“อื้ออ อย่า...” หญิงสาวร้องปรามเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ความกลัวเกาะกินหัวใจทั้งดวงพยายามมองหาใครสักคนที่จะช่วยเธอได้ในคืนนี้ ‘แต่น่าจะไม่มี’
“อื้ออ อย่า...” หญิงสาวร้องปรามเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ความกลัวเกาะกินหัวใจทั้งดวงพยายามมองหาใครสักคนที่จะช่วยเธอได้ในคืนนี้ ‘แต่น่าจะไม่มี’
ตอนที่1 ธาริกา
“อื้ออ อย่า...” หญิงสาวร้องปรามเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ความกลัวเกาะกินหัวใจทั้งดวงพยายามมองหาใครสักคนที่จะช่วยเธอได้ในคืนนี้ ‘แต่น่าจะไม่มี’ ฝ่ามือของคนเลวกำลังยุ่มย่ามกับการดึงกระโปรงของเธอขึ้นและเขาก็ทำมันสำเร็จจนเหลือปราการชิ้นสุดท้ายคือกางเกงในตัวน้อยที่กำลังจะถูกกำจัดไปให้พ้นทาง
“คุณ..หนูยอมแล้ว..”
“หึ”
“พาไปทำบนโซฟาได้มั้ยคะ” ชายตัวสูงหยัดตัวขึ้นผละออกจากร่างของหญิงสาวแต่ไม่ทันระวังเขาก็โดนของแข็งฟาดเข้าที่กกหูอย่างแรง
ปึก!!!
“เธอ!”
เพล้ง!!!
“อ๊ะ!โอ๊ยย!” เขาโดนตีถึงสองครั้งติดแต่ที่ทำให้เจ็บจนไม่สามารถล่าตัวเธอไว้ได้ทันก็คือก็คือดวงตาของเขาในตอนนี้มืดสนิทจนมองไม่เห็นแสงไฟที่ผลัดเปลี่ยนสีไปมา
.....
สามปีต่อมา
“ทราย คุณมาวินให้เลขาติดต่อมาอีกแล้ว” ฉัตรทอง ผู้จัดการสาวสองบอกดาราในสังกัดของตัวเองเสียงเบา เพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้ธาริการำคาญใจ
“ก็ตอบเขาไปเหมือนเดิมค่ะ”
“...”
“มีอะไรเหรอคะ” หญิงสาวเจ้าของใบหน้าคมเฉี่ยวหันมองผู้จัดการที่ยืนละล่ำละลักอยู่ ได้โอกาสฉัตรทองจึงบอกสิ่งที่ทางนั้นต้องการกับเจ้าตัว
“คราวนี้ถ้าทรายปฏิเสธอีก เขาจะไม่ขอซื้อแล้วนะ”
“ก็ดีแล้วนี่คะ”
“แต่เขาบอกว่า.. เจอที่ไหนเขาจะไม่ปล่อยทรายอีกแล้ว”
“ชาติหมา” สิ้นคำบอกเล่าของฉัตรทอง หญิงสาวหน้าเหวี่ยงก็สบถออกมาอย่างไม่กลัวว่าจะมีใครมาได้ยิน แม้แต่ผู้จัดการของเธอเองก็ยังตกใจที่เธอพูดคำหยาบได้ถึงเพียงนี้
“ทรายแก้ว การมีปัญหากับเขาไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ เธออาจหมดอนาคตได้เลย”
“ทรายควรตกลงขายตัวให้เขาใช่มั้ยคะ” ธาริกามองผู้จัดการของเธอผ่านกระจก ถึงจะพูดมาแบบนั้นแต่เธอก็รู้ว่าฉัตรทองหวังดี แต่เธอก็รักศักดิ์ศรีของเธอ ถ้าจะต้องเสียก็ต้องไม่ใช่เพราะผู้ชายที่ชื่อมาวิน ทายาทเจ้าของสังกัดที่เธอติดสัญญาอยู่ตอนนี้
“ก็เขาเปรียบเสมือนกัปตันเรือของเราหนิ มีปัญหากับคนขับเรือในทะเลมีแต่เขาจะกลั่นแกล้งนะ”
“ทะเลที่อื่นก็มี ไม่ใช่แค่ที่นี่”
“สัญญาเหลืออีกตั้งหนึ่งปี จะฉีกหรือไง”
“ไม่มีทางเลือกนี่คะ” หญิงสาวตอบกลับราวกับเรื่องที่พูดอยู่นั้นใช่เรื่องใหญ่
“คุณแขฟ้องอ่วม เอาเงินที่จะถูกฟ้องไว้สร้างบ้านที่เธอฝันไม่ดีกว่าเหรอ”
“ให้ทนไปก่อนใช่มั้ยคะ”
“มันคงไม่ถึงกับต้องกัดฟันหรอกมั้ง” ธาริกาถอนหายใจตัดบทสนธนา เธอคือนางร้ายที่กำลังมีชื่อเสียงในช่วงเวลานี้ งานแสดงเป็นงานที่เธออยากกอดมันไว้แน่น ๆ เพราะมันทำเงินให้เธอได้ราวกับสายน้ำ สำหรับเด็กที่ต้องปากกัดตีนถีบอย่างเธอจึงรักงานที่ทำเงินง่ายไปโดยปริยาย ส่วนฉัตรทองคือผู้จัดการที่ในอดีตโดนเด็กในสังกัดฉีกสัญญา และเพิ่งฟื้นคืนวงการได้หมาด ๆ เพราะดันปั้นอดีตเด็กนั่งดริ้งเป็นนางร้ายชื่อดังได้ แน่นอนว่าอดีตของธาริกาก็เป็นเรื่องกวนใจอยู่ไม่น้อย
“เครื่องประดับที่คุณทรายแก้วต้องใส่นะคะ” ทันทีที่เห็นเครื่องประดับวางลงตรงหน้า ทั้งดาราสาวและผู้จัดการก็สบตากันชั่วแวบหนึ่ง
“ของทรายแก้วต้องเป็นไพลินนี่คะ ไม่ใช่บุษราคัม”
“พอดีผู้ใหญ่ยัดคุณซินดี้เข้ามาก่อนหน้านี้แค่หนึ่งชั่วโมงเองค่ะ เธอขอเครื่องประดับที่เป็นชุดไพลิน”
“ได้ยังไง ตำแหน่งเซ็นเตอร์คือทรายแก้ว และต้องใส่ชุดไพลินโชว์ไม่ใช่เหรอ!” ธาริกาส่งซิกให้ผู้จัดการที่เริ่มหลุดเสียงหนุ่มใส่ทีมงาน
“ตำแหน่งเซ็นเตอร์ก็ถูกเปลี่ยนเป็นคุณซินดี้ค่ะ”
“อะไรนะ!”
“พี่ฉัตร พอเถอะค่ะ” ธาริกาดึงแขนผู้จัดการที่ขยันสติหลุด ทีมงานคนนั้นไม่สนใจว่าทั้งสองจะโอเคหรือไม่เพราะอย่างไรเธอก็ไม่ได้มีหน้าที่สับเปลี่ยนใครหากไม่มีคำสั่งจากเจ้าของงานมาอีกที
“หลายทีแล้วนะอีซินดี้”
“พอเถอะพี่ฉัตร มันอยากเดินก็ให้มันเดิน เราได้เงินแล้วหนิ”
“แต่ถ้าได้ใส่ชุดไพลินนั่นนะ ช่างภาพเขาต้องสาดแฟลชมาที่เธอแน่นอน” ฉัตรทองยังคงด้อยค่าเครื่องประดับที่ธาริกาจะได้ใส่มันอย่างไม่ลดละ
“เพื่ออะไร ค่าตัวก็เท่าเดิม ดีซะอีกทรายจะได้ไม่แสบตา”
“สองงานแล้วนะที่มันทำแบบนี้”
“ก็เขาเป็นลูกรักผู้ใหญ่นี่คะ” คำพูดของดาราสาวทำเอาฉัตรทองน้อยใจ ที่ไม่มีคอนเนคชั่นอะไรเพื่อปกป้องเด็กของตัวเองได้เลย
“บางทีนะ เราอาจต้องพึ่งบารมีของคุณนาวิน”
“ไม่!”
“ทรายแก้ว ที่ซินดี้มันกร่างก็เพราะมันเป็นเด็กของคุณชาร์ล มันถือว่าไม่มีใครกล้าแตะต้องมันน่ะสิ”
“งั้นพี่ฉัตรก็ติดต่อคุณชาร์ลอะไรนั่นให้ทรายสิคะ จะไปพึ่งนาวินทำไม”
“เออ เนอะ แกนี่ฉลาด”
.....
ธาริกาในชุดเดรสเกาะอกยาวสีดำสนิทตัดกับผิวพรรณที่ขาวเปล่งปลั่งเดินนวยนาดส่งรอยยิ้มหยาดเยิ้มให้ช่างภาพได้เก็บภาพที่ดูดีทุกอิริยาบทของเธอ ชุดเครื่องประดับสีบุษราคัมไม่ใช่ชุดหลักที่งานตั้งใจโปรโมต แต่เมื่อมันอยู่บนลำคอระหงของธาริกาย่อมได้รับความสนใจท่วมท้น
“ชุดต่อไปนี้เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์วาราลักซ์ชัวรี่นะคะ ซึ่งนางแบบของเราในวันนี้ก็คือ..”
“คุณซินดี้ นางเอกชื่อดังที่สุดในตอนนี้นั่นเองค่ะ” แสงแฟลชย้ายจากธาริกามาหาซินดี้อย่างที่ควรจะเป็น แต่มีสายตาจากดวงตาสีเทาคู่หนึ่งที่ยังไม่ได้ละไปจากเธอ
“ทรายแก้ว ธาริกาครับ”
“อืม”
พรึ่บ
“ว๊าย!” เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อธาริกาถูกนางเอกสาวเดินโชว์ชุดไพลินที่ไม่เคยมาซ้อมเดินบนเวทีเหยียบที่ชายชุดเดรสความยาวลากพื้นที่เธอสวม ส่งผลให้เมื่อเธอก้าวเดินเกาะอกบนตัวก็เลื่อนหลุดลงต่ำ ธาริกาต้องล้มตัวนั่งลงสองแขนบังช่วงตัวเพื่อไม่ให้เกิดความอนาจาร
“ซินดี้ไม่ได้ตั้งใจนะคะ” ธาริกามองคนที่ทำเธอตาขวางพร้อมกับมือที่ยกขึ้นปิดสองอก รอเวลาทีมงานหรือผู้จัดการของเธอมาช่วยเหลือ
“อย่าถ่ายนะคะ ห้ามถ่ายนะ”
พรึ่บ
ก่อนที่ฉัตรทองจะมาถึงตัวธาริกาก็มีเสื้อสูทตัวใหญ่มาปกคลุมเธอจากทางด้านหลัง หญิงสาวเงยหน้ามองคนที่ช่วยเหลือเธอแต่เขาดันไม่ใช่สักคนที่เธอคิด
“ขอบคุณนะคะ”
“คุณชาร์ล...” เรียวคิ้วของธาริกาขมวดมุ่นที่ซินดี้เรียกชื่อเขาขึ้นมา
“ทรายแก้ว ตายแล้ว! ลุกขึ้นเดินไหวลูก”
“พี่ฉัตรมาพยุงทรายหน่อยค่ะ ข้อเท้าน่าจะเจ็บ” ไม่ทันที่ฉัตรทองจะได้ทำหน้าที่นั้น ชายหนุ่มเจ้าของเสื้อก็อุ้มเธอออกไปจากหน้างาน
“นั่นคุณชาร์ลหนิ”
“ใช่ คุณชาร์ลจริง ๆ ด้วย” เสียงพูดคุยไล่หลังหลังจากเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ซินดี้ยังคงแสดงสีหน้ารู้สึกผิดต่อหน้าสื่อที่ทำธาริกาอับอาย
“ความผิดซินดี้เองค่ะ มันผิดคิว.. ซินดี้ขอโทษทรายแก้วผ่านพวกพี่ ๆ เลยแล้วกันนะคะ”
“อย่าร้องไห้ไปเลยครับ ทรายแก้วเขาแยกแยะได้อยู่แล้วเรื่องแบบนี้มันผิดพลาดกันได้”
แม้ภายนอกจะเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแต่ในใจเธอนั้นยิ้มกว้างอย่างสะใจ ส่วนเรื่องผู้ชายเดี๋ยวค่อยเคลียร์
"ถ้าไม่ใช่เพราะหวงก็เลิกยุ่งกันไปได้มั้ย ฉันจะได้เริ่มต้นใหม่" "อยากเริ่มต้นใหม่ เพื่อจะลืมฉันน่ะเหรอ" อชิรญากวาดสายตามองไปทางอื่นเมื่อที่เขาพูดมันก็คือเรื่องจริง ขอแค่เขาหยุด เธอก็จะลืม "ฉันไม่ชอบเวลามีใครมาพูดว่าได้ผู้หญิงที่ฉันเอามาแล้ว มันดูซ้ำรอย" "กับพี่พระแพงตามระรานเขาแบบนี้ด้วยหรือเปล่า" "พระแพงพูดอะไร"
เมื่อผู้หญิงที่เขาเคยซื้อมันได้ด้วยเงินถอยหนี และดื้อด้าน เขาก็กลายเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เธอไม่เคยรู้จัก
ซื้อเป็นของขวัญ ติดตาม แชร์ "คุณพาย" พิยดาหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้า แม้ภายนอกจะดูเป็นอย่างไรแต่ใจเธอนั้นหล่นวูบไปเสียแล้ว "คุณท้องกี่เดือนแล้ว" "นึกว่าใคร คุณเหมนี่เอง สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะ" "คุณช่วยตอบคำถามผมที คุณท้องกี่เดือนแล้ว" พิยดาก้าวถอยหลังในขณะที่เหมันต์เดินหน้าเข้าหาเธอ เขาเหมือนเดิมจนทำให้เธอเผลอนึกถึงเรื่องเก่าๆที่เคยทำด้วยกัน ก่อนที่บาดแผลนั้นจะร้องเตือนตัวเองว่าถ้าเธอยังฝังกลบความรู้สึกนั้นไม่ได้เธอนั่นแหละจะตาย
“ที่ทำ... มันเกินไป” “น้อยไป ฉันยังอยากสั่งสอนเธออีกสักรอบ” “ที่ฉันด่าว่าเหี้ยมันไม่คู่ควรกับนายตรงไหน คนดี ๆ ที่ไหนเอาผู้หญิงมาเล่นสนุกแบบนั้นวะ”
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด