นลินถูกบังคับให้ขายตัวโดยที่พ่อกับแม่ของนลินวางยาสลบนลินแล้วส่งเธอขึ้นเตียงโดยที่เธอไม่ยินยอมเพื่อแลกกับเงินมูลค่าห้าล้านบาท เพราะพี่สาวป่วยหนักเป็นโรคหัวใจขั้นร้ายแรงและเป็นธาลัสซีเมียเลยต้องใช้เงินรักษาด่วน
นลินถูกบังคับให้ขายตัวโดยที่พ่อกับแม่ของนลินวางยาสลบนลินแล้วส่งเธอขึ้นเตียงโดยที่เธอไม่ยินยอมเพื่อแลกกับเงินมูลค่าห้าล้านบาท เพราะพี่สาวป่วยหนักเป็นโรคหัวใจขั้นร้ายแรงและเป็นธาลัสซีเมียเลยต้องใช้เงินรักษาด่วน
ความรู้สึกที่ราวกับถูกฉีกกระชากทำให้หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเธอถูกชายหนุ่มพรากความบริสุทธิ์ของตนเองไปด้วยความดิบเถื่อน
“ เจ็บมั้ย”
ในความมืดกึ่งสว่างชายหนุ่มร่างกายกำยำถามเธอออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น แต่เธอกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นในคำถาม
“ เจ็บ ฉันเจ็บมาก”
ร่างกายไม่เคยผ่านมือชายใดถูกเขาย่ำยีเสียจนแหลกสลาย ถูกเขาเด็ดดอมด้วยความหยาบคาย ไม่มีความทะนุถนอมใดๆทั้งสิ้น
“ ในเมื่อรู้ว่าเจ็บแต่ทำไมถึงยังมาขายให้ฉัน ยัยโง่ ฉันรังเกียจผู้หญิงอย่างเธอที่สุด”
เมื่อถูกฤทธิ์ยาควบคุมก้องภพกลับไม่ได้สนใจใยดีเธอเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อเธอเลือกที่จะเป็นบ่อนรองรับให้เขาเองก็แล้วทำไมเขาจะต้องสงสารเธอด้วยละ?
“ ฉันมีทางเลือกได้หรือไง”
หยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่ใสบริสุทธิ์ ใบหน้าที่งดงามบริสุทธิ์เหมือนดอกกุหลาบที่ถูกเขาย่ำยีศักดิ์ศรีทำให้ชายหนุ่มรู้สึกบ้าคลั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความยั่วยวนที่เป็นธรรมชาติทำให้เขารู้สึกถูกใจเล็กน้อย
“ ทุกคนมีทางเลือกของตัวเองเสมอ แต่เธอกลับยอมรับชะตากรรมไม่แม้แต่จะลุกขึ้นสู้ คนอย่างเธอไม่คู่ควรที่จะได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่น”
“ นั่นสิ มีใครบ้างที่อยากจะช่วยคนที่ขึ้นชื่อว่าตัวซวยอย่างฉัน”
“ พูดมาก เธอคิดว่าคำพูดพวกนี้จะทำให้ฉันรู้สึกสงสารหรือไง เพราะฉันรู้สึกสมเพชเธอมากกว่า”
กลิ่นหอมฟุ้งที่ออกมาจากร่างกายของเธอมากขึ้นอีกสี่ส่วนจนทำให้ชายหนุ่มแปลกใจและเหมือนถูกกระตุ้น แต่กลิ่นหอมนี้กลับทำให้เขารู้สึกอยากดอมดมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ชายหนุ่มมองสายฝนที่ด้านนอกในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่ากลิ่นตัวของเธอเหมือนกลิ่นของสายฝน ที่ให้ความสดชื่นของไอเย็นและความสงบสะอาดจากการชำระล้างทำให้ร่างกายของเธอบริสุทธิ์มากขึ้น
นลินหญิงสาวอาภัพที่อยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มร้องไห้ทั้งน้ำตาเมื่อนึกถึงเรื่องราวของตัวเองที่ทำให้เธอมาถึงจุดนี้ได้
บ้านมณีเปรม
น้ำเสียงผู้หญิงล่วงเลยวัยกลางคนพูดขึ้น“ บ้านก็จะถูกยึด ค่ารักษาพยาบาลก็ไม่มี ฉันแทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว”
บรรยากาศในบ้านบนโต๊ะอาหารขนาดกลางเต็มไปด้วยความอึดอัด เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกสาวคนโตที่มากถึงห้าล้านบาท
ทุกคนที่อยู่รอบโต๊ะอาหารทรงกลมไม่เล็กไม่ใหญ่ต่างมองดูหญิงสาววัยเยาว์แฝดน้องคนเล็กที่ชื่อนลิน ด้วยสายตาเบื่อหน่ายและรำคาญใจ
นลินเธอมีใบหน้าสวยและน่ารัก แต่ทว่าดวงตาคมดุหางตาเฉี่ยวขึ้นทำให้ดวงตาของเธอดูเจ้าเล่ห์งดงามอย่างไม่มีที่ติ
นลินเข้าใจได้ในทันทีว่าทุกคนในบ้านต้องการอะไรจากเธอ เพราะทุกครั้งก็เป็นแบบนี้มาตลอด
หลังจากที่บริษัทของคุณพ่อล้มละลายเพราะติดการพนันจนทำให้คุณพ่อเส้นเลือดในสมองแตก ถึงแม้ว่าจะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้อีก
การล้มละลายครั้งนี้ทำให้ตระกูลมณีเปรมกลายเป็นตัวตลกของเมืองหลวงเมอล่าประเทศซีโมน
ส่วนริสาคุณแม่ของเธอหลังจากแต่งงานก็ไม่ได้ทำงานและดูแลภายในบ้านแทน แล้วตอนนี้แม่ของเธอก็ติดการพนันไม่ต่างจากประสิทธิ์คุณพ่อของเธอ
นลินมองมือตัวเองที่ทั้งหยาบกร้านและมีแผลที่เกิดจากการทำงาน ในใจก็อยากจะร้องไห้ เมื่อนึกถึงความเหนื่อยล้าแทบขาดใจกว่าจะผ่านมาได้ในแต่ละวัน
“ หนูจะพยายามรับงานให้มากขึ้นค่ะ พี่สาวไม่ต้องกลัวนะคะ หนูจะไม่ยอมปล่อยให้พี่สาวเป็นอะไรอย่างแน่นอน หนูสัญญาค่ะ”
“ พี่เชื่อ นลินจะต้องทำได้อย่างแน่นอน”
ใบหน้าที่ซีดเซียวของนรายิ้มให้กับคำพูดของน้องสาว เพื่อให้กำลังใจเช่นเคย
ริสาถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดของนลิน ลูกสาวคนเล็กที่ไม่ได้เรื่องของเธอ
“ แกจะสัญญาอะไรนักหนา ใช่ว่าแกจะทำได้ทุกครั้ง ปากก็อ้างจะทำงานให้มากขึ้นแล้วแกจะหาเงินได้มากขึ้นได้ซักเท่าไหร่กัน กว่าแกจะหาเงินได้ครบห้าล้านพวกเราต้องรอแกอีกกี่สิบปี จนถึงตอนนั้นแกก็คงไม่มีวันได้เห็นหน้าพี่สาวของแกแล้ว นังลูกโง่!เกิดมาเสียข้าวสุกจริงๆ”
นลินหน้าหงายเมื่อถูกแม่ของเธอชี้นิ้วแล้วผลักหน้าผากแรงๆจนเธอเกือบจะตกเก้าอี้
ยังดีที่เธอมีปฏิกิริยาว่องไว ถึงได้จับโต๊ะอาหารไว้ได้ทัน ปากเล็กเป่าลมออกมาเบาๆด้วยความใจหาย ‘ โล่งอกไปที’
นลินเผยรอยยิ้มฝืดเฝื่อนออกมาด้วยความยากลำบาก ในใจก็รู้สึกน้อยใจมากที่แม่ของเธอรักพี่สาวมากกว่า..
“ แต่หนูก็พยายามแล้วนะคะ ทุกวันนี้หนูก็ทำงานจนตัวเป็นเกรียวจนไม่มีเวลาว่างเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ แถมยังต้องมาทำโปรเจกต์เรียนจบให้พี่สาวอีกด้วย”
“เหอะ! แกยังกล้าที่จะพูดถึงเวลาส่วนตัวอีกอย่างงั้นเหรอ ทำไมแกถึงไม่ไปตายแทนพี่แกเลยล่ะ ถ้าแกจะมีความคิดเห็นแก่ตัวแบบนี้ แกไม่น่าเกิดมาเป็นลูกฉันเลยจริงๆ”
ริสากรอกตาแล้วพูดออกมาอย่างไม่แยแสกับลูกสาวตัวดีของเธอ เธอน่าจะฆ่าลูกไม่รักดีคนนี้ให้ตายตั้งแต่ตอนคลอด เด็กคนนี้จะได้ไม่อกตัญญูแบบนี้ นิสัยเลวเหมือนคนนั้นไม่มีผิด
“คุณแม่จะให้หนูทำยังไงกันล่ะคะ หนูก็มีแค่สองมือเท่านั้น อาการป่วยของพี่สาวก็ไม่ใช่ว่าหนูไม่เคยใยดี ถ้าพี่สาวไม่ดื่มแอลกอฮอล์หลังจากที่ถ่ายไขกระดูกสามวันแรก ป่านนี้โรคธาลัสซีเมียของพี่สาวก็คงจะหายขาดไปนานแล้ว หนูทำเต็มที่แล้วค่ะ แต่ก็น่าเสียดายจริงๆ”
นราที่ได้ยินคำพูดของน้องสาวในใจก็รู้สึกกรุ่นโกรธเป็นอย่างมาก ที่น้องสาวฟ้องแม่ของเธอแบบนี้
แต่ถึงอย่างนั้นในดวงตาและสีหน้าของเธอกลับแสดงความเศร้าออกมาให้ทุกคนเห็น เพราะเธอก็ทำผิดจริงๆ
“ นลินพี่ขอโทษนะ ถ้าหากวันนั้นพี่ไม่รู้สึกแย่เพราะอาการป่วย พี่ก็คงไม่เผลอดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อนจนทำให้ไขกระดูกที่เธอให้กับพี่ต้องเสียเปล่าแบบนี้”
นราบีบมือน้องสาวด้วยความรู้สึกผิดเต็มอกกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ พี่อย่าคิดมากเลยค่ะ ถึงยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว”
นลินที่เห็นพี่สาวคิดมาก เธอก็กลัวว่าโรคหัวใจของพี่สาวจะกำเริบขึ้นมาอีก
“คุณแม่คะ คุณพ่อคะ แค่นี้นลินก็เหนื่อยมากพอแล้วอย่าทำให้น้องสาวลำบากใจอีกเลยค่ะ”
ริสายื่นไปจับมือนราด้วยความสงสาร
“ ให้นลินลำบากแค่นี้จะเป็นอะไรไป ในเมื่อแม่คลอดนลินออกมาด้วยความยากลำบากจนเกือบหมดลมหายใจไปแล้วครั้งหนึ่ง”
“ แต่แม่คะ…”
“ ลูกไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น เชื่อแม่ อีกอย่างนลินก็แข็งแรงดี ไม่ได้เจ็บป่วยมาตั้งแต่เด็กเหมือนลูก เห็นได้ชัดว่านลินเอาเปรียบลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง ไม่อย่างนั้นนลินจะแข็งแรงอยู่คนเดียวได้ยังไง”
นลินบีบมือตัวเองแน่นเมื่อคุณแม่ของเธอหยิบยกประโยคนี้ขึ้นมาพูดอีกแล้ว
นลินจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าแม่ของเธอใช้คำพูดพวกนี้มาทำให้เธอรู้สึกผิดกี่ครั้งแล้ว แล้วยังนำเรื่องนี้มากดดันและมาบีบบังคับเธอทุกครั้งอีกด้วย
นลินได้แต่ก้มหน้าก้มตา เพื่อกักเก็บอารมณ์และความรู้สึกที่แสดงออกมาบนใบหน้าของตัวเอง ไม่ให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัวเองอีก
เธอรู้ว่าความอ่อนแอและความเสียใจของเธอมันใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนในบ้าน ไม่เหมือนกับพี่สาวของเธอ ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดีไปหมดในสายตาของคุณพ่อกับคุณแม่
ความเก็บกด และความอัดอั้นตันใจจากการถูกกดขี่จากครอบครัว เธอก็ได้แต่กล้ำกลืนความรู้สึกพวกนี้เอาไว้ในใจด้วยความขมขื่น สุดท้ายนลินก็ไม่อาจทำอะไรได้
“ถ้าสมองน้อยนิดของแกไม่สามารถที่จะหาทางออกอะไรได้ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้แกก็เตรียมตัวทำตามวิธีของฉันก็แล้วกัน”
มังกรผู้ที่ย้อนกลับอดีตหลังจากที่โดนแฟนเก่าฆาตกรรม เขากลับมาพร้อมกลับระบบ
เมื่อข้าคือพระชายาของอ๋องผู้โหดเหี้ยม และเป็นหมากอันยอดเยี่ยมในมือของไทเฮา ข้าก็แค่อยากใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นอยากให้ข้าใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นให้เป็น
กว่าจะรู้ตัวว่ารักก็ถึงตอนต้องจากกันแล้ว หลับตาลงในความมืดมิดยังคงเห็นภาพฝันที่เป็นเขา ด้วยสถานะและสถานการณ์ต่างๆมันเหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบสำหรับพวกเรา ทั้งรักทั้งทุกข์ระทม ท่านคือเหตุผลที่ทำให้ข้าต้องจมอยู่ในห้วงรักที่ไม่มีสิ้นสุด
เมื่อลลิตานั้นได้ย้อนเวลากลับไปในยุค 80 พร้อมกับหม้อสมบัติ และที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือเธออยู่ในร่างของนางร้าย
จะทำยังไงเมื่อเชฟสาวที่อยู่ๆก็โดนลูกหลงตายแบบไม่รู้เรื่อง จากเหตุปล้นธนาคาร
จะทำยังไงเมื่อนักวิจัยสาวผู้เก่งกาจย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กสาวบ้านนายุค70
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY