เพียงคืนเดียวในห้องนั้นเปลี่ยนชีวิตของเธอไปชั่วนิรันดร์
เพียงคืนเดียวในห้องนั้นเปลี่ยนชีวิตของเธอไปชั่วนิรันดร์
“น่ารักจังเลยเจ้าตัวเล็ก” โจเซฟอุ้มทารกตัวน้อยมากอดอย่างแสนรักแม่หนูช่างน่าฟัดเหลือเกิน พวงแก้มแดงระเรื่อนุ่มนิ่มอดไม่ได้ที่จะเขี่ยเล่นเบาๆ แม้อยากหอมให้ชื่นใจแต่ก็ต้องอดใจไว้เพราะเด็กทารกยังไม่มีภูมิคุ้มกัน
“น้ำนี่คือวอเตอร์ใช่ไหม” เขาหันไปถามคุณพ่อป้ายแดงซึ่งก็คือเพื่อนของเขานั่นเอง
“ใช่แล้ว ตั้งให้เข้ากับลูกพี่ลูกน้อง มีดาวแล้ว มีภูผาแล้ว” บรูโน่ตอบ
“แล้วถ้าคนที่สองล่ะ จะตั้งชื่ออะไร”
“ถ้าผู้หญิงก็ฟ้า ถ้าผู้ชายก็เมฆ” อุษาสวรรค์บอกด้วยเสียงสดใส
“อยากมีเจ้าตัวเล็กมาเข้าแก๊งด้วยจัง” โจเซฟพูดด้วยเสียงหงอยๆ แล้วทั้งห้องก็เงียบไป
โจเซฟ แพทเทอร์สันหอบหัวใจบอบช้ำมารักษาที่เมืองไทย เขาวางแผนเซอร์ไพรส์แฟนสาวที่คบกันมาหลายปีด้วยพิธีหมั้นสุดโรแมนติกมีนักเล่นไวโอลินระดับแนวหน้า กุหลาบแดง แชมเปญและที่สำคัญแหวนเพชรเม็ดงามแต่พอเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนกลับเซอร์ไพรส์กว่าเพราะแฟนสาวกำลังทำท่าหมากับผู้ชายอีกคน
“ขอโทษนะคะ หนูไม่คิดว่ามีแขก” ทะเลจันทร์ขออภัยเมื่อเข้ามาในห้องพักฟื้นคนไข้ที่หรูหราไม่ต่างกับโรงแรม เธอคิดว่ามีแค่เจ้านายกับเจ้าตัวเล็ก เธออุตส่าห์กินข้าวให้เร็วที่สุดแล้วรีบมาโรงพยาบาลตอนช่วงพักกลางวันเพราะอยากมาเยี่ยมคนสำคัญในชีวิต
“เข้ามาสิจันทร์ไม่เป็นไรหรอก นี่โจเซฟเพื่อนโน่ คนกันเองทั้งนั้น” อุษาสวรรค์บอกพร้อมรอยยิ้ม
“พี่แพรให้หนูพักสองชั่วโมงครึ่งค่ะ หนูก็เลยแวบมา พี่แอ้มเป็นยังไงบ้างคะ อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะหนูจะไปซื้อให้” เด็กสาวไถ่ถามเจ้านายที่นับถือเหมือนพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
“ของที่อยากกินมีหมดแล้วจ้ะขอบใจนะ มาหาหลานก็ต้องอยู่กับหลานสิ”
“คุณน้ำน่าชังจังเลยค่ะ” เธอรับทารกตัวน้อยมาจากชายหนุ่ม ถึงเขาจะยิ้มแต่แววตาดูเศร้าเหลือเกิน เขามีเรื่องอะไรไม่สบายใจงั้นหรือ ได้อยู่กับเพื่อนรักแถมยังบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาหลานอีก ควรจะสดชื่นมากกว่านี้สักหน่อยรึเปล่า ไม่น่าอมทุกข์แบบนี้เลย
“เรียกน้ำเฉยๆ ก็พอจ้ะ ไม่ต้องคุณหรอก พอโตพี่ก็ต้องเอามาทำงานด้วยก็ต้องพึ่งจันทร์และพนักงานทุกคนคอยช่วยอบรมดูแลไม่ให้เหลิงไม่ให้เสียคน” อุษาสวรรค์บอกกับทะเลจันทร์
“มือเล็กจังเลย” เป็นครั้งแรกที่ทะเลจันทร์ได้อุ้มและใกล้ชิดทารกขนาดนี้ มันน่าอัศจรรย์มากที่ทุกอย่างบนร่างกายเด็กแรกเกิดเล็กจิ๋วไปหมด
“น้องจันทร์เป็นพนักงานที่โรงแรม จะมาทำงานแทนแอ้มพักนึง” บรูโน่แนะนำทะเลจันทร์ให้เพื่อนรู้จัก
“อย่าเรียกว่าแทนเลยค่ะ หนูไม่เก่งเท่าพี่แอ้มเทียบไม่ได้สักนิด”
“เราก็เก่งในแบบของเราแหละจันทร์ นี่กินข้าวแล้วใช่ไหม”
“กินแล้วค่ะพี่แอ้ม แล้วพี่แอ้มกับพวกคุณๆ กินรึยังคะ”
“เรียบร้อยกันหมดแล้วจ้ะ แม่เป็นยังไงบ้างล่ะจันทร์”
“ก็ทรงๆ เหมือนเดิมค่ะ”
“คุณแม่ของเธอเป็นอะไรเหรอ” โจเซฟถาม
“จันทร์จะตอบเองหรือจะให้พี่ตอบ”
“หนูตอบเองก็ได้ค่ะ” ทะเลจันทร์อธิบายอาการป่วยของมารดาด้วยภาษาอังกฤษให้เพื่อนของเจ้านายฟัง เธอพยายามพูดให้ถูกหลักไวยากรณ์ เจ้านายทั้งสองจะได้ไม่เสียหน้าเพราะพนักงานของตัวเอง
“ผมเสียใจด้วยนะครับ” โจเซฟบอกจากใจจริง
“ขอบคุณค่ะ”
“พี่ต้องชมนะเนี่ย ภาษาดีขึ้นเยอะเลย สำเนียงก็ชัดกว่าแต่ก่อนมาก”
“หนูฟังคลิปภาษาอังกฤษทุกวันค่ะ ฟังตอนนั่งรถมาทำงานแล้วก็ก่อนนอนด้วยค่ะ”
อุษาสวรรค์รักและเอ็นดูทะเลจันทร์เหมือนน้องแท้ๆ เธอเป็นเด็กรักดีและใฝ่เรียน ถึงจะจบการศึกษาแค่ ปวช. แต่ก็ไม่เคยหยุดหาความรู้ใส่ตัวไม่ว่าโรงแรมจะส่งไปอบรมคอร์สอะไรจะมีชื่อของทะเลจันทร์อยู่ในนั้นเสมอ เด็กแบบนี้ควรส่งเสริมและสนับสนุนเต็มที่
“เราให้สาวๆ คุยกันไปก่อนดีไหม” โจเซฟหันมาชวนบรูโน่เพราะดูท่าทางเด็กสาวอีกคนจะอึดอัดที่มีคนแปลกหน้ารวมอยู่ด้วยซึ่งเขาไม่โกรธเลย คนไม่รู้จักกันแถมเป็นเพื่อนเจ้านายอีก เธอต้องเกรงใจเป็นธรรมดา
“เดี๋ยวมานะครับที่รัก” บรูโน่บอกลาภรรยาแล้วเดินออกไปพร้อมเพื่อน
“ลืมเลย อยู่กับเด็กอ่อนไม่ควรสูบสิเนอะ” โจเซฟหยิบบุหรี่ขึ้นมาแล้วเก็บเข้าที่เดิม ถึงจะออกมาสูบข้างนอกแต่กลิ่นของมันก็ยังติดตัวอยู่ดี
“เลิกได้ก็เลิกเถอะโจ”
“ก็พยายามอยู่แต่ไม่มีอะไรจูงใจ ยิ่งช่วงนี้ยิ่งหนัก” หนุ่มหล่อผมสีน้ำตาลเข้มบอกแล้วถอนใจเบาๆ ถึงจะหนีมาไกลแสนไกลแต่มันก็ไม่ช่วยอะไร ต่อให้ย้ายไปอยู่นอกโลกความเจ็บปวดก็ยังตามมาหลอกหลอนอยู่ดี โจเซฟได้แต่ถามตัวเองว่ามีอะไรที่เขาผิดพลาดหรือด้อยไปแต่ก็ไม่มีคำตอบเพราะไม่ได้ถามแฟนสาวที่นอกใจไปนอนกับผู้ชายคนอื่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นใครเพราะไม่คุ้นหน้าเลย
“แล้วมันจะผ่านไป อย่าแบกไว้นาน” บรูโน่ตบไหล่เพื่อนเพื่อบอกว่าถึงเรื่องมันจะหนักหนาแค่ไหนแต่ก็อย่าปล่อยให้มันมาทำลายชีวิตที่เหลือ เจ็บได้แต่ก็ต้องก้าวต่อไป
“เด็กคนนั้นน่ารักดีนะ ถูกกฎหมายแล้วเหรอ” แม้เพิ่งเคยพบกันแต่ทะเลจันทร์ก็สร้างความประทับใจได้ไม่ยาก อย่างแรกเธอน่ารักแค่มองก็เห็นชัดไม่ต้องวิเคราะห์ให้มากความ เมื่อได้เห็นท่าทางการเดินการพูดก็ยิ่งประทับใจ เธอเป็นเด็กที่นอบน้อมและอ่อนโยนไม่แปลกใจที่เพื่อนชื่นชมให้ฟังอยู่บ่อยๆ
“ถูกกฎหมาย ยังไงโจ”
“ก็ยังเด็กอยู่เลย อายุถึงสิบแปดแล้วเหรอ ประเทศนายต้องคนอายุเท่าไหร่ถึงทำงานได้”
“ก็สิบแปดถึงทำงานที่โรงแรมได้หมายถึงเป็นพนักงานประจำ ส่วนน้องจันทร์อายุยี่สิบแล้ว”
“เหรอ! ไม่น่าเชื่อนะ นึกว่าสิบห้าสิบหก”
“น่าสงสารอยู่กับแม่สองคนแม่ก็ไม่สบายแล้วก็ไม่อยากพูดให้น้องใจเสีย เราว่าแม่คงอยู่ได้อีกไม่นาน เรากับพี่วินพี่แพรแล้วก็แอ้มช่วยทุกอย่างแต่น้องจันทร์ก็เกรงใจบ่ายเบี่ยงตลอด ไม่อยากคิดเลยถ้าแม่จากไปน้องจันทร์จะอยู่ยังไง” บรูโน่ปรับทุกข์กับเพื่อน ถ้าเป็นพนักงานคนอื่นเขาจะไม่ห่วงเท่านี้เพราะโตและมีวุฒิภาวะมากกว่าแต่ทะเลจันทร์เป็นแค่เด็กสาวอ่อนต่อโลกมีแค่เพียงมารดามาทั้งชีวิตเธอต้องเคว้งแน่นอนถ้าวันนั้นมาถึง
“ชีวิตมักจะสร้างบททดสอบยากๆ ให้เราเสมอ” โจเซฟหมายถึงทะเลจันทร์แต่แล้วก็คิดได้ว่าชีวิตตัวเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เขาก็กำลังโดนทดสอบว่าจะผ่านความปวดร้าวครั้งนี้ไปได้ยังไงหรือในสภาพไหน
เขาไม่เคยพบเจอความเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน ความรัก ความเชื่อใจ อนาคต ที่สร้างมาแรมปีพังลงภายในพริบตา
“ป่ะ กลับกันเถอะ” ออกมายืนรับลมพักใหญ่ก็ชวนกันกลับไปที่ห้องพักฟื้นเพราะโจเซฟไม่อยากคุยเรื่องแฟนเก่าอีกแล้ว กลับไปหาหลานดีกว่าจะได้หายฟุ้งซ่าน
“หนูกลับก่อนนะคะพี่แอ้ม แล้วเจอกันที่ทำงานนะคะ” ทะเลจันทร์ยกมือไหว้อุษาสวรรค์เพราะต้องกลับไปทำงานถึงแม้จะอยากอยู่ที่นี่ทั้งวันทั้งคืนก็ตาม
“อ้าว! กลับแล้วเหรอน้องจันทร์” บรูโน่เปิดประตูเข้ามาก็เจอทะเลจันทร์พอดี อีกนิดเดียวก็จะชนกันแล้ว
“ค่ะ คุณโน่ หนูขอตัวนะคะ สวัสดีค่ะคุณโจเซฟ”
“กลับด้วยกันไหมครับ ผมก็จะกลับพอดี” โจเซฟชวน ทั้งที่ความจริงไม่ได้คิดเรื่องกลับโรงแรมเลยสักนิดแต่เขาอยากอยู่กับเธอให้นานกว่านี้จะเพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ที่รู้ก็คืออยากรู้จักเธอให้มากขึ้น ชีวิตของเธอน่าสงสารและน่าสนใจในคราวเดียวกัน
“เอ่อ…คือ” ทะเลจันทร์อึกอักเธอไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง
“ไปกับโจเถอะจันทร์ ไหนๆ ก็ไปที่เดียวกันอยู่แล้ว” อุษาสวรรค์บอก
“ค่ะ หนูขอรบกวนด้วยนะคะ”
รถยนต์คันงามของโจเซฟที่เช่าไว้เคลื่อนออกจากลานจอดรถช้าๆ เขามองซ้ายมองขวาจนแน่ใจถึงค่อยออกรถ ทะเลจันทร์ค่อนข้างประหลาดใจที่เขาสุขุมรอบคอบผิดกับลุคแบดบอยเซอร์ๆ เป็นที่สุด
“ทำงานเป็นยังไงบ้างครับ” โจเซฟชวนคุยเพื่อทำลายความเงียบ
“ดีค่ะ ทุกคนใจดีกับหนูมากๆ ค่ะ ครอบครัวคุณวินคุณโน่ก็ประเสริฐที่สุด ไม่มีวันที่หนูจะชดใช้บุญคุณให้พวกเขาหมดแน่ๆ” ทะเลจันทร์บอกจากใจจริง ไม่ได้ต้องการประจบหรือพูดให้ตัวเองดูดี
“ผมว่าเพราะคุณเป็นคนดีต่างหาก พวกเขาถึงดีกับคุณ”
“ถึงหนูจะเป็นคนดีแต่ถ้าพวกเขาไม่ให้โอกาสหนูก็แย่ค่ะ” ทะเลจันทร์ตอบไปตามที่คิดเพราะสังคมสมัยนี้การเป็นคนดีไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าจะได้สิ่งดีๆ ตอบแทน คนแย่ๆ ทำเรื่องร้ายๆ ได้ดิบได้ดีก็เห็นเยอะแยะ
“คุณนี่มองโลกแง่ดีจังเลยนะ” โจเซฟประหลาดใจที่คนแบบเธอยังมองโลกได้แบบนี้
“หนูไม่อยากเพิ่มความทุกข์ให้ตัวเองแค่เรื่องแม่เรื่องเดียวก็พอแล้วค่ะ”
“ท่านเป็นยังไงบ้างครับ”
“อาการทรงๆ ค่ะไม่แย่ลงแต่ก็ไม่ดีขึ้น”
“เคยคิดไหมถ้าแม่ไม่อยู่แล้วจะทำยังไง”
“คิดค่ะ คิดทุกวัน หนูรู้ว่าแม่อยู่ได้อีกไม่นานหรอกแต่หนูก็พยายามดูแลแม่ให้ดีที่สุด”
“แล้วคิดว่าอะไรครับ”
“คิดว่าถ้าแม่ไม่อยู่ก็จะทำงานตอบแทนพระคุณตระกูลดัวร์ต้าให้เต็มที่ค่ะ พวกเขาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ทั้งหมดแถมเวลาหนูลางานหรือมาสายก็ไม่เคยว่าหนูสักครั้ง ที่หนูมาสายเพราะบางคืนก็ไม่ได้นอนค่ะบางครั้งแม่จะไอหรือไม่ก็อาเจียนหรือมีไข้ทั้งคืนหนูต้องคอยดูแล”
“คุณเป็นเด็กดีมากทะเลจันทร์” โจเซฟพูดได้แค่นั้นจริงๆ เพราะไม่มีคำไหนที่จะเหมาะกับเธอไปมากกว่านี้
ทะเลจันทร์คิดว่าจะอึดอัดหรือนั่งเงียบกันตลอดทางเพราะเธอกับเขาเป็นคนแปลกหน้าต่อกันแต่ไม่ใช่เลย เขาชวนคุยถามไถ่อย่างเป็นกันเอง ผู้คนรอบตัวที่เธอนับถือส่วนใหญ่จะรวยและเหนือกว่าทั้งนั้นแต่พวกเขาไม่เคยข่มหรือทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อยสักครั้ง
ผู้ชายคนนี้ก็เช่นกัน
เธอเชื่อมาเสมอว่าคนแบบเดียวกันจะคบหาหรืออยู่ด้วยกันได้ยาวนาน คุณโจเซฟคงไม่ต่างจากคุณบรูโน่ เขาดูเป็นคนเจ้าชู้แต่ความจริงถ้าได้รักใครก็คงจะรักคนเดียวไม่นอกลู่นอกทาง เธอเห็นตัวอย่างชัดเจนมาเป็นปีที่คุณบรูโน่ถนอมรักเทิดทูนภรรยายิ่งกว่าสิ่งใด
“เจ็บมากไหมครับ” บรูโน่เหยียบเบรกเต็มแรงเมื่อรถคันหน้าปาดเข้ามาเกือบชนกัน ทะเลจันทร์หน้าคะมำแต่เพราะความตกใจหรือสติดีมากก็ไม่รู้ เธอจึงนำมือไปรองไว้ที่หน้าผากตัวเองทำให้หน้าผากไม่โขกกับแผงหน้ารถ
“ไม่ค่ะ คุณล่ะคะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ไม่เจ็บครับ ผมต้องลงไปคุยกับเขาหน่อย คุณรอข้างในดีกว่า”
“ขับรถยังไง ตาบอดเหรอ ก็เห็นอยู่ว่าจะขอเข้าเลนส์ เร่งเครื่องหาเรื่องกูเหรอ” อีกฝ่ายรัวภาษาไทยใส่เป็นชุด โจเซฟฟังไม่ออกแต่จากท่าทางและน้ำเสียงที่ใช้ต้องไม่ใช่การชื่นชมหรือเป็นคำพูดดีๆ แน่นอน
“ใจเย็นก่อนครับ” โจเซฟลองพูดคำสั้นๆ ในภาษาอังกฤษเพื่อดูท่าทีคู่กรณี
“ไอ้พวกหัวทอง คิดว่ามีเงินจะทำอะไรก็ได้ ถุย !”
“เฮ้ ! ทำแบบนี้ …” โจเซฟไม่พอใจมากที่โดนถ่มน้ำลายใส่แม้จะไม่โดนตัวแต่มันไม่สุภาพเป็นการกระทำที่หยาบคายมาก
“คุณไม่ได้เปิดไฟขอทางนะคะ อยู่ๆ ก็แทรกเข้ามา ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ชนกัน” ทะเลจันทร์ทนไม่ไหวจึงออกมาช่วยเจรจา
“อ้อๆ ! เมียฝรั่งสินะ”
“ฉันไม่ใช่เมีย เขาเป็นลูกค้า”
“ฮ่าๆๆ ไม่แปลกใจหรอก เหมาๆ รายวันรึไง”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ รถคุณก็ไม่ได้เสียหาย แยกย้ายกันเลยไหมคะ”
“แต่มันเกือบจะชนกูเลยนะเว้ย ไอ้หัวทองนี่ต้องจ่ายค่าทำขวัญให้กูหน่อยไหม”
“ได้ค่ะแต่ไปจ่ายที่สถานีตำรวจนะคะ สะดวกไหม”
“เฮ้ย ! จ่ายตรงนี้ก็ได้ จะไป สน. ทำไมให้วุ่นวาย”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จะไปไหมคะ”
“กูไม่เสียเวลากับพวกเมียฝรั่งหรอก ถุย !”
“ช่างเขาเถอะค่ะ” ทะเลจันทร์ต้องฉุดโจเซฟไว้เพราะเขาทำท่าจะกระโจนใส่ไอ้หนุ่มหัวร้อน
“มันพูดว่าอะไรบ้าง” โจเซฟโมโหจนหน้าแดง มันต้องพูดเลวๆ แน่นอนแถมยังถ่มน้ำลายใส่ทะเลจันทร์อีก
“เขาจะเอาค่าทำขวัญค่ะ หนูบอกว่าให้ไปตกลงกันที่สถานีตำรวจ เขาไม่ไปค่ะ”
“แล้วอะไรอีก” โจเซฟเห็นสายตาที่มันมองหยามเหยียดทะเลจันทร์แต่ไม่เข้าใจว่ามันมองแบบนั้นทำไมเพราะเธอไม่เกี่ยวด้วยสักหน่อย
“แค่นี้แหละค่ะ เขาพูดวกไปวนมา น่าจะเมาด้วย กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว”
“จริงเหรอ มันไม่ได้ว่าอะไรคุณใช่ไหม”
“ไม่ได้ว่าค่ะ ไปกันเถอะ หนูต้องกลับไปทำงาน” ทะเลจันทร์ไม่อยากเอาเรื่องไร้สาระไปเพิ่มให้โจเซฟปวดหัว แค่เรื่องของเขาเองก็คงวุ่นวายพอแล้ว
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เคลวิน แม็คคลาเรน ถูกคู่หมั้นหักหน้าด้วยการประกาศแต่งงานกับชายคนอื่น ด้วยความคั่งแค้นที่ถูกหยามหน้า ทำให้เขาว่าจ้างเด็กสาววัยกำดัดที่ตนเองอุปการะเอาไว้มาแต่งงานด้วย เพื่อเอาคืนคนเคยรักให้กระอักเลือด เพราะบุญคุณล้นหัว ทำให้เฌอปรางต้องยอมลงชื่อในสัญญาจ้างแต่งงาน แทนที่ผู้หญิงคนนั้นที่เขารักมาก "เธออ่านสัญญาละเอียดหรือยัง" "หนูอ่านละเอียดแล้วค่ะ" "ถ้าอ่านละเอียดแล้ว เธอคงรู้ข้อห้ามทั้งสามข้อที่เธอต้องทำให้ได้แล้วใช่ไหม" "ค่ะ หนูทราบแล้วค่ะ" "งั้นลองบอกฉันมาสิ ว่าข้อห้ามมีอะไรบ้าง" หล่อนช้อนตาขึ้นมองผู้มีพระคุณด้วยสายตาที่ซ่อนความเศร้าเอาไว้แทบไม่มิด "ข้อแรก หนูไม่มีสิทธิ์ในตัวของคุณค่ะ" "ถูกต้อง" เขายิ้มอย่างพอใจ "แล้วข้อสองล่ะ" หล่อนกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก "ห้ามรักคุณค่ะ" เขายิ้มอย่างพอใจอีกแล้ว "แล้วข้อสามล่ะ" "ห้าม... เอ่อ... ห้ามปล่อยให้ท้องค่ะ เพราะถ้าท้อง คุณจะไม่รับผิดชอบ" "ถูกต้อง และฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด" หล่อนไม่มีทางเลือกนอกจากฝืนยิ้มออกไป "แล้วถ้าครบสัญญาหกเดือนแล้ว เอ่อ... หนูต้องไปจากที่นี่ไหมคะ" "ฉันคิดว่ามันจะดีสำหรับเรา หากไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก หรือเธอคิดว่าไง" ท่าทางของเขาเย็นชา ไร้หัวใจ ทำราวกับกำลังเจรจาธุรกิจไม่มีผิด "เอ่อ หนูแล้วแต่คุณค่ะ" เธอทำได้แค่ฝืนยิ้ม ซ่อนน้ำตา ให้กับผู้ชายที่ตรเองทั้งรักทั้งบูชาเท่านั้น แต่ใครจะรู้เล่าว่า เมื่อสัญญาจบสิ้นลง เธอได้เดินจากไปพร้อมกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เมื่อณาลัลน์สาวยูทูปเปอร์ชื่อดังรับคำท้าจากเพื่อนสาว ให้จีบคุณหมอเมธัสสุดหล่อที่เย็นชาขึ้นชื่อ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าที่เขาเย็นชาเพราะไม่สนสาว ๆ หรือเพราะว่าเขาเป็นเกย์กันแน่นะ!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY