เมื่อธีร์หลงรักวินเพื่อนสนิทของเขามานานนับปี จนวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสครอบครองวินสมใจ แล้วคนเช่นเขาจะยอมให้ใครกล้ายุ่งกับคนของเขาได้อีกเล่า
เมื่อธีร์หลงรักวินเพื่อนสนิทของเขามานานนับปี จนวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสครอบครองวินสมใจ แล้วคนเช่นเขาจะยอมให้ใครกล้ายุ่งกับคนของเขาได้อีกเล่า
บทที่ 1 เพื่อนสนิท
ในยามค่ำคืนที่อบอวลไปด้วยแสงไฟนีออนและเสียงดนตรีที่ดังก้องไปทั่วคลับหรูย่านใจกลางเมือง ธีร์กำลังนั่งดื่มอยู่กับวินเพื่อนสนิทของเขา ธีร์เป็นลูกชายเศรษฐี เขาเป็นนักแข่งรถชื่อดัง ธีร์มีหน้าตาหล่อคม ใบหน้าฉายแววเจ้าเล่ห์เล็ก ๆ ดวงตาที่รียาวคมกริบ ทำเอาธีร์ต่างเป็นที่หมายปองของสาว ๆ มากมาย ส่วนวิน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง วินมีหน้าตาออกแนวสำอาง ผิวขาว แต่กลับเป็นเพลย์บอยตัวยงที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียว
ธีร์นั่งอยู่ที่โต๊ะวีไอพีของคลับ เขากำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเห็นวินคุยโทรศัพท์กับสาว ๆ ไม่หยุด เสียงหยอกเย้าปนเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทำเอาเขาได้แต่รู้สึกหงุดหงิดใจเสียทุกครั้งไป เพราะในใจลึก ๆ ของธีร์ เขาแอบรักวินมาตลอดโดยไม่กล้าแสดงความรู้สึกอันใดออกมา ดังนั้นเขาจึงทำเพียงนั่งนิ่งและแกล้งทำเป็นไม่สนใจท่าทีที่น่าหมั่นไส้ของวินอย่างนั้น
“เฮ้ ธีร์” วินเรียกทำลายความเงียบ “นายเคยคิดบ้างไหมว่า...อยากเจอใครสักคนที่เราจะลงหลักปักฐานด้วยกัน บางทีฉันก็คิดอยากจะแต่งงานแล้วว่ะ”
คำถามนี้ทำเอาธีร์ถึงกับสะอึกใหญ่ เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบเมื่อได้ยินวินพูดแบบนั้น แต่แล้วเขากลบความรู้สึกนั้นด้วยการยิ้มแล้วตอบออกไปอย่างไม่ใคร่สนใจนัก “ไม่เคยคิดหรอก นายคิดเรื่องเหลวไหลอะไรของนายอีกแล้ว”
“นี่นายอย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง ฉันเห็นสาว ๆ แอบมองนายอยู่ตั้งหลายคน นายไม่คิดจะสนใจเสียหน่อยเหรอ...เอ...หรือว่านายแอบซ่อนใครไว้อยู่” วินทำน้ำเสียงล้อเลียนเพื่อนรัก
ตั้งแต่คบกันมาวินไม่เคยเห็นธีร์คบใครสักคนเลย ทั้ง ๆ ที่รูปร่าง หน้าตา ฐานะอย่างธีร์ ผู้หญิงนับร้อยแทบอยากจะซบลงมาที่อกเขาให้ได้
“นายพูดบ้าอะไรเนี่ย เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว” ธีร์บ่ายเบี่ยงพร้อมหลบสายตาวิน เขาจะมองหน้าวินได้อย่างไร หากวินรู้ความรู้สึกของเขา แม้แต่คำว่าเพื่อน วินคงไม่มีให้เขาอีกแล้ว
“โธ่ธีร์...ฉันก็แค่...รู้สึกเบื่อกับการควงสาวไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ฉันเริ่มอยากมีใครสักคนที่ฉันจะรักเขาคนเดียวอย่างจริงจัง” วินพูดพร้อมถอนหายใจอย่างรู้สึกเบื่อหน่ายเข้าจริง ๆ
“วิน นายอย่าบอกนะ ว่านายคิดจะแต่งงาน” ธีร์เลิกคิ้วสูง มองหน้าวินด้วยสายตาจริงจัง
วินยักไหล่กับคำพูดของเพื่อน “ก็ไม่แน่” ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ คลับอีกครั้ง พลันสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวคนหนึ่ง เธอหน้าตาสวยหวาน แต่งกายแม้ไม่เย้ายวน แต่กลับดูน่าหลงใหลยิ่งนัก เธอนั่งอยู่ที่บาร์เหล้าเพียงลำพัง วินบังเกิดสายตาลุกวาวและยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “นั่นไง ฉันว่าเธอนี่แหละ ที่จะเป็นแม่ของลูกฉัน”
ธีร์ได้แต่ปรายตามองวินด้วยดวงตาที่หม่นแสง วินไม่มีวันรู้หรอกว่าคำพูดเหล่านั้นทิ่มแทงใจเขามากแค่ไหน
พลันวินก็ตัดสินใจลุกขึ้น ก่อนจะยกแก้วเหล้าทำท่าจะเดินตรงไปหญิงสาวคนดังกล่าว ธีร์ได้แต่มองท่าทางกระตือรือร้นของวิน พลางสลับหันไปมองหญิงสาวที่วินแอบหมายตาอยู่ นั่นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ธีร์ดึงแขนวินเอาไว้ “วันนี้นายเมามากแล้ว นายยังจะเดินไปหาเธออีกเหรอ” เขาพยายามเหนี่ยวรั้งวินไว้อย่างสุดกำลัง
“แน่นอน ต่อให้ต้องเมาจนตาย ก็ขอตายคาอกสาวก็แล้วกัน” วินตอบพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ธีร์อย่างทีเล่นทีจริง แต่นั่นทำเอาธีร์หัวใจเต้นแรง รู้สึกร้อนวูบไปทั่วใบหน้า
วินเดินตรงไปที่บาร์ที่ผู้หญิงคนดังกล่าวนั่งอยู่ ทิ้งให้ธีร์นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะ เขามองตามหลังวินไปด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธขึ้งและหึงหวง
ธีร์ยังคงจ้องมองวินที่นั่งคุยอย่างสนิทสนมกับหญิงสาวคนนั้น เขารู้สึกเหมือนทุกนาทีเป็นชั่วโมง ความโกรธทำให้เขาแทบจะไม่สามารถทนอยู่ต่อได้อีก เขาตั้งท่าจะลุกจากโต๊ะเพื่อเตรียมตัวกลับ หากแต่วินที่กลับมานั่งที่โต๊ะ เขารีบฉุดรั้งแขนธีร์เข้ามาหา พร้อมกระซิบกระซาบใส่เขา
“เธอน่ารักใช่ไหมล่ะ” วินพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “ฉันว่าฉันเจอแล้วแหละ แม่ของลูกฉัน” วินพูดพร้อมประกายตาวาววับ ทำท่าทางอย่างกับหนุ่มช่างเพ้อฝัน
ธีร์ได้แต่เบือนหน้าหนีอย่างพยายามเก็บอารมณ์ “อืม...ก็น่ารักดี”
เวลาผ่านไปพวกเขาดื่มกันต่อจนกระทั่งวินเริ่มเมาไม่ได้สติ ธีร์มองวินที่เริ่มพูดจาไม่เป็นภาษาและบ้างก็พร่ำเพ้อ บ้างก็โอดครวญ ทำเอาเขาได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างจนใจ ธีร์ตัดสินใจลุกขึ้นก่อนจะเข้าพยุงวินขึ้นมา “วิน นายต้องกลับห้องแล้ว เดี๋ยวฉันพานายไปส่ง”
ร่างกายวินที่แนบเข้ามากับตัวของธีร์ ทำเอาธีร์รู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมา ยิ่งเมื่อวินที่เริ่มทรงตัวไม่อยู่ วินจึงใช้สองแขนโอบรอบคอธีร์ไว้แน่น ใบหน้าหวานแอบอิงเข้ากับบ่ากว้างของธีร์อย่างลืมตัว ทว่าลมหายใจร้อนของวินที่เป่ารดอยู่บนบริเวณลำคอของธีร์ ทำเอาเขาหัวใจเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ร่างกายส่วนล่างขยับขยายอย่างไม่อาจห้ามอยู่ ธีร์ต้องพยายามข่มใจอยู่พักใหญ่ เขาสูดลมหายใจแรงเข้าไปในร่างกายเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะรีบพาวินกลับออกมาด้านนอก
หลังจากที่ธีร์ลากร่างอันอ่อนปวกเปียกของวินมาถึงที่รถ เขาก็แทบจะหมดแรงลงไป “เจ้าบ้านี่ กินยังไงให้เมาไร้สติแบบนี้กัน” ธีร์บ่นอุบขึ้นมาพร้อมมองหน้าวินที่ตอนนี้กำลังหลับสนิท
ธีร์ถอนหายใจก่อนจะยิ้มน้อยออกมา ธีร์โน้มตัวดึงเข็มขัดนิรภัยขึ้นมาเพื่อคาดให้กับวิน แต่เมื่อใบหน้าหวานพร้อมลมหายใจร้อนที่เป่ารดอยู่บนใบหน้าของเขา ทำเอาเขาอดกลั้นไว้ไม่อยู่ ธีร์ตัดสินใจก้มลงพร้อมจูบเข้าที่ริมฝีปากวินอย่างรวดเร็ว วินที่กำลังเมาเคลิ้มเผลอตัวขึ้นครางออกมา ยิ่งเปิดโอกาสให้ธีร์ส่งลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจภายในปากวินอย่างราบรื่น
ธีร์จูบวินอย่างดูดดื่มและโหยหา เขาบดเบียดริมฝีปากไปมา พร้อมลิ้นที่ตวัดเกี่ยวพันลิ้นของวินอย่างลึกซึ้ง ธีร์จูบวินเนิ่นนานกว่าเขาจะยอมปล่อยริมฝีปากหวานนั้นออกไป
“อืม...” เสียงวินครางออกมาอย่างลืมตัว ทำเอาธีร์ถึงกับยกยิ้มขึ้นด้วยความปลื้มปริ่ม เขายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของวินอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับมาขึ้นรถพร้อมขับตรงไปยังคอนโดของเขาในทันที
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
เผิงฟู่หลิน บุตรสาวราชครูเผิงผู้ยิ่งใหญ่ นางทั้งรูปงาม ทั้งเพียบพร้อมด้วยความสามารถ แต่ผู้คนกลับตราหน้าว่านางเป็นคุณหนูใจโฉด ทั้งร้ายกาจ ทั้งเอาแต่ใจ ในเมื่อนางรักมั่นทั้งหัวใจ แต่กลับได้รับเพียงความว่างเปล่า เช่นนั้นนางจะหันหลังให้บุรุษทุกคน....
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY