ผมชื่อปรีชาเป็นศาสตราจารย์ที่ “เอาจริงเอาจัง”
ผมชื่อปรีชาเป็นศาสตราจารย์ที่ “เอาจริงเอาจัง”
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม ?
สำหรับผมที่เป็นศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัว มีชีวิตมาสี่สิบสามปีไม่เคยเชื่อเรื่องนี้เพราะมันไร้เหตุผลจับต้องไม่ได้ ถ้าจะให้เชื่อต้องมีวิทยานิพนธ์ยืนยันสักสิบเล่มเป็นอย่างต่ำ
ดังนั้นการจะรักใครต้องค่อยๆ เรียนรู้ ยิ่งจะเลือกมาเป็นคู่ชีวิตต้องดูให้ดีจนแน่ใจไม่ใช่เจอหน้าแล้วตกหลุมรักเหมือนคนเมา ภรรยาของผมจึงเป็นเพื่อนร่วมงานในมหาวิทยาลัยเดียวกัน
เลขสามเป็นเลขนำโชคของผมมาเสมอแต่ดูเหมือนตอนนี้มันจะสร้างความปั่นป่วนให้มากกว่า
สามเดือนก่อน
“ดร. ปรีชามาถึงแล้วนะคะ อดใจรออีกแปบเดียวค่ะ” พิธีกรบอกผู้ฟังที่นั่งรอด้วยใจจดจ่อมาร่วมชั่วโมง แถวหน้ามีเด็กสาวคนหนึ่งตื่นเต้นกว่าใครเพราะในที่สุดก็จะได้พบขวัญใจแบบใกล้ชิดสักที
ศาสตราจารย์ปรีชา แสงโชติ คืออาจารย์และนักเขียน ชายหนุ่มมีผลงานหลายเล่มแต่ละเล่มได้รับการตอบรับดีเยี่ยมและครั้งนี้ก็เช่นกัน
สำหรับคนที่เรียนจบปริญญาเอก ผู้คนในสังคมมักจะเรียก ดร. นำหน้าชื่อเพื่อเป็นการให้เกียรติ
เมื่อเจ้าตัวมาถึงก็เริ่มแนะนำหนังสือเล่มล่าสุดที่เกี่ยวกับสถิติการหย่าร้างในวัยต่างๆ แม้เนื้อหาจะดูน่าเบื่อแต่ปรีชาก็ใช้สำนวนที่ง่ายต่อการเข้าใจ จึงไม่แปลกที่นักศึกษาวิชากฎหมายจะซื้อหนังสือของเขาไปอ่านเสริม
“เซ็นหน้าปกได้ไหมคะ” เด็กสาวถามเชิงขออนุญาตเมื่อหนังสือที่ยื่นให้โดนเปิดไปสองสามหน้า
“หน้าปกเลยเหรอ มันจะเลอะนะ” ปรีชาถาม
“ไม่เลอะค่ะ จะได้เห็นลายเซ็นอาจารย์ตลอด”
“ขอบคุณค่ะ หนูมีของเล็กๆ มาฝากด้วยค่ะ หนูให้ได้ไหมคะ”
“ได้ครับ อะไรเหรอ”
“นี่ค่ะ หนูถักเองทั้งหมดเลย ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” สายรุ้งยื่นพวงกุญแจโครเชต์ที่ถักเป็นรุ้งเจ็ดสีให้ปรีชาแล้วขอตัวออกมาเพราะคนรอด้านหลังมีอีกเป็นร้อย
สามเดือนต่อมา
ปรีชารู้มาตลอดว่าโลกกลมตามที่นักวิทยาศาสตร์และตำราต่างๆ อ้างอิง สำนวนโลกกลมผมก็ไม่เชื่อพอๆ กับเรื่องพรหมลิขิตนั่นแหละแต่ดูเหมือนตอนนี้ผมจะโดนพรหมลิขิตท้าทายซะแล้ว
เด็กสาวที่ให้กุญแจสายรุ้งเมื่อสามเดือนก่อนตอนนี้เธอนั่งห่างไปแค่โต๊ะเดียวแถมกำลังอ่านหนังสือของผมด้วยและที่ทำให้อึ้งกว่าเดิมก็คือมันเป็นเล่มแรกที่เขียน ดูจากสภาพแล้วเธอคงได้จากร้านมือสองแน่ๆ เพราะผ่านมาเกือบสิบปีไม่น่าจะมีจำหน่ายตามร้านทั่วไป
“อาจารย์ !” สายรุ้งเงยหน้าจากหนังสือเล่มโปรดก็สบตากับคนเขียนพอดี
“สวัสดีค่ะอาจารย์” ฉันยกมือไหว้เมื่อเขามานั่งฝั่งตรงข้าม
“ผมอยากแน่ใจว่าเป็นหนังสือตัวเองเลยขอมาดูใกล้ๆ”
“หนังสืออาจารย์ค่ะ หนูซื้อจากร้านมือสอง เล่มนี้กว่าจะหาได้ตั้งเกือบปี”
“เป็นไง เข้าใจยากไหมแล้วทำไมเราถึงชอบอ่านหนังสือวิชาการพวกนี้ล่ะ เรียนกฎหมายเหรอ”
“เปล่าค่ะหนูชอบอาจารย์ คือ หนูหมายความว่าชอบหนังสือที่อาจารย์เขียนค่ะ ได้ความรู้เยอะมาก จริงๆ หนูอ่านหนังสือทุกแนวอยู่แล้วค่ะ”
“ดีจังที่เด็กสมัยนี้ยังรักการอ่านอยู่”
“อาจารย์ไม่มีสอนเหรอคะวันนี้”
“กำลังจะกลับไปสอนนี่แหละ”
“เอ่อ … ก่อนไปหนูรบกวนขอลายเซ็นได้ไหมคะ”
“ครั้งก่อนก็ได้ไปแล้วนี่ ที่ให้เซ็นหน้าปก”
“อาจารย์จำหนูได้ด้วยเหรอคะ” สายรุ้งถามด้วยความตื่นเต้น
“จำได้เพราะพวงกุญแจสีรุ้ง น่ารักดี ถักเองหมดเลยเหรอ”
“ใช่ค่ะ ถักเอง ประกอบเป็นพวงเอง ทำมือทั้งหมดเลยค่ะ”
“ทำขายได้เลยนะเนี่ย” ปรีชายังจำพวงกุญแจแสนน่ารักพวงนั้นได้ขึ้นใจ
“ไม่หรอกค่ะ หนูทำให้คนพิเศษเท่านั้น”
“ขอบคุณที่ให้ผมเป็นคนพิเศษนะ แล้วเล่มนี้เซ็นที่เดิมไหม”
“ที่เดิมค่ะ คราวนี้เขียนชื่อหนูด้วยได้ไหมคะ”
“ได้สิ เราชื่ออะไรล่ะ”
“สายรุ้งค่ะ”
ผมเขียนชื่อเธอแล้วก็ขอบคุณที่ติดตามผลงานจากนั้นก็ลงลายเซ็นตัวเอง
พอเดินออกจากร้านกาแฟ ทั้งที่ฟ้าแสนจะหม่นหมองแต่ปรีชากลับเห็นสีรุ้งเต็มไปหมด
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY