S2.2 ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจับเธอทำเมียอีกคน ถือว่าฉันเตือนเธอแล้วนะแสนดี!...
S2.2 ถ้าเธอไม่หยุด ฉันจะจับเธอทำเมียอีกคน ถือว่าฉันเตือนเธอแล้วนะแสนดี!...
"ทำความเข้าใจก่อนอ่าน"
S1อาหมอ S2.2คุณหมอสองรัก (NEW!)
การอ่านที่ควรเพื่อไม่ให้งง มี2แบบ ดั่งนี้.
เริ่มอ่าน s1อาหมอ ต่อด้วย s2.1 บำบัดรักแฟนเพื่อน (ตอบจบเก่า)
เริ่มอ่าน s1อาหมอ ต่อด้วย s2.2 คุณหมอสองรัก (ตอนจบใหม่)
ปล.ใครยังไม่เคยอ่านเรื่องแรก สามารถเริ่มอ่านเรื่องใหม่ 'คุณหมอสองรัก' ได้เลยนะครับ เดี๋ยวไรท์จะลำดับเหตุการณ์คร่าวๆของS1ไว้ให้ เพื่อใครอยากเริ่มอ่านที่เรื่องนี้เลย
S1.ญะญ๋าและหมอปืนทั้งคู่เป็นอาหลาน (เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของพ่อ) ญ๋ามาอาศัยอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของหมอปืนและทำงานที่เดียวกันจึงเกิดความรักขึ้น ญะญ๋าป่วยเป็นแพนิคและซึมเศร้า มีเรื่องฝังใจมากมาย เช่น ความเครียดในวัยเด็ก เธอมีเพื่อนคนเดียวคือแสนดีเพราะหลายคนไม่ชอบที่เธออ่อนแอและความกดดันจากการเรียนแพทย์ (ญ๋าเรียนไม่เก่ง หัวไม่ดีแต่ก็พยายามถึงที่สุดเพื่อจะเป็นหมอ) บุกคลิกของเธอที่เป็นสาวหวานน่ารักไร้เดียงสา ท่าทางของเธอไม่ถูกใจเพื่อนร่วมงานจนถูกเอาไปนินทาในกลุ่มลับว่าเธอเป็นพวกแอ๊บใส ซึ่งต่อหน้าทุกคนทำเป็นพูดดีด้วยแต่ลับหลังพูดถึงเธอเสียๆ หายๆ ถึงอาการป่วยที่เธอเป็น (ว่าเป็นโรคอ่อยผู้ชายยอดฮิต) แต่เธอกลับมองว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่น่ารักกลุ่มหนึ่งซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เหตุการณ์ฝั่งใจที่ทำให้อาการเธอแย่ขั้นสุด คือเธอไม่สามารถรักษาคนไข้ต่อได้เพราะอาการแพนิคกำเริบจนทำคนไข้เสียชีวิตคาเตียงผ่าตัด เรื่องที่ต้องปิดบังพ่อแม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ของเธอกับหมอปืน และเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้คนอ่อนแออย่างญะญ๋าตัดสินใจฆ่าตัวตาย (ในตอนจบของเรื่อง s1อาหมอ) จนเป็นที่มาให้หมอปืนคนรักของเธอเสียสติ
ตอนจบใหม่ NEW! [คุณหมอสองรักเขียนต่อจากตอนจบของเรื่องอาหมอ เพื่อแก้ตอนจบใหม่ที่ไม่เศร้า คืนชีวิตให้กับญะญ๋า]
...หากวันนั้นหมอปืนและแสนดีช่วยญะญ๋าไว้ทัน หากญะญ๋าไม่จากไปเส้นทางความรักที่เหลือจะจบอย่างไร?...
ไปเริ่มกันเลย!!
• ACTION •
สวนชั้นลอย…
“ถ้าทิ้งทุกอย่างลงไปจะดีไหมนะ?”
เธอพูดถามกับตัวเองเมื่อมองไปยังเบื้องล่างที่เป็นพื้นถนน เรื่องกดดันและความเศร้าที่เธอเจอนำพาให้เธอปีนขึ้นไปนั่งอยู่บนขอบกำแพงของชั้นลอย และห้อยขาลงไปด้านล่างอย่างน่าหวาดเสียว ดวงใจที่แสนอ่อนแอและบอบช้ำเริ่มคิดหาวิธีหยุดเรื่องในหัวด้วยการทิ้งทุกสิ่งลงไปด้านล่าง รวมถึงตัวของเธอด้วยเช่นกัน
“ญ๋า!”
“ญ๋า!”
เสียงของหมอปืนและแสนดีตะโกนเรียกญะญ๋าขึ้นพร้อมกัน เมื่อเขาเห็นภาพที่เธอกำลังนั่งอยู่ในที่ไม่ปลอดภัยเช่นนั้น ใจแข็งแกร่งเริ่มสั่นไหว
“ญ๋าครับ ทำไมไปนั่งอยู่ตรงนั้น ลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” หมอปืนพูดเสียงสั่นและค่อยๆ เดินเข้าไปหาเธอช้าๆ เพื่อไม่ให้เธอแตกตื่นจนทำเรื่องที่เขากลัว
“ญ๋าเหนื่อยค่ะอา ในหัวของญ๋ามันคิดถึงแต่เรื่องแย่ๆ ญ๋าหยุดมันไม่ได้ ฮือ~” เธอพูดระบายถึงสิ่งที่ทำให้เธอเป็นทุกข์อยู่ในเวลานี้ เสียงร้องไห้โหยหวนของเธอทำคนที่ได้ยินเกิดร้องตาม
“ญ๋า ฮึก” แสนดีร้องไห้ตามเมื่อเห็นว่าญะญ๋าดูเริ่มจะถอดใจและทำเรื่องสิ้นคิดที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้น
“ถ้างั้นเดี๋ยวอาพาไปหาหมอ เรายังมีทางรักษานะ ญ๋าลงมาหาอาก่อนนะครับเด็กดี ลงมานะ”
“หาหมอเหรอคะ หาหมอแล้วจะมีอะไรดีขึ้นเหรอคะ ญ๋าจะลืมเรื่องที่ตัวเองฆ่าคนไข้ได้ไหม หรือจะลืมเรื่องที่คนพวกนั้นพูดถึงญ๋าไม่ดีได้ ฮือ ญ๋าอยากลืมทุกอย่างค่ะอา~”
เธอกำลังคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันหนักหนามากสำหรับเธอ มันเกินกว่าที่คนอ่อนแออย่างเธอจะรับไหว ซึ่งอาการป่วยจิตที่เธอเป็นมันไม่เพียงทำร้ายแค่เธอ แต่ยังทำร้ายจิตใจคนรอบข้างไปด้วย ที่ต้องเห็นว่าเธอมีสภาพน่าเวทนาเช่นนี้ และเธอก็กลัวว่าพวกเขา คนที่เธอรักจะต้องตกมาอยู่ในสภาพเดียวกันกับเธอเข้าสักวัน หากเป็นเช่นนั้นเธอคงทนเห็นไม่ได้ และการไม่รับรู้อะไรก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่เธอคิดออก
“ญ๋า แกอย่าทิ้งฉันนะ ฉันมาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะแก ห้ามทิ้งฉันนะ ฮึก” แสนดีพูดขึ้นเพื่อหยุดเรื่องไม่ดีที่ญะญ๋ากำลังคิดจะทำกับตัวเอง “ฮือ ฉันจะหาทางรักษาแกให้ได้ฉันสัญญาลงมาเถอะนะ”
“อย่าเสียเวลาเพราะฉันเลยแสนดี แกควรได้ทำอะไรที่แกชอบและอยากทำจริงๆ นะ ไม่ใช่เอาแต่ทำเพื่อฉันแบบนี้”
ญะญ๋ารับรู้มาตลอดถึงความรักที่แสนดีมอบให้ และมันก็ยิ่งทำให้เธอเจ็บปวด ที่เธอไม่สามารถตอบแทนความรักที่แสนดีให้ได้มากเท่ากับที่เธอได้รับมา
“นี่แหละที่ฉันชอบ ฉันชอบแก ไม่ใช่แบบเพื่อนญะญ๋า แกเป็นความสุขของฉันนะ”
เธอพูดทุกสิ่งที่คิด เพราะเชื่อว่าต้องมีสักคำพูดที่หยุดญะญ๋าไว้ได้…
“ญ๋าครับ ลงมาคุยกันข้างล่างดีกว่านะครับ” หมอปืนและแสนดีเริ่มเดินเข้าไปใกล้เป้าหมายมากขึ้น และเขาสองคนก็คิดที่จะหยุดเธอไว้ให้ได้ แต่เหมือนว่ายิ่งใกล้เธอมากเท่าไหร่สีหน้าของญะญ๋ายิ่งดูเลื่อนลอยมากเท่านั้น
“อารักญ๋านะครับ” เขาพูดคำบอกรักออกไปด้วยความจริงใจ เพราะคิดว่าจะหยุดทุกการกระทำของเธอไว้ได้
“ญ๋าก็...”
หมับ!
ร่างของญะญ๋าถูกคว้าลงมาจากขอบกำแพงของชั้นลอย ลงสู่พื้นของดาดฟ้าชั้นลอยได้สำเร็จด้วยมือของทั้งสองคนที่เธอรักช่วยชีวิตเธอไว้...
“ฮือ ปล่อยญ๋านะ ปล่อยญ๋า!~”
“ไม่ทำแบบนี้นะครับ ฮือ~” หมอปืนกอดร่างของคนอ่อนแอไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอดิ้นหลุด แล้วทำเรื่องน่าเศร้าที่เขากลัว
“ฮือ ญ๋า~”
“ญ๋าไม่อยากอยู่แล้ว ญ๋าสมควรตาย”
“ไม่นะญ๋า อย่าพูดแบบนั้นสิครับ”
“ฉันรักแกนะญ๋า แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เป็นความสุข เป็นทุกอย่างของฉัน แกมีความหมายกับฉันนะ ฮึก” แสนดีบีบมือญะญ๋าไว้แน่นและพูดให้เธอได้รับรู้ว่าเธอควรได้รับความสุขมากกว่าถอดใจและจบชีวิตของตัวเองไปเช่นนี้
“แสนดี~ ฉันฆ่าคนตาย ฉันมันโง่ มีแต่คนเกลียดฉัน ทำไมแกถึงมาเสียเวลาคบกับฉัน ฮือ~ ฉันมันไม่ดี”
เธอน้อยใจตัวเองอยู่ตลอดที่ไม่เก่งเทียบเท่าคนอื่น เป็นจุดด้อยจุดด่างและหนำซ้ำยังทำผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง จนอดคิดโทษตัวเองไม่ได้ว่าเป็นคนไม่เอาไหน
ปุก ปุก!
“ไม่มีใครในโลกนี้สมบูรณ์แบบหรอก ฉันเองก็เหมือนกันญ๋า แกเก่งเรื่องสร้างความสุขให้คนอื่นแต่ฉันไม่ แกยิ้มเก่งแต่ว่าฉันไม่ แกน่ารักมากๆ แต่ว่าฉันไม่ ฮึก เห็นไหมว่าแกเก่งกว่าฉันตั้งเยอะ”
แสนดีพยายามพูดเรื่องเล็กน้อยที่เธอมองข้ามในความเก่งของตัวเอง มีหลายอย่างที่ญะญ๋าเก่งและทำได้ แต่เธอกลับเอาข้อด้อยของตัวเองมาเทียบกับความเก่งของคนอื่น นั่นเลยทำให้เธอยิ่งรู้สึกไร้ค่า
“ใช่ครับ ญ๋าเป็นคนเก่ง เรื่องแค่นี้ญ๋าผ่านมันไปได้แน่ เราจะรักษาญ๋าให้หายจากโรคนี้ ญ๋าอย่าเพิ่งถอดใจนะครับ”
“แล้วชีวิตของคนไข้ที่ญ๋าฆ่าเขาล่ะ ญ๋าจะเอาชีวิตเขาคืนมาได้ยังไง ฮือ!~”
ปุก ปุก!
คนอ่อนแอใช้กำปั้นทำร้ายร่างกายของตัวเอง เธอพยายามลงโทษในความผิดที่เธอทำนั้น เพราะคิดว่าตัวเองสมควรได้รับมัน
“ญ๋าครับ ญ๋า~” หมอปืนพยายามเรียกหยุดการกระทำของเธอไว้ ทั้งสองคนพาเธอออกมาจากจุดนั้นเพื่อไปยังที่ปลอดภัย และทำให้เรื่องในหัวของเธอเบาบางลงด้วยการใช้ยาเพื่อให้เธอได้หลับพักผ่อนไม่คิดถึงเรื่องที่ทำให้เธอเจ็บปวดใจ
ห้องพักพยาบาล ช่วงสาย...
หลังจากที่แสนดีและหมอปืนส่งญะญ๋าให้ถึงมือหมอ แสนดีก็แยกตัวออกมาเพื่อจัดการสิ่งที่คาใจและปล่อยให้หมอปืนอยู่เฝ้าญะญ๋าในห้องพักฟื้นผู้ป่วย
“มึงเป็นคนเอาเรื่องที่พวกกูคุยกันในแชทไปบอกอีแสนดีใช่ไหม?”
“ก็พวกพี่ทำไม่ถูก หนูก็แค่...”
“เสือกจริงๆ เลยนะมึง!” หนึ่งในสามคนง้างมือใส่พยาบาลเด็กใหม่แต่ก็ยังไม่ทันลงมือ แสนดีก็เดินเข้ามาในห้องซะก่อน
เธอจ้องตาเขียวล็อคเป้าหมายทั้งสามคน พยาบาลในกลุ่มลับนั้นที่มีส่วนทำให้อาการป่วยของญะญ๋าแย่จนเธอคิดฆ่าตัวตาย
ผัวะ!
“อ๊าย! อีแสนดี มึงเป็นบ้าเหรอ!?”
“เออ! กูมันบ้า!” ผัวะ! ผัวะ!
เธอขว้างหมัดใส่ปากของสาวพยาบาลหนึ่งในคนที่ปากดีที่สุดในแชทเต็มแรงและเป็นคนเดียวกันกับที่กดดันญะญ๋าในห้องผ่าตัด ก่อนจะลุกขึ้นมาจัดการกับอีกสองคนอย่างคนคลั่ง เพื่อล้างแค้นให้กับคนอ่อนแอที่เธอรัก
“อ๊าย!”
“อีบ้า! หยุดนะ!”
พยาบาลเด็กใหม่พยายามที่จะเข้าไปห้ามทั้งสี่คน แต่ก็กลายเป็นว่าเธอต้องเข้าไปอยู่ในวงชุลมุนนั้นด้วย ก่อนที่เสียงโวยวายจะเรียกให้มีคนเข้ามาแยกพวกเธอออกจากกัน
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
4Pเหล่ามาเฟียทั้งสามมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงในการรับเธอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด