หนุ่มเมืองกรุง ฯ หลงรักสาวบ้านนอก
หนุ่มเมืองกรุง ฯ หลงรักสาวบ้านนอก
ณ..
ผับที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุดรธานี คืนนี้นักท่องราตรีต่างก็ครึกครื้นและพลุกพล่านเพราะเป็นคืนวันศุกร์ ทุกคนต่างกินดื่มและสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ เสียงดนตรีแนวหมอลำลูกทุ่งกระหึ่มกึกก้องจนพูดกันแทบไม่ได้ยิน แต่นักท่องราตรีหาได้สนใจไม่ต่างโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง เด็กเสิร์ฟเดินกันขวักไขว่ไม่ได้หยุดพัก แต่เด็กเสิร์ฟทุกคนก็สู้ขาดใจลูกค้าเยอะขนาดนี้ทิปที่ได้ก็คงไม่น้อย ผับแห่งนี้มีนายตำรวจใหญ่ที่ลาออกจากราชการเป็นเจ้าของ เริ่มต้นจากเป็นร้านเหล้าเล็ก ๆ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีความอินดี้อยู่ในตัว เขาจึงพาผับแห่งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผับที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดลูกค้าของเขามีทุกระดับ ตั้งแต่มหาเศรษฐี ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้าและหรือแม้แต่ชาวนาก็มาเที่ยวผับของเขาได้ และเพลงที่เปิดในผับจะต้องเป็นแนวลูกทุ่งหมอลำเท่านั้น ในผับแห่งนี้ไม่มีโซน VIP ทุกคนต่างเข้ามาเที่ยวได้และจ่ายในราคาเท่ากัน นี่จึงอาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าทุกระดับต่างอยากมาสัมผัสบรรยากาศของผับแห่งนี้
"เร็ว ๆ นังฝนรีบแต่งตัวเข้า ชักช้าอยู่นั่น เห็นไหมนักร้องเค้าแต่งตัวเสร็จแล้ว"
เจ๊นกหญิงวัยสี่สิบปีแต่ยังสวยเช้งกระเด๊ะเพราะดูแลตัวเองดีรีบเร่งให้ 'ฝน' แต่งตัวให้ไว ๆ เพราะใกล้จะได้เวลาขึ้นโชว์แล้ว เมื่อมาเร่งฝนแล้วก็เดินไปดูแลความเรียบร้อยของนักร้องและแดนเซอร์คนอื่น ๆ ต่อ ฝนจึงเร่งรีบเปลี่ยนชุดที่ทางผับเตรียมไว้ให้ วันนี้เธอมารับจ๊อบพิเศษที่ผับแห่งนี้ เพราะน้องสองคนของเธอกำลังจะเปิดเทอม คนหนึ่งกำลังจะเข้าม.หนึ่ง ส่วนอีกคนกำลังจะขึ้น ปวช. ปีหนึ่ง ลำพังขายน้ำแข็งใสกำไรวันหนึ่ง ๆ ก็ได้ไม่กี่ร้อย แต่เธอเป็นเสาหลักของครอบครัวจึงต้องดิ้นรนทุกหนทางเพื่อหาเงินเลี้ยงปากท้องถึงห้าชีวิต พ่อเองก็ไม่ค่อยสบายเจ็บออด ๆ แอด ๆ มาหลายปีแล้ว หน้าที่ในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวจึงตกเป็นของเธอ
เมื่อเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยฝนก็เดินไปหาเจ๊นกเพื่อให้เจ๊แกช่วยดูอีกรอบนึง
"อือ..สวยแล้ว แต่นมกับตูดเอ็งนี่มันจะล้ำหน้านักร้องไปหน่อยนะ ไม่เป็นไร ไปเต้นอยู่แถวหลังละกันเดี๋ยวจะเกินหน้าเกินตานักร้องเขา"
ฝนดีใจเนื้อแทบเต้นที่จะได้ยืนเต้นแถวหลังสุด จะได้อยู่ไกล ๆ สายตาหื่นกามของพวกนักเที่ยวหัวงูทั้งหลายหน่อย อีกอย่างเธอไม่อยากเขม่นกับนักร้องสาวสวย 'ดาว' ประจำผับแห่งนี้
ฝนสาวน้อยวัยยี่สิบปี มีโอกาสเรียนจบแค่ม.ปลายเท่านั้น ความฝันอยากเป็นครูเป็นหมอกับเขาน่ะมันก็มีแหละ แม้จะหัวดีเรียนเก่งแค่ใหน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะความจนเป็นตัวบีบบังคับและเหมือนว่ามันจะกำหนดโชคชะตาของเธอให้ไปทางใหนก็ได้ตามที่มันจะต้องการ ในตอนกลางวันเปิดร้านขายน้ำแข็งใสส่วนในตอนกลางคืนนั้น ทุก ๆ คืนวันศุกร์หรือแล้วแต่ว่าทางเจ๊นกจะเรียกหาเธอจะสลัดภาพแม่ค้าน้ำแข็งใสผู้ก๋ากั่นมาเป็นแดนเซอร์เอวไวเอวเด้งที่ผับแห่งนี้ (อยากให้รี้ดคิดถึงภาพของลำไย)
และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นโชว์ของฝน นักร้องขึ้นไปก่อนและตามด้วยแดนเซอร์สาวสวยอีกห้าชีวิต นักร้อง สาว สวย เสียงดี สะกดแขกได้อยู่หมัด ทุกสายตาต่างจ้องมองที่นักร้องสาวคนนั้นเป็นจุดเดียว แดนเซอร์ทั้งห้าก็ปล่อยสเต็ปกันอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีใครมองก็ตาม
"เป็นไงบ้างวะ 'เข้ม' ผับเล็ก ๆ ของข้า"
พันตำรวจตรีอมร ราชะเทศ อดีตนายตำรวจที่ลาออกจากราชการมาบริหารผับแห่งนี้ วัย 35 ปีของเขานั้นยังดูหนุ่มแน่น รูปร่างสูงใหญ่ เป็นที่ต้องใจของบรรดาสาว ๆ เป็นอย่างมาก แต่เสียดายที่เขานั้นมีเมียแล้วและลูกชายของเขาก็อยู่ในวัยที่กำลังน่ารักสามขวบเท่านั้นเอง
"ผับเล็ก ๆ อะไรกัน ใหญ่กว่าที่เราเคยไปเที่ยวกันตั้งหลายเท่า"
เข้ม สิงหไกรวงศ์ ตอบเพื่อนไปอย่างจริงจัง อมรรีบเตะขาเพื่อน
"เห้ย ! อย่าพูดถึงความหลัง ถ้าเอ็งไม่อยากให้ข้ามีปัญหาครอบครัว"
เข้มยิ้มน้อย ๆ ส่ายหน้าให้กับความกลัวเอ้ยความเกรงใจภรรยาของเพื่อน มันจะอะไรกันนักหนาวะก็แค่'เมีย' ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง
"เอ็งจะไปเข้าใจอะไร หัวเราะข้าไปเถอะ ถ้าถึงคราวเอ็งแล้ว ข้าจะคอยดู"
อมรบอกกับเพื่อนอย่างนึกฉุน เข้มจึงเลิกสนใจเพื่อนหันไปสนใจโชว์บนเวทีแทน เขาไล่สายตาเข้มดุคู่นั้นมองไปบนเวที คราแรกเขาสะดุดตากับนักร้องสาวสวยอยู่เหมือนกันแต่พอได้เห็นสรีระแม่สาวแดนเซอร์ คนที่อยู่หลังสุดแล้ว เลือดในกายเขาก็แล่นพล่านขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่ามุมที่เธอยืนอยู่มันจะมืดสลัวที่สุดบนเวทีก็ตาม แต่สายตาที่เศร้า ๆ และดูเหนื่อยล้านั้นกลับดึงดูดสายตาเข้มดุของเขาเอาไว้จนไม่อยากละสายตาจากเธอเลย เขากวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟผู้ชายคนหนึ่ง เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาอย่างนอบน้อม เพราะรู้กันดีว่าผู้ชายตัวใหญ่ผิวเข้ม ตาดุคนนี้คือเพื่อนของเจ้านาย
"คุณเข้มต้องการอะไรเพิ่มครับ"
"เอาเงินนี่ไปให้แม่สาวแดนเซอร์คนนั้น แล้วนี่ก็ส่วนของนาย"
เขาชี้มือไปที่ฝนซึ่งกำลังยักย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลงอยู่ เด็กเสิร์ฟคนนั้นกำแบ๊งค์สีเทาสามใบไว้ในมือเพื่อนำไปให้ฝน ส่วนแบ๊งค์ม่วงหนึ่งใบยัดใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเอง พลางเกาหัวแกรก ๆ แปลกคนแฮะเพื่อนของเจ้านายคนนี้ คนส่วนใหญ่ร้อยละ 99.99 เขาสนใจนักร้องสาวคนนั้นมากกว่า สวยและเซ็กซี่สุด ๆ มีใครเขาสนใจและให้ทิปแดนเซอร์แถวหลังเกือบครึ่งหมื่นแบบนี้กันเล่า
เมื่อเดินไปถึงหน้าเวที เด็กเสิร์ฟคนนั้นก็กวักมือเรียกฝน เธอใช้นิ้วชี้จิ้มที่หน้าอกตัวเองเป็นเชิงถาม เขาจึงพยักหน้า เมื่อได้รับการยืนยันว่าเป็นเธอแน่แล้วฝนก็เดินไปที่หน้าเวทีและยื่นมือรับเงินที่เด็กเสิร์ฟคนนั้นส่งให้ เขาชี้มือไปที่ลูกค้าคนหนึ่งซึ่งฝนก็มองไม่ค่อยถนัดเพราะเวทีอยู่ไกลแต่ก็ยังส่งยิ้มให้เป็นการขอบคุณ ยัดเงินใส่ไว้ตรงช่องระหว่างหน้าอก เพราะชุดแดนเซอร์ไม่มีกระเป๋า ถอยกลับไปยืนตำแหน่งเดิมและทำหน้าที่เต้นต่อไป
แตงไทยสาวสวยผู้ที่ตั้งใจจะขึ้นคานไปตลอดชีวิต แต่พอได้เจอพ่อกำนันรูปหล่อ ปนิธานที่ตั้งไว้ก็เริ่มสั่นคลอน
เพราะคิดว่าพ่อที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณ จะเคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างเธอ เขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง แต่ขวางไปขวางมา กลับกลายเป็นว่าเขากลับเป็นคนเคี้ยวหญ้าต้นนั้นซะเอง
รามสูรผู้ที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธ เมขลาผู้หญิงคนแรกที่กล้าปฎิเสธเขา เพราะค่ำคืนที่เร่าร้อนเพียงคืนเดียว ทำให้เขาติดใจในตัวเธอ แต่เธอกลับคิดจะหนี รามสูรจึงวางแผนเพื่อให้เมขลา มาเป็นทาสรักของเขา แต่ว่าไป ๆ มา ๆ เธอกลับได้เป็นเจ้าของหัวใจของเขาซะนี่
เพราะถูกคนรักและเพื่อนสนิทหักหลัง เธอจึงหนีตามผู้ชายที่รู้จักกันในแอพหาคู่ แม้จะหวาดกลัว แต่ว่าเธอก็ไม่ขอกลับไปเจอเพื่อนทรยศ และคนรักจอมหักหลังอีก
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY