ่าพันธุ์ดอกท้อ สองคือพลังสาปแช่งที่ได้รับโดยไร้สาเหตุ สุดท้ายคือพลังสำรวจสถานการณ์สามลี้
ยิ่งคิดยิ่งประหลาดใจ นิยายวังหลังเช่นใดมีปีศาจแฝงตัว!
นักเขียนคิดบทเฉลยไม่ออกใช่หรือไม่ ถึงได้เขียนเรื่องราวออกทะเลเช่นนี้ ในฐานะแฟนคลับ นางยอมรับว่าไม่พอใจอย่างมาก จึงเขียนจดหมายด่าคนแต่งไปมากกว่าร้อยฉบับ หรือนี่จะเป็นสาเหตุการข้ามมิติกัน?
"ฮ่องเต้เสด็จ!” ซ่งกงกงประกาศเสียงดัง หวังให้เมี่ยวกุ้ยเฟยเตรียมความพร้อม เผชิญหน้ากับความยากลำบากในครั้งนี้
ฮวาซิงอีใช้โอกาสขณะได้สติ คว้าหมวกไม้ไผ่สวมอย่างรวดเร็ว หมวกใบนี้เย็บผ้าโปร่งสีขาวคลุมทั่วใบหน้าไปถึงลำตัว บดบังสิ่งที่นางได้เปรียบคนทั้งวังหลังจนหมดสิ้น ไม่หลงเหลือสิ่งใดให้โอ้อวดได้อีกต่อไป
นับต่อจากนี้ เขาจะได้พบ ‘นาง’ เป็นครั้งแรก
ฉินหลานเหอต้องกลายเป็นนางร้าย(ลับ) ผู้ที่คอยชักจูงนางเอกของเรื่องให้สังหาร "พระรองตัวร้าย" บ้าไปแล้ว! นางออกจะหลงใหลเขาปานนี้ ให้จับเขากดลงบนเตียงยังง่ายเสียกว่า !
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY