ทศกัณฐ์ หวงความโสด และถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จันทร์จิราถูกไหว้วานให้ทำยังไงก็ได้ให้หลานชายของเรืองศักดิ์กลับมาเป็นชายชาตรีอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ลยว่ามันเป็นแผน
ทศกัณฐ์ หวงความโสด และถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จันทร์จิราถูกไหว้วานให้ทำยังไงก็ได้ให้หลานชายของเรืองศักดิ์กลับมาเป็นชายชาตรีอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ลยว่ามันเป็นแผน
กลางเมืองหลวงที่มากมายไปด้วยผู้คนและรถ สวนทางกันไปมา ถึงแม้จะเป็นตอนเช้าแต่ในฤดูร้อนเช่นนี้ หญิงสาวรูปร่างสมสัดส่วนสวมชุดพนักงานเดินออกจากคอนโดมิเนียม ก้าวเท้าตามเส้นทางระหว่างคอยเพื่อนสนิทมาหาทุกเช้า
ดวงตากลมโตมองผ่านกรอบแว่นบางก่อนเบิกตากว้างตกใจรีบวิ่งเข้าไปพยุงร่างชายชราขึ้นจากพื้น แม่ค้าใกล้ ๆ พากันเดินออกมาดูพร้อมช่วยเหลือหยิบเก้าอี้มาให้นั่ง
“คุณปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
หญิงสาวถามด้วยความตื่นตกใจ เพราะเธอเพิ่งเห็นรถมอเตอร์ไซค์วิ่งบนฟุตบาทเฉี่ยวคนแก่ล้มต่อหน้าต่อตา เหตุการณ์ในครั้งนี้มีหลายคนที่เห็น และต่างต่อว่ารถคันนั้นที่ขึ้นมาวิ่งบนทางเท้า
“ปู่เคล็ดสะโพก อูยยย”
“จีนเกิดเรื่องอะไรขึ้น” ทัตตกรถามพร้อมเดินมาช่วยพยุงร่างชายชราก่อนจะยื่นถุงขนมส่งให้เธอถือ
“มีมอไซค์วิ่งบนฟุตบาทเฉียวคุณปู่ล้ม แกพาไปส่งโรงพยาบาลได้ไหม” เธอหันบอกเพื่อนชายสองคิ้วขมวดยุ่งแล้วก้มมองคนร้องโอ๊ยบนพื้น
“ได้สิ คุณลุงจำเบอร์ติดต่อลูกหรือหลานได้ไหมครับ”
“ปู่มีหลานชายอยู่แต่เขาคงทำงาน ถ้าไม่รบกวนพวกหนูเกิน ไปส่งปู่ที่โรงพยาบาลก็ได้” อีกฝ่ายขอร้องสีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและเม็ดเหงื่อเต็มหน้าผากแสดงชัดว่าเริ่มไม่ไหวแล้ว
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ” ทัตตกรพยุงอีกฝ่ายไปยังวินมอเตอร์ไซค์ที่อาสาพาไปส่งและช่วยตั้งแต่แรก หลังจัดการพาคุณปู่ขึ้นรถได้ เธอก็เดินไปหาเพื่อนพร้อมหมวกกันน็อค
“จะไปด้วยเหรอ” ทัตตกรถามย้ำพร้อมมองหน้าเธอ
“อื้อ ให้เราไปด้วยนะ” เธอไม่พูดเปล่ารีบสวมหมวกแล้วขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายให้สัญญาณออกรถ
หลังมาส่งโรงพยาบาลให้คุณหมอตรวจดูอาการ แจ้งว่าสะโพกเคล็ดให้รับยากลับบ้านเลยก็ได้ หรือจะอยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนก็ได้เช่นกัน แต่ต้องแจ้งทางญาติให้มาเฝ้า เธอจึงขอรับยาแล้วให้เพื่อนสนิทโทรหาญาติให้มาแทน
“แฟนหนูเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ เป็นเพื่อนกัน” จันทร์จิรายกมือปฏิเสธ
“นี่ถ้าหลานชายปู่ชอบผู้หญิง ป่านนี้คงมีเหลนให้ปู่ไปนานแล้ว” เรืองศักดิ์พูดเสียงเศร้าหันออกไปมองทางอื่นพร้อมถอนหายใจ
“คุณปู่มีหลานคนเดียวเหรอคะ”
“ลูกพี่ลูกน้องเขามีอีกสองคน แต่ละคนยังไม่มีใครแต่งงานเลย ยิ่งคนโตสุดมันยิ่งไม่ชอบผู้หญิงปู่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ปู่อยากอุ้มเหลนก่อนตาย”
จันทร์จิราเห็นใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากความเพราะเป็นเรื่องในครอบครัว และเข้าใจว่าคนแก่มักยอมรับว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง ไม่ได้ปรับเปลี่ยนความคิดตามยุคสมัย
“ยาครับ ให้ผมไปส่งที่ไหนไหม” ทัตตกรเดินมาพร้อมกับถูกยาส่งให้อีกฝ่ายถือ
“ไม่เป็นไร ฉันโทรหาหลานชายให้มารับแล้ว ว่าแต่แม่หนูชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อจีนค่ะ คนนี้ชื่อบอมค่ะ” จันทร์จิราแนะนำตัวเองคร่าว ๆ ให้รู้จักรวมถึงงานที่ทำด้วย
“ขอบใจพวกเธอมากนะ ว่าแต่ขอเบอร์โทรได้ไหม เผื่อว่าครั้งหน้าฉันจะได้ตอบแทนถูก”
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเราเต็มใจช่วย” จันทร์จิราทิ้งเบอร์โทรให้ ถึงแม้จะปฏิเสธไม่อยากได้ของตอบแทนหรืออะไรก็ตาม แต่ก็ทนลูกตื้อไม่ไหว ก่อนจะแยกจากอีกฝ่ายที่หน้าโรงพยาบาล
จันทร์จิรา หญิงสาววัยยี่สิบสองปีจากบ้านเด็กกำพร้า ไม่มีทั้งพ่อแม่ และไม่คิดออกตามหา เมื่อพวกเขาไม่ได้ต้องการเธอเข้าไปอยู่ในชีวิตแล้ว เธอก็เลือกเส้นทาง หลังสอบชิงทุนเรียนต่อได้สำเร็จ ก็ย้ายตัวเองออกมาอยู่ข้างนอก ทำงานหนักส่งตัวเองเรียนและเก็บออมส่งให้ทางมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้าที่เคยชุบเลี้ยง เมื่อตอนเป็นเด็กตอบแทนบุญคุณ ก่อนจะหันมาเก็บเงินเพื่อทำตามความฝันที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง
“วันนี้จะไปทำงานพาร์ทไทม์ต่อไหม” ทัตตกรมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ แล้วหันไปมองหน้าหญิงสาว ทุกเย็นเจ้าหล่อนจะออกไปทำงานเสริมหารายได้เพิ่มทั้งที่งานประจำนั้นเงินเดือนดีอยู่แล้ว อีกอย่างเธอตัวคนเดียวค่าใช้จ่ายไม่ได้หนักมากนัก
“ร้านหยุดปรับปรุงหนึ่งอาทิตย์ ฉันว่าจะหางานใหม่ทำระหว่างรอ”
“ทำงานอะไรเยอะแยะ ถ้าเงินไม่พอใช้เอาของฉันไปก็ได้”
“ไม่เอา แกก็ทำงานหาเงิน เหนื่อยกว่าจะได้แต่ละบาท และฉันก็มีเงินเก็บอยู่” จันทร์จิราบอก ความจริงที่เธออยากทำงานเพิ่มนั้นเพราะอยากซื้อบ้านที่เป็นชื่อของตัวเองไว้สักหลังเท่านั้น ดีกว่าเสียเงินเช่าคอนโดอยู่
“คิดอะไรอยู่”
“ปิดบังไม่ได้เลยสินะ” เธอก้มดูดน้ำผลไม้ปั่น “ฉันอยากเก็บเงินซื้อบ้าน”
“ดีเลย ขาดอีกเท่าไหร่ล่ะ”
“ถามแบบนี้ทำไม ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง” เธอมองหน้าเพื่อนพร้อมทำคิ้วยุ่ง
“ก็ไม่ได้ให้ฟรี ฉันให้เธอยืม แล้วก็มาผ่อนไง ตกลงขาดอีกเท่าไหร่”
“ก็เยอะแหละ” หญิงสาวก้มหน้าลง พอนึกถึงเงินที่เก็บได้รวมสองปีมานี้ก็สามารถวางเงินมัดจำได้ แต่มันเป็นเงินก้อนใหญ่เวลาจะหยิบมาใช้ก็แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน
“โอเค ฉันให้ยืม แล้วเล็งที่ไหนไว้บ้าง”
จันทร์จิราส่ายหน้า “ยังเลย”
“อยากได้แบบไหน”
“ก็ประมาณ...” จันทร์จิราพูดรายละเอียดเรื่องบ้านที่อยากได้ให้ทัตตกรฟัง เธอไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่ เพราะอยู่คนเดียวกลัวจะเหงาด้วยซ้ำ พอพูดแบบที่อยากได้ ทัตตกรก็เสนอโครงการหนึ่งที่เขาขับรถผ่านประจำก่อนจะนัดไปดูบ้านกันเย็นวันนั้นเลย
ด้วยความไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการซื้อบ้านในโครงการเลย ทัตตกรอาสาหาวิศวกรมาตรวจบ้านให้ จัดการทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านตัวเอง ก่อนจะกำหนดวันทำสัญญาอีกครั้ง
ทว่าวันนัดส่งมอบกลับกลายเป็นว่าบ้านที่เธอลงทุนจ้างให้คนตรวจสอบและแก้ไขถูกขายให้คนอื่นไปแล้วในราคาที่สูงกว่า จากสีหน้าที่ดีใจตอนแรกเปลี่ยนไปทันทีพร้อมความโกรธเข้ามาแทนที่
“บ้านที่คุณจะเข้ามาจองพอดีว่ามีคนซื้อตัดหน้าไปแล้วครับ” เจ้าหน้าที่ที่ดูแลโครงการบ้านมาพร้อมกับอีกคนเดินเข้ามายกมือไหว้ยื่นกระเช้าของบำรุงและช่อดอกไม้แทนคำขอโทษ
พอได้ยินว่าบ้านถูกขายไปแล้ว ความดีใจที่มีบ้านหลังแรกก็ล่วงติดลบทันทีและแทนที่ด้วยความโกรธ แต่ก็เอาเรื่องไม่ได้เพราะบ้านถูกขายไปแล้ว
“ได้ไง พวกเรามาดูก่อน ทำไมคุณทำแบบนี้” ทัตตกรโมโหต่อว่าอีกฝ่ายที่ไร้จรรยาบรรณเสียงดัง
“เอ่อ คือพวกผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” เจ้าหน้าที่คนนั้นโค้งกายขอโทษขอโพย และยังยืนยันไม่สามารถส่งมอบบ้านให้ได้ในวันนี้เสนอให้ไปดูหลังอื่นแทน
จันทร์จิราที่น้ำตาคลอทั้งเสียใจและโกรธ ไม่คิดว่าประสบการณ์การซื้อบ้านครั้งแรกจะเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ พอได้คำขอโทษจากอีกฝ่ายแบบลวก ๆ และไม่มีการชดเชยอะไรให้มีเพียงช่อดอกไม้กับกระเช้าที่ไม่สามารถทนแทนได้ จึงพากันกลับ แต่ยังไม่ได้ไปไหนเสียงหนึ่งเอ่ยทักขึ้น
“เอ้า พวกเธอสองคนมาทำอะไรกันที่นี่เหรอ”
พอหันกลับไปมองก็เจอเข้ากับเรืองศักดิ์เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายอีกคนที่เดินเลี่ยงไปทางอื่นแทน
“คุณปู่สวัสดีครับ พวกเรามาดูบ้านที่จอง แต่เจ้าหน้าที่บอกขายให้คนอื่นไปแล้ว” ทัตตกรบอกแล้วหันมองหน้าเจ้าหน้าที่พวกนั้น ก่อนที่พวกเขาจะเดินออกไป
“กลับกันเถอะ มันคงไม่ใช่บ้านฉัน” จันทร์จิรากระตุกชายเสื้อเพื่อนบอกเสียงโรยราอย่างหมดใจ ใบหน้าเศร้าหม่นหมองน่าสงสาร
ทัตตกรพยักหน้ารับ กำลังจะพาไปที่รถแต่ถูกเรืองศักดิ์ห้ามไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยว ๆ ปู่มีอยู่ที่หนึ่ง ทำเลดีมาก หนูจีนต้องชอบแน่ ๆ สนใจจะไปดูไหมล่ะ ปู่รู้จักเจ้าของโครงการเคยไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ๆ จะขอให้เขาลดราคาพิเศษให้”
สองหนุ่มสาวหันมองหน้ากัน
“เอาไง อยากไปดูไหม” ทัตตกรถามย้ำ
“อืม ไหน ๆ ก็มาแล้ว ไปดูหน่อยก็ได้” เธอบอกอย่างสิ้นแรง
“ซื้อบ้านสร้างเรือนหอเหรอ”
คำถามนั้นทำให้คนเศร้าอยู่เบิกตากว้างหายใจสะดุดรีบปฏิเสธเสียงหลง
“แค่ก ไม่ใช่ค่ะ พวกเราไม่ได้เป็นแฟนกัน จีนอยากได้บ้านเป็นของตัวเองดีกว่าไปเช่าคอนโดอยู่ค่ะ บอมเลยอาสาพามาดู วันนี้นัดทำสัญญากันแต่บ้านถูกขายตัดหน้าไปแล้วค่ะ”
เรืองศักดิ์ยิ้มแย้มพยักหน้าเดินไปขึ้นรถตัวเองให้ทั้งสองขับตามตนไป
หากคุณเชื่อเรื่องความบังเอิญ คุณก็คงเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต เช่นกัน ทิศเหนือสะดุดรักแรกพบ และเฝ้ารอคอยการเจอกับเธออีกครั้งและสัญญากับตัวเองจะไม่มีวันปล่อยเธอให้หลุดมือไป
หนี้สินที่พ่อหยิบยืมเอามาลงทุนกับไร่ถึงเวลาที่ต้องส่งทั้งเงินต้นและดอก แต่โชคร้ายที่ปีนั้นขาดทุน ด้วยความรักลูกไม่อยากให้รู้เรื่องนี้จึงปิดไว้ แต่ความลับไม่มีในโลก! อวัสดาที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ ตั้งใจกลับมาช่วยสืบทอดกิจการของที่บ้านต้องเจอเข้ากับเรื่องไม่คาดคิด เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้ภายในหนึ่งเดือน ด้วยจำนวนเงินมากมายทำให้เธอหมดหนทางเลือก จำใจต้องไปคุยกับเจ้าหนี้ให้รู้เรื่อง
ทุกคนมีความชื่นชอบเป็นของตัวเอง แต่เธอที่ชอบและมโนหยามใจพิมพ์ลงเป็นเรื่องราวจนเกิดความเดือดร้อน แต่รสสุคนธ์ก็ได้ชดใช้ให้เขาไปแล้ว ทว่าเรื่องราวไม่จบเมื่อธราธิปรู้ว่าเจ้าหล่อนหอบลูกในท้องหนี
เมื่ออยู่ๆ เจ้านายที่สาวๆ หมายปองปรากฏกายต่อหน้าแถมยังให้ไปทำงานใกล้ชิด ตำแหน่ง ช่างเสื้อส่วนตัว แต่หน้าที่ของเธอนั่นเหมือนสาวใช้ส่วนตัวเสียนี่สิ แถมยังมีหน้าที่พิเศษที่ทั้งสุขปนซาบซ่านรออยู่อีกด้วย.... “ก็ได้ ฉันยอมหยุด ออกไปซะ แต่ถ้าอยากให้ฉันคลายความทรมานให้ก็ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”
“จะทำอีกเหรอ ไหนว่าจะอาบน้ำไง” “ช่วงนี้ฤดูหนาว ไม่อาบน้ำก็ไม่เหม็นหรอก” เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อเหลาต้องการเพื่อนรักของน้องสาว แผนการรักหื่น ซาบซ่านจึงอุบัติขึ้น เนื้อหาในเรื่องเน้นความหื่นเป็นหลัก พิจารณาก่อนกดซื้อเพราะคุณอาจพลาดความมันส์.....
“ทำอะไรกัน” มัลลิกาได้ยินเสียงลูอิสก็พยายามลุกขึ้นเดินไปหาเขา กำเสื้อเชิ้ตไว้ทั้งสองมือ “กลับมาแล้วเหรอคะ” “คุณดื่มเหรอ” ลูอิสก้มลงดมกลิ่นใกล้ ๆ เธอส่ายหน้าหันไปชี้ทางโดมินิกและอลิส “คุณหมอบอกเป็นยาบำรุงร่างกายค่ะ” ลูอิสมองหน้าเพื่อน คว้าเอวคอดไว้เมื่อเจ้าหล่อนทำท่าจะเซล้มไปทางอื่นให้ขยับมาพิงกายตัว แต่คนเมาดื้อยันมือออกห่างแถมยังใจกล้ากำเสื้อเขาไว้ “จริงไหมคะ” “เรื่องอะไรครับ” ลูอิสควงหญิงสาวไปทางโซฟารั้งเธอให้นั่งบนตัก มัลลิกาแกะมือที่จับเอวขยับขึ้นนั่งคร่อมสอดแขนคล้องลำคอมองหน้าเขาอย่างเรื่อง โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอกำลังทำให้เก๊กขรึมหลุดภาพลักษณ์ “ก็คุณโดมินิกเล่าว่าคุณแอบซุกกิ๊กไว้ที่บริษัท ที่ให้พลอยอยู่แต่บ้านเพราะตัวเองจะได้มีความสุขส่วนพลอยก็นั่งโง่ ๆ ทำกับข้าวรอสามี รอนอนพร้อมคุณเท่านั้น” เธอชี้ไปทางคนเล่าที่ยกมือขึ้นฉับ ลูอิสมองหน้าเพื่อนอีกฝ่ายรีบลุกขึ้นขยับถอยห่าง “พวกเรากลับก่อนนะ” อลิสลุกขึ้นตามแรงสะกิดส่งยิ้ม “กลับแล้วเหยอ” คนเมาหันไปถามเสียงยาน “แล้วอลิสมาหาใหม่นะคะ” “ค่ะ บ๊ายบาย” มัลลิกาที่เมากรึ่มพยักหน้าโบกมือให้ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าสามีอย่างเอาเรื่อง ลูอิสมองอาการขู่เป็นลูกแมวแล้วยิ้ม ยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มความเหนื่อยจากการทำงานถูกเธอช่วยชำระล้างอย่างง่ายดายอยู่ทุกวัน เสียงเตือนข้อความเข้า “อลิสบอกว่าวันนี้เหมาะที่สุดสำหรับการปั๊มลูก ฉันเอาใจช่วยนายนะ” มัลลิกาแย่งมือถือเขาแล้ววางไว้ข้างกาย กุมหน้าคมคายให้หันมาสนใจ “จริงไหมคะ” “เรื่องไหน” ลูอิสถามเธอพร้อมกระเตงร่างหญิงสาวขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นตรงไปห้องนอน ทุกจังหวะการเดินมั่นคงหนักแน่น สายตาก็มองหน้าคนเมาแล้วยิ้มอารมณ์ดี ไม่ว่าจะมองอีกกี่ครั้ง มัลลิกาก็เป็นคนที่สามารถทำให้เขารู้สึกดีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย “ที่ไม่ยอมให้พลอยไปทำงานเพราะจะได้มีความสุขกับพวกหล่อน” มัลลิกาว่าพรางทำแก้มป่องสอดสองแขนคล้องคอ ลูอิสยิ้มชอบใจที่ได้เห็นอาการคล้ายหึงหวงตนจากเจ้าหล่อน ประตูห้องถูกเปิดและปิดลงพร้อมสองกายเดินเข้ามาด้านใน สะโพกได้รูปถูกวางบนเตียงกายชายกำลังจะถอยออกห่างแต่ถูกแขนที่คล้องคอรั้งไว้ จนเขาต้องตอบเสียงหนักแน่น “ผมมีแค่คุณ”
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ซ่งเซียงทำสิ่งที่น่าอายที่สุดในชีวิต คือการเป็น "เลขานุการส่วนตัว" ให้กับเหยียนลี่หานนานถึงห้าปี เธอมอบทุกสิ่งให้เขา แต่ผู้ชายที่น่ารังเกียจกลับบอกว่าเบื่อ แล้วส่งเธอไปอยู่ในที่ที่ห่างไกลไม่มีใครสนใจ ชีวิตที่ถูกส่งไปอยู่ที่ห่างไกลนั้นไม่ง่าย แต่โชคดีที่เคราะห์ร้ายได้ผ่านพ้นไป เมื่อซ่งเซียงมาถึงระดับล่าง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปวดหลังปวดขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เธอจึงอดทนทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ มีหนุ่มน้อยมาไล่ตาม ผู้ใหญ่ใจดีมอบผลงานให้ พ่อที่ไม่เคยพบหน้าเป็นมหาเศรษฐีใกล้ตาย พยักหน้าก็ได้รับมรดก ชีวิตมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ เหยียนลี่หานคนโชคร้ายแน่ๆ! ในงานเลี้ยงเหยียนลี่หานถือแก้วไวน์ มองไปที่อดีตเลขานุการที่ไม่ได้เจอหลายวันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย "ยังคิดถึงฉันจนต้องมาที่งานเลี้ยงนี้ใช่ไหม?" ซ่งเซียงยิ้มเยาะ "คุณเหยียน ฉันไม่ได้เชิญคุณนะ" เหยียนลี่หานตอบ "เธอคิดอะไรอยู่?"
ลู่จื้อ อาศัยอยู่ในไต้หวัน เธอเป็นเจ้าของคาสิโนขนาดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากพ่อบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า เธอวางมือคืนอำนาจให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรม แต่พวกเขากลับตามฆ่าเธอ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด