อยากเห็นใบหน้าของเขาในช่วงเวลาแบบนั้น..สีหน้าท่าทางเขาจะเป็นแบบไหน.. ไม่ได้ง่ายกับทุกคนนะ...แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
อยากเห็นใบหน้าของเขาในช่วงเวลาแบบนั้น..สีหน้าท่าทางเขาจะเป็นแบบไหน.. ไม่ได้ง่ายกับทุกคนนะ...แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
ประธานคะ หนูไม่ไหว
" ถุงยาง!!!! ตอนนี้เลยเหรอคะบอส " เสียงอุทานดังขึ้นเมื่อโทรศัพท์ดังครืด ครืด ขึ้นมากลางดึก ราวกับนึกว่ามีใครตาย ที่ไหนได้เจ้านายตัวแสบ เรียกใช้งานเวลานี้
"ใช่ " เสียงคมชัดของคนในสายตอบกลับราวกับจะบอกเป็นนัยๆ ว่าต้องการมันตอนนี้
ไม่รู้ว่าเธอคิดถูกหรือคิดผิด ที่เห็นแก่ของฟรี ยอมมาอยู่คอนโดห้องข้างๆ ของเจ้านาย คอนโดที่ปล่อยว่างเอาไว้ไม่มีคนอยู่ ดวงตาสวยปรือมองนาฬิกาปาไปเกือบห้าทุ่มครึ่งเธอพึ่งจะเคลิ้มหลับได้ไม่ถึงชั่วโมง
-ลาออก อย่างนี้ต้องลาออกฉันจะขอลาออกเสียตั้งแต่ตอนนี้ -
หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อยกโทรศัพท์ขึ้นเหนือศีรษะเพื่อระบายความรำคาญ
"ชามุก เธอต้องมาภายในสิบห้านาที ไม่งั้นโบนัสเธอ..ฉันไม่รับประกันนะ"
เสียงของคนในสายดังกดดันเธออีกครั้ง เสียงนั้นเรียกสติให้เธอหลุดจากภวังค์ที่ท่องเอาไว้อยู่ บ้าเอ๊ย!! ขณะที่ท่องลาออก ๆ เอาไว้ในหัว ปากพลันตอบกลับคนในสายไปทันทีว่า
" รับทราบค่ะบอสจะจัดการให้ตอนนี้เลยค่ะ " หญิงสาวมักเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แม้ในหัวปฏิเสธแต่ความจริงกลับต้องเร่งรีบทำ
ร่างเล็กที่อยู่ในชุดนอน ผ้าพริ้วลายหลุยส์ที่พึ่งซื้อมาจากตลาดนัดเมื่อวานก่อน เร่งรุดลงจากเตียงเปลี่ยนใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดสวมผ้าปิดจมูก วิ่งไปกดลิฟท์ลงไปร้านสะดวกซื้อข้างล่างตึก
ยิ่งเมื่อเธอย้ายมาอยู่ข้าง ๆ ห้องนอนของเจ้านาย เขายิ่งใช้งานเธอได้ถนัด ขณะลิฟท์เลื่อนลงสู่ชั้นล่าง เธอที่อยู่ในอาการโมโหแทบควันออกหู อยากจะฉีกคนบางคนเป็นชิ้น ๆ เมื่อถูกขัดจังหวะเวลานอน เจ้านายจอมหื่นที่ชอบควงผู้หญิงมานอนก็มักจะไม่เตรียมตัวก่อนล่วงหน้าเลยหรือไง
" ผ่อนทีวีเหลือห้างวด ผ่อนเครื่องซักผ้าเหลือหกงวด ผ่อนไอโฟนเครื่องหรูอีกแปดงวด ท่องเอาไว้ชามุก หมดหนี้อย่าเอาอะไรมาเพิ่มอีกล่ะ จะได้ลาออกอย่างไม่ต้องมีภาระ "
ชามุกสาวสวยวัยยี่สิบสามย่างยี่สิบสี่ ทำงานที่นี่มามาเกือบปี
ย้อนไป 1 เดือนก่อนเริ่มงาน
ตอนที่เรียนจบ เธอและเพื่อนๆ เลี้ยงฉลองบัณฑิตใหม่ที่ผับแห่งหนึ่ง เธอดื่มจนเมามาย ขณะเยื้องกายไปห้องน้ำ เธอกลับเดินเซไปชนใครคนหนึ่งเข้า คนที่เธอเข้าใจว่าเป็นบริกรของร้าน
ในวันนั้นชายหนุ่มกลับจากงานเลี้ยงสวมชุดทักซิโดผูกโบว์สีดำ เป็นเหตุให้แก้วเหล้าที่อยู่ในมือหกรินรดเสื้อเชิ้ตสีขาว โดยไม่ตั้งใจ เธอจึงควักเงินหนึ่งร้อยบาทให้เขาเพื่อเป็นการขอโทษ
" ถือว่าพี่ให้ทิปค่าเสื้อเลอะนะสุดหล่อ หล่อชะมัดเลย " น้ำเสียงยืดยาน เอ่ยพลางยัดเงินใส่กระเป๋าเสื้อ มือสวยตบที่กระเป๋าเสื้อที่หย่อนเงินลงไป ก่อนยื่นมือไปขยับโบว์สีดำที่ผูกอยู่คอเสื้อให้เข้าที่
ใบหน้าสวยสบจ้องมองใบหน้าคมอยู่ในระยะไม่ถึงสามเซนติเมตร ก่อนคนตัวเล็กเดินโซซัดโซเซไปเข้าห้องน้ำ
เดือนถัดมา หลังจากที่เธอยื่นใบสมัครไว้หลายตำแหน่ง ทิ้งประวัติไว้บนเวปไซด์จัดหางานและพักผ่อนเตรียมตัวเพื่อเริ่มงานใหม่ ขณะนั้นได้มีสายเรียกให้ไปสัมภาษณ์งาน ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
การสัมภาษณ์งานสอบถามประวัติเธอสามารถตอบคำถามได้อย่างฉะฉาน เมื่อครั้งฝึกงานตอนเรียนมหาวิทยาลัยเธอเคยเป็นผู้ช่วยเลขามาก่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขา
สามวันต่อมาเมื่อถึงวันเริ่มงาน ทางฝ่ายบุคคลให้ไปแนะนำตัวกับประธานบริษัทที่เธอต้องเป็นเลขาให้เขา
เบื้องหน้าของเธอหลังจากประตูกระจกราคาแพงถูกเปิดออก ปรากฎภาพชายหนุ่มสวมชุดสูทสีเทาอ่อน ใบหน้าหล่อเหลาราวพระเอกบนปกนิยาย พุ่งทะลุเป็นประกายออร่าออกมา นั่งก้มหน้ามองเอกสารอยู่ที่หลังโต๊ะ แต่จะว่าไปเหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ เธอพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
ขณะที่ชื่นชมกับความหล่อของชายตรงหน้าได้ไม่นาน เสียงเรียกของคนที่นำทางเอ่ยเรียกชื่อเธอเพื่อแนะนำตัวให้กับประธานบริษัท
" ชามุก ชามุก " ร่างเล็กหลุดออกจากภวังค์ รีบขานรับเสียงเรียกนั้นทันที
" คะ "
" นี่คุณเพชรภูมิประธานบริษัทของเราที่เธอต้องเป็นผู้ช่วยของพี่ ช่วยงานเอกสารที่จะส่งให้แก่ท่านประธาน "
มือเรียวยกมือขึ้นไหว้ด้วยความนอบน้อม สายตาคู่คมที่ดูเย็นชาปรายตามองด้วยหางตาเพียงเล็กน้อย ก็หันกลับไปมองเอกสารที่อยู่ในมือเช่นเดิม
" นี่เธอสูงเท่าไหร่?
" หนึ่งร้อยห้าสิบแปดค่ะ " หญิงสาวตอบออกไปทั้งที่ไม่เข้าใจว่า ผู้ช่วยเลขามันเกี่ยวกับส่วนสูงด้วยเหรอ
" ตัวเล็กจัง ตอนเด็กแม่ไม่ให้กินนมหรือไงถึงได้ตัวแค่นี้ " เขาเอ่ยเสียงเรียบเบา ๆ แต่ห้องกว้างที่เงียบงันแค่นั้นใครจะไม่ได้ยินล่ะ
นั่นปากเหรอนั่นอยากจะตอบกลับเจ็บ ๆ นัก แต่เกรงว่าจะตกงานตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ฟังแล้วแทบจุก ใช่สิพ่อเสาไฟฟ้าสูงยาว 2 เมตรเลยมั้ง คาดคะเนจากสายตา เขาคงไม่ต่ำกว่าร้อยแปดสิบแน่ ๆ เสียงในหัวพร่ำบน
" ไหนลองยืนขึ้นหมุนตัวซิ "
หะ นี่ผู้ช่วยเลขา? หรือสมัครพริตตี้ที่ต้องใช้ทั้งหุ่นทั้งหน้าตา แต่ทว่าเธอก็ยอมทำตามที่เขาบอกอยู่ดี ร่างสวยลุกขึ้นหมุนเป็นวงกลม
" พอ ๆ นั่งลงได้ หุ่นตันอย่างกับปลากระป๋อง " เขาเอ่ยเสียงเรียบ ราวกับหงุดหงิด
จุกดอกที่สอง นี่ตั้งใจหรือพูดเล่นเหรอถามจริง ชามุกบีบมือตัวเองไว้แน่น เพื่อระงับสติอารมณ์ ภาพในหัวที่ชื่นชมความหล่อไว้เมื่อครู่ พลันสลายย่อยยับไปหมดไม่เหลือเค้าโครงความหล่อไว้ในหัวอีกเลย
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอตั้งมายเซ็ทไว้ในหัวเลยว่าจะไม่เอาผู้ชายแบบนี้ทำผัวแน่นอน..!!
โปรดติดตามตอนต่อไป ....ปากดีตั้งแต่เริ่มเลย พ่อพระเอกของไรท์ ..ยังไม่ตรวจคำผิดนะคะทักได้เลย
ฉันไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบทองหล่อในคืนวันศุกร์นะคะ ...ขอตัว..//ส่วนตัวไม่เน้นความสัมพันธ์เน้นมันส์อย่างเดียวรับได้หรือเปล่า
เชื่อเสมอว่าประตูบานนี้ปิดลง เราจะได้เปิดประตูไปเจอสิ่งที่ดีกว่าเสมอ...เธอออกตามหาคนที่ให้ชีวิตใหม่กับเธอ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น.. สันดานแบบคุณ แค่เห็นนรกก็คิดว่าแค่ชื่อน้ำพริกสินะ
เรื่องคืนนั้น..มันไม่ควรเป็นแบบนี้ !! ถ้าไม่คิดอะไร..อย่าจับหัวได้ปะ
ทดลองเป็นลูกค้ากันก่อนถ้าชอบค่อยกลับมาซื้อ..ถ้าคุณพร้อมโอน..ฉันก็พร้อม..อ..NC18+
หน้าพลาสติกลอยมาตั้งแต่ 3 กิโลเมตรแรกยังจะกล้าว่าคนอื่นไม่สวยอีกเหรอ?นี่ถ้าฉันได้ไปทำหน้าที่เกาหลีสิ่งแรกที่จะบอกหมอ คือไม่เอาหน้าแบบเธอ..นอ.ขอยกเลิกสัญญากับพระเอกเพราะเธอเข้าใจผิดว่าโดนผู้ชายข่มขืน
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY