เธอ…เลขาสุดมั่นแสนร้าย เขา…เจ้านายคนใหม่ขี้เก๊ก
เธอ…เลขาสุดมั่นแสนร้าย เขา…เจ้านายคนใหม่ขี้เก๊ก
ตอนสายๆ ที่ส่วนต้อนรับของโรงแรมสุดหรูก็ยุ่งและวุ่นวายเหมือนทุกวันมันคือเวลาที่ลูกค้าเช็คเอ้าท์และเป็นช่วงที่ทัวร์จากบริษัทต่างๆ จะมารับลูกค้าไปท่องเที่ยว ทุกคนต่างก็อยากได้รับบริการที่รวดเร็วและพนักงานคนสวยก็พยายามอย่างสุดความสามารถ
“อุษาสวรรค์ รัตนสุข” ผู้จัดการฝ่ายต้อนรับสุดมั่นฝีมือการทำงานกว่าสิบปี เป็นที่ไว้วางใจจากเจ้าของโรงแรมเป็นอย่างมาก ช่วงเช้าเธอมีหน้าที่ดูแลลูกค้าส่วนตอนบ่ายจะขึ้นไปเป็นเลขาให้ผู้บริหารสุดหล่อ ซึ่งเขากำลังจะวางมือแล้วส่งต่อให้น้องชายที่จะกลับมาสัปดาห์นี้
“คุณวิน น้องแพร สวัสดีค่ะ” อุษาสวรรค์หรือแอ้มเพิ่งจะได้พักหายใจเพราะเพิ่งเคลียร์ลูกค้าชุดสุดท้ายแล้วเจ้านายก็เดินเข้ามาพอดี
“ทานอะไรรึยังครับคุณแอ้ม” วินสตันทักทายลูกน้องด้วยความเป็นห่วง
“นั่นสิ ลืมเลยเที่ยงกว่าแล้วเหรอเนี่ย” แอ้มมองนาฬิกาบนผนังแล้วเอามือทาบอกแล้วเลื่อนลงไปตรงหน้าท้องที่ตอนนี้ร้องโครกครากเชียว
“ทำงานจนลืมกินข้าวอีกแล้วนะคะพี่แอ้ม” แพรนวลติงด้วยความไม่ชอบใจเพราะอุษาสวรรค์บ้างานเหลือเกิน ถ้างานไม่เสร็จอย่าหวังเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะกินจะนอนกับเขา
“โอ๊ยๆๆ หนูดาวจ๋าช่วยน้าแอ้มด้วย น้าแอ้มโดนดุอีกแล้ว” อุษาสวรรค์ลงไปนั่งคุกเข่าแล้วเขี่ยแก้มเด็กหญิงทะเลดาวด้วยความมันเขี้ยว เธอไม่เคยพบเจอเด็กที่ไหนน่ารักและยิ้มง่ายแบบหนูดาวมาก่อนเลย
“คุณแอ้มไปทานข้าวเถอะครับแล้วบ่ายสองค่อยขึ้นไปข้างบน” วินสตันกล่าวแล้วเข็นรถลูกสาวเข้าลิฟต์ส่วนข้างกายคือภรรยาที่ถือสัมภาระเด็กอ่อนและกระเป๋าเอกสารหนึ่งใบ
ห้องทำงานของวินสตันเปลี่ยนไปมากพอดู ตอนนี้ห้องกระจกที่เคยเป็นห้องครัวกลายเป็นห้องเด็กอ่อนที่ภรรยากับลูกสาวจะวุ่นกันอยู่ในนั้น ส่วนโต๊ะที่ภรรยาเคยนั่งทำรายงานโดนยกออกไปแล้วแทนที่ด้วยโต๊ะตัวใหม่พร้อมเครื่องใช้สำนักงานครบครัน ตรงนี้คือที่นั่งของอุษาสวรรค์
วินสตันจะยกโรงแรมให้น้องดู เขาและครอบครัวจะย้ายไปอยู่ที่เขาใหญ่แบบถาวรจะได้ดูแลสนามกอล์ฟที่เพิ่งเริ่มสร้างได้เต็มที่และที่สำคัญภรรยาของเขาชอบที่นั่นมาก
“พี่แอ้มนี่น่าตีนักเชียว” แพรนวลยังไม่ยอมหยุดบ่น เธอไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้กินข้าวตรงเวลาสักวันแต่ก็น่าแปลกที่ไม่เห็นจะป่วยจะไข้สักที
“บ่นทุกวันเลยไม่เบื่อเหรอครับที่รัก”
“พี่วินว่าแพรเหรอ”
“โอ๋ๆๆ พี่ผิดไปแล้ว ขอโทษนะครับ”
ชายหนุ่มรวบตัวภรรยาแล้วมอบจุมพิตแสนดูดดื่มให้ ถึงจะอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงมาเป็นปีๆ แต่เขาก็ไม่เคยเบื่อเธอแม้สักนาทีเดียว
“พี่วิน” เมื่อริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเป็นอิสระพวงแก้มของเธอก็ขึ้นสีแดงเข้ม เขาชอบจู่โจมโดยไม่ให้ตั้งตัวตลอดเลย
“จ๋า เรียกนี่อยากให้จูบอีกครั้งใช่ไหมครับ”
“ทำงานเลยค่ะ แพรจะไปเล่นกับลูกแล้ว” แพรนวลว่าแล้วเข็นลูกเข้าห้องกระจกเพื่อกลบความอาย ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนเธอก็ประหม่าอยู่ดีเวลาแนบชิดกัน
วินสตันจึงนั่งประจำที่ ส่วนแพรนวลพาทะเลดาวเข้าห้องกระจก สองแม่ลูกจะทำกิจกรรมด้วยกันอาทิเช่น ระบายสี อ่านหนังสือ ฟังเพลง ที่ต้องหอบลูกมาทำงานทุกวันก็เพราะสามีอ้อนวอนว่าไม่อยากให้เธอกับลูกอยู่ห่างสายตา
“ก็พี่คิดถึง ยิ่งตอนทำงานเหนื่อยๆ แล้วได้กอดแพรกับลูกมันดีมากเลยนะครับ” นั่นคือคำที่เขาใช้แล้วใครจะใจร้ายได้ลงคอและที่สำคัญเธอก็ไม่อยากอยู่ไกลเขาด้วย
โรงอาหารของพนักงาน
อุษาสวรรค์ยืนอยู่กลางห้องโถงสีขาวสะอาดและกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะกินอะไรดีและเธอก็ตกเป็นเป้าสายตาให้หนุ่มๆ โลมเลียเหมือนทุกวัน
เธอคือสาวไทยแท้หน้าสวยเฉี่ยววัยยี่สิบแปดปี ผมของเธอซอยสั้นและทำสีโทนน้ำตาลแดงแต่ส่วนที่เย้ายวนที่สุดก็คือริมฝีปากรูปกระจับที่เผยอนิดๆ
ร่างสูงระหงยืนคิดเพียงอึดใจแล้วก้าวอย่างว่องไวไปซุ้มอาหารที่ต้องการ อุษาสวรรค์เป็นคนกระฉับกระเฉง คิดเร็วถ้าต้องตัดสินใจเรื่องไหนก็จะคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วลงมือทำทันทีแต่การคิดของเธอใช้เวลาไม่นานเพราะเธอไม่ชอบความยืดยาด
“นั่งด้วยนะแอ้ม” อชิระหรือโอผู้จัดการฝ่ายขายเอ่ยขอโดยไม่รอคำตอบ อุษาสวรรค์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอก็รู้จักและสนิทสนมกับอีกฝ่ายพอสมควร
“วันนี้กับข้าวเยอะมากเลยเนอะ” อชิระชวนคุย
“อืม” อุษาสวรรค์ตอบแบบผ่านๆ เพราะหัวสมองของเธอกำลังวางแผนงานรอบบ่ายอยู่
“คืนนี้ไปเที่ยวกันไหมแอ้ม เด็กๆ ในแผนกก็ไป วันเกิดตุ๊ดตู่อ่ะ”
“ขอโทษนะโอ ช่วงนี้แอ้มงานยุ่งเดี๋ยวคุณบรูโน่จะมาแล้วแอ้มต้องเตรียมเอกสารบรีฟงานเยอะมาก ฝากสุขสันต์วันเกิดตุ๊ดตู่ด้วยนะ”
“เสียดายจัง” อชิระตอบแบบเซ็งๆ เขาหาทางชวนอุษาสวรรค์ไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ แต่เหมือนเธอจะรู้ตัวเพราะถ้าไปกันตามลำพังเธอไม่เคยไปด้วยสักครั้ง จะมีก็แต่งานวันเกิดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่เธอจะยอมมาด้วย พูดง่ายๆ ก็คือเธอไม่เปิดโอกาสให้เลยสักนิดแม้จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
อชิระชื่นชมและหลงรักอุษาสวรรค์มาหลายปีแน่แหละเพราะเธอสวยสะดุดตา เดินไปทางไหนหนุ่มๆ ก็มองจนตาเหล่แต่เธอมีดีกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นความคิดอันเฉียบคม ความแม่นยำเรื่องงาน
อุษาสวรรค์เป็นผู้หญิงที่มีพลังล้นเหลือ ตั้งแต่รู้จักกันแทบไม่เคยเห็นเธอทำหน้าเศร้าเหงาหงอยเลยสักวัน เธอสดใส คล่องแคล่ว ไหวพริบดี เซ็กซี่แต่ก็แฝงความบริสุทธิ์อ่อนหวานซ่อนอยู่ข้างในเพราะถึงจะเป็นคนหัวสมัยใหม่แต่ก็รักนวลสงวนตัวสุดๆ
“งานยุ่งไหมคะ” เมื่อตกผลึกความคิดเรียบร้อย อุษาสวรรค์จึงพาตัวเองกลับมาอยู่กับคนตรงหน้า เธอรู้ว่าอชิระชอบเธอแต่เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักนิดบทสนทนาที่ปลอดภัยจึงควรเป็นเรื่องงานเพราะเธอไม่อยากให้ความหวังใคร
“ยุ่งแต่ไม่เท่าแอ้มหรอก” ชายหนุ่มตอบแล้วส่งยิ้มหวานให้
อุษาสวรรค์คันปากเหลือเกินเธออยากบอกว่าให้เลิกหวังลมๆ แล้งๆ สักทีแต่ก็ยั้งปากไว้เพราะการทำลายหัวใจคนอื่นมันไม่ดีแน่ ตราบใดที่เธอวางตัวอยู่ในฐานะเพื่อนร่วมงานก็จะไม่มีใครต้องเจ็บปวด
“หาเวลาพักบ้างนะแอ้ม”
“ขอบใจจ้า แล้วเจอกันนะ” อุษาสวรรค์บอกแล้วลุกออกไป
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!
หยุนซีแต่งงานกับกู้ซือเฉิน คุณชายที่สูญเสียสิทธิ์ที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลแทนน้องสาว ตอนแรก พวกเขาเพียงแค่ว่าที่สามีภรรยาในนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวของหยุนซีถูกค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตาม ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างที่คิดเลย ใครจะไปคิดว่าเธอเป็นทั้งแฮ็กเกอร์มืออาชีพ นักประพันธ์เพลงลึกลับ และทายาทคนเดียวของนักแกะสลักที่มีชื่อเสียงระดับชาติ.... มีทั้งนักร้องชื่อดัง นักแสดงที่เคยได้รับรังวัลมากมายและผู้สืบทอดของตระกูลที่ร่ำรวยมาตามจีบว่าที่ภรรยาของเขา กู้ซือเฉินควรทำอย่างไรดี?
เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด