U1 - ก็บอกว่าฉันไม่ใช่คนิ้งไง!! / เธอคิดว่าฉันจำเมียตัวเองไม่ได้หรือไง?
U1 - ก็บอกว่าฉันไม่ใช่คนิ้งไง!! / เธอคิดว่าฉันจำเมียตัวเองไม่ได้หรือไง?
• ACTION •
ฉันเกือบดีใจที่แกกลับมาอยู่บ้านเป็นเพื่อนแล้ว เกือบดีใจที่ไม่ต้องใช้ชีวิตตามลำพังแบบเดิม เกือบดีใจว่าเราสองคนจะปรับความเข้าใจกันได้ แต่สุดท้ายแกก็ทิ้งฉันไป…
“ถ้าจะเป็นแบบนี้ แกก็ไม่ควรกลับมาสิ ฮึกๆ”
คณานั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หน้าหลุมฝังศพของแฝดพี่ ที่กลับมาหาเธอที่บ้านได้เพียงแค่ไม่ถึงเดือน ก็คิดสั้นจากเธอไป โดยที่เธอทั้งคู่ยังมีเรื่องค้างคาใจกันอยู่มากมาย
เพราะก่อนหน้าที่คนิ้งจะหนีออกจากบ้านไปนั้น เธอทั้งสองคนมีปากเสียงกัน และจากนั้นพวกเธอก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย เป็นเวลานานเกือบห้าปี จนกระทั่งเมื่อเดือนก่อน ที่คนิ้งกลับมาที่บ้าน บ้านหลังที่พ่อและแม่ของพวกเธอทิ้งไว้ให้ก่อนจากทั้งคู่ไป
ซึ่งคณานั้นไม่รู้เลยว่าเหตุใดพี่สาวของเธอจึงกลับมาที่บ้าน และก่อนหน้านี้เธอหายไปอยู่ที่ไหนมานานเกือบห้าปี…
หนึ่งเดือนต่อมา หลังจากคนิ้งเสีย…
ทาวน์เฮ้าส์เก่าๆ แถวชาญเมือง..
“วันนี้ฉันไม่เข้าร้านนะ รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย” คณาโทรบอกเพื่อนสาวของเธอ ที่ทำงานเป็นเด็กเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนึงแถวชาญเมือง
“โอเค เดี๋ยวฉันบอกเจ้แกให้”
“ขอบใจนะ” เมื่อจบธุระคณาก็กดวางสายทันที ก่อนจะนอนหลับตานิ่งคิดถึงเรื่องมากมายที่วนอยู่ในหัว
“ทำยังไงฉันถึงจะออกไปจากที่นี่ได้นะ..” ฉันไม่อยากจะใช้ชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้แบบนี้อีกแล้ว…
เธออดข้าวมาเกือบสองวัน เพราะไม่มีเงินติดตัวแม้แต่แดงเดียว และก็ไม่มีใครที่ไหนกล้าให้เธอยืมเงินแล้ว แม้แต่เงินจะเติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานก็ยังไม่มี หนำซ้ำยังมีหนี้ก้อนโตจากการที่เธอไปกู้ยืมเขามาทำศพให้พี่สาวผู้ล่วงลับอีกด้วย…
“กู้เงินมาทำศพแกตั้งหลายหมื่น จะตายยังต้องมาลำบากฉันอีก ฮึกๆ ฮือๆ~”
เมื่อพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอก็ร้องไห้ปล่อยโฮออกมา ไม่ใช่ว่าเธอนั้นเสียใจที่ต้องมีหนี้ก้อนโต แต่มันเป็นความเศร้าใจที่เธอต้องใช้ชีวิตโดยลำพังบนโลกใบนี้… แบบไร้ซึ่งญาติ ขาดซึ่งมิตร
“ฉันจะทำยังไงดี ฮือๆ~” ฉันเคยคิดว่าชีวิตที่ไม่มีคนิ้ง ฉันอยู่ได้สบายมาก จนเมื่อมันไม่อยู่จริงๆ ฉันถึงได้รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญและมีค่าที่สุดที่ฉันมีอยู่ แต่แล้วฉันก็ไม่เหลือใครเลย ไม่เหหลือเลยสักคน..
“พระเจ้าช่วยส่งทางออกให้ฉันทีเถอะนะ หรือไม่ก็… ส่งฉันไปอยู่กับมันแล้วก็พ่อแม่ที ฮือๆ~”
เธอนอนร้องไห้ซมอยู่บนที่นอนเพราะความโดดเดี่ยวที่เธอเผชิญอยู่ และทำได้เพียงภาวนาอ้อนวอนกับพระเจ้าเท่านั้น เพื่อขอให้ชีวิตของเธอถูกเมตตาบ้างสักครั้ง…
“คนิ้ง!!”
คณาเงียบเสียงร้องไห้ลง ก่อนจะเด้งตัวขึ้นจากที่นอน เพื่อตั้งใจฟังเสียงนั้นอีกครั้งให้แน่ใจ ว่าเธอไม่ได้หูฝาด ว่ามีใครกำลังตะโกนเรียกหาพี่สาวของเธอผู้ล่วงลับไปแล้วอยู่..
“คนิ้ง ฉันรู้นะว่าเธออยู่ในบ้าน ถ้าไม่ลงมาเปิดประตู ฉันจะพังบ้านเข้าไปแล้วนะ!!” เสียงของชายที่อยู่หน้าบ้านตะโกนบอกสารกับคนที่อยู่ด้านใน แต่ทว่าที่นี่กลับไม่มีคนที่เขามาตามหา
“ใครวะ?” เธอลุกขึ้นจากที่นอนและเดินลงไปเปิดประตู เพื่อดูว่าคนที่กำลังโวยวายอยู่หน้าบ้านของเธอนั้นเป็นใคร
แก๊ก!
“นี่! เธอหนีฉันมาทำไมยัยบ้าหนิ!” เมื่อหมอตินเห็นว่าผู้หญิงที่มีใบหน้าและรูปร่างเหมือนกันกับแฟนสาวของตนเปิดประตูบ้านออกมา เขาก็เดินพุ่งเข้าไปหาเธอในบ้านทันที ก่อนจะกระชากร่างบางของเธอเข้ามากอดด้วยความโมโหและในขณะเดียวกันนั้นก็เป็นห่วงเธออยู่ลึกๆ
“นี่! ปล่อยนะ มากอดฉันทำไมเนี่ยไอโรคจิต!” คณาพยายามที่จะผลักดันร่างหนาแปลกหน้านั้นออก แต่ทว่าแรงมหาสารของเขาที่กำลังขืนแรงเธออยู่นั้น มันไม่สามารถทำให้เธอขยับตัวหนีได้เลย
“กลับบ้าน!”
“กลับบ้านไหนล่ะไอบ้า นี่มันบ้านฉัน!”
“เดี๋ยวนี้กล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ!”
“ก็แล้วแกเป็นพ่อฉันหรือไงล่ะถึงจะพูดไม่ได้ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะไอบ้า ไม่งั้นฉันโทรเรียกตำรวจมาจับแกแน่”
“ก็เอาสิ.. เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าฉันไม่กลัวตำรวจ” ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้กล้าแสดงความก้าวร้าวใส่ผมแบบนี้ ทั้งที่ปกติ แค่ผมดุเธอคำเดียวเธอก็จะเงียบและก้มหน้าลงแล้ว สงสัยต้องมีใครล้างสมองเมียผมแน่ๆ
“มันพูดบ้าอะไรของมันวะ.. ได้ แกจะลองดีใช่ไหม?” คณาล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมา
หมับ!
“นี่! เอาโทรศัพท์ฉันมานะ แกจะทำบ้าอะไรวะ?!”
หมอตินพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้พูดหรือกระทำรุนแรงกับเธอ เพราะกลัวว่าการง้อปรับความเข้าใจครั้งนี้จะไม่เป็นผล และอีกอย่าง เขาไม่เคยต้องรับมือกับแฟนสาวในสภาพแบบนี้มาก่อน “กลับบ้านกัน ไปคุยกันที่บ้านดีๆ เถอะนะ”
“ก็นี่มันบ้านกู มึงจะให้กูไปไหนล่ะไอหน้าแมว!”
ผ ม ห ม ด ค ว า ม อ ด ท น กั บ เ ธ อ แ ล้ ว !!
หมอตินลากคณาออกมาจากบ้าน ก่อนจะจับเธอโยนเข้ารถตู้อัลพาร์ดสีดำคันหรูที่ขับโดยลูกน้องของเขา
คนที่อยู่รอบบริเวณนั้นเริ่มพากันมองตามเสียงโวยวายที่ดังมาจากบ้านของคณา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเดินเข้ามาช่วยเธอ เพราะคิดว่านั่นคงเป็นเจ้าหนี้ที่มาตามทวงหนี้เธอที่บ้าน ถึงได้มีปากเสียงกันแบบนั้น…
“พวกมึงยืนดูทำไม ไปช่วยอีคณามันสิ” เสียงป้าข้างบ้านของคณาพูดบอกกับลูกๆ ของเธอ ก่อนที่เธอจะเป็นคนวิ่งออกมาดักหน้าชายแปลกหน้าคนนั้นไว้ ก่อนที่เขานั้นจะก้าวขาขึ้นรถ
“เดี๋ยวสิ...”
“อย่ามายุ่งเรื่องผัวเมีย!” หมอตินหันไปตะหวาดป้าที่ทำท่าจะห้ามตน ก่อนจะรีบขึ้นรถไป และสั่งให้คนขับออกรถทันที
“แม่ ทำไงดีแจ้งตำรวจเลยดีไหม?” เสียงลูกของป้าข้างบ้านเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคณาถูกรถตู้คันหรูของคนแปลกหน้าพาตัวออกไปแล้ว
“อีคณามันไปมีผัวตอนไหนวะ?” เธอยังคงติดใจอยู่กับเรื่องที่ชายแปลกหน้าคนนั้นพูด เพราะหากว่านั้นเป็นเรื่องของผัวเมียทะเลาะกันจริงๆ เธอก็ไม่ควรเอาตัวเข้าไปยุ่ง เพราะกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นหมา หากเขาคืนดีกัน
“เอาไงดีแม่?”
“โอ๊ย! กูก็ไม่รู้เว้ย”
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
4Pเหล่ามาเฟียทั้งสามมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงในการรับเธอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
เรื่องย่อ วังวนร้อนรักจวนแม่ทัพใหญ่ แนว 4P ซุนหลีนถูกจับมาเป็นเชลยสงครามพร้อมพี่ชายบุญธรรมที่นางแอบมีใจให้เขาและมารดา แต่ด้วยความงามของนางจึงทำให้ฮูหยินใหญ่ที่ไร้ทายาทต้องการให้นางอุ้มท้องแทนตน เรียนท่านผู้อ่านทุกท่าน หนังสือนิยายเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวด นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเหมาะกับสายแซ่บไม่พูดเยอะ เจ็บคอ จะมีฉาก NC นำเนื้อหาแทบทั้งเรื่อง และพล็อตเบาคลายเครียด แทบไม่มีพล็อตค่ะ ดังนั้นท่านผู้อ่านควรพิจารณาโหลดตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ขอบคุณค่ะ
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
4Pเหล่ามาเฟียทั้งสามมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงในการรับเธอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
© 2018-now MeghaBook
บนสุด