ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
แค่นอนกับฉันมันไม่ได้ยากอะไร ไหนบอกว่ารักแม่เธอนักหนา เรื่องง่ายๆแค่นี้ทำไม่ได้
............................................................................................................................................
@คฤหาสน์พิพัตน์มงคลสกุล
ภานในห้องนอนขนาดใหญ่ทางปีกด้านซ้ายของคฤหาสน์มีหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มกำลังหลับไหลอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการนั่งรถมาเป็นเวลานาน รวมถึงจัดเสื้อผ้าข้าวของให้เข้าที่
โดยไม่รู้เลยว่ามีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนค่อยๆเปิดและปิดประตูห้องนอนด้วยความเบามือ เปิดไฟในห้องจนมันสว่างวาบ
ก่อนที่จะสาวเท้าเดินตรงเข้ามานั่งประชิตร่างอวบอิ่มที่กำลังหลับไหลด้วยใบหน้าที่ยากจะคาดเดา
ดวงตาคมกริบไล่สายตามองเรือนร่างขาวอมชมพูที่สวมเพียงชุดนอนสายเดี่ยว เนื้อผ้าซาตินใส่สบายตั้งแต่ปลายเท้าผ่านสัดส่วนโค้งเว้า
ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่หน้าอกอวบอิ่มไร้บราห่อหุ้มที่ล้นทะลักออกมาให้เห็นเพียงครู่ ปากหยักกระตุกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ ไม่นานก็เลื่อนไปที่ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ยังคงหลับสนิทอยู่
หมับ!!!
ฝ่ามือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนตรงเข้าไปบีบปากเล็กๆของคนที่ยังคงหลับไหลอย่างแรง จนใบหน้าจิ้มลิ้มเริ่มเหยเกไปด้วยความเจ็บ ก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมา
เฮือก!
"คะ...คุณใหญ่" ใบหน้าสวยหวานสะบัดออกจากฝ่ามือใหญ่อย่างแรง น้ำเสียงตะกุกตะกักที่เต็มไปด้วยความตกใจของลินินดังขึ้นทันทีที่ลืมตาขึ้นมาเห็นร่างสูงใหญ่ของสิงหราชหรือคุณใหญ่ผู้เป็นเจ้าของการกระทำอุกอาจ
ดวงตากลมโตที่โอบร้อมไปด้วยแผงขนตางามงอนเบิกกว้างพลางยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดเรือนร่างขาวอมชมพู ซึ่งจังหวะนั้นสิงหราชก็แสยะยิ้มร้ายกาจออกมา
"มีอะไรคะ คุณใหญ่เข้ามาในห้องนินทำไม!" ลินินพูดออกไปด้วยท่าทีประหม่า มือเรียวเล็กกำผ้าห่มแน่น เพราะตอนนี้สิงหราชกับเธออยู่ใกล้กันมาก ใกล้กันอย่างที่ไม่เคยใกล้กันมาก่อน
ดวงตากลมโตมองไปที่สิงหราชด้วยความไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาในห้องเธอทำไม และก็เข้ามาได้ยังไง ในเมื่อเธอก็จำได้ว่าก่อนจะเข้านอนเธอจัดการล็อคประตูห้องนอนเรียบร้อยแล้ว
"..........." เมื่อเห็นท่าทีตื่นตกใจของคนตรงหน้าสิงหราชก็เหยียดยิ้มร้ายกาจออกมาอย่างไม่ปกปิด โยนกุญแจที่อยู่ในฝ่ามือใหญ่ไปที่โต๊ะข้างหัวเตียงอย่างไม่ใยดี
ซึ่งการกระทำของเขาบ่งบอกเป็นนัยๆว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไรในการที่เขาจะเข้ามาในห้องเธอ
"นี่มันบ้านฉัน ฉันจะเข้าห้องไหนมันก็เป็นสิทธิ์ของฉันไม่ใช่หรือไง?" น้ำเสียงดุถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูป
ดวงตาคมกริบจ้องมองไปที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของลินินอย่างเอาเป็นเอาตาย จนคนถูกมองเริ่มทำตัวไม่ถูก รู้สึกเสียวสันหลังวาบแปลกๆ
"แต่คุณลุงยกห้องนี้ให้นินแล้ว คุณใหญ่ไม่ควรเข้ามานะคะ" ปากเล็กๆอมชมพูเอ่ยบอก ดวงตากลมโตเริ่มสั่นระริกด้วยความกลัว
คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมด้วยความไม่เข้าใจ เหตุใดสิงหราชหรือคุณใหญ่ที่เธอเห็นตอนนี้ถึงได้แตกต่างจากสิงหราชคนที่เธอเจอเมื่อหลายชั่วโมงก่อนนัก
ตอนนั้นเขาไม่ได้เป็นแบบนี้ ตอนนั้นเขาไม่แสดงออกทางสีหน้าอะไรเลย ดูไม่ยินดียินร้าย ออกจะนิ่งเฉยเสียด้วยซ้ำกับการมาของเธอและแม่ของเธอหรือเธอไปทำอะไรผิดให้เขาไม่พอใจ
แต่พอคิดทบทวนดูแล้วก็ดูจะไม่เห็นถึงความผิดของตัวเองเลยสักนิดแล้วนี่มันอะไรกัน
ลินินจมอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงครู่และยังไม่ทันได้เอ่ยถามถึงสาเหตุก็โดนจู่โจมด้วยฝ่ามือใหญ่
หมับ!!!
"......." สิงหราชยื่นฝ่ามือใหญ่ของตัวเองไปคว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กของลินินพร้อมกับออกแรงกระชากอย่างแรง
จนคนตัวเล็กนั้นปลิวตามแรงกระชาก ใบหน้าจิ้มลิ้มกระแทกไปกับหัวไหล่กว้าง หน้าอกอวบอิ่มขนาดใหญ่เสียดสีไปกับแผงอกแกร่ง
ลิลินยังคงจมอยู่กับความเจ็บและความไม่เข้าใจ ใบหน้าจิ้มลิ้มยังคงซบอยู่ที่ไหล่กว้าง
จนกระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ เธอจึงค่อยๆเขยื้อนตัวออก เงยหน้าไปมองใบหน้าหล่อคมคายด้วยความไม่เข้าใจ
ก่อนจะรู้ว่าสิงหราชไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเธอแต่เป็นตำแหน่งที่ต่ำกว่า
"อ่อย" ถ้อยคำดูถูกๆเปล่งออกมาจากริมฝีปากหยัก ในขณะที่ดวงตาคมกริบจับจ้องอยู่ที่หน้าอกอวบอิ่มขนาดใหญ่ที่เด้งชูชันสู้สายตา
เพราะเสื้อสายเดี่ยวตัวโคร่งดันร่นลงมาจนเกือบจะถึงหน้าท้องแบนราบ
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคุณใหญ่" ใบหน้าและคำพูดที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจถูกพ่นออกมา
มือเรียวรีบดึงเสื้อสายเดี่ยวขึ้นพร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปกปิดทั้งสองเต้างามเอาไว้ ในใจแอบโกรธตัวเองที่หยิบชุดนอนตัวนี้มาใส่ ไม่น่าเห็นแก่ความสบายและความเคยชินของตัวเอง
"คุณใหญ่เข้ามาในห้องของนินทำไมคะ คุณใหญ่ไม่ควรเข้ามาในห้องนอนของนินแบบนี้นะคะ ใครเห็นเข้ามันจะดูไม่ดี"
"คิดว่าฉันอยากเข้ามานักหรือไง ถ้าไม่มีเรื่องคุยกับเธอ"
"คุยกับนิน เรื่องอะไรคะ?" ลินินเอ่ยถามอย่างสงสัย คนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมงมีอะไรต้องคุยกัน สำคัญขนาดต้องบุกเข้ามาในของเธอในเวลาดึกดื่นเช่นนี้
"ออกไปจากบ้านฉัน" สิงหราชเค้นเสียงเข้มดุ ซึ่งใบหน้าหล่อก็แสดงสีหน้าไม่ต่างกันกับน้ำเสียง
"คะ....?" ลินินเลิกคิ้วถามด้วยความไม่เข้าใจ
"ไม่ได้ยินที่ฉันพูด"
"ได้ยินค่ะ แต่นินแค่ไม่เข้าใจ มันเรื่องอะไรกันคะคุณใหญ่" ลินินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่ไม่เข้าใจตามที่พูด
เธอกับแม่เพิ่งจะเข้ามาในบ้านหลังนี้ไม่ถึง24ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ จู่ๆก็เข้ามาไล่ ทั้งทีตอนเจอกันกับเธอและแม่ของเธอ เขาก็ไม่ได้แสดงอาการรังเกียจอะไร
"นินกับแม่ไม่ไปไหนทั้งนั้น ทำไมนินกับแม่ต้องไปด้วย ในเมื่อคุณลุงเป็นคนชวนนินกับแม่มา คนที่จะไล่นินกับแม่ของนินออกจากบ้านหลังนี้ได้ก็มีแต่คุณลุงคนเดียวเท่านั้น คุณใหญ่ไม่มีสิทธิ์"
"เหอะ" สิงหราชแค่นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน กับเด็กสาวตรงหน้าที่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่เกรงกลัว "หน้าด้าน หิวเงินกันทั้งแม่ทั้งลูก"
เพี๊ยะ!
.................................................
เปิดตัวคุณสิงหราชคนใจร้ายนอกจากจะใจร้ายแล้วปากยังร้ายใช่ย่อย สู้เขานะหนูลินินรับมือกับคุณสิงหราชให้ได้
อ่านจบแล้วคอมเม้นท์ด้วยน๊า ไรท์รออ่านค่ะ
..................................................
สวัสดีค่ะ ไรท์ยาหยีนะคะ
ขออนุญาตฝากนิยายเซ็ตท่านประธานเถื่อนคลั่งรักไว้ด้วยนะคะ เซ็ตนี้ประกอบไปด้วย3เรื่อง
1.สิงหราชคนใจร้าย
2.เหมราชคนร้ายกาจ
3.ติณราชคนเจ้าเล่ห์
ฝากกดติดตาม กดเพิ่มชั้นไว้เพื่อรับการแจ้งเตือนด้วยนะคะ
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY