เรื่องคืนนั้น..มันไม่ควรเป็นแบบนี้ !! ถ้าไม่คิดอะไร..อย่าจับหัวได้ปะ
เรื่องคืนนั้น..มันไม่ควรเป็นแบบนี้ !! ถ้าไม่คิดอะไร..อย่าจับหัวได้ปะ
ร่างสวยผิวละเอียดเนียนขาว ชุดเดรสรัดรูปสีแดงตัวสั้น ถลกขึ้นโชว์เรียวขาอ่อน ไม่พอแค่นั้นยังขยับชันขาขึ้น เผยให้เห็นแพนตี้สีขาวที่อยู่ข้างใน
-แปลกจริงเธอพวกนี้ถึงไม่ใส่ซับในเซฟตี้ไว้หน่อย-
พยายามหักห้ามใจเบือนหน้าออก ขณะกำลังจะลุกขึ้นนั้น..ในใจท่อง นะโม นะโม หลายครั้ง คือ ครั้งแล้ว กับครั้งเล่า ใจเต้นเร็วรัวยิ่งกว่าเครื่องยนต์
เธอดิ้นไปดิ้นมายิ่งปลุกเร้าอารมณ์ไปกันใหญ่ ถ้าผมจุดติด ก็จะคิดไม่ซื่อทันทีนะจะบอกให้ เป็นไงเป็นกันแค่เด็กในสังกัดวะ
" ขอโทษนะสาวน้อย อดใจไม่ไหวแล้วโว้ย " ผมก้มลงกระซิบข้างใบหูเล็กของเหมย เธอขาวสวย หมวย เอ็กซ์ขนาดนี้ ปล่อยไปฟรี ๆ ก็บ้าแล้ว ปะ ผมไม่ใช่พ่อพระคนดีขนาดนั้น
ผมลุกขึ้นยืนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น ขณะที่สายตาคู่คม จ้องมองเรือนร่างอันขาวผ่อง ไม่นานชุดหล่อเท่ก็ไปกองอยู่ที่พื้น
ผมจัดการขึ้นคร่อมร่าง เธอถอดชุดเดรสที่เกะกะออกให้หมด นั่นยิ่งทำให้ผมอดไจไม่ได้อารมณ์ชายกระเจิดกระเจิงไปกันใหญ่ เนื้อเนินอกอิ่มขาวเนียน จุดบอบบางช่างน่าพิสมัยเสียจริง
ผมโน้มตัวก้มต่ำจัดการเรือนร่างหญิงสาวไปทีละจุด จนมาหยุดที่น้องสาวของเธอ สอดนิ้วแกร่งเข้า ๆ ออก ๆ จนตรงนั้นเริ่มมีน้ำเจลใส ๆ มือหนาเอื้อมหยิบถุงยางในกระเป๋า
อยากจะขอบคุณตัวเอง ที่เดชะบุญเอามันไว้ใกล้ตัวหยิบง่ายหน่อย
เมื่อพร้อมแล้ว จัดการส่งน้องชายเข้าไปสำรวจในกายของเธอก่อน ช้า ๆ
"อ๊ะ" เธอสะดุ้งเริ่มรู้สึกตัว เมื่อโดนสัมผัสที่จุดของรักของหวง มือน้อยปัดป่ายให้เอาออก แต่ผมเริ่มขยับเร็วขึ้น พร้อมกับมือหนานวดคลึงจุดเสียวกระตุ้นถี่ขึ้น ถี่ขึ้น รัว ๆ ไม่เป็นจังหวะ ทำให้สติเธอหลุดไปอีกครั้ง...
ร่างเปลือยเปล่าเหมือนจักขัดขืน แต่พลันอ่อนนิ่มลง เอ๊ะ เชี่ยละ !!นั่นมัน เลือด!! นี่เธอมาทำงานแบบนี้ แต่อย่าบอกนะว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่ แต่..ตัวผมเอง มาขนาดนี้แล้วผมก็หยุดไม่ได้เช่นกัน
เธอคับแน่นจน ความรู้สึกสยิวซ่าน ปั่นป่วนขนลุกทั่วทั้งร่างกาย อารมณ์ปรารถนาล่องลอยไปในห้วงฝัน แรงยั่วสวาทนี้เกินจะต้านไหว ผมใส่ไปเต็มแรงเพื่อส่งตัวเองไปถึงฝั่งฝัน น้ำรักพวยพุ่งอัดแน่นเต็มถุงยางไซด์ใหญ่
" ขอโทษทีนะเหมย " หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจผมเช็ดเนื้อตัวที่เลอะเปื้อน พร้อมกับสวมเสื้อผ้ากลับไปให้เธอเช่นเดิม แล้วปล่อยให้เธอนอนพักผ่อน เธอนอนนิ่งราวกับไม่รู้สึกอะไร
" เชี่ย!! ตายหรือเปล่าวะ "
ผมก้มลงไปที่อกข้างซ้ายเพื่อฟังเสียงหัวใจของเธอ และส่งนิ้วชี้ไปจับชีพจร กลิ่นลมหายใจที่พ่นออกมีกลิ่นเหล้า นั้นแสดงว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
จากนั้นหยิบผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาห่มให้กับเธอ ส่วนตัวผมเนียนไปนอนที่โซฟา เผื่อเธอตื่นมาแล้วโวยวาย
เช้าวันต่อมา
เหมย Talk
ฉันตื่นลืมตาขึ้นด้วยความรู้สึกที่ปวดหัวอย่างหนัก ผนังห้องสีเทาแดง รูปภาพ นี่มันไม่ใช่ห้องฉันนี่นา " โอ๊ย ปวดหัว "
ฉันปรับโฟกัสสายตาที่มัวให้เป็นปรกติ แล้วมองไปยังอีกมุมหนึ่งของห้อง เจอร่างของคุณดีแลนนอนอยู่ นี่ฉันมานอนที่ห้องเขาได้ยังไง
เกิดอะไรขึ้น?ในหัวมีแต่เครื่องหมายคำถาม ฉันพยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ ล่าสุดคือไปคุยธุระเรื่องที่ลาออก เขาทำอะไรฉันหรือเปล่านะ ทำไมเจ็บท้องน้อยหน่วง ๆ
ฉันดึงชุดที่ถกขึ้นสูงให้ปิดลง ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนร่างลงจากเตียงนุ่ม จะปลุกเขาดีมั้ยนะ หรือจะปล่อยให้เขานอน สงสัยฉันน็อคแล้วเขาพาขึ้นมานอนบนห้องเขาแน่ ๆ แต่บอกเขาหน่อยดีกว่าเผื่อจะได้ขอบคุณเขา
" คุณดีแลนคะ"เขาสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้น
" อ้าวเหมย ตื่นแล้วเหรอ " ผมสังเกตท่าทีเธอก่อนว่าเธอจะจำเรื่องราวเมื่อคืนที่ผมทำไม่ดีกับเธอได้หรือไม่
" เหมยจะกลับแล้วขอบคุณนะคะ "
" อ่อ เดี๋ยวผมไปส่ง " ดูท่าทางเธอคงจำไม่ได้หรือว่าจำได้ แต่เธอเนียนว่าไม่มีอะไรหรือเปล่านะ ผมทำเธอขนาดนั้นก็อดเป็นห่วงอยากที่จะไปส่ง
" ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเหมยนั่งแท็กซี่กลับเองได้ "
ฉันอายที่จะให้ใครเป็นเจอสภาพห้องเช่าแบบนั้น ขอกลับเองดีกว่า เดี๋ยวเขาจะสมเพชฉันเหมือนเจฟฟี่อีก
" ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจ ชุดคุณโป๊ แบบนี้เดี๋ยวแท็กซี่ก็ลากไปทำมิดีมิร้ายหรอก "
-ทำไมเธอกลับปฏิเสธผมเสียงแข็งล่ะ นั่นยิ่งทำให้ผมเป็นกังวล -
"งั้นเหมยขอยืมเสื้อคลุมคุณดีแลนหน่อยได้มั้ยคะ เหมยกลับเองดีกว่าค่ะ "
" เอางั้นเหรอ ได้สิ " เธอไม่ยอมให้ไปส่งจนผมต้องยอมปล่อยเธอไป แต่มองหน้าเธอทีไรทำไมผมรู้สึกสงสาร ที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอ
สิ้นประโยคสนทนา ฉันหยิบเสื้อคลุมร่างเดินออกจากห้องโดยที่มีเขาเดินตาม ลงมาส่งทำไมวันนี้ เจ้านายฉันดูแปลกจังปรกติไม่เคยเดินลงมันส่ง
" รถมาแล้ว ไปนะคะ "
หลังจากที่เธอกลับไป ผมกลับขึ้นมาบนห้องเพื่อนอนต่อ แต่เมื่อเห็นรอยเลือดที่เปื้อนที่นอนทำให้รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
โปรดติดตามตอนตอนไป..
ฉันไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบทองหล่อในคืนวันศุกร์นะคะ ...ขอตัว..//ส่วนตัวไม่เน้นความสัมพันธ์เน้นมันส์อย่างเดียวรับได้หรือเปล่า
เชื่อเสมอว่าประตูบานนี้ปิดลง เราจะได้เปิดประตูไปเจอสิ่งที่ดีกว่าเสมอ...เธอออกตามหาคนที่ให้ชีวิตใหม่กับเธอ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น.. สันดานแบบคุณ แค่เห็นนรกก็คิดว่าแค่ชื่อน้ำพริกสินะ
อยากเห็นใบหน้าของเขาในช่วงเวลาแบบนั้น..สีหน้าท่าทางเขาจะเป็นแบบไหน.. ไม่ได้ง่ายกับทุกคนนะ...แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
ทดลองเป็นลูกค้ากันก่อนถ้าชอบค่อยกลับมาซื้อ..ถ้าคุณพร้อมโอน..ฉันก็พร้อม..อ..NC18+
หน้าพลาสติกลอยมาตั้งแต่ 3 กิโลเมตรแรกยังจะกล้าว่าคนอื่นไม่สวยอีกเหรอ?นี่ถ้าฉันได้ไปทำหน้าที่เกาหลีสิ่งแรกที่จะบอกหมอ คือไม่เอาหน้าแบบเธอ..นอ.ขอยกเลิกสัญญากับพระเอกเพราะเธอเข้าใจผิดว่าโดนผู้ชายข่มขืน
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY