เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
เปาเปา เปยเปยมีรึจะยอมให้อ๋องปากสุนัขมายุ่งกับมารดาของพวกเขามิสู้ หาบิดาหล่อๆ ให้มารดาสักคนเสียดีกว่า 55555 สมหน้าบิดาสมองสุนัข
เสียงอัสนีฟ้าผ่าลงมาดรุณีร่างบางเดินย่ำเท้าเปล่าอย่างรวดเร็วในยามราตรีที่มืดมิดแม้แต่แสงดาวก็ยังไม่มี มีเพียงลมกระโชกแรงกับฝนห่าใหญ่ที่ตกลงมา
ใบหน้าของนางอาบไปด้วยน้ำตา หญิงสาวมองเด็กทารกที่ห่อด้วยผ้าฝ้าย
"ลูกแม่ พวกเราจะตายมิได้ แม่ต้องให้เจ้ารอดไปหาท่านตาของเจ้า แม่ผิดเองแม่มันไม่ดีเอง" ถังลีเฟยไม่คิดว่าการมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตายจะเป็นเช่นนี้
นางคือคุณหนูใหญ่บุตรสาวแม่ทัพใหญ่ถังเทียน เพลงพิณ หมากล้อม กวี วาดภาพนางนั้นล้วนเป็นหมด นางเป็นยอดหญิงอันดับหนึ่งของเมืองต้าโจว อีกทั้งเป็นยอดหญิงที่มีพลังปราณขั้นสี่
พลังปราณทั้งหมดมีหกขั้น
ขั้นที่ 1 ผู้เริ่มต้นพลังปราณสีม่วง
ขั้นที่ 2 หลอมรวมพลังปราณสีน้ำเงิน
ขั้นที่ 3 จอมยุทธ์พลังปราณสีฟ้า
ขั้นที่ 4 ปรมาจารย์พลังปราณสีเขียว
ขั้นที่ 5 ผู้อาวุโสพลังปราณสีเหลือง
และสุดท้ายเคล็ดลับยอดวิชาขั้นที่หก เซียน สีน้ำตาลอมตะวิชา
ถังลีเฟยไม่ไหวแล้วมีคนกำลังจะสังหารนาง ลูกแฝดทั้งสองของนางช่างน่าสงสารนัก เราจะตายกันทั้งหมดมิได้
ข้าแด่สวรรค์ ข้าขอโอกาสหนทางให้บุตรชายหญิงฝาแฝดของข้านั้นมีชีวิตรอด
เปรี้ยง !!! ราวกับสวรรค์รับคำขอของนาง
อีกด้านหนึ่งของหลายสหัสวรรษ ภายในนั้นมืดมิดเต็มไปด้วยกลิ่นธูปกำยานเครื่องหอม ถังเฟยเฟยในอาภรณ์ผ้าต่วนสีขาวนวล ใบหน้างามไร้ที่ติ เธอเพิ่งออกมาจากพระราชวังต้อง แน่นอนว่าวันหยุดของแพทย์ศัลยกรรมอันดับหนึ่งของปักกิ่ง
เธอเป็นหมอที่มีชื่อเสียง เธอเป็นเด็กกำพร้าบิดามารดา เธอเติบโตจากสถานสงเคราะห์ของรัฐบาล ถังเฟยเฟยเป็นคนที่เรียนเก่งจนติดแพทย์ระดับประเทศ ทางสถานสงเคราะห์ส่งเธอเรียนจนจบและทำให้เธอมีงานทำเป็นหมอเหมือนทุกวันนี้
แต่เนื่องด้วยความเหงาเธออายุสามสิบปี ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีใครในโลกใบนี้ กระนั้นจึงตัดสินใจมาในกระโจมแม่หมอเปอร์เซียที่ตั้งแผงใกล้พระราชวังต้องห้าม
"นี่แม่หนูเจ้าอยากจะถามหาเนื้อคู่สินะ" สายตาแม่หมอเปอร์เซียจ้องคนงามอย่างถังเฟยเฟย ทำให้เธอถึงกับขนลุก
แม่นมากแม้ไม่ได้ถาม
"ค่ะท่านยาย"
"ข้าจะมองไปในลูกแก้วแห่งจิตวิณญาณ" ดวงตาอันกลมโตเท่าไข่ห่านพลันจ้องเข้าไปในลูกแก้วอันมืดมิด
ถังเฟยเฟยมองตามแม่หมอเช่นกันมันไม่มีอันใดเลย
"ไอ้หยา เนื้อคู่เจ้ามันช่างอยู่ไกลนักจนข้ามองไม่เห็น" แม่หมอมองหน้าคนงาม
ถังเฟยเฟยถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายเกิดมาก็แย่อยู่แล้วยังไร้เนื้อคู่อีก เพื่อนหมอมีลูกมีสามีกันหมดแล้ว
แม่หมอเห็นน่าเศร้าของถังเฟยเฟยก็สลดใจขึ้นมา
"เอานี่ไปใส่" แม่หมอสวมด้ายแดงให้เธอ
"ไม่คิดเงินนะ รับรองเจ้าได้เจอเนื้อคู่ของเจ้าแน่นอน" แม่หมอไม่คิดเงินด้ายแดงแต่แม่หมอคิดเงินค่าดูดวง สรุปถังเฟยเฟยต้องจ่ายอยู่ดี หญิงสาวออกจากกระโจมฝนก็ยังตกอยู่ดี โชคที่พกร่มมาด้วย จังหวะนั้นพายุห่าใหญ่ได้พัดเข้ามาร่างบางหายไปกับพายุท่ามกลางความมืดมิด...
คำขอของถังลีเฟยนั้นเป็นความจริงเมื่อมีสตรีชุดขาวโผล่มาจากท้องฟ้าราตรีที่มืดมิด
"ที่ไหนเนี่ย" ถังเฟยเฟยมองผืนป่าที่เต็มไปด้วยเม็ดฝน
ดวงตาของถังลีเฟยเฟยมองแม่นางชุดขาวอย่างมีความหวัง
"แม่นางเจ้าช่างเหมือนข้ายิ่งนัก แม่นาง" ถังลีเฟยมองสตรีที่เหมือนนางราวกับแกะ
ถังเฟยเฟยอึ้งงันเช่นกัน เหตุใดเป็นเช่นนี้แม้แต่ชุดที่สวมใส่ยังเหมือนกัน นางอยู่เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยผู้คนบ้านเรือนบัดนี้มายืนอยู่กลางป่า
"ข้าไม่ไหวแล้ว" ถังลีเฟยยื่นบุตรฝาแฝดให้ถังเฟยเฟย นี่นางต้องเลี้ยงดูเจ้าทารกน้อยพวกนี้รึ
"เจ้าจะไปไหน" ถังเฟยเฟยถามถังลีเฟย
"ข้าร่างกายข้ามีพิษ ข้าคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ข้าคือถังลีเฟยบุตรสาวท่านแม่ทัพแห่งต้าโจว เราสองคนหน้าเหมือนกันนัก ข้าฝากท่านดูแลพวกเขาแทนข้าด้วย นี่คือป้ายหยกของบิดาสองแฝด อย่ากลับไปกับคนพวกนั้นเพราะจะสังหารเราแม่ลูก" ถังลีเฟยเฟยกล่าวกับสตรีชุดขาว
ถังเฟยเฟยยังไม่ได้ถามอะไรเลย
ตุบ !!!
จู่ๆ มีลูกธนูปักที่กลางอกของถังลีเฟย ทำให้นางเซไปทางหน้าผาแล้วล้มลงไป
"เจ้า" ถังเฟยเฟยได้แต่มองร่างถังลีเฟยตกลงไปด้านล่างหน้าผามิรู้ว่าเป็นแม่น้ำหรือป่าไม้
สมองของถังเฟยเฟยขบคิดเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยอีกทั้งนางยังมองสองแฝดชายหญิงเพิ่งจะเสียมารดาแท้ๆ ไปช่างน่าอนาถใจนัก
"ถังลีเฟย เหตุใดเจ้าต้องหนีข้าด้วยเล่า" คนนับสิบวิ่งมาที่หน้าผา ถังเฟยเฟยคิดว่าแย่แล้ว หากคนพวกนั้นจับได้นางมิอาจรับคำหญิงผู้นั้นได้เป็นแน่แท้
นางมองบุรุษสวมหน้ากากผีเสื้อในอาภรณ์สีน้ำเงิน พร้อมกับลูกน้องของเขาในยามนี้สมองของถังเฟยเฟยคิดได้ก็คือนางต้องดูแลสองแฝดอย่าให้มีอันตราย
"ถังลีเฟยกลับไปกับข้า" ชายผู้นั้นสาวเท้าเข้ามาใกล้ถังเฟยเฟย
ก่อนจะตกลงหน้าผาถังลีเฟยได้บอกกับนางว่าอย่ากลับไปกับคนพวกนั้น
"ไม่!!!"ถังเฟยเฟยค่อยๆ ถอยหลังไปทีละ นางอุ้มลูกแฝดในเมื่อถังลีเฟยมอบสองแฝดให้นางแล้ว สองแฝดถือเป็นลูกของนาง
"เจ้าไม่กลัวตายรึ"
"เหตุใดต้องกลัว"
หากสวรรค์ให้ข้ามาเพื่อเลี้ยงสองแฝดข้าเชื่อว่าข้าจะไม่ตายง่ายๆ
ถังเฟยเฟยคิดว่าถึงอย่างไรหนีไม่พ้น สู้ตายเอาดาบหน้าเสียกว่า
ตุบ !!!
"อย่า!!!" ชายผู้นั้นคว้าได้เพียงอากาศ เหตุใดนางต้องทิ้งเขาไว้ด้วยเล่า...
หลีซินแพทย์ศัลยกรรมในยุคปัจจุบันได้ทะลุมิติเข้าร่างสตรีลูกขุนนาง ที่มีความเอาแต่ใจ อารมณ์ร้ายเป็นใหญ่ แต่ทว่าสตรีนางนี้ ต้องแต่งงานกับหยางอ๋องผู้มีลูกติดฝาแฝดชายหญิง
นางหนีความยากลำบากเข้ามาในเมืองหลวงฉางอัน เพื่อขายตัวเองเป็นสาวใช้ในจวนท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ท่านแม่ทัพผู้นี้เมตตาสาวใช้อย่างนางยิ่งนัก จนกระทั่งทำให้ฮูหยินใหญ่ในจวนมิพอใจสาวใช้อย่างนาง จูจูจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ปลอดภัยในจวนท่านแม่ทัพนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้จูจูนะเจ้าคะ
เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ
อวี้เหมยหรู แพทย์สาวยุคปัจจุบัน ได้ทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่เธออ่าน เธอนั้นดันชอบพระรองอย่างท่านแม่ทัพซือเหยียน มากกว่าพระเอกอย่างองค์ชายสามจีเสวียน
"ท่านเป็นอย่างไรบ้าง" เซียวหยามองหน้าชายคนรักที่โดนพิษยาปลุกกำหนัดในใจก็นึกโกรธเซียวเหยียนขึ้นมาทันที "ข้าร้อนยิ่งนักอยากจะปลดปล่อย" น้ำเสียงกระเซ้าบอกชายคนรัก ในใต้หล้านี้ เสิ่นจ้านไม่ต้องการสตรีแม้แต่คนเดียว เขาต้องการบุรุษอย่างเซียวหยาเท่านั้น
เกาเหมียวหรงบุตรสาวนายอำเภอโจว ไม่เป็นที่รักของขอบิดา เกาเซิง นางเป็นบุตรภรรยาเอกที่ตายไปแล้ว กระนั้นบิดาจึงให้นางออกเรือนกับพ่อค้าคารวานแห่งทุ่งหญ้า มีอายุคราวบิดา นางจึงตัดสินใจเป็นอนุของแม่ทัพหนานอ๋อง
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด