U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
• ACTION •
คฤหาสน์มาเฟีย...
แง~ แง~
เสียงเด็กน้อยวัยสามเดือนร้องงอแงอยู่ไม่หยุด ไม่มีใครทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไรถึงทำให้เขาร้องไห้จนหน้าแดงเช่นนี้ และสิ่งที่ไม่รู้เหตุผลนี้ก็ยิ่งทำคนเป็นย่าใจจะขาด
“โอ๋ๆ ~ ไม่ร้องนะคะคนเก่งของย่า ...หยุดร้องเถอะลูก ย่าใจจะขาดอยู่แล้ว”
คุณหญิง ‘ภาดา’ นายหญิงใหญ่ของบ้านอุ้มหลานชายขึ้นมาปลอบขวัญให้เสียงร้องงอแงนั้นหยุดลง และใกล้ๆ กันนั้นก็มี ‘ศิธา’ ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอยืนมองดูการกระทำของผู้เป็นแม่อยู่ ซึ่งเขาก็เป็นพ่อของ ‘ศรันย์’ หนุ่มน้อยวัยสามเดือนนี้ พ่อที่เพิ่งรู้ก่อนหน้าสามเดือนว่าตนมีลูกน้อย
“แม่ครับ ผมไปทำงานก่อนนะ” เสียงเข้มของคนนิ่งขรึมพูดบอกกับแม่ของตน แต่ยังไม่ทันจะเดินออกจากบ้าน ผู้เป็นแม่ก็อุ้มเด็กน้อยเดินเข้ามาขวางหน้าเขาไว้ก่อน
“เดี๋ยวตาศิธา ช่วยแม่ปลอบตาหนูหน่อยสิ ร้องงอแงตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่หยุดเลย” เธอพูดบอกลูกชายสีหน้าเป็นกังวลเพราะเป็นห่วงหลานชาย และการที่เด็กน้อยร้องอย่างไม่มีสาเหตุแบบนี้ก็ทำให้เธอจิตตกตามไปด้วย
“จะให้ผมปลอบเด็กเหรอครับ ผมเนี่ยนะ?”
“ใช่ แกเป็นพ่อตาศรันย์นะ โอ๋ลูกหน่อยสิ” พูดจบเธอก็พยายามยัดเยียดให้ลูกชายอุ้มเด็กน้อยที่เกิดจากอสุจิของเขาแต่ไม่ใช่ความรัก
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ลูกของแก’ ทีไร ศิธาเป็นต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อยใจกับแม่ของตน เพราะเขาไม่เคยเต็มใจที่จะมีลูกชายคนนี้เลย หากแต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแผนการของคุณหญิงภาดาทั้งหมด
“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม?” เขาทำเสียงแข็งท่าทางไม่อ่อนโยนใส่หนุ่มน้อยร่างเล็กจิ๋วที่อุ้มอยู่ ทว่าหนูน้อยกลับเงียบเสียงงอแงลง และเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นท่าทางดุๆ ของศิธา ความเกรี้ยวกราดที่เหมือนกับยักนั้นทำหนูน้อยระบายยิ้มออกมาทีละนิด จนเห็นเหงือกสีชมพูที่อยู่ด้านในโพรงปากเล็กจิ๋ว
“เงียบแล้วเห็นไหม หลานย่าเก่งที่สุด~”
“งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ” เขาทำท่าจะคืนหนุ่มน้อยให้กับผู้เป็นแม่ แต่เธอก็รีบพูดหยุดลูกชายไว้
“เดี๋ยวก่อนสิ อยู่เล่นกับลูกแกก่อนไม่ได้หรือไง ไปช้าสักวันลูกน้องแกคงไม่ประท้วงไล่แกออกจากบริษัทหรอก”
“เด็กนี่ไม่ใช่ลูกของผมครับ แม่หลอกให้ผมไปรีดน้ำเชื้อ พอผ่านไปเก้าเดือนก็พาเด็กนี่เข้ามาที่บ้าน แล้วก็พูดกรอกหูผมทุกวันว่าเด็กนี่เป็นลูกของผม...”
เขาพูดความอัดอั้นนั้นออกมา เพราะเขารับไม่ได้ที่จู่ๆ ผู้เป็นแม่จะยัดเยียดเด็กคนนี้ว่าเป็นลูกของตน หลังจากที่หลอกให้ตนไปฝากไข่แต่กลับได้มาเป็นตัว และเขาก็ไม่เคยรู้เลยว่าเด็กคนนี้เกิดจากหญิงสาวคนไหนที่ให้กำเนิด
“แต่ยังไงเขาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของแกนะ แกก็ให้ความรักกับเขาหน่อยสิ” ถึงจะรู้ว่าตัวเองทำไม่ถูกที่แอบทำเรื่องอุ้มบุญหลานชายแบบลับๆ หลอกให้ลูกชายอย่างศิธาเซ็นเอกสารมากมาย แต่เธอก็อยากให้ผู้เป็นพ่อให้ความรักกับเด็กน้อยบ้าง เพราะหวังจะให้หลานชายเติบโตมาด้วยความรักและความอบอุ่นที่ครอบครัวมอบให้
“แม่เป็นคนอยากมีหลาน ก็ให้ความรักเองแล้วกันนะครับ วันนี้ผมมีประชุม ขอตัวไปทำงานก่อน” ร่างเล็กจิ๋วถูกส่งคืนให้กับคุณหญิงภาดาผู้เป็นย่า ก่อนที่คำพูดทิ่มแทงใจดำจะหลุดออกจากปากของผู้เป็นแม่
“เพราะแกบ้างานแบบนี้ไง แฟนแกถึงได้ทิ้งไป”
“…”
เธอพูดจี้ใจดำลูกชายจบ ก็หอบหลานชายขึ้นชั้นสองของบ้านไป เพราะหงุดหงิดกับลูกชายแสนใจดำของเธอที่ไม่มีหัวใจรักใครไม่เป็น แม้กระทั่งลูกแท้ๆ ที่เธอเป็นคนจัดสรรมาให้
บนรถ ระหว่างเดินทางไปทำงาน...
คำพูดจี้ใจนั้นทำให้ศิธาหวนคิดถึงใครบางคนที่จากเขาไปเมื่อสองปีก่อน คนที่ทำให้เขาไม่สามารถเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับใครได้อีก เพราะยังติดอยู่กับเธอคนนั้น
“ได้ข่าวเธอหรือยัง?” เสียงเข้มของผู้เป็นนายเอ่ยถามกับ ‘ทีม’ ลูกน้องคนสนิทถึงเรื่องที่เขาสั่งให้ตามสืบ
“ยังไม่ได้ข่าวอะไรเลยครับนาย ผมพึ่งให้เพื่อนช่วยตามสืบ ถ้าได้เรื่องยังไงจะบอกทันทีเลยนะครับ”
“...อือ”
ภายใต้ใบหน้านิ่งขรึมนั้นแฝงไปด้วยความรู้สึกมากมาย แม้เขาไม่เคยแสดงออกหรือพูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีลึกๆ แต่แววตาโดดเดี่ยวที่เต็มไปด้วยความคิดถึงใครบางคนก็ปิดไว้ไม่อยู่...
เพนท์เฮ้าส์หรูใจกลางเมือง...
‘ธัญ ธัญญาดา’ สาวร่างเล็กนั่งปั๊มนมอยู่ที่กลางห้องนั่งเล่นสุดหรู สถานที่ที่เธอใช้อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว และจะจากไปหลังจากงานสิ้นสุดลง ซึ่งก็อีกไม่นานนี้...
“ธัญต้องปั๊มนมอีกกี่ถุงคะพี่ว่าน?”
“อีกห้าถุงค่ะ” เสียงของ ‘ว่าน’ สาวหน้านิ่งเจ้าระเบียบ เอเจนซี่และผู้ช่วยส่วนตัวของธัญ พูดตอบถึงสิ่งที่เธอต้องทำอยู่เป็นประจำทุกวัน
“เฮ้อ~”
เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายกับหน้าที่ที่ต้องทำซ้ำเดิมทุกวันตลอดสามเดือนที่ผ่านมา คือลุกขึ้นมาปั๊มนมวันละหลายๆ ถุงเพื่อส่งมอบให้กับลูกชายที่เธอถูกว่าจ้างจากคนรวยให้อุ้มบุญ
เต้าอวบทั้งสองข้างของเธอถูกปั๊มนมนานถึงยี่สิบนาที และหยุดพักสิบนาที เพื่อทำสิ่งนั้นต่อไปจนกว่านมจะเกลี้ยงเต้า ราวกับเธอเป็นเครื่องจักรผลิตนม
ซึ่งตั้งแต่ที่คลอดลูกออกมา เธอไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้าของเด็กน้อยที่เธออุ้มท้องมาถึงเก้าเดือนเลย และก็ไม่รู้ว่าใครคือผู้ว่าจ้าง รู้เพียงแค่เธอจะได้เงินมากถึงสิบล้านในการอุ้มบุญครั้งนี้ ซึ่งเป็นราคาที่มากกว่าราคาทั่วไปที่เขาจ้างอุ้มบุญกัน
เพราะผู้ว่าจ้างต้องการแม่พันธุ์ที่ดีที่สุด ตรงตามที่วางไว้ทั้งรูปร่าง หน้าตา สีผิว พื้นฐานความรู้ รวมถึงประวัติคู่นอนต้องเคยผ่านผู้ชายไม่เกินหนึ่งคน และจากผู้หญิงที่เข้ามาสมัครเป็นสิบๆ คน เธอเป็นคนเดียวที่ผ่านการคัดเลือก และถูกตาต้องใจผู้ว่าจ้างมากที่สุด
เงินมากมายที่เธอนั่งนับวันรอจะได้รับ ชีวิตอิสระที่เธอต้องการจะได้ใช้ หลังจากที่จบงานนี้เธอก็จะย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ต่างประเทศลำพัง
“ถึงเวลาอาหารว่างแล้ว เดี๋ยวฉันมานะคะ”
“อาหารว่างมื้อนี้เป็นอะไรเหรอคะ?”
“ฟักทองนึ่งค่ะ”
“เอ่อ..ขอเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหมคะ ธัญเบื่อฟักทองนึ่งแล้ว”
“งั้นเป็นผลไม้รวมแล้วกันนะคะ”
“ได้ค่ะ” สาวผิวขาวแก้มป่องพูดบอกกับผู้ช่วยของเธอ คนที่อยู่กับเธอตั้งแต่วันแรกก่อนตั้งท้องจนถึงตอนนี้
เธอจะได้รับอาหารที่ครบห้าหมู่อยู่เสมอในทุกวัน อาหารที่มีประโยชน์ที่สุด น้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัยที่สุด วิตามินบำรุงราคาแพง และอีกมากมายที่เธอได้รับและต้องกินของพวกนั้นทุกวัน ทำสิ่งนั้นเป็นประจำซ้ำๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด เช่นนมจากเต้าที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อเด็กน้อย
และทุกอย่างนี้เป็นการดูแลจากผู้ว่าจ้างของเธอทั้งหมด จนกว่าสัญญาจ้างจะสิ้นสุดลง เมื่อนั้นเธอจะได้รับเงินส่วนที่เหลือและได้มีชีวิตอิสระอย่างที่ต้องการ
“ธัญต้องอยู่ที่นี่อีกแค่อาทิตย์เดียวใช่ไหมคะ?”
“ประมาณนั้นค่ะ” ผู้ช่วยเจ้าระเบียบพูดตอบน้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนทุกครั้ง แม้จะอยู่ด้วยกันนานนับปีแต่ทั้งคู่ก็ดูเหมือนคนที่ไม่สนิทกัน
เมื่อได้ยินคำยืนยันนั้น ธัญก็มองภาพในจอมือถือที่ปรากฏให้เห็นรูปบ้านที่เธอจะย้ายเข้าไปอยู่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า บ้านหลังใหม่ที่อยู่ประเทศเกาหลี เส้นทางใหม่ของชีวิต...
“อีกแค่อาทิตย์เดียว...”
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
S2.2 ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจับเธอทำเมียอีกคน ถือว่าฉันเตือนเธอแล้วนะแสนดี!...
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’
ในเมื่อหล่อนกล้าดีทำลายชีวิตของเขาให้หมดความสงบสุข... เขาก็ต้องเอาคืนจากหล่อนทั้งตัว... และหัวใจ ............................................................................................. นาถลดายอมลงทุนหาว่า เควิน คลากสันปลุกปล้ำเพื่อแบล็กเมล์จนได้แต่งงานกับเขา หากแต่คืนวันเข้าหอ หล่อนกลับขอทำสัญญาวิวาห์ปลอมๆ และไม่ยอมให้เขาแตะต้องและขอร้องให้เขายอมตกลง... หล่อนหาได้รู้ไม่ว่าเสือร้ายที่ถูกต้อนให้จนมุมเพราะถูกแบล็กเมล์อย่างเขากำลังได้ทีแก้แค้นหล่อน... อะไรที่หล่อนไม่ต้องการ มันคือสิ่งที่เขาต้องทำ... เพราะเขารอคอยวันที่เขาจะได้เอาคืนผู้หญิงใจร้ายที่ทำตัวดีน่าตายใจแล้วฉุดเขาลงนรก เควินสาบานว่า... ชาตินี้ทั้งชาติ ถ้ายังมีลมหายใจ หล่อนไม่มีวันพ้นเงื้อมมือเขาแน่
ทั้งเมืองรู้กันดีว่า หลังจากที่ลู่ซิงหลานถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวปลอม เธอก็ถูกสามีขับไล่ออกจากชีวิต พ่อแม่ก็ทอดทิ้ง พี่ชายก็รังเกียจ ครอบครัวของสามีตัดสินใจไล่เธอออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด แต่ใครจะคิดว่าเธอกลับไปพึ่งพา ลี่จิ่งเหยียน ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแทนในทันที ขณะที่ทุกคนรอให้ลี่จิ่งเหยียนถีบลู่ซิงหลานออกไปนั้น ลู่ซิงหลานก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอย่างใจเย็น มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือบรรดาผู้ทรงอิทธิพลต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอเป็นแถว สามีเก่าที่เป็นคนไม่ดีอยากกลับมาง้อขอคืนดี ลู่ซิงหลานก็จัดการเขาทิ้งทันที และกลับยิ้มให้สามีใหม่แล้วพูดว่า "ที่รัก คุณสามารถพึ่งพาฉันได้นะ" ใครจะคิดว่าลี่จิ่งเหยียนเองก็เป็น ผู้ทรงอิทธิพลไม่เบา พร้อมยิ้มแย้ม "แต่ที่รัก ผมอยากครองใจคุณมากกว่า" องค์กรระหว่างประเทศเพิ่งเผชิญกับสามเหตุการณ์สำคัญ หนึ่งคือการที่ลู่ซิงหลานหย่าร้าง สองคือการที่ลี่จิ่งเหยียนแต่งงาน และสามคือคู่รักที่มีตัวตนลับมากมายที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกลวง ทั้งสองสมคบคิด ทำอะไรไม่ดี
แม่บ้านอย่างฉัน.. มีสามีก็เหมือนไม่มี.. เพราะเขาเป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ.. ปล่อยให้ฉันอารมณ์ค้างตลอด.. จนฉันเริ่มจะทนไม่ไหว... แต่แล้ว.. เราทั้งสองก็ค้นพบทางออกอย่างไม่คาดฝัน..
© 2018-now MeghaBook
บนสุด