U5 - แม่จะจับผมแต่งงาน เพราะเธอคิดว่าผมเป็นเกย์... ..ผมไม่ใช่เกย์อย่างที่แม่และหลายๆคนคิด เพียงแค่ผมเป็นผู้ชายเรียบร้อยก็เท่านั้น และการจีบผู้หญิงมันก็ยากเกินความสามารถที่ผมมี..
U5 - แม่จะจับผมแต่งงาน เพราะเธอคิดว่าผมเป็นเกย์... ..ผมไม่ใช่เกย์อย่างที่แม่และหลายๆคนคิด เพียงแค่ผมเป็นผู้ชายเรียบร้อยก็เท่านั้น และการจีบผู้หญิงมันก็ยากเกินความสามารถที่ผมมี..
• ACTION •
ฉันเดินหางานจนขาลากตั้งแต่เมื่อวานก่อนจนถึงวันนี้ ซึ่งฉันก็เริ่มถอดใจแล้วกับการสัมภาษณ์งานตามบริษัทใหญ่ที่ใฝ่ฝัน คงเหลือแต่งานที่ไม่ตรงกับสายอาชีพที่เรียนมา
“อนาคตครีเอทีฟอาร์ตของฉันจบแล้วเหรอ เฮ้อ”
แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอให้ได้งานสักทีเถอะ จะอดตายอยู่แล้ว...
‘ณชา’ สาวสวยวัยยี่สิบห้าปี พูดตัดพ้อกับตนเองเมื่อบริษัทที่เธอส่งใบสมัครไป ตอบกลับมาด้วยการปฏิเสธที่จะรับเธอเข้าทำงาน อาจจะเพราะประวัติที่เธอถูกเลิกจ้างจากที่ทำงานเก่า เหตุเพราะเธอตบหน้าผู้ว่าจ้างที่เข้ามาลวนลาม จนทำให้เขาไล่ออกด้วยเหตุผลว่าเธอใช้ความรุนแรงในที่ทำงาน โดยไม่ได้ระบุถึงต้นตอของสาเหตุนั้น และนั่นก็เป็นเหตุผลของบริษัทหลายๆ ที่ ที่ไม่กล้ารับเธอเข้าทำงานในองค์กรของพวกเขา
ณชาที่กำลังถอดใจจากหางาน เดินกลับออกจากห้างหรูเพื่อไปขึ้นรถโดยสารหน้าถนนสุขุมวิท และในตอนที่เธอเดินผ่านหน้าร้านดอกไม้หรูก็เหมือนว่าฟ้ากำลังเห็นใจเธอ ส่งงานที่ไม่ตรงกับสายอาชีพที่เรียนแต่สามารถเลี้ยงปากท้องตัวเองได้โดยไม่ลำบากพ่อแม่
ณ.ร้านดอกไม้หรูย่านอโศก
“รับสมัครพนักงานขายหนึ่งอัตรา ไม่จำกัดวุฒ เงินเดือนหมื่นห้า...”
เสียงณชาที่กำลังอ่านป้ายประกาศหน้าร้าน เธอนึกถามตัวเองขึ้นในใจว่าจากเงินเดือนที่เคยได้สองหมื่นห้าต่อเดือน หากเหลือแค่เดือนหมื่นห้าเธอจะพอรับไหวหรือเปล่า
“เอาว่ะ หมื่นห้าก็ยังดี ดีกว่าให้แม่โอนเงินมาให้ใช้...”
กรุ๊งกริ๊ง~
“สวัสดีครับ” เสียงเจ้าของร้านพูดทักทายสาวสวยที่เดินเข้ามาด้านในร้าน ซึ่งขณะนั้นตนก็กำลังคุยกับสายสำคัญอยู่ “ผมยังไม่สะดวกคุยตอนนี้ แค่นี้ก่อนนะครับคุณแม่”
เขากดวางสายคนเป็นแม่ไปในตอนที่ปลายสายกำลังร้อนใจอยากจะคุยเรื่องสำคัญกับลูกชายอย่างเขา และณชาก็เดินเข้ามาในร้านถูกจังหวะพอดีเขาจึงหาเรื่องตัดสายจากผู้เป็นแม่
“คือฉันมาสมัครงานน่ะค่ะ พอดีเห็นป้ายติดรับสมัครพนักงานที่หน้าร้าน”
“อ๋อ สักครู่นะครับ”
ครืดด~
“ว่าไงครับคุณแม่? ผมติดธุระอยู่ครับไว้เราค่อยคุยเรื่องนี้กันได้ไหมครับ..” เขารับสายแม่น้ำเสียงนุ่มนวล แม้ว่าจะไม่อยากคุยเรื่องนี้กับเธอแล้ว แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธหรือเมินเฉยต่อสายสำคัญนี้
“ถ้าเจเลอร์ไม่ว่างมาดูตัว เดี๋ยวแม่พาหนูชาร์มไปหาลูกที่ร้านเอง แม่ใกล้ถึงร้านแล้วแค่นี้นะ...” ตุ๊ด!
“คุณแม่ คุณแม่ครับ...”
“เอ่อ ถ้าเกิดว่าคุณยังไม่ว่างฉันมาใหม่วันหลังก็ได้นะคะ” เหมือนว่าเขาจะมีธุระยุ่งๆ อยู่กับปลายสายและดูท่าจะเคลียร์กันไม่ลงตัว เธอเลยคิดจะถอดใจกลับออกไปก่อน
“รับครับ”
“คะ?”
“ผมรับคุณเข้าทำงานครับ”
“ระ รับเลยเหรอคะ ไม่สัมภาษณ์งานหรือเช็คประวัติ ดูเอกสารก่อนเหรอคะ?”
“ครับ ผมมีงานด่วนให้คุณทำตอนนี้เลยครับ” เขาพูดท่าทางร้อนใจเมื่อได้ยินคำของคนเป็นแม่ ที่บอกว่าจะพาสาวสวยมาให้ตนดูตัวถึงที่ร้าน
“เอ่อคือ...”
“ผมเพิ่มให้คุณเป็นสองเท่าเลยครับถ้าคุณรับงานนี้”
“รับค่ะ” สองเท่าก็สามหมื่น ใครไม่เอาก็บ้าแล้ว
“งั้น..คุณช่วยบอกแม่ผมหน่อยได้ไหมครับว่าเราเป็นแฟนกัน”
“อะไรนะคะ?!”
“นะครับ ช่วยผมหน่อยนะ” สาวสวยยังไม่ทันพูดตอบรับคำขอ แม่ของชายหนุ่มก็เดินเข้ามาด้านในร้าน พร้อมกับสาวสวยที่เธอตั้งใจพามาแนะนำให้ลูกชายรู้จักและเป็นคนที่เธอหมายตาไว้ให้เป็นลูกสะใภ้ในอนาคต
กรุ๊งกริ๊ง~
“แม่ครับ...” เสียงเรียกแม่อย่างสิ้นหวังของเจเลอร์ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอเดินผ่านประตูเข้ามา
“ดูทำหน้าเข้าสิ เห็นหน้าแม่ทำอย่างกับเห็นผี” เธอพูดพร้อมกับมองแรงไปทางลูกชาย
“...”
“แล้วทำไมลูกมารับลูกค้าเองล่ะพนักงานไปไหนหมด จัดดอกไม้กันอยู่หลังร้านเหรอ?”
“พลอยลาหยุดน่ะครับ ก็เลยเหลือผมอยู่ที่ร้านแค่คนเดียว...”
ก่อนหน้านี้แม่ผมสั่งให้ไล่พนักงานขายและพนักงานจัดดอกไม้สองคนออก เหตุผลเพราะเพศสภาพของพวกเขาที่เป็นชายรักชาย และเธอก็กลัวว่าผมจะกลายเป็นแบบนั้น หากยังปล่อยให้ลูกน้องสองคนนั้นทำงานที่นี่ต่อ ตอนนี้เลยมีแค่พนักงานผู้หญิงเหลืออยู่เพียงคนเดียวจากที่เคยมีพนักงานสามคนในร้าน และวันนี้เธอก็ลาหยุดผมเลยต้องเข้ามาดูร้านเองคนเดียว
“ถ้าพี่เจเลอร์ติดลูกค้าอยู่ เดี๋ยวหนูนั่งเล่นในร้านรอก่อนก็ได้นะคะ”
“เอ่อคือเธอไม่ใช่ลูกค้าหรอกครับ...” เจเลอร์หันไปมองหน้าณชาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอผ่านแววตา สีหน้าของเธอตอนนี้ดูไม่ออกเลยว่าเธอจะตกลงรับทำงานหรือปฏิเสธคำขอของเขา
“...สวัสดีค่ะคุณแม่ หนูชื่อณชานะคะ เป็นแฟนของพี่เจเลอร์ค่ะ” โชคดีที่ณชาเป็นคนหัวไวเธอจึงโกหกได้เนียนทั้งคำพูดและการแสดงออกผ่านสีหน้า
หนุ่มหล่อหน้าหวานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เมื่อลุ้นอยู่นานว่าสาวสวยแปลกหน้าจะยอมช่วยตนตามที่ขอหรือไม่ ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้ผิดหวัง แถมดูจะหัวไวในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าซะด้วย
“แฟนเหรอ?”
“ใช่ครับ นี่ณชาแฟนผมเอง วันนี้ผมยุ่งๆ น่ะครับเธอก็เลยมาช่วยผมดูร้าน”
“อ้าว สรุปพี่เจเลอร์มีแฟนแล้วเหรอคะคุณป้า?”
“...” คนเป็นแม่แสดงท่าทางแปลกใจและสงสัยที่เธอพลาดเรื่องนี้ ทั้งที่ปกติทุกเรื่องในชีวิตของเจเลอร์ เธอจะรู้หมดไม่เคยพลาด “คบกันนานหรือยัง ทำไมแม่ไม่เห็นรู้เลย”
“สักพักแล้วครับ ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับแม่เพราะอยากจะรอให้แน่ใจก่อน ...ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้เสียเวลามาถึงที่นี่” เจเลอร์หันไปขอโทษสาวสวยที่มาที่นี่กับแม่ของตน
“อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ” เธอคิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรแถมดีใจด้วยซ้ำ เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากจะมานัดดูตัวนี้อยู่แล้วหากไม่ใช่ว่าแม่ของเธอบังคับให้มา
ทำไมฉันรู้สึกแปลกๆ นะ... “งั้นเดี๋ยวแม่ไปส่งหนูชาร์มที่บ้านก่อน เย็นนี้พาแฟนลูกไปกินข้าวเย็นที่บ้านเราด้วยนะ แม่อยากรู้จักเธอ...”
สายตาของผู้เป็นแม่แสดงออกว่าเธอกำลังจับผิด และไม่ได้เชื่อคำพูดของคนทั้งคู่ในทันทีแม้ว่าจะได้รับการยืนยันจากทั้งคู่ว่าพวกเขาคบกันแล้วก็ตาม...
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY