เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
เขาตกหลุมรักเพื่อนสนิทของน้องสาวตั้งแต่เห็นครั้งแรกแต่เพราะเธอมีนิสัยที่ไม่เหมือนใครทำให้เขาไม่กล้าแสดงตัวว่าชอบได้แต่พยายามตีสนิทโดยมีน้องสาวตัวแสบคอยช่วยเหลือคงต้องมาช่วยกันลุ้นว่าเขาจะจีบเธอมาเป็นแฟนได้มั้ย
ณ.มหาวิทยาลัยแห่งหนื่งใจกลางกรุงเทพ
“แคท..มายด์..ทางนี้”มีเสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง
แคทกับมายด์หันกลับไปมองก็เห็นปรางยืนโบกมือเรียกอยู่ไม่ไกล แคทกับมายด์ยกมือตอบแล้วเดินเข้าไปหา
“มานานแล้วเหรอ”มายด์ถาม
”สักพักแล้วจ้า…แล้วทำไมมาช้าจังล่ะ”
“รถติดมากกกก”แคทพูด
”กรุงเทพก็อย่างนี้แหละ…แถมวันนี้มหาลัยเปิดวันแรกด้วย มาอยู่ตั้งหลายวันแล้วยังไม่ชินอีกเหรอ”ปรางถาม
แคททำหน้าย่นแล้วส่ายหัว มายด์กับปรางก็เลยขำ
แคท มายด์และปรางบังเอิญเจอกันที่โรงเรียนกวดวิชานิสัยคล้ายกันก็เลยทำให้สนิทกันมาก
แคทกับมายด์มาจากโรงเรียนเดียวกัน พ่อแม่ของทั้งคู่รู้จักกัน
พ่อของมายด์เป็นเกษตรอำเภอส่วนแม่เป็นแม่บ้าน ฐานะปานกลาง มายด์มีน้องอยู่หนึ่งคนเป็นผู้ชายเรียนอยู่โรงเรียนประจำจังหวัด
มายด์เป็นคนรูปร่างสมส่วน สูง165ซม. นน.54กก.ผิวสีน้ำผึ้งออน่ ไว้ผมยาวถึงกลางหลังชอบปล่อยผมสยาย ผมตรงดำเป็นเงา เป็นคนตรงพูดน้อยหน้าตาน่ารัก
แคท พ่อเป็นอาจารย์ใหญ่ประจำอยู่ที่โรงเรียนที่น้องของมายด์เรียนอยู่ส่วนแม่เป็นแม่บ้านเหมือนกัน ฐานะทางบ้านก็ปานกลาง แคทมีน้องชายหนึ่งคนเหมือนมายด์แต่น้องของแคทโตกว่าน้องของมายด์ ตอนนี้น้องของแคทได้ทุนไปเรียนอยู่ที่สิงคโปร์ แคทเป็นคนหุ่นนางแบบเลยคือสูง170ซม.นน.52กก.ผิวขาวออกเหลือง ไว้ผมยาวประมาณกลางหลังผมแคทจะหยักเป็นลอนดูมีน้ำหนักแต่ไม่เคยปล่อยผมเลย แคทจะม้วนผมและใช้ปิ่นปักไว้เสมอจึงไม่มีใครรู้ว่าผมเธอยาวแค่ไหนนอกจากมายด์ แคทเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี หน้าตาสวยคมโดยเฉพาะตาตาแคทจะคมมากแต่บางครั้งก็น่ากลัวสำหรับปราง
พ่อของปรางเป็นนักธุรกิจมีบริษัทเป็นของตัวเองส่วนแม่อยู่บ้านเฉยๆ ฐานะทางบ้านถือว่าร่ำรวยทีเดียว ปรางมีพี่ชายหนึ่งคนอายุ30ปีแล้วตอนนี้ทำงานแทนพ่ออยู่ที่บริษัท ปรางเป็นคนรูปร่างสมส่วนเหมือนกับมายด์ สูง165ซม.นน.52กก.ผิวขาวมากจนเห็นเส้นเลือดไว้ผมยาวประบ่าผมสีน้ำตาลชอบปล่อยผมเหมือนมายด์ปรางจะเป็นคนพูดเก่งยิ้มง่ายและใจเย็น
เปิดเทอมวันแรกคนเยอะมากในมหาลัย แคท มายด์และปรางสอบติดคณะเดียวกันคือเลขานุการเอกภาษาต่างประเทศ แคทเก่งภาษาอยู่แล้วเพราะพ่อส่งให้เธอไปเรียนภาษาตั้งแต่ตอนปิดเทอมม.ต้น แต่สำหรับมายด์กับปรางถือว่าพอใช้ได้ที่เลือกมาสอบคณะนี้ก็เพราะไม่อยากจากเพื่อน
สามสาวยืนมองไปรอบๆก่อนที่ปรางจะบอกว่า
”ไปที่ตึกคณะกันดีกว่า”แคทกับมายด์พยักหน้าเห็นด้วย
ทั้งสามคนเลยเดินมุ่งหน้าไปทางตึกด้านใน ในที่สุดก็เดินมาถึงตึกคณะบริหารธุรกิจ ด้านหน้าตึกมีรุ่นพี่แต่ละแผนกเอาป้ายมาปักไว้ให้น้องปีหนึ่ง
ของแต่ละแผนกได้ไปเข้าแถวเพื่อรายงานตัว พอสามสาวเดินเข้าไปทุกคนก็หันมามองเป็นตาเดียวกันเลย เพราะว่าแคทเด่นกว่าคนอื่น อาจจะด้วยความสูงและก็หน้าตาของเธอ ก็บอกแล้วว่าหุ่นนางแบบ
“เขามองอะไรกันล่ะ?”แคทหันมาถามเพื่อน
"ก็มองเธอนั่นแหละ”ปรางพูดพร้อมกับยิ้ม
”ทำไมอ่ะมันมีอะไรผิดปกติหรือไง?”แคทพูดพร้อมกับทำหน้าแปลกๆ
”เขามองคนสวยไง…หึหึ”มายด์พูดบ้าง
”ใครสวย?ตกลงเขามองมายด์กับปรางใช่มั้ย”แคทพูดพร้อมกับมองไปที่เพื่อน
”มองเธอนั่นแหละ”คราวนี้มายด์กับปรางพูดพร้อมกันและก็หัวเราะ
แคทชี้มือมาที่ตัวเองแล้วยิ้มน้อยๆพร้อมกับเดินนำไปนั่งหน้าป้ายแผนก แคทไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนสวยไม่ว่าจะมีใครพูดก็ตาม
ในที่สุดก็ผ่านการรับน้องมาจนถึงตอนเย็น ปรางมีคนมารับกลับบ้านส่วนแคทกับมายด์กลับด้วยกันเพราะอยู่ด้วยกัน ท้ังคู่พักอยู่ที่บ้านของป้ามายด์
ป้าของมายด์ชื่อป้ามล ป้ามลไม่ได้แต่งงานเลยพักอยู่คนเดียว ป้ามลทำงานธนาคารถือว่าสบายเลยทีเดียวที่บ้านป้ามลอยู่กันทั้งหมด3คนมีป้ามล น้าสมกับน้าสี
น้าสมกับน้าสีเป็นคนที่ป้ามลจ้างให้มาช่วยทำงานบ้าน
บ้านป้ามลเป็นบ้านสองชั้นมีสนามหญ้า มีสระว่ายน้ำมีรั้วโดยรอบ
“กลับมากันแล้วเหรอลูก”ป้ามลถามทันทีที่เห็นแคทกับมายด์
“เป็นไงบ้างลูก..เปิดเทอมวันแรก”ป้ามลถาม
”สนุกค่ะ..แต่ก็เหนื่อย”มายด์บอก
”แล้วแคทล่ะลูก…เป็นไงบ้าง”ป้ามลหันไปที่แคท
”วุ่นวายมากกว่าค่ะ”แคทพูดแล้วก็นั่งลงที่โซฟา
”แคทได้เป็นดาวคณะด้วยล่ะค่ะ..ป้า”มายด์บอก
ป้ามลเดินมาลูบหัวแคท”ก็บอกแล้วว่าหลานป้าสวย”ป้ามลพูด
”ไม่สวยสักหน่อย..มายด์กับปรางสวยกว่าอีก…แคทไม่อยากเป็นเลยค่ะ”แคทบอกพูดจบก็ทำหน้าแบบขัดใจมาก
ป้ามลหัวเราะออกมาเพราะเอ็นดู
”ไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวกัน”ป้ามลพูด
”ค่ะ”แคทกับมายด์พูดพร้อมกัน
ผ่านมาได้ 1 เดือนแล้วสำหรับชีวิตการเรียนในมหาลัย
เย็นวันนี้จะมีประชุมกันในคณะเรื่องกีฬาของมหาลัยที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
ผลการประชุมออกมาว่าแคท มายด์และปรางต้องเป็นดรัมเมเยอร์ของคณะ ซึ่งจะต้องมีซ้อมกันในตอนเย็นของทุกวัน
”โอ้ย!ทำไมต้องเป็นพวกเราล่ะนี่”แคทบ่น
”เพราะเธอเป็นดาวคณะไงล่ะ…ทำให้ชั้นกับมายด์เลยโดนไปด้วย”ปรางพูดแบบยิ้มๆพลางมองแคทที่ทำท่าเหมือนอยากหายตัวได้
”จะโวยวายทำไม?ยายแคท….ตอนอยู่รร.เก่าก็เคยเป็นนะ”มายด์พูดบ้าง
”แต่นี่มันมหาลัยนะ..ถ้าพลาดไปได้อายทั้งคณะแน่”แคทพูดพลางเกาหัว
”น่าสนุกดีออกนะ..ดีที่เราเป็นด้วยกัน”ปรางพูด
”แล้วเขาจะเริ่มซ้อมกันเมื่อไรล่ะ”แคทหันไปถาม
”เห็นว่า..เดี๋ยวพี่ๆจะบอกอีกทีอ่ะ”ปรางตอบ
”ป่ะ…กลับบ้านกันเถอะ”แคทพูด
วันจันทร์ถัดมาตอนเช้า
”เย็นนี้จะเริ่มซ้อมกีฬาและซ้อมหลีดกับดรัมนะคับ…น้องๆที่เป็นนักกีฬา เป็นหลีดและเป็นดรัมเย็นนี้เจอกันที่โรงยิมใหญ่ตอน5โมงเย็นนะคับ”เสียง
ของรุ่นพี่ที่เป็นประธานคณะพูดผ่านไมโครโฟน
ประธานคณะเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเรียนเอกคอมเคยเป็นเดือนของคณะเมื่อปีที่แล้วชื่อ ศิวา
ตกเย็นในโรงยิมก็เต็มไปด้วยคนจำนวนมาก ทั้งนักกีฬา ทั้งหลีดและพวกดรัมเพราะต้องประชุมกันก่อนแยกย้ายไปซ้อมตามที่ต่างๆ พอประชุม
เสร็จในโรงยิมก็เหลือแค่พวกหลีด กับดรัมและนักกีฬาวอลเล่ย์บอลกับบาสเกตบอลเท่านั้น
”แคท..ชั้นว่าพี่ศิวามองแกบ่อยๆนะ”ปรางพูด
”ไม่หรอกมั้ง..พี่เขาก็มองไปทั่วๆแหละเขาเป็นประธานก็ต้องดูแลทุกคนนะ”แคทหันไปมอง
”แต่..ชั้นว่าปรางพูดถูกนะ”มายด์พูดบ้าง
”ชั้นเห็นเขามองมาทางแกอย่างบ่อย เวลาแกเผลออ่ะ”ปรางบอก
”ซ้อมต่อเถอะ”แคทพูด เธอรู้สึกเฉยๆ
หลังจากซ้อมเสร็จแล้ว สามสาวเปลี่ยนชุดแล้วและกำลังจะเดินออกจากโรงยิม
”น้องแคทคับ..”มีเสียงเรียกมาจากข้างหลัง
สามสาวหันกลับไปมองพร้อมกัน ศิวานั่นเอง เขากำลังวิ่งเข้ามาหา ปรางกับมายด์หันไปมองหน้าแคท
”ค่ะพี่”แคทตอบ
”มีอะไรคะ..พี่ศิวา”แคทถาม เมื่อศิวามาถึง
”พี่จะบอกว่า…พรุ่งนี้ตอนพักกลางวันเขานัดประชุมดาวและเดือนปีนี้นะ”ศิวาบอก
“ที่ไหนคะ”แคทถาม
”ที่หอประชุมกลางคับ”ศิวาพูด
”ตรงไหนเหรอคะ..พอดีแคทยังไม่ค่อยได้ทำความคุ้นเคยกับมหาลัยสักเท่าไรค่ะ”แคทพูดพร้อมกับหันมาทางปรางกับมายด์ซึ่งก็ส่ายหน้าทั้งคู่
”งั้น…พรุ่งนี้ไปพร้อมกับพี่ก็ได้เพราะยังไงพี่ก็ต้องไปอยู่แล้ว”ศิวาพูด
แคทหันไปมองหน้าเพื่อน
”ก็ได้ค่ะ”แคทพูด
”งั้นพรุ่งนี้…พี่จะคอยอยู่ที่หน้าคณะนะคับ”ศิวาบอก
“ค่ะ..พี่”แคทตอบ
”โอเค..กลับบ้านกันดีๆนะคับ”ศิวาพูด
“ค่ะ..ขอบคุณนะคะ”แคทพูด
แล้วศิวาก็หันหลังเดินกลับไป
เขาแอบรักเธอตั้งแต่เขายังเรียนมัธยมต้นแต่ไม่กล้าบอกเพราะเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทจนผ่านมาถึง10ปีเขาได้เจอกับเธออีกครั้งและตั้งใจจะบอกกับเธอ แต่เขาก็ต้องมีคู่แข่งอีกหลายคนดังนั้นจึงต้องมีการวางแผนเพื่อทำให้เธอรักเขาให้ได้
เมื่อเขาต้องเลือกเจ้าสาวจากลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อที่มีอยู่2คน คนพี่สวยเซ็กซี่หยิ่งทนง คนน้องสวยน่ารักใสซื่อไม่ถือตัว เขาควรจะเลือกใครดี
เขาเป็นลูกชายของมาเฟียที่ผันตัวเองมาทำธุรกิจ เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าไม่จริงจังกับใครแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ช่วยชีวิตเธอไว้โดยบังเอิญแล้วนั่นก็เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเขาตกหลุมรักเธอโดยยังไม่รู้แม้แต่ชื่อ แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป
เขาหลงรักเธอตั้งแต่ในความฝันแล้วพยายามตามหาเธอในความจริงจนกระทั่งพรหมลิขิตก็ทำให้เขาได้เจอกับเธอ
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เธอแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่เข้ามหาลัยปี 1 แต่ไม่กล้าบอกจนผ่านมาได้ 1 ปีเธอถึงได้กล้าไปบอกเขาและขอตามฉี่เป็นเวลา 3 เดือนเขาปฏิเสธ
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY