ระหว่างเดินทางกลับจากไปสอบเทอมสุดท้าย เรือที่โดยสารกลับเกาะถูกฟ้าผ่า ใช่ค่ะฟังไม่ผิดถูกฝ้าผ่ากลางทะเลโอกาสมีเท่าไหร่กัน ทำไมเธอซวยได้ขนาดนี้รู้ตัวอีกทีก็มานอนเกยตื้นอยู่ที่ชายหาด
ระหว่างเดินทางกลับจากไปสอบเทอมสุดท้าย เรือที่โดยสารกลับเกาะถูกฟ้าผ่า ใช่ค่ะฟังไม่ผิดถูกฝ้าผ่ากลางทะเลโอกาสมีเท่าไหร่กัน ทำไมเธอซวยได้ขนาดนี้รู้ตัวอีกทีก็มานอนเกยตื้นอยู่ที่ชายหาด
เรื่องย่อ
บทนำ
ร่างบางนั่งมองสีฟ้าของทะเลที่ทอดไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา เธอหมดแรงนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่พระอาทิตย์ตรงกับศีรษะจนตอนนี้พระอาทิตย์คล้อยต่ำ
เคยไหมที่รู้สึกแปลกแยก เหมือนเข้ากับใครยาก รู้สึกเหมือนไม่ใช่คนบนโลกนี้
เธอชื่อหยางจื่อ มีชื่อเล่นว่า นาเดีย แค่ชื่อก็รู้แล้วเนอะว่าเชื้อชาติไหน เธอเป็นคนจีน จีนแท้ๆ เลย พ่อแม่ของเธอเชื้อสายจีนทั้งคู่
หยางจื่อ เธอนั้นรู้สึกว่าตนเองเข้ากับใครก็ไม่ได้ อารมณ์แปรปรวน บางทีก็หดหู่ใจ บางทีก็รู้สึกเศร้าหมองขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ พออาการเป็นบ่อยๆ และหนักขึ้น จึงต้องเข้าพบแพทย์ตามความต้องการของบิดา หมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าอ่อนๆ ต้องรับยาต้านโรคซึมเศร้า
อาการนี้เริ่มเป็นมาตั้งแต่เธอฟื้นจากอุบัติเหตุ เธอเดินทางตามบิดามารดาที่มาทำธุรกิจสัมปทานโรงแรมที่เกาะแห่งหนึ่งในประเทศไทย ระหว่างที่เดินทางมาครอบครัวของเธอประสบอุบัติเหตุ พ่อกับแม่บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนเธอนั้นได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ จนทำให้ความจำหายไปไม่เหลืออะไรเลย ขนาดตอนที่ฟื้นขึ้นมายังจำบิดามารดาของตัวเองไม่ได้ อยู่โรงพยาบาลนานนับเดือนก็ยังจำอะไรไม่ได้ บิดามารดาจึงอยากให้เธอไม่ต้องสนใจความทรงจำเก่าๆและสร้างความทรงจำใหม่ๆ แทน ตอนนั้นเธออายุเพียง 17 ปี ต้องฝึกอ่านเขียนและฝึกพูดภาษาไทย ทักษะต่างๆ ก็ต้องเรียนรู้ใหม่ การศึกษาก็ต้องให้ครูมาสอนที่บ้านและสอบเทียบเอา
หยางจื่อ ถูกพนักงานของโรงแรมของบิดา ขนานนามว่านางมารร้าย เพราะนิสัยเชิดๆ หยิ่งๆ ไม่เอาใคร ชอบซักสีหน้าใส่เวลาไม่พอใจ ทำให้ไม่มีใครชอบเธอเลย ใครจะรู้ว่าภายในของหยางจื่อนั้นไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ ก็หน้าตาของเป็นแบบนี้จะให้ทำอย่างไรเล่า
ชีวิตในเกาะหยางจื่อจึงมีเพื่อนไม่กี่คน เพราะเวลาส่วนใหญ่ก็ต้องเรียนหนังสือ ตอนนี้เธอเรียนมหาวิทยาลัยออนไลน์อยู่ที่เกาะ มีเพียงช่วงสอบที่ต้องเดินทางไปสอบที่มหาวิทยาลัย เธอใกล้จะจบแล้ว ก็สะดวกดี บิดามารดาไม่ชอบให้เธอออกจากเกาะไปไหน หากจำเป็นต้องไปก็จะต้องมีคนคอยติดตามเสมอ เพื่อนๆ มักจะจิกกัดว่าเธอทำตัวราวกับคุณหนูเพื่อนพวกนี้เธอเองก็ไม่ได้สนิทใจที่จะคบนัก แต่ก็เพราะเกาะก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก สกิวการเข้ากับคนของเธอก็มีต่ำเรี่ยดิน
ระหว่างเดินทางกลับจากไปสอบเทอมสุดท้าย เรือที่โดยสารกลับเกาะถูกฟ้าผ่า ใช่ค่ะฟังไม่ผิดถูกฝ้าผ่ากลางทะเลโอกาสมีเท่าไหร่กัน ทำไมเธอซวยได้ขนาดนี้รู้ตัวอีกทีก็มานอนเกยตื้นอยู่ที่ชายหาด
อ่านกันก่อนซักนิดก่อนเข้าเนื้อเรื่อง
นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของไรท์เอง ไม่ได้อ้างอิงตัวละครใดๆ อาจมีบางเหตุการณ์ไม่สาเหตุสมผลในบางช่วงบางตอน ไม่ได้อ้างอิงประวัติศาสตร์จีนใดๆ ทั้งสิ้นฝากนักอ่านที่น่ารักทุกท่านเม้นอย่างสุภาพ ไรท์ยินดีน้อมรับฟังทุกคำติดชม แต่อย่ารุนแรงกับหัวใจจนเกินไปหากไม่ถูกจริตแนะนำกดออกก่อนนะคะ
เนื้อหาบางช่วงบางตอนอาจมีการอ้างอิงหรือพูดถึงผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและผู้ป่วยทางสมอง ไรท์ไม่ได้มีเจตนาทำให้ผู้ป่วยรู้สึกจิตตกหรือคิดมากแต่อย่างใด เป็นเพียงบริบทหนึ่งในเนื้อหาเท่านั้น หากในบทใดมีเนื้อหาที่กระทบกระเทือนใจและอ่อนไหว ไรท์จะติด ⚠️ Trigger Warnin เอาไว้นะคะ นักอ่านสามารถกดข้ามผ่านบทนั้นไปได้เลย
เลือกสามีผิดคิดจนตัวตาย!เป็นเช่นไรรู้ก็เมื่อสายไปเสียแล้ว ลูกต้องตายจาก พ่อแม่พี่ชายพลัดพราก ด้วยหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมือง ช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ เว้นแต่นาง เว้นแต่ครอบครัวของนาง
โปรยปราย ผู้คนเกลียดชังข้า แต่กลับมิมีผู้ใดรู้เบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วข้าต้องโหดร้ายเช่นนี้เป็นเพราะผู้ใด แทงมีดใส่อกคนรักของข้า สังหารตระกูลข้าจนสิ้นแม้แต่เด็กทารกก็มิเว้น ข้าต้องยืนยิ้มแล้วเอ่ยว่า ไม่เป็นไร ข้าให้อภัย นั่นคงมีเพียงพระโพธิสัตว์เสียแล้วมิใช่ข้าคนนี้ คนที่พวกเจ้าหวาดกลัวยิ่งกว่าภูตผี
นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้
นางเกิดมาขาพิการแต่หาได้ไร้ใจไม่ มีเพียงคนผู้นั้นที่ไร้หัวใจยิ่งกว่านาง เขามาหลอกให้นางหลงรักแล้วถอนหมั้นอย่างเลือดเย็น หลังนางตายจากไปแล้วยังใช้ความเห็นอกเห็นใจของพี่ชายนางเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว โชคดีสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กลับมาครานี้ ในเมื่อพวกมันรักกันมากนัก ก็เชิญรักกันไปได้เลย ชายชั่วเช่นนี้คิดจนตัวตายก็ไม่เอามาเป็นสามีเด็ดขาด!
ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY