เลขาสาวผู้เชยเฉิ่มและใสซื่อ กลับเป็นคนเดียวกันกับสาวโพลแดนซ์ที่แอบปลื้ม ไปซะงั้น..ไม่พอพ่อกับแม่จ้างให้เธอตามคุมพฤติกรรมเขา แต่เธอดันไปกินลูกชายเขาเสียอีก..เพื่อคนที่แอบรักเธอยอมทำได้ทุกอย่าง
เลขาสาวผู้เชยเฉิ่มและใสซื่อ กลับเป็นคนเดียวกันกับสาวโพลแดนซ์ที่แอบปลื้ม ไปซะงั้น..ไม่พอพ่อกับแม่จ้างให้เธอตามคุมพฤติกรรมเขา แต่เธอดันไปกินลูกชายเขาเสียอีก..เพื่อคนที่แอบรักเธอยอมทำได้ทุกอย่าง
ย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ทุกคนมีคนที่เก็บเอาไว้ในความทรงจำ ไม่ว่าความทรงจำตรงนี้มันไปอยู่ตรงไหน แต่รู้นะ ว่าทุกส่วนที่อยู่ นั้นคุณสามารถแวะไปหาเขาได้เสมอๆ ไปหาเขาในความรู้สึก ไปหาเขาในใจ ไปหาเขาในความทรงจำที่เคยผ่านมา เป็นเรานี่แหล่ะไม่อยากลืมมัน
รักใครก็บอก ชอบใครก็บอก อย่างน้อยก็ได้พยายามเต็มที่ ที่สุดกับความรักและความทรงจำของตัวเอง
ย้อนไปตอน ม.6
ในคืนที่ฝนตก สายตาคู่คมพิจารณาจ้องมอง ร่างสวย มัดผมสวมใส่ชุมมัธยมปลาย ใบหน้าจิ้มลิ้ม ขาวใส แต่บ้านของปังปอด์นเพื่อนสนิทของเขา ประตูรั้วกับหน้าบ้านเขา อยู่ห่างกัน ซึ่งเขากังวัลว่า เธอจะเปียกอาจจะหนักกว่าเดิม ถ้าฝนที่กำลังโปรยปราย จะก่อตัวแรงขึ้น
"เฮ้ยปอนด์ นั่นน้องมึงป่าวนั้น"
"เออ ใช่ๆ ร่มอยู่หน้าบ้านมึงไปรับมันให้กูหน่อย กูติดทำงานอยู่"
"เออได้ๆ"
เมื่อเพื่อนๆของปังปอด์นได้นัดรวมตัวมาทำรายงานที่บ้านเพื่อทำรายงานส่งคุณครู หลังจากที่ หญิงสาวรูปร่างเพรียวบาง มองไปยังชายหนุ่ม ที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าราวกับภาพวาด หล่อคมคาย จมูกโด่งคิ้วเข้ม ทรงผมหน้าม้าปัดข้าง เสื้อมหาวิทลัยสีขาว กางเกงยีนต์ ถือร่มคันโตสีน้ำเงิน วิ่งออกมารับเธอที่หน้าบ้าน
ตึ่กตัก ! ตึกตัก ! ตอนนี้ทำให้หัวใจของหญิงสาว สั่นราวกับแผ่นดินไหว ได้แต่อึ้งตะลึงกับชายร่างสูงตรงหน้าโดยไม่ทันนึกว่าตัวเธอเองอยู่กลางสายฝนเพราะเธอกำลังที่จะเปิดประตูเหล็กบานใหญ่ เพื่อเข้ามาในบ้าน
มือสวยยังค้างอยู่ที่กลอนประตูรั้วแต่ทอดสายตาจดจ้องเหมือนอยู่ในภวังค์
"เชี่ย ! คนหรือพระเอกซีรีย์ หล่อไม่ไหว " เธอพึมพำในลำคอเบาๆ
เนื้อตัวเริ่ม เปียกปอน เพราะลงจากรถเมล์หญิงสาวก็รีบวิ่งฝ่าสายฝนที่กำลังลงเม็ดบางจนกระทั่งตอนนี้ถึงบ้านเม็ดหนาขึ้น ชายหนุ่ม กางร่มบังฝนพร้อมลำแขนแกร่งโอบมาที่ไหล่ ร่างสูงบังฝนแล้วนำร่างเล็กของเธอกลับเข้าไปในบ้าน ซึ่งนั่นคือความประทับใจแรก ที่เธอได้สัมผัส
"เฮ้ย ไอ้ปอด์น มึงดูมือไอ้มาร์ค กอดน้องมึงด้วย " เสียงทุ้มแทรกเข้ามาจากชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นแซว นั่นคือ พี่แกปตัวดีชอบพูดมากแซวคนนั้นคนนี้ตามนิสัย เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นมือแกร่งจึง รีบผละมือออกทันที
"กอด เชี่ย ! ไร น้องไอ้ปอด์นจะเปียกฝนก็แค่กางร่มให้น้อง มึงนี่ นะคิดอกุศลตลอด "
ประโยคนี้ส่งผลให้ทั้ง 4 คน หัวเราะชอบใจกัน แต่ตัวหญิงสาวกลับเขินอายหน้าแดงเมื่อโดนพี่ ๆแซวขนาดหนัก
หญิงสาวถอดรองเท้าเก็บเข้าชั้น พร้อมเดินเข้าบ้านไป เก็บกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเช่นทุกวัน ผ่านไปไม่นานเมื่อวิ่งลงมาชั้นล่าง ปังปอน พี่ชายของเธอสั่งให้ทำกับข้าวให้พี่ๆกิน เนื่องจากพ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ ฝนก็ตก เธอจึงยอมทำให้แบบไม่ค่อยพอใจ
"ปัน ปัน ทำกับข้าวให้พี่ ๆ เขากินหน่อย นะ...นะ...น๊าา.." พี่ชายของเธอทำเสียงออดอ้อนเพื่อให้ผู้เป็นน้องทำตาม และเมนูประจำบ้าน ที่ง่ายที่สุดคือต้มมาม่า ใส่ไข่ และใส่ผัก
ขณะที่ร่างบางของหญิงสาวหันหลังต้มน้ำอยู่นั้น เบื้องหลังปรากฎร่างสูงของใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังจังหวะนั้น เธอเคลื่อนตัวหันกลับมาเพื่อหยิบอะไรบางอย่าง กลับชนเข้ากับร่างสูงเป็นเหตุให้หญิงสาวอยู่ในอ้อมกอดของมาร์ค ศีรษะของเธอประกบเข้ากับสันจมูกโด่ง
เขาคว้าตัวเธอเอาไว้ขณะหันมาด้วยอาการตกใจอาจจะทำให้เธอล้มใส่หม้อน้ำที่กำลังเดือดพล่าน อยู่ก็เป็นได้
" เป็นไรหรือเปล่า" เสียงทุ้มนุ่มของร่างสูงเอ่ยถาม
" ปะ เปล่า ค่ะ " หญิงสาวเอ่ยพร้อมผลักร่างตัวเองออกให้เป็นอิสระเพื่อรีบไปหยิบ มาม่า
" ต้มมาม่าเหรอ ให้พี่ช่วยอะไรมั้ย "
"'หั่นผักตรงนี้ให้ด่วนทีนะคะ ปันจะรีบเอาไข่มาใส่ก่อน"
มาร์คเป็นคนเดียวที่ อาสามาช่วยทำกับข้าว เขาทั้งหล่อแถมยังน่ารักอีก บรรยากาศในครัวที่เมนู ง่ายๆ แต่อบอวลไปด้วยความประทับใจ และมีความสุข
หลังจากที่ ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย เพื่อนๆของปังปอนด์ทำรายงานกันต่อ เมื่อช่วงบักเบรคทีไร มาร์คมักจะชอบหยิบกีตาร์ขึ้นมาร้องเพลง
ทุกครั้งที่ได้ยินเธอจะชอบแอบจ้องมองดูอยู่ห่างๆ ทุกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ ของชายหนุ่ม บางครั้ง ปัน ปัน ก็อดไม่ได้ที่จะมาเสนอตัวร่วมร้องเพลงไปด้วยกันรุ่นพี่ แม้เสียงจะไม่ดีก็ตามแต่มาร์คก็ชมเสมอว่าเธอร้องเพลงเพราะ
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา มาร์คและ เพื่อน ๆ กลุ่มนี้ก็มาเล่นที่บ้านกันอยู่บ่อย ๆ จนหญิงสาวเริ่มที่จะคุ้นเคย ทุกครั้งที่มาร์คมามักจะหอบหิ้วขนมของฝากติดไม้ติดมือมาฝากตลอด
มาวันหนึ่งเป็นอีกคืนที่มาร์ค นอนค้างที่บ้าน เมื่อช่วงดึกสงัดที่ใครๆต่างหลับใหลกันไปหมด ซึ่งตอนนั้น ปัน ปัน หิวน้ำลงมาในครัวเพื่อหาอะไรดื่ม เจอเงาตะคุ่มๆของคนที่เธอนึกว่าโขมย มือสวยคว้ากระชอน เพื่อที่เอาฟาดร่างเงาตรงหน้า แต่ร่างสูงตรงหน้าดันหันมาคว้ามือเธอเอาไว้เสียก่อน
" พี่มาร์ค พี่มาทำอะไรมืดๆ ทำไมไม่เปิดไฟ " เสียงกระซิบกระซาบบอกร่างหนาตรงหน้า เพราะเกรงว่าคนอื่นจะได้ยิน แต่ทันใดนั้นมีเสียงเดินลงบันใด อาจจะเป็นพ่อเพื่อมาสำรวจบ้านว่าล๊อคแล้วหรือไม่ แต่ในความมืดนั้น ร่างหนาของมาร์คคว้าตัวเธอและใช้มือปิดปากเพื่อหลบไปยังอีกซอกหนึ่ง เกรงว่าพ่อจะเห็น ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสอง
แต่นั่นกลับทำให้ หญิงสาวใจเต้นจนตัวสั่นเพราะมันกลับได้ใกล้ชิดเขาแทบจะเนื้อแนบเนื้อ อกชิดอก กันเลยก็ว่าได้
ขณะที่ตาคู่สวยจ้องมองไปที่ใบหน้าคมคาย แต่สายตาเขา จ้องมองไปที่พ่อเพื่อสำรวจดูว่า พ่อขึ้นบ้านไปหรือยัง และเมื่อพ้นจากตรงนั้น ไปแล้วเขาคลายมือสากออก จากใบหน้าสวย แล้วสะกดสายตาจ้องมองมาที่เธอ ไม่รู้ว่าไปกระตุ้นต่อมอะไรของเขาหรือเปล่า
ร่างสูงโน้มตัวลงยื่นใบหน้าคมเข้ามาใกล้ๆ สัมผัสแตะปลายริมฝีปากเบาๆ หนึ่งครั้ง ซึ่งนั้นเป็นจูบแรกของเธอเลยก็ว่าได้ ทันใดนั้น มีเสียงของใครบางคนเดินออกมา ทันทีที่เห็นร่างของมาร์คและ ปัน ปัน จึงต้องรีบผละอย่าอัตโนมัติ แล้วต่างคนต่างแยกย้ายรีบวิ่งเข้าห้องนอนของตัวเอง
หลังจากวันนั้นทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน มาร์คเองก็ไม่ค่อยได้มาที่บ้านของปันปันอีก
เมื่อครั้งถึงวันเกิด ของมาร์ค ปันปัน เก็บเงินหยอดกระปุกจากเงินค่าขนมที่ไปโรงเรียนทุกวัน เพื่อที่จะนำไปซื้อ นาฬิกา ให้กับเขา เฝ้ารอเวลาว่าวันไหนชายหนุ่มจะมาที่บ้านอีกครั้ง แต่กระนั้นก็ไร้ซึ่งวี่แวว พอทราบข่าวอีกที พี่ชายของ เธอ บอกว่า เขาเดินทางไปที่ต่างประเทศแล้ว
โปรดติดตามตอนต่อไป ....
ฉันไม่ต้องการความสัมพันธ์แบบทองหล่อในคืนวันศุกร์นะคะ ...ขอตัว..//ส่วนตัวไม่เน้นความสัมพันธ์เน้นมันส์อย่างเดียวรับได้หรือเปล่า
เชื่อเสมอว่าประตูบานนี้ปิดลง เราจะได้เปิดประตูไปเจอสิ่งที่ดีกว่าเสมอ...เธอออกตามหาคนที่ให้ชีวิตใหม่กับเธอ แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้น.. สันดานแบบคุณ แค่เห็นนรกก็คิดว่าแค่ชื่อน้ำพริกสินะ
เรื่องคืนนั้น..มันไม่ควรเป็นแบบนี้ !! ถ้าไม่คิดอะไร..อย่าจับหัวได้ปะ
อยากเห็นใบหน้าของเขาในช่วงเวลาแบบนั้น..สีหน้าท่าทางเขาจะเป็นแบบไหน.. ไม่ได้ง่ายกับทุกคนนะ...แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
ทดลองเป็นลูกค้ากันก่อนถ้าชอบค่อยกลับมาซื้อ..ถ้าคุณพร้อมโอน..ฉันก็พร้อม..อ..NC18+
เมื่อน้องสาวฝาแฝดแสนอ่อนแอต้องแต่งเข้ามาเป็นฮองเฮาเพื่อมาสืบเรื่องราวการตายของวงศ์ตระกูลที่แท้จริง และได้มาเจอกับฮ่องเต้ที่มีปมฝังใจจนกลายเป็นคนขี้ระแวง แฝดผู้พี่จึงต้องปลอมตัวเป็นน้องสาวเพื่อมาจัดการกับสนมที่ข่มเหงน้องสาวฝาแฝดของนางและต่อกรกับฮ่องเต้ที่ไม่สนใจใยดีฮองเฮาของตนเอง แถมยังต้องตามสืบหาความจริง แต่นางจะสามารถทำได้สำเร็จดั่งที่ตั้งใจไว้จริงหรือ?
แต่งงานกับมู่หนานจือมาเป็นเวลาสามปี ซูป้านเซี่ยคอยดูแลและเอาใจเขามาโดยตลอด แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชาและความรังเกียจ เมื่อคนรักของมู่หนานจือกลับมา เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอยิ่งห่างเหินจากเธอ ในที่สุด เธอไม่สามารถทนต่ออีกต่อไปและเป็นฝ่ายเสนอให้หย่ากัน มู่หนานจือมองตามหลังซูป้านเซี่ยที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน ก็พนันกับเพื่อนว่า "ดูเอาเถอะ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเสียใจและกลับมาอ้อนวอนแน่ ๆ " ซูป้านเซี่ยได้ยินก็ยิ้มอย่างเย็นชา"มู่หนานจือ ฝันไปเถอะ" ผ่านไปหลายวัน มู่หนานจือบังเอิญพบว่าอดีตภรรยาของตนฉลองการหย่าร้างในบาร์ และจากนี้ไปอีกไม่นาน เธอก็มีแฟนหนุ่มใหม่แล้วด้วย เวลานี้เอง มู่หนานจือถึงเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา เพราะเขาพบว่าผู้หญิงที่เคยรักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วเขาควรจะทำอย่างไร
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หล่อนถูกส่งมาบรรณาการในฐานะทาสบำเรอความใคร่ เพื่อแลกกับหนี้สินก้อนโต นอนกับเขาจนกว่าเขาจะเบื่อ แล้วเมื่อนั้นแหละหน้าที่บำเรอบนเตียงของหล่อนจึงจะหมดไป พะแพง ถูกส่งตัวมาเป็นนางบำเรอให้กับมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส หน้าที่ของหล่อนคือทำให้เดมอน ลินการ์ด มีความสุขที่สุดยามอยู่บนเตียง หล่อนก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจ แต่ไม่นานเขาก็เบื่อหน่าย ขับไล่ไสส่งหล่อนออกไปจากชีวิต ข่าวงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงคนใหม่ที่ทั้งสวยและแสนคู่ควรดังก้องคับแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนต้องหลบอยู่ในซอกหลืบของความมืดมิดเพื่อซ่อนเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอาไว้อย่างรวดร้าวทรมาน
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด