งานเลี้ยงรุ่นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พร้อมกับเหล่าเพื่อนฝูงที่ได้พบปะสังสรรค์กันด้วยความคิดถึง อีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดเก้าสิบหกปีของผู้เป็นย่า เขาจึงเดินทางมาก่อนล่วงหน้าโดยไม่ได้บอกกล่าว ร่างสูงเข้ามาทางประตูหลังบ้านด้วยกุญแจพวงใหญ่ที่ถือเอาไว้ในมือ เขาคือหลานชายคนเดียวที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่แท้จริงของตระกูลพันธุเสมาอันร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ
ยามดึกสงัดของบ้านหลังใหญ่อันกว้างขวาง มีเพียงความเงียบและสายลมเย็นๆ พัดมากระทบผิวกาย พร้อมด้วยเสียงหริ่งเรไรที่ร้องอยู่ในความมืดมิดของราตรีกาล นรราชกวาดสายตามองสนามหญ้าหน้าบ้านอันกว้างขวาง สวนหลังบ้านที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ภายใต้แสงสลัวของตัวบ้าน ชายหนุ่มยิ้มบางๆ เมื่อนึกถึงญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ย่าของเขาชอบปลูกต้นไม้และรักธรรมชาติเป็นอันมาก เขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เหมือนท่าน หนึ่งในนั้นคือรักธรรมชาติและไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นแหล่งอาหารสำคัญของมนุษย์โลก
ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ด้วยสายเลือดผสมระหว่างบิดากับมารดาหยุดนิ่งเพื่อหลับตาอีกหลายครั้ง เขาพยายามครองสติเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
“คุณราช” นายเพิ่มเรียกเจ้านายหนุ่มเอาไว้ เพราะเขาเฝ้าเวรยามในตอนกลางคืน
“สวัสดี” นรราชยกมือขึ้นรับไหว้ร่างเซๆ
“ให้ผมประคองขึ้นตึกไหมครับ” เพิ่มรีบเข้ามาประคอง
“ไม่ต้อง ฉันไหว ฉันเดินไปเองได้ นายเฝ้ายามไปเถอะ” คนพูดเดินเซๆ แต่ก็พยายามทรงตัวเอาไว้ ก่อนจะหยุดชะงักหันมามองนายเพิ่มอีกครั้ง
“ไม่ต้องบอกคุณย่านะว่าฉันกลับมา ฉันอยากเซอร์ไพรส์ท่านหน่อย”
นรราชบอกแล้วยิ้ม นายเพิ่มรีบรับคำ มองร่างสูงอย่างระแวดระวังเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรเลยเบาใจ
นรราชค่อยๆ ก้าวเดินอย่างเชื่องช้าเพราะความมึนเมา เจ้าของใบหน้าคมสันหล่อเหลาเลือดผสม ดวงตาคมกริบสีเหล็กกล้า คิ้วเข้มและเรือนร่างเพรียวแข็งแรงสมส่วนไร้ไขมันส่วนเกินให้รกตาแม้วัยจะล่วงเลยวัยสี่สิบกว่าเข้าไปแล้ว
ย่าของเขาเป็นคนดี จริงๆ ไม่ต้องมีเวรยามก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาทำอะไรตระกูลใหญ่ของเขา!!!
นรราชคิดในใจ...
ช่วงนี้คงมีลูกหลานมากมายที่ย่าของเขาอุปการะเอาไว้มานอนพักค้างอ้างแรมที่คฤหาสน์หลังนี้ ถือได้ว่าเป็นวันรวมญาติครั้งใหญ่อีกวันของปี ทุกคนคงยุ่งวุ่นวายกับงานเลี้ยงอีกหนึ่งอาทิตย์ที่กำลังจะมาถึง รวมถึงหลายคนก็คงสรรหาของขวัญที่ดีที่สุดเพื่อจะมอบให้คุณย่าของเขา
นรราชมีเรือนพักอีกหนึ่งหลังอยู่ในบริเวณบ้าน แต่เขาเปลี่ยนใจมานอนที่ห้องพักบนตึกแทน วันพรุ่งนี้ถ้าเขาปรากฏตัวขึ้นคงทำให้ผู้เป็นย่าประหลาดใจไม่น้อย
ชายหนุ่มบิดประตูห้องนอนของตัวเองเบาๆ ปรากฏว่ามันไม่ได้ล็อก เขาจึงเก็บกุญแจกลับเข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยนึกตำหนิสาวใช้ที่เข้ามาทำความสะอาดห้องแล้วไม่ล็อกห้องให้เรียบร้อย
เขาหรี่ตามองเงาบางอย่างบนเตียงนอนกว้างของตัวเอง โทสะบางอย่างแล่นเข้ามาเป็นริ้วๆ ใครกล้าเข้ามานอนในห้องนอนส่วนตัวของเขาแบบนี้
นรราชสบถในใจด้วยความไม่สบอารมณ์ คนหวงข้าวของและไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายหรือแม้แต่เคลื่อนย้ายข้าวของถ้าเขาไม่อนุญาตรู้สึกไม่พอใจเป็นอันมาก
ร่างสูงขยับกายเข้าไปใกล้เตียงเพื่อก้มลงไปดูผู้บุกรุก เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงที่เขาหวงแหนหนักหนา กลิ่นกายของเธอหอมกรุ่นลอยมาเตะจมูก มันหอมจนเขาต้องก้มลงไปสูดดมแรงๆ
เขาไม่ได้กลิ่นหอมรัญจวนใจจากหญิงสาวคนใดแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วหนอ คงตั้งแต่ย้ายตัวเองไปอยู่เกาะเมตตา
นรราชสูดกลิ่นหอมละมุนนั้นแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น เขาไม่เคยได้กลิ่นหอมสดชื่นจากผู้หญิงคนไหนแบบที่ได้รับจากคนที่แอบเข้ามานอนบนเตียงของเขาแบบนี้มาก่อน เพราะขยับเข้าไปใกล้มากจนเกินไป จึงทำให้ร่างสูงเสียหลักล้มลงไปทาบทับคนบนเตียง คนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงถึงกับสะดุ้งตื่นตกใจ ทำท่าจะกรีดร้อง แต่นรราชรีบอุดปากของหล่อนเอาไว้ในทันที
“เธอเป็นใคร” เขาเอ่ยถามเสียงเข้ม ใบหน้าที่รกไปด้วยหนวดเคราและร่างสูงใหญ่ที่เจือไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งทำให้นิรินมีท่าทีหวาดกลัว ร่างบอบบางพยายามดิ้น แต่เขาข่มขู่เสียงเข้มน่ากลัวทำให้เธอไม่กล้าดิ้นอีก
“ถ้าเธอดิ้นอีก ฉันจะปาดคอเธอซะ” เขานึกครึ้มอกครึ้มใจอยากแกล้งคนขี้กลัว เพราะรับรู้ถึงร่างกายอันสั่นเทาของคนใต้ร่าง นิรินหยุดดิ้นในขณะที่มือบอบบางถูกกดเอาไว้เหนือศีรษะ