ชายหนุ่มผู้เดินตามความฝัน ซึ่งในระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะเจอรักแท้ที่โหยหามานาน
ชายหนุ่มผู้เดินตามความฝัน ซึ่งในระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะเจอรักแท้ที่โหยหามานาน
ยีนส์หนุ่มวัยยี่สิบนอนเปลือยกายให้หนุ่มใหญ่อมท่อนเอ็น ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขาที่โดนกระทำแบบนี้ และเป็นครั้งแรกที่เต็มใจทำเพื่อเงิน ยีนส์นอนหลับตาพริ้มด้วยความเสียวซ่านที่ท่อนเอ็นอันมหึมา ซึ่งเป็นท่อนเอ็นที่หนุ่มใหญ่ผู้นี้พอใจอย่างมาก เขาทั้งดูดทั้งอมทั้งเลียอย่างถึงใจยีนส์
หนุ่มใหญ่หยุดอมท่อนเอ็นของยีนส์แล้วนั่งคร่อมร่างของยีนส์ เขาจับท่อนเอ็นของยีนส์จ่อที่ช่องทางรักและกดลงทีละน้อยจนมิดสุดโคน หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆขย่มอย่างช้าๆเพื่อให้ช่องทางรักของเขาได้ขยายตัวขึ้น ซึ่งเป็นความแปลกใหม่สำหรับยีนส์อย่างมาก เขาหายใจถี่กระชั้นด้วยความเสียวท่อนเอ็น
“ทำให้พี่บ้างนะ”หนุ่มใหญ่พูดขึ้นและโน้มร่างโก้งโคงแอ่นสะโพกให้ยีนส์
“ครับ”เป็นครั้งแรกที่ยีนส์จะได้ทำแบบนี้เขาจึงลุกขึ้นนั่งคุกเขา แล้วจับท่อนเอ็นของเขาจ่อที่ช่องทางรักของหนุ่มใหญ่แล้วดันเข้าไปจนสุด
ยีนส์โยกสะโพกอย่างรวดเร็ว และซอยถี่ๆกระแทกไม่ยั้ง รัวไม่เป็นจังหวะ โหมกระหน่ำแรงเต็มที่ จนหนุ่มใหญ่ต้องร้องขอให้
“เบาๆหน่อย”
ยีนส์สุดเสียวอยากจะปล่อยน้ำในกายออกมาอย่างโดยเร็ว เขาจึงไม่รอช้ากระแทกบั้นท้ายของหนุ่มใหญ่อย่างหนักหน่วงไม่กี่ครั้งน้ำในกายของเขาก็ไหลสู่ช่องทางรักของหนุ่มใหญ่ ยีนส์โยกสะโพกไม่กี่ครั้งก็ดึงท่อนเอ็นออกและนั่งลงบนเตียงอย่างมีความสุข หลังจากนั้นเขาก็ดึงถุงยางออกทิ้งที่ถึงขยะ
“เสร็จไวไปหน่อยนะ”หนุ่มใหญ่พูดขึ้น
“ผมพึ่งครั้งแรกครับ”ยีนส์พยายามฝืนยิ้มให้หนุ่มใหญ่
“ไม่เป็นไรสำหรับครั้งแรก แต่ไอ้นั่นใหญ่แค่นี้พี่ก็โอเคแล้ว”
หนุ่มใหญ่หยุดพูดและเขาก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อชำระร่างกายเอาคราบคาวสวาทออก ส่วนยีนส์ก็นั่งรอเพื่อรับเงิน สักพักหนุ่มใหญ่ก็ออกมาควักเงินหนึ่งพันบาทให้เขา
“ขอบคุณครับ”ยีนส์ยกมือไหว้
“ยืนอยู่ที่เก่าใช่ไหม”
“ก็ยังไม่รู้เลยครับ ผมพี่งมาครั้งแรกครับ”
“มีเบอร์โทรไหม”
“ไม่มีครับ”
“ถ้างั้นเอาเบอร์พี่ไปก็แล้วกัน”หนุ่มใหญ่จดเบอร์ของเขาใส่กระดาษชิ้นเล็กๆยื่นให้ยีนส์
“ครับ เดี๋ยวผมโทรหาถ้าได้มือถือใหม่”
“โอเค วันหลังว่ากันใหม่”เมื่อหนุ่มใหญ่พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่ได้ปิดประตูให้สนิท ประตูนั้นจึงเปิดออกมาพอสมควร
ยีนส์เอาแบงก์พันกับเบอร์โทรใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ หลังจากนั้นเขาก็ใส่เสื้อก่อนที่จะใส่กางเกง ในระหว่างนั้นเองก็มีชายหนุ่มรุ่นเดียวกับเขายืนมองสักพักที่หน้าห้อง หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจเข้ามาในห้องที่ยีนส์นั่งอยู่
“ลีลานายไม่ค่อยดีเท่าไรเลยนะ”เกมนั่งลงข้างเตียง
“นายแอบฟังเราเหรอ”ยีนส์พูดขึ้นและหยิบกางเกงในขี้นมาใส่
“ไม่ได้แอบฟัง เราก็ทำเหมือนนายนั่นแหละ แต่นายก็มีของดีนะใหญ่จริงๆ”เกมมองไปที่ท่อนเอ็นของยีนส์
“พ่อให้มาเยอะพอสมควร”ยีนส์รีบใส่กางเกงในทันที และต่อด้วยกางเกงยีนส์ขายาว
“/ไม่ถ่อมตัวเลยนะ ได้เท่าไรล่ะ”
“หนึ่งพัน”
“น้อยไปนะสำหรับเด็กใหม่ ทีหลังเรียกซักสองพัน”
“เราไม่รู้ว่าต้องเรียกเท่าไรไง ก็ยืนๆอยู่พี่เขาก็มาจอดถามก็เลยบอกไปพันนึง”
“ก็ดี เดี๋ยวเรากลับแล้ว โชดดีนะ วันหลังเจอกัน”เกมเดินออกจากห้องได้สักพัก
ยีนส์คิดได้ทันทีว่าเขายังไม่มีห้องพัก และก็ไม่รู้ว่าจะไปหาห้องพักที่ไหน เพราะที่โรงแรมหนุ่มใหญ่เช่ารายชั่วโมงแค่นั้น ยีนส์จึงรีบลุกขึ้นคว้าเป้สะพายหลัง วิ่งออกจากห้องตามเกมไป และยีนส์ก็ตามไปทันเกมพอดี ซึ่งในตอนนั้นเกมกำลังเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ยีนส์จึงเข้าตามไปด้วยและเดินหาจนเจอเกมอยู่หน้าตู้เครื่องดื่ม
“นายพักที่ไหนล่ะ”ยีนส์ยืนข้างๆเกมแล้วพูดขึ้น
“ก็แถวนี้แหละ ถามทำไมเหรอ”เกมหยิบเบียร์ขวดใหญ่มาหนึ่งขวด และเดินไปที่เค้าท์เตอร์เพื่อคิดเงิน
เมื่อแคชเชียร์คิดเงินเสร็จเกมก็ออกจากร้านสะดวกซื้อ ซึ่งยีนส์ก็ยังเดินตามไม่ห่าง จนเกมอดสงสัยไมได้ว่าจะตามมาทำไม
“นายเป็นอะไรเดินตามเราตลอดเลย”เกมหันมามองหน้ายีนส์
“คือว่า เรายังไม่มีที่พักน่ะ ขอพักกับนายสักคืนได้ไหม ”
“ทำไมนายไม่เช่าโรงแรมล่ะ”
“มันแพงไปหน่อย คืนหนึ่งตั้งหลายร้อย”
“ได้ตั้งพันไปเสียดายทำไม”
“คืนนี้ได้พรุ่งนี้จะได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
“นายหน้าใหม่แบบนี้ ถ้ายืนต่อคืนนี้ก็ได้อีหลายรอบ ถ้ามีแรงนะ ไม่ต้องตามมาต่างคนต่างอยู่”เกมเดินหนียีนส์ไปเรื่อยๆแต่ยีนส์ก็ตามติดๆ จนกระทั้งมีชายหนุ่มรุ่นเดียวกับเกมยืนดักหน้าเกมไว้
ซึ่งหนุ่มสองคนนี้เป็นคู่อริเก่าและชอบข่มขู่ขอเงินเกมเป็นประจำ เกมเป็นคนไม่สู้ใครอยู่แล้วเขาจึงทำท่าควักเงินให้ หลังจากนั้นเกมวิ่งหนีไม่คิดชีวิตหยุดไม่ได้ ยีนส์ตกใจวิ่งตามสองหนุ่มที่วิ่งตามเกมไป
“นี่ไงไอ้เกมมันต้องเจอย่างนี้”ชายหนุ่มใส่หมัดเข้าที่เบ้าตาของเกมจนล้มลง เมื่อวิ่งตามเกมมาจนทัน หลังจากนั้นสองหนุ่มรุมกระทืบเกมจนตัวงอ ยีนส์วิ่งตามมาทันเห็นการณ์พอดี เขาจึงกระโดดทีบชายหนุ่มคนหนึ่งล้มลง และฟาดหมัดไปที่ปลายคางของอีกคน
หลังจากนั้นยีนส์ดึงแขนของเกมลุกขึ้น และพาวิ่งไม่คิดชีวิตโดยไม่หันมองหลังแม้แต่ครั้งเดียว จนเกมรู้สึกเหนื่อยและไปต่อไม่ไหว
“พักก่อนพวกมันไม่ตามมาแล้ว”เกมก้มหน้ามือท้าวที่ขาและหายใจอย่างหอบเหนื่อย
ชั่วเวลาไม่นานเกมก็หายเหนื่อยจึงเงยหน้าขึ้นมองยีนส์ ที่ไม่มีทีท่าจะเหน็ดเหนื่อยเหมือนเขาเลย
“นายนี่อึดจริงๆแต่เวลาทำให้ลูกค้าทำไมไม่อึดอย่างนี้”
“เวลานี้ยังมาพูดเรื่องแบบนี้อีก”ยีนส์มองหน้าเกม
“ไม่พูดแล้ว ขอบใจนายมากนะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนายมาพักกับเราก็ได้”
“ขอบใจนายมาก เราจะพักคืนเดียว ถ้าหาห้องเช่าถูกๆได้เราก็จะย้ายออกน่ะ”
“ไม่ต้องย้ายหรอก นายอยู่กับเราก็ได้ แต่ออกค่าห้องคนละครึ่ง จะได้ประหยัดด้วยดีไหม”
“ดีซิ ทำไมนายให้เราอยู่ด้วยล่ะ”ยีนส์มีท่าทีสงสัย
“ก็นายช่วยเรานี่ ถ้าไม่ให้นายอยู่ด้วยก็เกินคนไปหน่อยแล้วมั้ง แล้วอีกอย่างนายเก่งดีวันหลังจะได้คอยปกป้องเราไง”เกมอมยิ้ม
“ดีแค่ครึ่งเดียวเอง”ยีนส์หัวเราะ
“เอ่อน่ะ เป็นเพื่อนกันแล้วนี่ แต่ยังไม่รู้จักชื่อนายเลย”เกมถาม
“เราชื่อยีนส์ นายล่ะ”
“เราเกม ไปกันเถอะไปที่ห้องเรา”เกมพยักหน้าชวนให้ยีนส์เดินตาม
“เบียร์นายล่ะ”ยีนส์ถาม
“ล่วงตกพื้นแตกไปหมดแล้ว”
“นายจะดื่มอีกไหมเดี๋ยวเราไปซื้อให้ใหม่”
“ไม่ต้องแล้ว นายดูหน้าและปากเราซะก่อน ไม่มีอารมณ์ดื่มเบียร์หรอก”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็หาย”ยีนส์พูดปลอบใจ
เกมและยีนส์ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะมาถึงห้องพัก เมื่อเขามาในห้องพักของเกมแล้ว ยีนส์ยืนมองไปรอบๆห้อง ซึ่งห้องก็ไม่ได้ใหญ่มาก มีแต่ที่นอนเตียงนั้นไม่มี แต่ห้องก็จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่ มีราวแขวนผ้า มีโต๊ะต่ำๆพับได้ ที่เหลือก็เป็นหม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้า ถ้วยชามกะลังถังน้ำดื่ม
“เป็นไงบ้างห้องของเรา”เกมนั่งลงบนที่นอน แล้วมองหน้ายีนส์
“ก็น่าอยู่ดีนะ สองคนพออยู่ได้”ยีนส์ยิ้มแล้วนั่งลงข้างๆเกม
“ทำไมนายไม่ไปทำงานอื่นล่ะมายืนขายทำไม หน้าตานายก็ดีนะจัดว่าหล่อทีเดียว”เกมมองใบหน้าของยีนส์ที่คมเข้ม ผิวสีแทน รูปร่างสูงกำยำสมส่วน
“ถามแต่เรานายก็เหมือนกันนั่นแหละ หน้าตานายก็ดีนะจัดว่าหล่อทีเดียว”ยีนส์มองใบหน้าของเกมที่ขาวใสตี๋พิมพ์นิยม รูปร่างไม่สูงมากแต่ก็ไม่ถึงกับเตี้ย หุ่นสมส่วนอาจไม่บึกแต่ก็ไม่ผอมแห้ง
“ยังจะมาถามกลับอีก เราหนีออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็กแล้ว”
“นายหนีมาทำไม”
“เราไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์ เรารักอิสระไง”
“แล้วมาทำงานนี้ได้ไงล่ะ”
“ก็ไม่มีตังค์กินข้าวไง อาชีพนี้หาเงินง่ายแล้วสบาย พอทำแล้วติดใจก็เลยทำเรื่อยมา”
“นายล่ะ”เกมหันหน้ามามองยีนส์ด้วยความอยากรู้
“เราเป็นเด็กต่างจังหวัดพ่อแม่แยกทางกัน ฝากข้างบ้านเลี้ยงเราไว้ หลังจากนั้นก็หายไปเลย เราไม่ใช่ลูกเขาแท้ๆไง เขาเลยใช้เราทำงานแลกข้าว เงินก็ไม่ให้ใช้ โรงเรียนก็ไม่ให้ไป ก่อนมาเราเลยไปรับจ้างเข็นผักที่ตลาด พอได้เงินเราเลยเข้ามาในกรุงเทพนี่แหละ เราก็เดินมาเรื่อยๆว่าจะหางานทำ พอดีเราเห็นเขายืนกันเราก็ยืนดูเขา สักพักก็มีพี่คนนั้นจอดรถเรียกเราขึ้นรถ ตอนแรกเราว่าจะไม่ทำแล้วนะ แต่เงินเราหมดพอดี ยุงก็เยอะไม่รู้จะไปนอนที่ไหน เราเลยตัดสินใจทำ เป็นครั้งแรกเลยนะที่เราทำน่ะ”
“เป็นไงบ้างครั้งแรกน่ะ”เกมยิ้มนิดๆเพราะเจ็บปากอยู่พอสมควร
“พูดตามตรงน่ะก็เสียวดี ได้เงินด้วย แต่เราทำให้พี่เขาเจ็บก้น บอกให้เราหยุดแต่เราทนไม่ไหวต้องทำให้เสร็จ”
“โอ๊ย นายนี่ไม่รู้อะไร เราบริการเขาไม่ใช่เขาบริการเรา นายต้องทำตามที่เขาบอกทุกอย่างรู้ไหม”
“เราไม่รู้นี่”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราจะสอนนายเอง แต่เราว่านายไม่ต้องไปยีนตรงนั้นหรอก”
“ไม่ไปยืนแล้วจะให้เราทำงานอะไรล่ะ”
“บาร์โฮสต์มีเกรดดูดีกว่า เพราะนายยังใหม่อยู่ ไม่ต้องยืนให้ยุงกัดหรอก เรามีเพื่อนที่ทำอยู่นะ ถ้านายสนใจเราจะติดต่อให้”
“สนใจซิ เอ้า แล้วนายทำไมไม่ไปทำล่ะ”
“โธ่ เรายืนที่นี่มาตั้งหลายปีจะไปชุบตัวก็ไม่ทันแล้ว นายนั่นแหละเหมาะ รายได้ดีกว่ายืนตากลมตากฝนอีกนะ ถ้าเจอคนใจดีรับเลี้ยงดูนายสบายทั้งชาติ”
“ถ้าเป็นอย่างที่นายพูด เราจะไม่ลืมนายเลย”ยีนส์มีสีหน้าที่ตั้งมั่นจริงใจอย่างมาก
“ไม่ค่อยเชื่อหรอก เราเห็นมาหลายรายแล้ว พอได้ดีแล้วลืมตัวกันแท่บทั้งนั้น”
“แต่นั่นคนอื่นไม่ใช่เราแน่นอน”
“เราจะคอยดูว่านายจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า”เกมมองหน้ายีนส์ และคิดไปว่าอาจจะแตกต่างจากคนอื่น เพราะยีนส์ดูซื่อๆ แต่อีกใจหนึ่งเกมก็คิดว่าคนซื่อๆนี่แหละ เมื่อเจอสิ่งยั่วยุมักหลงจนหาทางกลับไม่เจอ
“เราง่วงนอนแล้วขอนอนเลยได้ไหม”ยีนส์พูดขี้น เพราะเขาเดินมาทั้งวันและกลางคืนก็ยืนหลายชั่วโมง
“ไม่อาบน้ำเหรอ”เกมชำเลืองมองยีนส์
“ถ้านายเหม็นเราอาบก็ได้”
“ไปอาบซะห้องน้ำอยู่โน้น”
“ฮือ”ยีนส์พยักหน้า
เกมนั่งมองยีนส์ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด แล้วนุ่งผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ส่วนตัวเขาก็คิดว่าพรุ่งนี้จะเปลื่ยนยีนส์ให้เป็นคนใหม่ได้อย่างไงดี
รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
สุดท้ายเราก็รักกันไม่ได้ ถึงแม้ถ่ายไฟเก่าจะลุกขึ้นจนมอดไหม้ ไม่มีเหลือชิ้นดี
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY