"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" เซียวหยามองหน้าชายคนรักที่โดนพิษยาปลุกกำหนัดในใจก็นึกโกรธเซียวเหยียนขึ้นมาทันที "ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะปลดปล่อย" น้ำเสียงกระเซ้าบอกชายคนรัก ในใต้หล้านี้ เสิ่นจ้านไม่ต้องการสตรีแม้แต่คนเดียว เขาต้องการบุรุษอย่างเซียวหยาเท่านั้น
"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" เซียวหยามองหน้าชายคนรักที่โดนพิษยาปลุกกำหนัดในใจก็นึกโกรธเซียวเหยียนขึ้นมาทันที "ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะปลดปล่อย" น้ำเสียงกระเซ้าบอกชายคนรัก ในใต้หล้านี้ เสิ่นจ้านไม่ต้องการสตรีแม้แต่คนเดียว เขาต้องการบุรุษอย่างเซียวหยาเท่านั้น
"ปล่อยข้านะ ปล่อย" เซียวหยาดีดดิ้นอย่างแรง ไม่คิดเลยว่า วันนี้จะโดนพี่ใหญ่ของนางรังแก มันจะมากไปแล้วนะ เกิดมา นางก็ไม่เคยเป็นที่โปรดปรานของบิดา ตอนเด็กนางจำความได้ว่า บิดาเข้าข้างแต่บุตรสาวฮูหยินใหญ่ คือเชียวเหยียน นางต้องตกเป็นเบี้ยล่าง เซียวเหยียนตลอดเลย
น่าเจ็บใจนัก
"ปล่อยคุณหนูของข้านะ" แม้แต่เสี่ยวอ้ายยังทนดูมิได้ที่คนพวกนี้รังแกเจ้านายของนาง คุณหนูผู้น่าสงสารของนาง
เหตุใดพวกเขาจึงใจร้ายเพียงนี้
ฝ่ามืองามกระทบใบหน้าเสี่ยวอ้ายอย่างเเรง
"เป็นแค่สาวใช้ริอาจมาต่อกรกับข้า ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย"
"เสี่ยวอ้าย" เซียวหยามองสาวใช้อย่างน่าสงสาร ทำไมวันนี้เซียวเหยียนต้องอารมณ์ร้ายด้วยเล่า
"นังแพศยาเยี่ยงเจ้า เหตุใด ฝ่าบาทต้องพระราชทานสมให้เจ้ากับท่านเเม่ทัพเสิ่นจ้านด้วยเล่า" เซียวหยาทำหน้าอย่างงุนงง ฝ่าบาพระราชทานให้นางสมรสกับท่านแม่ทัพเสิ่นจ้านอย่างนั้นรึ เป็นไปได้อย่างไรกัน ไม่มีทาง เพราะเหตุนี้เองพี่สาวคนดีของนางถึงได้เกรี้ยวกราดถึงเพียงนี้
อีกเหตุผลประการหนึ่งก็คือ เซียวเหยียนคือสาวงามอันดับหนึ่งของแว่นเเคว้นแคว้นต้าเยียน นางได้เเอบหลงรัก ท่านแม่ทัพเสิ่นจ้านมานานเเล้ว
"เจ้าเลยลงมือทำร้ายข้ารึ"
"ใช่" ในจังหวะที่ฝ่ามือจะกระทบหน้าเซียวหยา เท้าของนางก็พุ่งเข้าไปที่ท้องของเซียวเหยียนอย่างแรง จนนางกองกับพื้น พริบตาเดียวสาวใช้ ทั้งสองคนถูกตบจนหน้าหัน
ไม่คาดคิดว่าเซียวหยาจะมีเเรงมากขนาดนี้
"เจ้า เจ้าทำร้ายข้า ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อ" นางเป็นถึงยอดดวงใจของบิดา
เชียวหยารีบประคองเสี่ยวอ้ายขึ้น มองดูสีหน้าที่เจ็บปวดของเสี่ยวอ้ายเเล้ว เซียวหยาพลันปวดใจขึ้นมาเพราะราชโองการบ้า ๆ ทำให้เกิดเรื่องขึ้น คิดว่านางอยากจะแต่งงานกับท่านแม่ทัพหน้าตายอย่างนั้นรึ
สองนายบ่าวรีบกลับมาที่เรือน เรือนของคุณหนูรองนั้นช่างจะพังแหลไม่พังแหล อีกทั้งยังอยู่ท้ายจวนอีกด้วย
ทำอย่างไรได้เล่า นางเกิดมาก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของบิดา เพราะมารดาของนางเป็นบ่าวล้างเท้าในจวนเซียว ตั้งแต่มารดาตาย ทุกคนจึงรังแกคุณหนูรองอย่างไม่ไยดี
นางทำแผลหาขวดยากระเบื้อง มาทายาให้สาวใช้อย่างละเอียด พวกนางเหลือเพียงสองคนเท่านั้นในจวน กระนั้น เซียวหยาจึงต้องรักเสี่ยวอ้ายเป็นพิเศษ
สาวใช้มองเจ้านายอย่างสงสาร หลายครั้งเเล้วที่พวกนางโดนรังแก คุณหนูยอมมาตลอด แต่ครั้งนี้คุณหนูไม่ยอมให้คนอื่นรังเเก
"คุณหนู บ่าวขอโทษ เจ้าค่ะ"
เมื่อได้ยินสาวใช้เอ่ยเยี่ยงนี่ เซียวหยายิ้ม
"ที่ข้าสู้กับพวกนางในครั้งนี้ เพราะว่า ข้ากำลังจะกายเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพเสิ่น ข้าเลยต้องต่อสู้ เพราะถึงอย่างไร พวกเราก็ต้องจากจวนแห่งนี้"
จวนเซียวมิใช่บ้านที่ดีสำหรับนาง สิบห้าปีผ่านมา นางไม่เคยได้รับความรักจากบิดา แม้บิดาจะเป็นถึงท่านผู้ตรวจการเมืองหลวงก็ตาม
เซียวอี้ลำเอียงนัก รักแต่บุตรภรรยาหลวง ไม่เคยมีนางในสายตาเลยเเม้แต่น้อย
ยามพลบค่ำสำรับจากที่โรงครัวส่งมาให้ เป็นน้ำแกงจืด ๆ กับ ข้าวเเข็ง ๆ หลายปีมานี้ นางกับเสี่ยวอ้ายใช้ชีวิตรันทดเสียจริง บ่าวในเรือนยังดีกว่าพวกนางในจวนเป็นร้อยเท่า
"คุณหนู ดูกับข้าวสิเจ้าคะ" แม้แต่อาหารหมายังดีกว่านี้ สายตาของเซียวหยามองแล้วถอนหายใจ
"ไปที่โรงครัวเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปกินของอร่อย ๆ" นางคิดดีเเล้ว เสี่ยวอ้ายพลันหวาดกลัว
"จะดีหรือเจ้าคะ"
"มาเถอะ เกิดอะไรขึ้น ข้าปกป้องเจ้าเอง"
โรงครัวในตอนนี้ แม่ครัวฟางกำลังตุ๋นน้ำแกงไก่กับรังนกให้ฮูหยินใหญ่ กับคุณหนูใหญ่
"เร็วเข้า ประเดี๋ยวยกไปให้คุณท่านทั้งสอง ชักช้านั่นล่ะ" แม่ครัวฟางรู้ว่า ถ้ายกไปช้า อาจจะโดนคุณหนูใหญ่ตบก็เป็นได้
ในระหว่างนั้นเองสองนายบ่าวได้เข้ามาได้ยินพอดี เซียวหยานั้นไม่เคยได้บำรุงของดี ๆ เลย กระนั้นนางสาวเท้าไปยกหม้อน้ำแกงไก่ เป่าครู่เดี๋ยว ซดเข้าปากอย่างอร่อย
แม่ครัวฟางตกใจไม่น้อย
"คุณหนูรอง เจ้าบ้าไปแล้วรึ ไปกินดีหมีหัวใจเสือ มาแต่ไหน ถึงได้ไปกินของบำรุงของคุณท่าน" ในสายตาแม่ครัวฟาง คุณหนูรองคือ แค่คนอาศัยในจวนเท่านั้น นางเป็นแม่ครัว นางจึงกล้าขึ้นเสียงด่ากราดได้
"สารเลว แม้แต่แม่ครัวยังกล้าด่าคุณหนูเยี่ยงข้า เห็นทีจวนนี้ เลี้ยงพวกเจ้า เสียข้าวสุกเสียจริง"
"เด็ก ๆ ตีนางสองคน" คำสั่งแม่ครัวของฟาง สาวใช้ในครัวต่างเชื่อฟังเเล้วกรู่เข้ามาล้อมสองนายบ่าวไว้
เซียวหยายิ้มเย็น นางพร้อมที่จะลงมือเเล้ว ไหน ๆ อีกไม่นานก็จะแต่งกับเเม่ทัพเเล้ว นางพร้อมสู้ตาย
สาวใช้ยังไม่ทันได้แตะต้องตัวนาง ต่างลมลงพื้นอย่างน่าสงสาร เสียงครางโอดโอยอย่างเจ็บปวดดังขึ้น
จนทำให้เเม่ครัวฟางพลันหวาดกลัว
"ท่านช่างกล้ายิ่งนัก ข้าจะฟ้องนายท่าน" กล่าวจบแม่ครัวฟางสาวเท้ายาวออกไป เพียงก้าวไปไม่กี่ก้าว มีดทำครัวปักลงตรงหน้านางเเล้ว
เสี่ยวอ้ายคิดไม่ถึงว่า คุณหนูจะมีฝีมือถึงเพียงนี้
แม่ครัวฟางถึงกับเข่าอ่อนลง
"คุณหนูรองไว้ชีวิตบ่าวด้วย"
"เจ้าจะไปฟ้องท่านพ่อมิใช่หรือ"
"บ่าวไม่กล้าเเล้ว" น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยอย่างหวาดกลัว เห็นทีคุณหนูรองมิใช่ลูกพลับนิ่มที่จะรังแกกันได้อีกต่อไปแล้ว
เมื่อเห็นเเม่ครัวฟางหวาดกลัว เซียวหยาพลันมีความสุขยิ่งนัก นางสั่งให้เสี่ยวอ้ายกวาดของกินในโรงครัวมาให้หมด สาวใช้ดีใจยิ่งรีบเก็บอาหารใส่ย่ามทั้งหมด สองนายบ่าวได้ของที่ต้องการเเล้วเดินจากไป อย่างไม่ใยดี
แม่ครัวฟางมองอย่างแค้นเคือง
"ข้าจะไปหานายท่าน" สาวใช้ต่างประคองแม่ครัวฟางขึ้น
เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
หลีซินแพทย์ศัลยกรรมในยุคปัจจุบันได้ทะลุมิติเข้าร่างสตรีลูกขุนนาง ที่มีความเอาแต่ใจ อารมณ์ร้ายเป็นใหญ่ แต่ทว่าสตรีนางนี้ ต้องแต่งงานกับหยางอ๋องผู้มีลูกติดฝาแฝดชายหญิง
นางหนีความยากลำบากเข้ามาในเมืองหลวงฉางอัน เพื่อขายตัวเองเป็นสาวใช้ในจวนท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ท่านแม่ทัพผู้นี้เมตตาสาวใช้อย่างนางยิ่งนัก จนกระทั่งทำให้ฮูหยินใหญ่ในจวนมิพอใจสาวใช้อย่างนาง จูจูจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ปลอดภัยในจวนท่านแม่ทัพนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้จูจูนะเจ้าคะ
เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ
อวี้เหมยหรู แพทย์สาวยุคปัจจุบัน ได้ทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เธออ่าน เธอนั้นดันชอบพระรองอย่างท่านแม่ทัพซือเหยียน มากกว่าพระเอกอย่างองค์ชายสามจีเสวียน
เกาเหมียวหรงบุตรสาวนายอำเภอโจว ไม่เป็นที่รักของขอบิดา เกาเซิง นางเป็นบุตรภรรยาเอกที่ตายไปแล้ว กระนั้นบิดาจึงให้นางออกเรือนกับพ่อค้าคารวานแห่งทุ่งหญ้า มีอายุคราวบิดา นางจึงตัดสินใจเป็นอนุของแม่ทัพหนานอ๋อง
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
แต่งงานกับมู่หนานจือมาเป็นเวลาสามปี ซูป้านเซี่ยคอยดูแลและเอาใจเขามาโดยตลอด แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชาและความรังเกียจ เมื่อคนรักของมู่หนานจือกลับมา เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอยิ่งห่างเหินจากเธอ ในที่สุด เธอไม่สามารถทนต่ออีกต่อไปและเป็นฝ่ายเสนอให้หย่ากัน มู่หนานจือมองตามหลังซูป้านเซี่ยที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน ก็พนันกับเพื่อนว่า "ดูเอาเถอะ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเสียใจและกลับมาอ้อนวอนแน่ ๆ " ซูป้านเซี่ยได้ยินก็ยิ้มอย่างเย็นชา"มู่หนานจือ ฝันไปเถอะ" ผ่านไปหลายวัน มู่หนานจือบังเอิญพบว่าอดีตภรรยาของตนฉลองการหย่าร้างในบาร์ และจากนี้ไปอีกไม่นาน เธอก็มีแฟนหนุ่มใหม่แล้วด้วย เวลานี้เอง มู่หนานจือถึงเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา เพราะเขาพบว่าผู้หญิงที่เคยรักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วเขาควรจะทำอย่างไร
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY