หนุ่มเมืองกรุง ฯ หลงรักสาวบ้านนอก
หนุ่มเมืองกรุง ฯ หลงรักสาวบ้านนอก
ณ..
ผับที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุดรธานี คืนนี้นักท่องราตรีต่างก็ครึกครื้นและพลุกพล่านเพราะเป็นคืนวันศุกร์ ทุกคนต่างกินดื่มและสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ เสียงดนตรีแนวหมอลำลูกทุ่งกระหึ่มกึกก้องจนพูดกันแทบไม่ได้ยิน แต่นักท่องราตรีหาได้สนใจไม่ต่างโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง เด็กเสิร์ฟเดินกันขวักไขว่ไม่ได้หยุดพัก แต่เด็กเสิร์ฟทุกคนก็สู้ขาดใจลูกค้าเยอะขนาดนี้ทิปที่ได้ก็คงไม่น้อย ผับแห่งนี้มีนายตำรวจใหญ่ที่ลาออกจากราชการเป็นเจ้าของ เริ่มต้นจากเป็นร้านเหล้าเล็ก ๆ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีความอินดี้อยู่ในตัว เขาจึงพาผับแห่งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผับที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดลูกค้าของเขามีทุกระดับ ตั้งแต่มหาเศรษฐี ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้าและหรือแม้แต่ชาวนาก็มาเที่ยวผับของเขาได้ และเพลงที่เปิดในผับจะต้องเป็นแนวลูกทุ่งหมอลำเท่านั้น ในผับแห่งนี้ไม่มีโซน VIP ทุกคนต่างเข้ามาเที่ยวได้และจ่ายในราคาเท่ากัน นี่จึงอาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าทุกระดับต่างอยากมาสัมผัสบรรยากาศของผับแห่งนี้
"เร็ว ๆ นังฝนรีบแต่งตัวเข้า ชักช้าอยู่นั่น เห็นไหมนักร้องเค้าแต่งตัวเสร็จแล้ว"
เจ๊นกหญิงวัยสี่สิบปีแต่ยังสวยเช้งกระเด๊ะเพราะดูแลตัวเองดีรีบเร่งให้ 'ฝน' แต่งตัวให้ไว ๆ เพราะใกล้จะได้เวลาขึ้นโชว์แล้ว เมื่อมาเร่งฝนแล้วก็เดินไปดูแลความเรียบร้อยของนักร้องและแดนเซอร์คนอื่น ๆ ต่อ ฝนจึงเร่งรีบเปลี่ยนชุดที่ทางผับเตรียมไว้ให้ วันนี้เธอมารับจ๊อบพิเศษที่ผับแห่งนี้ เพราะน้องสองคนของเธอกำลังจะเปิดเทอม คนหนึ่งกำลังจะเข้าม.หนึ่ง ส่วนอีกคนกำลังจะขึ้น ปวช. ปีหนึ่ง ลำพังขายน้ำแข็งใสกำไรวันหนึ่ง ๆ ก็ได้ไม่กี่ร้อย แต่เธอเป็นเสาหลักของครอบครัวจึงต้องดิ้นรนทุกหนทางเพื่อหาเงินเลี้ยงปากท้องถึงห้าชีวิต พ่อเองก็ไม่ค่อยสบายเจ็บออด ๆ แอด ๆ มาหลายปีแล้ว หน้าที่ในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวจึงตกเป็นของเธอ
เมื่อเปลี่ยนชุดและแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยฝนก็เดินไปหาเจ๊นกเพื่อให้เจ๊แกช่วยดูอีกรอบนึง
"อือ..สวยแล้ว แต่นมกับตูดเอ็งนี่มันจะล้ำหน้านักร้องไปหน่อยนะ ไม่เป็นไร ไปเต้นอยู่แถวหลังละกันเดี๋ยวจะเกินหน้าเกินตานักร้องเขา"
ฝนดีใจเนื้อแทบเต้นที่จะได้ยืนเต้นแถวหลังสุด จะได้อยู่ไกล ๆ สายตาหื่นกามของพวกนักเที่ยวหัวงูทั้งหลายหน่อย อีกอย่างเธอไม่อยากเขม่นกับนักร้องสาวสวย 'ดาว' ประจำผับแห่งนี้
ฝนสาวน้อยวัยยี่สิบปี มีโอกาสเรียนจบแค่ม.ปลายเท่านั้น ความฝันอยากเป็นครูเป็นหมอกับเขาน่ะมันก็มีแหละ แม้จะหัวดีเรียนเก่งแค่ใหน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะความจนเป็นตัวบีบบังคับและเหมือนว่ามันจะกำหนดโชคชะตาของเธอให้ไปทางใหนก็ได้ตามที่มันจะต้องการ ในตอนกลางวันเปิดร้านขายน้ำแข็งใสส่วนในตอนกลางคืนนั้น ทุก ๆ คืนวันศุกร์หรือแล้วแต่ว่าทางเจ๊นกจะเรียกหาเธอจะสลัดภาพแม่ค้าน้ำแข็งใสผู้ก๋ากั่นมาเป็นแดนเซอร์เอวไวเอวเด้งที่ผับแห่งนี้ (อยากให้รี้ดคิดถึงภาพของลำไย)
และแล้วก็ถึงเวลาขึ้นโชว์ของฝน นักร้องขึ้นไปก่อนและตามด้วยแดนเซอร์สาวสวยอีกห้าชีวิต นักร้อง สาว สวย เสียงดี สะกดแขกได้อยู่หมัด ทุกสายตาต่างจ้องมองที่นักร้องสาวคนนั้นเป็นจุดเดียว แดนเซอร์ทั้งห้าก็ปล่อยสเต็ปกันอย่างเต็มที่ แม้ว่าจะไม่ค่อยมีใครมองก็ตาม
"เป็นไงบ้างวะ 'เข้ม' ผับเล็ก ๆ ของข้า"
พันตำรวจตรีอมร ราชะเทศ อดีตนายตำรวจที่ลาออกจากราชการมาบริหารผับแห่งนี้ วัย 35 ปีของเขานั้นยังดูหนุ่มแน่น รูปร่างสูงใหญ่ เป็นที่ต้องใจของบรรดาสาว ๆ เป็นอย่างมาก แต่เสียดายที่เขานั้นมีเมียแล้วและลูกชายของเขาก็อยู่ในวัยที่กำลังน่ารักสามขวบเท่านั้นเอง
"ผับเล็ก ๆ อะไรกัน ใหญ่กว่าที่เราเคยไปเที่ยวกันตั้งหลายเท่า"
เข้ม สิงหไกรวงศ์ ตอบเพื่อนไปอย่างจริงจัง อมรรีบเตะขาเพื่อน
"เห้ย ! อย่าพูดถึงความหลัง ถ้าเอ็งไม่อยากให้ข้ามีปัญหาครอบครัว"
เข้มยิ้มน้อย ๆ ส่ายหน้าให้กับความกลัวเอ้ยความเกรงใจภรรยาของเพื่อน มันจะอะไรกันนักหนาวะก็แค่'เมีย' ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเอง
"เอ็งจะไปเข้าใจอะไร หัวเราะข้าไปเถอะ ถ้าถึงคราวเอ็งแล้ว ข้าจะคอยดู"
อมรบอกกับเพื่อนอย่างนึกฉุน เข้มจึงเลิกสนใจเพื่อนหันไปสนใจโชว์บนเวทีแทน เขาไล่สายตาเข้มดุคู่นั้นมองไปบนเวที คราแรกเขาสะดุดตากับนักร้องสาวสวยอยู่เหมือนกันแต่พอได้เห็นสรีระแม่สาวแดนเซอร์ คนที่อยู่หลังสุดแล้ว เลือดในกายเขาก็แล่นพล่านขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่ามุมที่เธอยืนอยู่มันจะมืดสลัวที่สุดบนเวทีก็ตาม แต่สายตาที่เศร้า ๆ และดูเหนื่อยล้านั้นกลับดึงดูดสายตาเข้มดุของเขาเอาไว้จนไม่อยากละสายตาจากเธอเลย เขากวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟผู้ชายคนหนึ่ง เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหาอย่างนอบน้อม เพราะรู้กันดีว่าผู้ชายตัวใหญ่ผิวเข้ม ตาดุคนนี้คือเพื่อนของเจ้านาย
"คุณเข้มต้องการอะไรเพิ่มครับ"
"เอาเงินนี่ไปให้แม่สาวแดนเซอร์คนนั้น แล้วนี่ก็ส่วนของนาย"
เขาชี้มือไปที่ฝนซึ่งกำลังยักย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลงอยู่ เด็กเสิร์ฟคนนั้นกำแบ๊งค์สีเทาสามใบไว้ในมือเพื่อนำไปให้ฝน ส่วนแบ๊งค์ม่วงหนึ่งใบยัดใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเอง พลางเกาหัวแกรก ๆ แปลกคนแฮะเพื่อนของเจ้านายคนนี้ คนส่วนใหญ่ร้อยละ 99.99 เขาสนใจนักร้องสาวคนนั้นมากกว่า สวยและเซ็กซี่สุด ๆ มีใครเขาสนใจและให้ทิปแดนเซอร์แถวหลังเกือบครึ่งหมื่นแบบนี้กันเล่า
เมื่อเดินไปถึงหน้าเวที เด็กเสิร์ฟคนนั้นก็กวักมือเรียกฝน เธอใช้นิ้วชี้จิ้มที่หน้าอกตัวเองเป็นเชิงถาม เขาจึงพยักหน้า เมื่อได้รับการยืนยันว่าเป็นเธอแน่แล้วฝนก็เดินไปที่หน้าเวทีและยื่นมือรับเงินที่เด็กเสิร์ฟคนนั้นส่งให้ เขาชี้มือไปที่ลูกค้าคนหนึ่งซึ่งฝนก็มองไม่ค่อยถนัดเพราะเวทีอยู่ไกลแต่ก็ยังส่งยิ้มให้เป็นการขอบคุณ ยัดเงินใส่ไว้ตรงช่องระหว่างหน้าอก เพราะชุดแดนเซอร์ไม่มีกระเป๋า ถอยกลับไปยืนตำแหน่งเดิมและทำหน้าที่เต้นต่อไป
แตงไทยสาวสวยผู้ที่ตั้งใจจะขึ้นคานไปตลอดชีวิต แต่พอได้เจอพ่อกำนันรูปหล่อ ปนิธานที่ตั้งไว้ก็เริ่มสั่นคลอน
เพราะคิดว่าพ่อที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณ จะเคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างเธอ เขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง แต่ขวางไปขวางมา กลับกลายเป็นว่าเขากลับเป็นคนเคี้ยวหญ้าต้นนั้นซะเอง
รามสูรผู้ที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธ เมขลาผู้หญิงคนแรกที่กล้าปฎิเสธเขา เพราะค่ำคืนที่เร่าร้อนเพียงคืนเดียว ทำให้เขาติดใจในตัวเธอ แต่เธอกลับคิดจะหนี รามสูรจึงวางแผนเพื่อให้เมขลา มาเป็นทาสรักของเขา แต่ว่าไป ๆ มา ๆ เธอกลับได้เป็นเจ้าของหัวใจของเขาซะนี่
เพราะถูกคนรักและเพื่อนสนิทหักหลัง เธอจึงหนีตามผู้ชายที่รู้จักกันในแอพหาคู่ แม้จะหวาดกลัว แต่ว่าเธอก็ไม่ขอกลับไปเจอเพื่อนทรยศ และคนรักจอมหักหลังอีก
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
หยางซูมี่บุตรีคนโตแห่งจวนเสนาบดี จำต้องแต่งเข้ามาเป็นพระชายาของอ๋องทมิฬตามบัญชาของฮ่องเต้แต่ในเมื่อนางแต่งเข้ามา สามีเฉยชา ไม่สนใจนาง ทั้งยังแต่งชายารองเข้ามา ทำไมนางต้องเอาชีวิตไปผูกกับเขาด้วย
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด