เขา...หนุ่มขี้อายแสนจริงใจ เธอ...สาวมั่นไม่แคร์โลก
เขา...หนุ่มขี้อายแสนจริงใจ เธอ...สาวมั่นไม่แคร์โลก
“ไหนเงินทอนกูล่ะ” ต่อตะโกนดังลั่นเพื่อแข่งกับเสียงเพลงภายในผับ มินสก์ไม่ได้ยินว่าเพื่อนพูดอะไรแต่จากการอ่านปากและอยู่กับมันมาเกือบสี่ปีเขาก็รู้ว่ามันทวงเงินทอนสิบห้าบาท !!!
ทำไมต่อ หรือนายตรีวิทย์ถึงขี้หวงนักเอาไว้จะเล่าให้ฟังทีหลังตอนนี้มาทำความรู้จักเพื่อนสนิทสุดฮอทของต่อกันดีกว่า
ต่อเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังเขามีเพื่อนสนิทห้าคนซึ่งทุกคนล้วนหล่อ รวย มีพร้อมทุกอย่างมีก็แค่เขาที่ไม่มีอะไรเลยและเหมือนจะเป็นแกะดำที่เข้ากับใครไม่ได้…แต่ก็ไม่ใช่
เพื่อนแท้คือคนที่รับข้อด้อยของเราได้ซึ่งไอ้ห้าคนนี้ก็เป็นเช่นนั้น ถึงมันจะแดกดันค่อนแคะเรื่องที่เขาขี้หวงหรือขี้งกแต่ก็เป็นแค่เรื่องขำๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไรและที่สำคัญเขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นแบบที่พวกมันพูดทุกคำก็เขาไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด
วันนี้คือวันเกิดมินสก์ หนุ่มหล่อมาดเนี้ยบปิดผับหรูที่ทองหล่อเพื่อเลี้ยงเพื่อนๆ โดยเฉพาะ ต่อยืนยันหนักแน่นว่าต้องหารค่าเหล้าถ้าไม่หารก็จะไม่มาเพราะพวกมันชอบอ้างว่าเขามีน้อยกว่าเอะอะก็จะออกให้เปย์ให้ ถึงจะจนแต่ก็ไม่เคยเอาเปรียบใครและการเป็นผู้รับอยู่ข้างเดียวมันลำบากใจเอามากๆ
“ได้คุยกับลูกพีชบ้างป่ะ” ปั้นจั่นถามเพื่อน
“คุยตอนเขาสั่งกาแฟไง” ต่อผู้แสนซื่อ (บื้อ) ตอบแบบชัดถ้อยชัดคำด้วยความภาคภูมิใจ พรรัมภาหรือลูกพีชคือสาวอักษรสุดป๊อปที่ต่อหมายปองรวมถึงผู้ชายอีกค่อนมหาวิทยาลัย
“แบบนั้นเขาไม่เรียกคุยเขาเรียกสั่ง การคุยคือการสนทนากันไปมาไอ้ต่อ” กังหันหนุ่มสุดล่ำที่หน้าตาเหมือนปั้นจั่นเป๊ะแทรกขึ้นมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
“แล้วจะให้กูคุยอะไรวะ”
“คุยอะไรก็ได้ หัวข้อโง่ๆ เรื่องอากาศก็ยังดี” กังหันหนุ่มเลือดร้อนเสนอ
“คุยแบบนั้นอย่าคุยเลย อายหมามัน” ปั้นจั่นแฝดคนพี่พูดอีกรอบ
“ถ้ามึงสองคนเก่งนักก็บอกกูหน่อยว่ามึงคุยอะไรกับผู้หญิงวะ”
“ส่วนมากไม่ค่อยคุย ทำอย่างเดียว” ปั้นจั่นกับกังหันตอบพร้อมกัน ต่อมองเพื่อนแฝดด้วยความหมั่นไส้ปนอิจฉานิดๆ เพราะมันสองคนเป็นนักกีฬาว่ายน้ำไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมว่าหุ่นมันล่ำแค่ไหน
ยิ่งบวกหน้าตาสไตล์เกาหลีเถื่อนๆ เข้าไปอีกผู้หญิงที่ไหนก็ชอบได้ไม่ยากแล้วทั้งสองคนก็รวยแบบสุดๆ มันมีทั้งรถยนต์ทั้งบิ๊กไบค์บ้านช่องก็ใหญ่โตยังกับวัง…สาวคนไหนเมินไอ้สองแฝดก็บ้าแล้ว
“เออ กูไม่ได้มีพร้อมแบบพวกมึงไง” ต่อตอบเนือยๆ เขาไม่ได้โมโหหรือน้อยใจเขาชินแล้วกับความรู้สึกเป็นรองหรือไม่มีอะไรเลย
“ไม่เกี่ยวเลยไอ้ต่อไม่เคยได้ยินเหรอ คารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง” ครูส ลูกครึ่งที่รูปร่างกำยำสูงใหญ่ไม่แพ้กันเข้ามานั่งล้อมวงอีกคน
“เวลาลูกพีชมาอยู่ใกล้ๆ กูเหมือนจะอ้าปากไม่ได้” ต่อยอมรับแบบเซ็งๆ ในขณะที่เพื่อนทั้งห้าคนมีผู้หญิงควงไม่เคยขาดแต่เขายังไม่เคยมีแฟนเลยสักคนพอตกหลุมรักก็ดันเล่นของสูงเป็นดาวประจำคณะแล้วจะเอาอะไรไปแข่งกับคนอื่นได้ เขาไม่มีรถยนต์ ไม่มีบ้านหลังใหญ่ ไม่มีความสามารถพิเศษด้านกีฬาหรือดนตรีขนาดที่พอไปแข่งขัน ให้เล่นแบบงูๆ ปลาๆ เอาสนุกก็เล่นได้แหละ
“เวลาเขามาสั่งกาแฟชวนคุยเรื่องคุกกี้สิ ถามว่าชอบรสไหนไม่ก็ถามว่าชอบกินขนมอะไร” ปั้นจั่นแนะนำ
“ขอบใจนะมึง กูจะลองดูแล้วกัน” ต่อบอกขอบคุณเพื่อนแล้วดื่มน้ำสีดำจนหมดแก้วแต่นั่นไม่ใช่เหล้าหรอกนะถึงสีจะคล้ายกันก็เถอะ ต่อไม่ดื่ม ไม่สูบ เที่ยวบ้างตามโอกาส
จริงๆ ตรีวิทย์เป็นผู้ชายที่ดีพร้อมคนหนึ่งเลยทีเดียวแต่ไม่รู้ตัว เขาเป็นคนอ่อนน้อม สุภาพ มีน้ำใจและไม่เคยเอาเปรียบคนอื่น ใครออกปากให้ช่วยอะไรต่อยินดีและทำด้วยความเต็มใจเสมอ ถ้าเขาตัดความน้อยเนื้อต่ำใจเรื่องฐานะออกไปได้เขาจะรู้ว่าตัวเองก็มีดีไม่แพ้เพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ
“ไม่ก็นี่เลย” มินสก์เจ้าของวันเกิดกลับมาเข้าแก๊งเพื่อนสนิทหลังจากไปพูดคุยกับแขกที่มาร่วมงาน
“บอกลูกพีชดิว่าเกมนี้น่ารักมากแถมได้รางวัลเกมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์นี้ด้วยกูว่าลูกพีชต้องชอบแน่ๆ หรือถ้าไม่ชอบเขาก็ต้องแกล้งชอบเพื่อเอาใจมึงไอ้ต่อ” มินสก์พ่อหนุ่มไอทียื่นมือถือให้เพื่อนดู มันเป็นเกมใบ้คำที่มีรูปประกอบหวานแหวว
“ทำไมเขาต้องแกล้งชอบเพื่อกูวะ” ต่อถามด้วยความสงสัย
“ไอ้ต่อ พวกมึงด้วยนักรักชั้นยอดของมหาลัยมึงไม่สังเกตกันเลยเหรอว่าลูกพีชไม่เคยเข้ามานั่งในร้านตอนกลางวันสักครั้งตอนที่พวกมึงๆ ทั้งหลายอยู่กันครบ ลูกพีชจะมานั่งแค่ตอนหัวค่ำตอนไอ้ต่อเข้ากะมึงว่ามันบังเอิญไหมที่ลูกพีชทำแบบนี้มาเป็นปีๆ แล้ว” มินสก์กอดอกแล้วกวาดตามองเพื่อนแบบผู้อยู่เหนือกว่า
“เออว่ะ” ครูส พ่อหนุ่มตาน้ำข้าวตบโต๊ะดังปัง
“จริงว่ะไอ้ต่อ” สองแฝดตบไหล่เพื่อนคนละข้าง ต่อแทบจะร่วงจากเก้าอี้
“ลูกพีชต้องชอบมึงแน่ๆ ไอ้ต่อ” มินสก์ส่งยิ้มของผู้ชนะให้เพื่อนทั้งกลุ่ม
“มาได้สักทีไอ้เวร” มินสก์ลากเพื่อนรายสุดท้ายมาเข้าวง มันคือไอ้สิบรถคุณชายหล่อลากไส้และมาสายเป็นประจำ
“รถติด ขอโทษที” สิบรถบอกเพื่อนรวมๆ ทีเดียว
“แล้วนั่งประชุมอะไรกันหน้าตาจริงจัง” ชายหนุ่มถามส่วนมือก็คว้าแก้วมาใส่น้ำแข็งเพื่อชงเครื่องดื่มให้ตัวเอง
“เรื่องลูกพีช” ทั้งห้าคนประสานเสียง
“ยังไม่ปิดจ๊อบกันอีกเหรอ”
“จะปิดได้ไงยังไม่ทันเปิดเลย” ต่อบอก
“ก็เปิดดิรอไรวะ มึงอย่าทำให้เพื่อนๆ ในกลุ่มเสียชื่อดิไอ้ต่อพวกกูนี่ตัวพ่อเรื่องล่อหญิงทั้งนั้นนะโว้ย” สิบรถ ชายหนุ่มที่แก่สุดในกลุ่มตบหลังให้กำลังใจเพื่อน แน่นอนคุณสมบัติเพื่อนสนิทของตรีวิทย์คือหล่อและรวยแต่สิบรถต่างกับทุกคนตรงที่อายุมากกว่าใครในกลุ่มเพราะเรียนไม่จบสักทีไม่ใช่ว่าโง่หรอกนะแต่สิบรถไม่ใส่ใจเอง
“กูไม่ได้อยากล่อเขาซะหน่อย” ต่อพูดแบบเคืองๆ
“เออๆ ไม่ล่อก็ไม่ล่อ ถ้ามึงชอบเขามึงต้องคุยกับเขาไม่ใช่มานั่งอมขี้ฟันอยู่” ครูสบอก
“มาๆ แก้วนี้ดื่มให้คุณต่อผู้จะไม่ล่อลูกพีช” มินสก์บอกแล้วหนุ่มๆ ทั้งหกคนก็ชนแก้วกัน
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เมื่อหลุดเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่องเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้จบแบบ happy ending แต่ทำไม๊ พระเอกกลับบอกว่าฉันจืดชืด ไร้รสนิยม แต่เขาดันไปต้องใจยัยตัวร้ายซะงั้น
“หยุดนะดอน หยุดเดี๋ยวนี้ อือ อูยยย” ขาของวิรามรอ้ากว้างยินยอมให้ใบหน้าสามีคุณชายซุกซบเข้าหาจุดกระสัน ปากสั่งให้หยุด ตรงข้ามกับปฏิกิริยาแอ่นกายรับการปรนเปรอ “วิจะ...โกรธ อูยส์...เกลียด โอ๊ะ...อ๊ายส์...อีตาบ้า” วิรามรกระเสือกกระสนตัวหนี แต่นายดอนหรือจะยอมพ่าย ปากหยักไม่ละจากกลีบแคมอวบ ลิ้นแบกว้างไล้เลียแยะแยงรูฉ่ำที่กำลังหลั่งน้ำหวานให้ดื่มกิน “หยุด...ดะเดี๋ยวนี้...โอย..ไม่ คุณมัน...ซาตานจริงๆ นะดอน อ้ายซ์...คุณกัดฉัน” “ดูดจ้ะยาหยีไม่ใช่กัด” ดูเถอะ ยังมีหน้าเงยขึ้นมาแจกแจงเสียอีก วิรามรนึกอยากจะยกเท้าขึ้นถีบร่างหมอบคู้ระหว่างกลางขาเรียวให้กระเด็น ถ้าขาหล่อนมันจะไม่ทรยศผู้เป็นเจ้าของ เพราะนอกจากจะไม่ทำอย่างที่ใจคิดแว่บๆ ยังกระหวัดโอบไหล่หนาไว้แน่น “อะ...อูยส์...ดอน นี่จะ...ฆ่าวิใช่มั้ย” ดอนเหลือบมองสีหน้าเสียวสุขของภรรยาแว่บหนึ่งไม่ตอบ ก็ปากไม่ว่างนี่ ใครไม่ได้ลิ้มรสไม่รู้หรอกว่าที่หอยสวยๆ ของภรรยาสุดรักของเขาขับหลั่งออกมายามเกิดอารมณ์ซ่านเสียวหวานหอมแค่ไหน ชวนลุ่มหลงแค่ไหน
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
ตั้งแต่เกิดมา ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่สุดก็ตอนนี้.. ก่อนหน้าที่ฉันจะมีความสุข ชีวิตคู่ฉันเกือบจะแตกสลาย.. สามีฉันไม่ค่อยยอมร่วมรักกับฉัน... ในที่สุดฉันก็มีชู้.. และพอสามีฉันรู้.. เขาจะหาทางออกยังไง..
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด