รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
ชายหนุ่มร่างบึกบึนนอนแน่นิ่งที่ชายหาดอันขาวสะอาดดูงามตา คลื่นได้ซัดกระทบร่างครั้งแล้วครั้งเล่า แสงตะวันได้สาดส่องทั่วชายหาดและเรือนร่างของชายหนุ่มผิวสีแทน คลื่นซัดลูกแล้วลูกเล่าแต่ยังไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มจะรู้สึกตัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชายหนุ่มนั้นได้รู้สึกขึ้นมา นั่นคือแสงแดดอันร้อนแรงที่แยงตา จนทำให้ชายหนุ่มเริ่มลืมตาขึ้นและขยับตัวอย่างช้าๆ
เมฆหนุ่มหล่อลูกน้ำเค็มลุกขึ้นนั่งและครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น เพราะยังมึนงงอยู่ว่ามานอนตรงชายหาดได้อย่างไร เมฆพยายามทบทวนความจำที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไรก็จำได้ในทันที ในวันเกิดเหตุนั้นออกเรือหาปลาอยู่กลางทะเล จูจู่ก็เกิดพายุโหมกระหน่ำโดยไม่มีทีท่าว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน ฝนฟ้าคะนองคลื่นซัดกระหน่ำเรือหาปลาแตกเป็นเสี่ยงๆ จนร่างของเมฆจมลงสู่ก้นทะเล เมฆพยามตะเกียดตะกายขึ้นเหนือน้ำแต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
เมฆครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเมื่อไม่สามารถจำอะไรได้ เขาจึงลุกขึ้นยืนและเดินโซซัดโซเซลัดเลาะชายหาดไปเรื่อยๆ ได้เจอชาวบ้านหลายคนที่มองดูเขาอย่างกับสัตว์ประหลาด และถามเป็นเสียงเดียวกัน
“มึงรอดมาได้อย่างไร”
“กูไม่รู้ พอกูตื่นขึ้นมาก็อยู่บนชายหาดนี่แล้ว”เมฆตอบอย่างมึนงงและสับสนตัวเอง ในส่วนลึกเมฆก็คิดอย่างเดียวกับชาวบ้าน เขารอดมาได้อย่างไรเพราะเรือล่มอยู่กลางทะเล
“มึงโชคดีว่ะ มีพระดีอะไรหรือเปล่า”ชายหนุ่มคนเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“ไม่มี”เมฆส่ายหัว
“เอ่อ ถ้าอย่างงั้นถือว่าดวงยังไม่ถึงฆาต”ชายหนุ่มพูดขึ้นและได้เดินจากไป
เมฆพยายามที่จะไม่พูดและโต้ตอบกับชาวบ้านมากนัก เพราะยังจำเรื่องราวหลังจากเรือล่มไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจากคำว่าไม่รู้เหมือนกัน เมฆจีงรีบเดินกลับบ้านอย่างโดยเร็ว เพราะเมฆเป็นห่วงพ่อแม่และน้องสาวสุดที่รัก
เมฆใช้เวลาเดินมาที่บ้านไม่นานนัก ก็มาถึงบ้านที่เป็นกระท่อมหลังเล็กๆ เมฆยืนนิ่งมองเข้าไปภายในกระท่อมหลังเล็กของครอบครัวเขา เมื่อเมฆได้เห็นพ่อแม่และน้องสาว จึงรีบเดินเข้าไปในทันทีพร้อมตะโกนเรียกจนเสียงดังกังวาน
“พ่อ แม่ ผมกลับมาแล้ว”
สมบุญกับกุหลาบซึ่งเป็นพ่อแม่ของเมฆ และอีกคนหนึ่งคือฟ้าน้องสาวสุดที่รักต่างหันหน้ามาพร้อมกัน ทุกคนต่างตกตะลึงและดีใจแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน
“ลูกแม่มึงรอดมาได้อย่างไง”กุหลาบถามขึ้นพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ผมก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ตรงชายหาดแล้ว”
“แล้วมึงอยู่บนชายหาดได้อย่างไรว่ะ มีแต่คนบอกว่ามึงตายไปแล้ว แต่เมื่อมึงกลับมาได้พ่อก็ดีใจว่ะ”สมบุญพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไห้ไหลออกมา
“ผมไม่รู้จริงๆ”เมฆส่ายหน้าและนั่งลงข้างๆน้องสาวแสนสวย
เมฆพยายามย้อนนึกเหตุการณ์อีกครั้งหลังจากเรือแตก ก็พอจำได้ลางๆว่า เห็นหญิงสาวผมยาวแวกว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆ พอหลังจากนั้นเมฆก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
“พี่เมฆรู้ไหมว่าฟ้าภาวนาบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พี่รอดปลอดภัยด้วยแหละ”
“ขอบใจฟ้ามากนะ อาจเป็นแรงอธิฐานของน้องก็ได้”เมฆยิ้มให้ฟ้าน้องสาวอย่างเบิกกว้าง
“เอาเถอะ ไหนๆมึงก็ปลอดภัยแล้ว อย่าไปพูดอะไรให้มากความ”กุหลาบเอ่ยขึ้นและจับมือเมฆไว้แน่น
“พี่เมฆรู้ไหมว่าพี่หวานเป็นห่วงพี่มากไม่เป็นอันกินอันนอนเลย”ฟ้ามองตาพี่ชาย เพราะเธอก็อยากรู้ว่าเมฆจะรู้สึกได้อย่างไร เมื่อพูดถึงคนรักของพี่ชาย
เมฆอมยิ้มและไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะรู้สึกดีใจอย่างมากที่หวานคนรักได้เป็นห่วงเป็นใยเขาอย่างมากตามคำบอกของฟ้า
“เมฆ เมฆ เมฆ”หวานตะโกนพร้อมวิ่งมาอย่างรวดเร็วจนเกือบล้ม เมื่อเธอมาถึงตรงร่างของเมฆ แต่หวานก็ไม่กล้าเข้าไปกอดเพราะสมบุญกับกุหลาบนั่งมองอยู่ เธอจึงรู้สึกเกรงใจและยังมีความอายที่จะกระทำเช่นนั้น
“หวานดีใจมากเลยที่เมฆกลับมาอย่างปลอดภัย”หวานนั่งลงข้างๆใกล้ๆเมฆ
“หวานรู้ได้อย่างไงว่าเมฆกลับมาแล้ว”เมฆถามด้วยความสงสัย
“ข่าวของเมฆดังไปทั่วหมด มีแต่คนพูดถึงหวานจึงมาหาเมฆเพื่อความแน่ใจไง”
“ข่าวไวจังเลยนะ ต่อไปพี่เมฆต้องเตรียมตอบคำถามชาวบ้านแล้วแหละว่ารอดมาได้อย่างไง”ฟ้าพูดขึ้น
“หวานก็มัวแต่ดีใจ จนลืมถามเมฆไปเลยว่ารอดมาได้อย่างไร”
“เมฆก็ไม่รู้พอตื่นขึ้นมาก็นอนอยู่บนชายหาดแล้วนั่นแหละ”
“แปลกนะ สงสัยคลื่นคงซัดเมฆเข้าฝั่งมาอย่างแน่นอน”หวานมองหน้าเมฆและยิ้มอย่างสุขใจ
“อย่าไปพูดถึงมันเลย เพราะเมฆคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก”เมฆถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่เขาก็ยังไม่วายคิดถึงหญิงผมยาวที่แวกว่ายอยู่กลางทะเล เมฆยังสงสัยไม่หายว่าคนหรือผี หรือสิ่งใดที่อาศัยอยู่ในท้องเทะเลอันแสนกว้าง
“ถ้างั้นพวกเอ็งคุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวแม่จะไปทำกับข้าวให้กิน”กุหลาบพูดจบก็ลุกขึ้นออกไปนอกบ้านเพื่อก่อไฟทำกับข้าวให้ลูกชายได้กิน
“พี่สองคนคุยกันไปก่อนนะ ฟ้าจะไปบอกข่าวดีกับพี่มะขาม”เมื่อฟ้าพูดจบเธอก็รีบวิ่งออกจากบ้านทันที เพื่อไปหามะขามและบอกกล่าวเรื่องราวของเมฆที่รอดชีวิตมาจากท้องทะเล
เมื่อฟ้าวิ่งออกจากบ้านไปจนสุดลูกตา เมฆจึงชวนหวานเดินไปยังริมทะเลในมุมที่เขาทั้งสองพบหาพูดคุยกันเป็นประจำ สาเหตุที่ทั้งสองต้องคอยหลบอยู่ในมุมเมื่อพบเจอกัน เพราะพ่อของหวานกับพ่อของเมฆไม่ถูกกันเป็นคู่อริตั้งแต่หนุ่มๆ
ทั้งคู่เดินได้ลัดเลาะริมชายหาดและเดินไปจนห่างไกลสายตาผู้คน เมื่อถึงในที่แห่งรักในมุมสงบ สองร่างได้นั่งเคียงคู่กันตรงซอกหินอันเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นที่ซัดกระทบหินดังเป็นระยะๆ ดั่งเสียงเพลงอันโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติ
เมฆหันหน้ามามองหวานด้วยสายตาอันหยาดเยิ้มเป็นประกาย ด้วยความคิดถึงและรักใคร่ในตัวหวานอย่างเหลือล้น เขาจึงเอื่อมมือไปกุมมือของหวานไว้อย่างหลวมๆ พร้อมกับยกขึ้นมาบริเวณใกล้ริมฝีปาก จนทำให้หวานรู้สึกเขินอายแต่ก็ยินดีและเต็มใจ
“ไม่เอาน่าเมฆเดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้าจะทำไง”หวานเหล่สายตามองเมฆแล้วค่อยๆดึงมือกลับ
“เมฆรักหวานมากเลยนะ”เมฆดึงมือหวานกลับมาใหม่แล้วกระทำตามความคิดเดิม เขาค่อยๆโน้มริมฝีปากลงมาจุมพิตที่หลังมือของหวาน
“อย่าอายผีสางบ้าง”หวานพยายามผลักร่างของเมฆให้ออกห่าง ในขณะเดียวกันเมฆก็ไม่ยอมแพ้โอบกอดหวานไว้ในวงแขนอย่างรวดเร็ว หวานพยายามออกแรงดิ้นนิดหน่อยเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของเมฆแต่ไม่เป็นผล หวานจึงจำยอมด้วยใจจริงให้เมฆโอบกอดอยู่อย่างนั้น ยิ่งเมฆกอดนานเท่าไรยิ่งทำให้หวานคล้อยตามอารมณ์ ที่เมฆส่งมาให้อย่างเหลือล้นไม่มีวันหมดสิ้น แต่แล้วความรู้สึกและความต้องการ ที่ทั้งสองมีให้กันต้องหยุดชะงักในทันใด เมื่อมีเสียงดังตูมพร้อมน้ำที่กระจายกระเด็นจนเปียกชุ่มร่างของสอง ทั้งคู่จึงรีบหันไปมองในทันทีและต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น
“ปลาอะไรขนาดหางยังใหญ่ขนาดนี้”หวานตาโตด้วยความตะลึง
เมฆรีบลุกขึ้นยืนดูและมองอยู่นานสองนาน แต่ก็ไร้ร่องรอยปลาตัวที่หวานเห็น เมฆจึงครุ่นคิดและใคร่สงสัยว่าเป็นปลาหรือว่าตัวอะไรกันแน่
“เมฆคิดอะไรยืนนิ่งไปเลย”หวานเอ่ยขึ้น
“คิดถึงหวานนั่นแหละ”พอเมฆได้สติจึงเปลื่ยนเรื่องมาใช้คำหวานแทน
“ไม่เชื่อหรอก หรือว่าที่รอดมาได้เพราะมีนางเงือกมาช่วยแน่เลยตัวเมื่อกี้ใช่ไหม”หวานหัวเราะกับความคิดของตัวเอง เพราะหวานพูดไปเรื่อยแหย่เมฆเล่นเฉยๆ
เมฆสะดุ้งกับคำพูดและความคิดของหวานอย่างมาก จึงทำให้ยืนนิ่งไปอีกครั้งหนึ่ง เมฆจึงครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เรือแตก เขาพยายามนึกคิดแต่ก็คิดไม่ออกว่าหลังจากนั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
“หรือว่านางเงือกมาช่วยเมฆไว้จริงๆบอกมาเดี๋ยวนี้นะ”หวานแกล้งพูดหยอกล้ออีกครั้งหนึ่ง
“เมฆรักหวานคนเดียว ถึงมีสิบนางเงือกเมฆก็ไม่สนหรอก”เมื่อเมฆได้สติจึงรีบก้มลงพรหมจูบทั่วใบหน้าของหวานอย่างคนหื่นกระหาย ซึ่งในครั้งนี้หวานไม่ได้ปฏิเสธอย่างใด เธอตอบรับแรงปราถนาของเมฆและของตัวเองอย่างเต็มใจ
“ไอ้เมฆมึงทำอะไรลูกสาวกู”
เสียงชายแก่ๆดังขึ้นกระหึ่มด้วยความดุดัน จึงทำให้ทั้งเมฆและหวานต่างถอยห่างร่างออกจากกัน แต่แล้วหวานต้องมายืนบังร่างของเมฆไว้เพราะจอมพ่อของเธอหันกระบอกปืนมายังเมฆ
“พ่ออย่าทำอะไรเมฆนะ ถ้าพ่อจะยิงเมฆก็ผ่านศพหวานไปก่อน”หวานจ้องมองสู้สายตาผู้เป็นพ่ออย่างองอาจ
“หวานถอยไป”จอมตะโกนเสียงดังอีกครั้ง
“พ่อของหวานไม่กล้ายิงหรอก”หวานกระซิบข้างๆหู เมื่อเธอเห็นเมฆกำลังจะออกมายืนอยู่หน้าเธอ เพราะกลัวจอมจะยิงหวานจริงๆ
“นังหวานผู้ชายหมู่บ้านเรามีตั้งมากมายทำไมไม่เลือก ดันไปชอบพอกับไอ้เมฆบ้านมันมีอะไรบ้าง”จอมกัดฟันแน่นด้วยความโมโห
“เมฆหนีไปเร็ว ถ้าเมฆรักหวานก็ต้องเชื่อหวาน”หวานกระซิบที่ข้างหูของเมฆอีกครั้ง
“ได้”เมฆรับคำ
“ไปเลย”หวานค่อยๆกระซิบให้เมฆได้ยิน
เมื่อหวานส่งสัญญาณให้เมฆได้หลบหนี เมฆจึงรอจอมพ่อของหวานเผลอ หลังจากนั้นจึงรีบวิ่งหลบหนีหายไปในทันที
สุดท้ายเราก็รักกันไม่ได้ ถึงแม้ถ่ายไฟเก่าจะลุกขึ้นจนมอดไหม้ ไม่มีเหลือชิ้นดี
ชายหนุ่มผู้เดินตามความฝัน ซึ่งในระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะเจอรักแท้ที่โหยหามานาน
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY