S1 (สองแฝดตัวแสบ) ลูกสาวของเมียใหม่พ่อน่ารักดีว่ะ ดูอ่อนแอน่าแกล้งดี…3P
S1 (สองแฝดตัวแสบ) ลูกสาวของเมียใหม่พ่อน่ารักดีว่ะ ดูอ่อนแอน่าแกล้งดี…3P
• ACTION •
“ย้ายออกไปแล้วก็ดูแลลูกดีๆ ล่ะสั่งสอนกันดีๆ ระวังเถอะ เดี๋ยวลูกมึงมันจะได้ผัวไวตามแม่มัน…ผัวตายไม่เท่าไหร่ก็มีผัวใหม่ซะแล้ว”
เสียงป้าเจ้าของห้องรูหนูที่สองแม่ลูกเช่าอยู่พูดขึ้นกระแนะกระแหน สาววัยกลางคนที่เสียสามีที่คบกันมาสิบปีไป ซึ่งพ่อของเด็กสาวนั้นก็ได้จากไปนานเกือบปีแล้ว ซึ่งตอนนี้ที่บ้านเช่าแห่งนี้ก็มีแค่โบนิตา ‘นิต้า’ และหญิงอีกคนที่เธอเรียกว่าแม่มานานถึงสิบปี ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาทำหน้าที่นี้แทนแม่แท้ๆ ของเธอ เมื่อสิบปีก่อนหลังจากที่แม่แท้ๆ ของเธอเสียไป
“ถ้าพูดเพราะหวังดีจริงๆ ก็ขอบใจนะจ๊ะ” เสียงหญิงสาววัยสี่สิบปีพูดตอบกลับเสียงนิ่ง ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ก่อนจะจูงมือลูกสาววัยสิบแปดเข้าไปด้านในห้องเพื่อเก็บของสำคัญเท่าที่มีอยู่และเตรียมตัวย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่
ภายในห้อง…
“แม่ไม่ต้องฟังคำพูดของป้าเขานะ นิต้ารู้ว่าแม่รักพ่อ” เสียงหวานของเด็กสาว พูดด้วยท่าทางนุ่มนวลและอ่อนโยนเพื่อบอกกับแม่เลี้ยงที่แสนดีของเธอ เมื่อเห็นว่าน้ำใสเริ่มเอ่อคลอขึ้นที่ดวงตาของเธอผู้ที่เธอเรียกว่าแม่
ถึงแม้ว่าเธอจะตัดสินใจมีครอบครัวใหม่อีกครั้ง เธอก็ไม่เคยคิดจะทิ้งสาวน้อยคนนี้ที่เธอเรียกว่าลูกสาวไปเลยถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกที่ตนให้กำเนิด แต่เธอก็รักและเอ็นดูนิต้าเหมือนลูกแท้ๆ ด้วยความน่ารักและเป็นเด็กดีของนิต้า อีกทั้งเด็กสาวยังไม่มีใครให้เป็นที่พึ่งพานอกจากเธอ “แม่รู้ค่ะ แค่หนูเข้าใจแม่ แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ”
นาวีร์ (วี) ผู้เป็นแม่ดึงร่างเล็กของสาวน้อยเข้ามากอด เพื่อเพิ่มพลังความอบอุ่นและกำลังใจสู้ให้กับตัวเอง เพราะการตัดสินใจมีครอบครัวใหม่ครั้งนี้ เธอก็เลือกทำมันเพราะอยากให้เธอรวมถึงนิต้านั้นมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าจากเดิมที่เป็นอยู่ตอนนี้ เพราะว่าการอดมื้อกินมื้อมันน่ากลัวกว่าที่ใครหลายคนคิด..
เช้าวันรุ่งขึ้น…
รถตู้อัลพาร์ดคันหรูสีขาว ขับเข้ามาจอดที่หน้าห้องแถวเก่าๆ ในเขตชุมชนแออัด เพื่อมารับสาวสวยทั้งสองออกจากที่แห่งนี้ไปยังชีวิตใหม่ที่ศิวิไลกว่า และแม้ว่าที่แห่งนี้จะอยู่ในเมืองหลวงก็ตาม แต่ความเหลื่อมล้ำในระหว่างพื้นที่ก็มีอย่างเห็นได้ชัด ราวกับโลกคนละใบแบ่งชนชั้นกันอย่างชัดเจน
“มาเองเลยเหรอคะ?” เสียงหญิงสาววัยกลางคนพูดถามกับสามีใหม่ เศรษฐีร้อยล้านที่เดินทางมารับเธอกับลูกสาวถึงที่ซอมซ่อแห่งนี้ด้วยตัวเอง
“ก็ฉันตั้งใจจะมารับอยู่แล้วไง ..ว่าแต่นี่นิต้า ลูกสาวที่เคยเล่าให้ฟังใช่ไหม?” คุณลวิตร์ หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบหกปีเอ่ยถามกับภรรยาใหม่ พรางใช้ตามองไปที่เด็กสาวน่าตาน่ารักจิ้มลิ้ม ที่ยืนแอบอยู่ด้านหลังของเธอด้วยท่าทางอ่อนแอขี้กลัว
“ใช่ค่ะ นิต้าเธอเป็นเด็กขี้กลัวน่ะค่ะ …แต่ว่าเธอเป็นเด็กน่ารักนะคะ แล้วก็นิสัยดีไม่ดื้อไม่ซนด้วยค่ะ”
“ไม่ต้องกลัวฉันนะหนูนิต้า ฉันจะเป็นพ่อให้หนูเอง …ต่อไปเรียกฉันว่าป๊านะ” ท่าทางใจดีและดูอบอุ่นนั้นของเขาทำให้สาวน้อยเริ่มคลายความกลัวลงและเริ่มกล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองชายร่างสูงใหญ่คนที่กำลังพูดคุยกับเธออยู่ “เราไปกันเลยดีไหม?”
“ค่ะ”
ผมได้รู้เรื่องราวของสองสาวมาบ้างแล้วในส่วนหนึ่ง ซึ่งตัวผมเองก็เสียภรรยาไปได้เกือบปีแล้วเช่นกัน และจากที่ผมได้ยินมา ชีวิตของพวกเธอก็น่าสงสารมากจริงๆ จนผมไม่อาจที่จะเมินเฉยต่อสาวสวยแสนดี ที่ต้องเลี้ยงลูกสาวที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเธอโดยลำพังในที่ซอมซ่อแห่งนี้ได้ ผมอยากที่จะมอบโอกาสที่ดีให้กับเธอสองแม่ลูกโดยการพาทั้งคู่เข้าไปเป็นส่วนนึงกับครอบครัวของผม เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไป…
เพนท์เฮ้าส์ชั้นบน สุดหรูใจกลางเมือง…
ที่นี่เป็นที่พักของสามเสือพ่อลูกที่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้ ที่แห่งนี้จะไม่ได้มีเพียงแค่พวกเขาอาศัยอยู่เหมือนก่อนอีกแล้ว…
“นี่เหรอเมียใหม่ป๊า?” เสียงชายหนุ่มที่ใส่เสื้อฮูทสีดำยืนล้วงกระเป๋ากางเกงมองมาที่สองแม่ลูก สมาชิกใหม่ที่พ่อของตนเพิ่งพาเข้ามาที่บ้าน ด้วยใบหน้าสะลึมสะลือเพราะถูกงัดขึ้นจากที่นอน เมื่อไม่กี่นาทีก่อน
“ใช่… คนนี้ชื่อเลิฟลูกชายแฝดคนโตที่ฉันเคยเล่าให้ฟังไง ส่วนอีกคนนั่นชื่อเลอแปงเป็นแฝดคนน้อง” คุณพ่อพูดแนะนำลูกชายของเขาทั้งสองคนให้กับทั้งสองสาวได้ทำความรู้จัก
“พาเข้าบ้านแบบนี้ ป๊าคงจะจริงจังสินะครับ” เสียงเลอแปงชายหนุ่มใบหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร พูดถามกับพ่อของเขา ถึงแม้ว่าจะรู้เรื่องเจ้าชู้ผู้หญิงเยอะของพ่อมาบ้าง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อพาผู้หญิงที่ไหนเข้าบ้านเลย ตั้งแต่แม่ของตนจากไป
“ฝากตัวด้วยนะคะ” แม่ของสาวน้อยพูดขึ้นบอกกับสองหนุ่มลูกชายเจ้าของบ้าน เพื่อหวังว่าพวกเขาและเธอจะสามารถอยู่ร่วมกัน และเป็นครอบครัวเดียวกันได้
“ที่ปลุกผมขึ้นมา เพราะแค่อยากจะให้รู้จักเมียใหม่ป๊า แล้วก็… เด็กคนนี้ใช่ไหม” เลิฟพูดพร้อมกับมองไปที่เด็กสาวอีกคนที่ยืนหลบหน้าหลบตาอยู่ทางด้านหลังของเมียใหม่ของพ่อตน
ท่าทางนิ่งขรึมและดูลึกลับน่ากลัวนั้น ทำให้เด็กสาวไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองคนที่ยืนจ้องเธออยู่ได้เลย แต่กลับกันชายอีกคนนั้นดูให้ความสนใจกับเธอมากๆ แถมยังส่งยิ้มเป็นมิตรให้เธออีกด้วย และถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีน่าตาที่ละม้ายคล้ายคลึงกัน แต่ลุคของทั้งคู่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เลิฟเขาดูเป็นคนที่นิ่งดุ ลึกลับและเก็บตัว แต่กับเลอแปงนั้นเขาดูเป็นคนที่อัธยาศัยดีเข้ากับคนง่าย
“ส่วนนี่ นิต้า เธอเป็นลูกสาวของวี เมียใหม่ป๊า อย่าแกล้งน้องล่ะเข้าใจไหม?” คนเป็นพ่อพูดเตือนเพราะรู้จักนิสัยของลูกชายดีว่าดื้อและแสบแค่ไหน
“ผมต้องเรียกเธอว่าแม่ด้วยไหม?” เลิฟเอ่ยถามพ่อของตนหน้านิ่ง
“ไม่ต้องก็ได้นะคะ” วีเธอพูดอย่างเกรงใจ
“ก็แล้วแต่พวกแกสิ..” คนเป็นพ่อพูดขึ้น
“เข้าใจแล้วครับ ยินดีต้อนรับเข้าบ้านนะครับ …แม่” เลิฟพูดจบก็เดินกลับเข้าห้องนอนไป และเขาก็ไม่ได้แสดงว่าต้องการต่อต้านหรือดีใจที่มีเธอสองคนมาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านแต่อย่างใด เพราะคนเก็บตัวแบบเขานั้นไม่ใช่คนที่สนใจโลกภายนอกอยู่แล้ว ซึ่งการมีเมียใหม่หรือลูกใหม่ของพ่อเขา ก็ไม่ได้กระทบกับความรู้สึกหรือการใช้ชีวิตของเขาเลยสักนิด
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY