ชาดสีเหลือดเป็นนิยายแล้วย้อนเวลาและกลับมาแก้แค้นคนที่รัก ซึ่งในเนื้อเรื่องนี้เป็นสามีที่ผูกปิ่นกราบไหว้ฟ้าดินกันเอาไว้ หากแต่การแก้แค้นก็ล้วนอยู่บนเหตุผล ซึ่งทำให้หลินเหมยได้พบกับความสุขหรือว่าความทุกข์ตลอดไป โปรดติดตามได้ในเล่มค่ะ
ชาดสีเหลือดเป็นนิยายแล้วย้อนเวลาและกลับมาแก้แค้นคนที่รัก ซึ่งในเนื้อเรื่องนี้เป็นสามีที่ผูกปิ่นกราบไหว้ฟ้าดินกันเอาไว้ หากแต่การแก้แค้นก็ล้วนอยู่บนเหตุผล ซึ่งทำให้หลินเหมยได้พบกับความสุขหรือว่าความทุกข์ตลอดไป โปรดติดตามได้ในเล่มค่ะ
สายฝนที่เทลงมาอย่างหนักตกลงบนเรือนร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยแผลและเลือด ชะล้างเลือดลงสู่พื้นดิน แต่เจ้าของร่างกลับนอนรวยรินใกล้ตาย ไม่อาจจะขยับตัวไปไหนได้ ยังคงได้ยินเสียงหัวเราะของพวกมันที่ดังใกล้หู
“หยุดทำไม!!” เสียงทรงอำนาจของรัชทายาทฟงหวินแห่งแคว้นเจี่ยกล่าววาจาขุ่นเคือง เพราะเหล่าทหารต่างเริ่มเบามือเมื่อฝนเทลงหนัก
เหล่าทหารที่เปลือยเปล่าท่อนล่าง ต่างขาดอาหารมาแรมเดือน บัดนี้มีเหยื่อสาวมากองให้เชยชมอยู่ตรงหน้า ต่อให้ฟ้าผ่าหรือแผ่นดินสะเทือนก็ไม่อาจทำให้พวกเขาหยุดมือได้
ร่างระหงบอบบาง ผิวขาวนวลถูกน้ำโคลนเปอะเปื้อนจนมองไม่เห็นผิวขาวอีกแล้ว สตรีนางนี้มีนามว่าเหอหลินเหมย เป็นชายาเอกของมู่หยางจวิ้นอ๋อง โอรสของฮ่องเต้เฟยเทียนแห่งแคว้นโจว ของเล่นบรรณาการที่จวิ้นอ๋องมอบให้เขาเมื่อสองวันก่อน
เป็นสาวงามที่ต้องตาต้องใจเขาเหลือเกิน มุมปากปีศาจนั้นขยับยกขึ้นอย่างพอใจเมื่อเห็นบรรดาทหารต่างเข้าไปรุมกินทั้งตัว ด้านบนป้อนอาหาร ด้านล่างใส่อาหารให้ไม่ได้ขาด เลือดในกายนางไหลออกมาผสมกับเนื้อโคลนจนมองไม่ออกว่าเป็นเลือดหรือเป็นน้ำอะไร
ความโหดเหี้ยมของรัชทายาทฟงหวินไม่ได้มีเพียงแค่ได้เห็นภาพสนุก แต่ความโหดร้ายของเขาไม่จบสิ้น หลังจากทรมานนางจนหายใจรวยรินเกือบตาย เขาก็สั่งให้ทหารล้างตัวนาง แล้วจับลงอ่างน้ำไว้ในกระท่อม
ผู้เป็นนายกองธงแห่งแคว้นเจี่ยนั้นย่างก้าวไปยังอ่างไม้อย่างเลือดเย็น เขาหันมองถังใบเล็กก็ยกขึ้น แล้วเทเกลือลงไปในน้ำ ได้ผล ร่างที่เกือบไร้วิญญาณเริ่มขยับตัว แต่ไม่อาจมีเสียงออกมา เปลือกตาหงส์ขยับเปิดออก ปากแห้งมีรอยเลือดเปรอะเอ่ยด้วยเสียงสั่น แต่ก็ไม่อาจส่งเสียงได้
“เจ้าช่างอดทนเหลือเกิน คิดหรือว่าจวิ้นอ๋องขี้ขลาดผู้นั้นจะมาช่วยเจ้า”
คนได้ยินสั่นสะท้าน หัวใจนางเหมือนคนตายไปแล้ว แต่ความรักที่มีต่อพระสวามีก็ยังไม่จางหาย ยังคงหวังว่าจวิ้นอ๋องจะมาช่วยนาง หากด้วยลมหายใจรวยรินนั้น ก็ไม่รู้ว่านางจะมีชีวิตต่ออีกนานเท่าไร
รัชทายาทฟงหวินมองดวงตาที่ลืมขึ้น แม้จะเปิดไม่หมด แต่ก็พบว่าอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สายตานั้นไม่แม้แต่จะยอมศิโรราบ นั่นจึงนำมาซึ่งความโมโหให้คนมีอำนาจมากกว่า จึงยกมือขึ้นบีบคางนาง
“เจ้ายังไม่สาแก่ใจ ยังคิดจะมีชีวิตต่อเพื่อไปเป็นชายาผู้ทรงเกียรติอย่างนั้นรึ สภาพเจ้าเช่นนี้กลัวแต่จวิ้นอ๋องผู้นั้นจะยกดาบขึ้นฆ่าให้ตายเสียมากกว่า”
“ท่านอ๋องจะไม่ทำเช่นนั้น” เสียงอันอ่อนแรงนั้นพยายามเค้นออกมาทั้งที่แทบอ้าปากไม่ออก นำพาความโกรธให้รัชทายาทฟงหวินยิ่งกว่าเดิม จึงเปลี่ยนมือจากจับคาง มาจับคอด้านหลังแล้วกดหัวลงไปในอ่างน้ำ น้ำเกลือนั้นผสมกับเลือดทำให้นางปวดแสบไปทั่วร่าง หลินเหมยสำลักน้ำเกลือเข้าปาก หายใจรวยรินเหมือนคนใกล้ตาย แต่สมองนางกลับได้ยินเพียงประโยคแสนหวาน
‘เจ้าแค่ขึ้นรถม้าไป หลังจากนั้นเชื่อใจข้า ข้าจะพาเจ้ากลับมาให้จงได้’
แล้วเหตุใดนางถึงถูกจับตัวอย่างง่ายดายเล่า หัวใจนางปวดร้าวคิดเพียงแต่ห่วงใยพระสวามีว่าตอนนี้เป็นเช่นไร ไม่ได้ห่วงเลยว่าตัวเองจะตายในอีกไม่ช้า
รัชทายาทฟงหวินมองร่างที่เริ่มอ่อนแรงลง พอคิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะตายก็คิดว่าคงหมดสนุก จึงจับคอนางขึ้นมา ใบหน้านั้นซีดเผือดไร้เลือดเหมือนคนตายจริงๆ
เพียะ!! มือหนาตบลงไปทันที เลือดในปากของหลินเหมยก็กระอักออกมาพร้อมกับเสียงไอ มุมปากคนกระทำพอใจเมื่อเห็นว่าพระชายาเอกของจวิ้นอ๋องยังไม่ตาย
“ลากนางขึ้นมาจากอ่างแล้วรักษาแผล ยังไงก็ให้ตายภายในสามวันไม่ได้” เหยื่อตายแล้วจะสนุกอะไร ยังไงเขาจะขุดหลุมล่อให้จวิ้นอ๋องเดินเข้ามาเอง แบบนั้นต่างหากถึงจะสนุกที่สุด
เหล่านางกำนัลที่ได้ยินก็รีบพาเรือนร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลออกจากอ่าง ในใจพวกนั้นต่างอกสั่นขวัญหาย สงสารพระชายาผู้นี้ก็สงสาร แต่พวกนางสงสารตัวเองมากกว่า ว่าจะโดนแบบนางหรือไม่ ดังนั้นพวกนางจึงพยายามรักษาพระชายาอย่างดี
หลินเหมยลืมตาขึ้นมองนางกำนัลที่กำลังทำแผล
“พระชายามิต้องกลัวเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่ช่วยทำแผล”
น้ำเสียงนั้นดูเป็นมิตร สายตาหลินเหมยมองสำรวจหญิงสาว ใบหน้านั้นงดงามล่มเมือง กิริยามารยาทก็เหมือนได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ไม่รู้ว่านางมองอีกฝ่ายมากเกินไปหรือเปล่า หญิงสาวจึงหันมายิ้มแล้วเล่าให้ฟัง
“ข้าชื่อซูเม่ย เป็นหญิงหอคณิกาที่ไทจื่อ[ องค์รัชทายาท]พามาชุบเลี้ยง”
“นางเป็นหญิงเดียวที่ไทจื่อเลี้ยงดูอย่างดี” เสียงหญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้น หลินเหมยมองแล้วก็คิดว่าอีกฝ่ายคงเป็นสาวใช้ที่คอยดูแลแม่นางซูเม่ย
“จะกล่าวเช่นนั้นก็มิได้ ต้องเรียกว่าข้ายังโชคดี แต่ถ้าวันใดพระองค์เกิดเบื่อหน่ายข้าขึ้นมา เกรงว่าเมื่อนั้นก็คงมีสภาพไม่ต่างจากเจ้าเท่าใดนัก” นางเอ่ยไปก็พยายามทำใจไปด้วย แม้ว่าองค์รัชทายาทจะเมตตานางกว่าคนอื่น ก็ใช่ว่าจะไม่ฆ่านางในวันพรุ่งนี้
“ท่านก็อดทนหน่อย อีกไม่นานพระสวามีของท่านก็จะมาช่วยท่านแล้ว”
ในใจของหลินเหมยก็คิดเช่นนั้น แต่สภาพนางตอนนี้ต่อให้กลับไปก็คงถูกหย่าในเร็ววัน หรือแม้จะกลับไปได้ นางก็ไม่กล้าที่จะยืนเคียงข้างเขาอีก สายตานางมองไปโดยรอบ ไม่ได้มองหาทางออก แต่มองหาอาวุธที่จะทำให้นางตาย เพื่อให้พระสวามีของนางไม่ต้องเสี่ยงชีวิตมาช่วยนาง
“นางฟื้นแล้วใช่ไหม” เสียงทรงอำนาจทำให้คนที่กำลังทำแผลมือสั่นตกใจ ซูเม่ยรีบขยับหันมองแล้วถอยออกมา สายตานั้นเป็นห่วงพระชายาที่นอนนิ่งไม่ขยับเช่นกัน
“ออกไป”
ซูเม่ยจะไม่ตกใจเลยสักนิด ถ้าไม่เห็นว่าในมือขององค์รัชทายาทนั้นมีสิ่งใดอยู่ เชือกหนังสีดำในมือนั้นแทบจะทำให้นางก้าวขาไม่ออก
ดวงตาทรงอำนาจหันมามองซูเม่ย “หรือเจ้าอยากจะโดนมันด้วย”
แน่นอนว่าเมื่อได้ยินเช่นนั้นซูเม่ยก็รีบขยับออกไปทันที ในใจนั้นได้แต่ขอโทษอีกฝ่ายที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้
ทันทีที่ก้าวออกจากกระโจม นางก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้น พร้อมกับเงาขององค์รัชทายาทที่กำลังใช้เชือกหนังในมือฟาดลงไปยังร่างที่ทำแผลก่อนหน้า เสียงร้องเจ็บปวดนั้นยิ่งดังมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้เสียงหัวเราะขององค์รัชทายาทฟงหวินดังขึ้นไปอีก
เสียงทรงอำนาจดังขึ้น “เจ้าน่าสนุกกว่าหมูพวกนั้นเสียอีก!!”
นางถูกขับไล่ออกจากสกุลสามี คนพวกนั้นให้เหตุผลว่านางเป็นตัวซวยทำให้สามีสอบไม่ผ่าน หากแต่ออกมาได้สามวัน เขากลับแขวนโคมไฟสีแดง รับเกี้ยวเจ้าสาวเข้าจวน!!
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY