3Pความดื้อและขี้สงสัยของมายู กำลังสร้างปัญหาให้กับเธอ และมันก็เป็นต้นต่อทำให้ความสำพันธ์พ่อลูกปล่อมๆของพวกเราจบลง ‘เด็กดื้อ’ ก็ต้อง ‘เจอแด๊ดดุ’
3Pความดื้อและขี้สงสัยของมายู กำลังสร้างปัญหาให้กับเธอ และมันก็เป็นต้นต่อทำให้ความสำพันธ์พ่อลูกปล่อมๆของพวกเราจบลง ‘เด็กดื้อ’ ก็ต้อง ‘เจอแด๊ดดุ’
• ACTION •
หลังจากที่พ่อและแม่ใหม่ของผมเสียชีวิตได้ไม่นานผมก็ต้องหยุดความฝันทุกอย่างของตัวเองไว้เพื่อขึ้นรับตำแหน่งแทนพ่อและทำงานหาเลี้ยงน้องๆ ผมกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวในวัยเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปี
แถมยังต้องเลี้ยงน้องวัยสิบเก้าและน้องสาวต่างแม่วัยสี่ขวบอีกด้วย ผมล้มลุกคลุกคลานอยู่นานเจอปัญหามากมายที่เด็กเพียงอายุยี่สิบกว่าอย่างผมเกินจะรับไหว แต่ผมก็ทิ้งทุกอย่างไปไม่ได้
และทุกครั้งที่ผมเจอกับปัญหามันก็ทำให้ผมโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมพาบริษัทไวน์ของพ่อขึ้นสู่บริษัทส่งออกไวน์อันดับหนึ่งในไทย ซึ่งมันก็ใช้เวลาอยู่หลายปีเช่นกัน
จนตอนนี้ก็ผ่านมาสิบสองปีได้แล้วที่ผมขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัท ตอนนี้การทำงานของผมอยู่ตัวมากขึ้นไม่ต้องเหนื่อยเหมือนแต่ก่อน แต่สิ่งที่ทำให้ผมหนักใจมากขึ้นทุกวันและไม่รู้ว่าจะแก้ยังไงก็คือเรื่องมายูนี่แหละ ที่ตอนนี้ผมกับไอซีนายกลายเป็นพ่อจำเป็นให้เธอไปแล้ว
“แด๊ดดี้~”
เสียงห้าวของเด็กผู้หญิงวิ่งตะโกนรอบบ้านซึ่งทำผมกับเฮียโซ่ปวดหัวทุกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของเธอ “อยู่นี่!” ผมตะโกนขานรับเสียงเรียกหาของเด็กสาวที่ดังมาจากชั้นสองของบ้าน
ฉันชะโงกหน้าไปมองตามเสียงที่ดังมาจากห้องโถงใหญ่กลางบ้านซึ่งพอมองลงไปก็เห็นว่าพวกแด๊ดนั่งอยู่ที่โซฟาห้องรับแขกใหญ่กลางบ้านเลยรีบวิ่งลงไปหาพวกเขาเพื่อให้แด๊ดจัดการธุระสำคัญให้
“มีอะไร เรียกหาแด๊ดทำไม” ผมเอ่ยปากถามมายูที่วิ่งลงบันไดมาหน้าตาตื่นราวกับว่าเธอนั้นมีเรื่องสำคัญ
“แกะตะขอเสื้อในให้หน่อย มายูแกะไม่ออก” ฉันเพิ่งจะลองใส่มันอยู่ไม่กี่ครั้งเพราะก่อนหน้านี้ฉันใส่แต่เสื้อซับกับเสื้อกล้าม แต่การใส่เสื้อในครั้งนี้มันแกะยากมากกว่าครั้งก่อนๆ ฉันแกะมันอยู่นานแล้วจนคิดว่าคงต้องหาคนช่วยเอามันออกแล้วล่ะ
พอได้ยินสิ่งที่มายูพูดผมก็โยนขี้ไปให้ไอซีนายทันที “ไปให้ไอซีนายแกะเลย”
“อ้าวเฮีย..” เฮ้อ ผมละปวดหัวกับเด็กคนนี้จริงๆ เธอไม่เคยระวังตัวกับพวกเราเลยทำตัวเหมือนว่าตัวเองเป็นเด็กผู้ชายที่เพิ่งมีนมไปได้
ฉันเดินเข้าไปหาแด๊ดซีนายที่โซฟาก่อนจะหันหลังและเอาตูดดันขาสองข้างของแด๊ดซีนายให้แยกออกจากกันเพื่อที่ตัวเองจะแทรกตูดเข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างขาของแด๊ดได้ “ดูนี่สิแด๊ดมันใหญ่ขึ้นทุกวัน...ใหญ่ขึ้นไม่พอแถมยังเจ็บอีก”
มายูพูดพร้อมกับใช้มือบีบขย้ำก้อนเนื้อนุ่มสองก้อนบนหน้าอกของตัวเองให้ผมเห็น แล้วผมก็ดันโชคร้ายที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับมายูพอดี “มายู! อย่าทำแบบนั้นสิหนูโตแล้วนะ”
ผมได้ยินเสียงเฮียโซ่ดุมายูซึ่งผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าเธอทำอะไรถึงโดนเฮียดุแบบนั้นเพราะผมกำลังมือสั่นอยู่กับการปลดตะขอเสื้อในให้ลูกสาวสุดดื้ออยู่ เฮ้อกูจะบ้าตาย
“ทำไมต้องดุด้วยล่ะ” ฉันก็แค่ต้องการให้แด๊ดเห็นก้อนเนื้อที่มันงอกขึ้นมาบนตัวของฉันซึ่งฉันไม่ถูกใจกับมันเอามากๆ เพราะมันทำให้ฉันเจ็บ
มายูยกคิ้วถามผมด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่ได้มีความเกรงกลัวผมเลย เธอจะชอบพูดตลอดว่าผมใส่แว่นเหมือนเด็กติ๋มสงสัยที่เธอจะไม่กลัวผมเพราะแบบนั้น เฮ้อ “ไม่ต้องถาม แด๊ดบอกว่าอย่าทำก็คืออย่าทำ” ผมพูดบอกเธอจบก็เปิดหนังสือหน้าที่อ่านค้างอยู่เพื่ออ่านต่อ แต่ด้วยความเป็นเด็กขี้สงสัยของมายูเธอก็ไม่ลดละความพยามที่จะถามผมเอาคำตอบให้ได้
“แล้วทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ ทำไม่ได้ก็ต้องมีเหตุผลสิว่าเพราะอะไร” ฉันพูดพร้อมกับยกมือสองข้างขึ้นและแบมือออกเพื่อที่จะเอาคำตอบจากแด๊ดเคนโซ่ “ทำไมถึงทำไม่ได้คะ?”
“เสร็จแล้ว ขึ้นห้องไปไป๊” พอปลดตะขอเสื้อในให้มายูเสร็จผมก็ดันหลังเธอให้ลุกออกจากระหว่างขาของผมทันที
“เลิกสงสัยได้แล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุดไป” ผมไล่เธอให้ขึ้นไปเปลี่ยนถอดชุดนักเรียนออกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องตอบคำถามนั้นกับเธอ
พอเห็นว่าถามยังไงแด๊ดก็ไม่ยอมบอกก็เลยสบัดตูดขึ้นห้องนอนมาเปลี่ยนชุด “เชอะ!”
หลังจากที่มายูเดินขึ้นห้องผมก็เอนหัวพิงกับพนักพิงโซฟาทันที เพราะรู้สึกเอือมระอาและเหนื่อยที่จะตอบคำถามของเธอ...วันๆ ไม่รู้จะสงสัยอะไรนัก
กริ่งๆ เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นและพอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ต้องแปลกใจที่เบอร์นี้โทรเข้ามาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปสักพัก “สวัสดีครับครู” ตอนนี้ผมกำลังลุ้นอยู่ว่าครูประจำชั้นของมายูจะโทรมาหาผมเรื่องอะไร
“เอ่อ...วันนี้มายูโดดเรียนสามวิชาค่ะ” ฉันทำใจอยู่นานที่จะโทรมาบอกพ่อของมายูดีหรือเปล่าแต่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำแบบนี้ แล้วฉันก็ไม่อยากจะเห็นเด็กนักเรียนของตัวเองเรียนซ้ำชั้นอีกด้วยเลยคิดว่าโทรมาปรึกษาคุณพ่อของเธอน่าจะดีกว่า
“โดดเรียนอีกแล้วเหรอครับ..” และเรื่องที่ครูบอกก็เป็นเรื่องที่ผมไม่อยากจะฟังเลย “โดดเรียนวิชาอะไรครับ..”
“วิชาคณิตศาสตร์ อังกฤษ แล้วก็เพศศึกษาค่ะ”
ดูเหมือนว่าลูกสาวของเราจะสร้างเรื่องอีกแล้วดูจากที่เฮียโซ่คุยกับครูของมายูหน้ามุ่ยแบบนั้นแล้ว เด็กนี่แสบจริงๆ
“แล้วมายูโดดเรียนไปไหนครับ”
“เห็นบรรณารักษ์ห้องสมุดบอกว่าเธอแอบเข้าไปอ่านการ์ตูนอยู่ในนั้นจนถึงเลิกเรียนเลยค่ะ”
“ขอบคุณมากครับคุณครูเดี๋ยวผมจะจัดการเธอเอง” ผมรีบวางสายทันทีเพราะคิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างกับมายูแล้วขืนปล่อยไปแบบนี้เหมือนครั้งก่อนๆ เธอได้เรียนซ้ำชั้นแน่ และผมก็ไม่อยากที่จะใช้เงินยัดเพื่อให้เธอเรียนจบเหมือนตอนมอต้นแล้วด้วย
“ตีเลยไหมเฮีย ฮ่าๆ” ผมพูดแหย่เฮียขำๆ เพราะเห็นว่าเฮียดูจะเครียดกับมายูลูกสาวของเราเอามากๆ
ห้องนอนเคนโซ่...
ตอนแรกผมก็กะว่าจะเข้าไปคุยกับมายูที่ห้องแต่ผมเคลียร์งานนานไปหน่อยพอเปิดเข้าไปก็เห็นว่าเธอหลับไปแล้วเลยไม่ได้ปลุกเธอขึ้นมาคุย “พรุ่งนี้ค่อยคุยแล้วกัน” พรุ่งนี้เป็นวันหยุดพอดีผมมีเวลาคุยปรับทัศนคติลูกสาวตัวแสบของผมได้ทั้งวันเลยล่ะ
ครืน ครืน เปรี๊ยง!
ขณะที่ผมกำลังจะเอนหลังลงนอนก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเหมือนว่าคืนนี้จะฝนตกหนัก ผมหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วก็เห็นว่าตอนนี้เกือบจะตีหนึ่งได้แล้ว ''คงไม่ตื่นหลอกมั้ง'' ผมกลัวว่าคนที่จะตื่นขึ้นกลางดึกเพราะเสียงฟ้าร้องนั่นจะเกิดงอแงเข้ามานอนห้องผมอีกเหมือนทุกครั้ง แต่ดึกป่านนี้แล้วเธอคงจะหลับสนิทแล้วล่ะ ผมเองก็หวังให้มันเป็นแบบนั้นแต่ก็อดจ้องมองไปที่ประตูไม่ได้ “หาว~”
ครืน เปรี๊ยง!!
แก๊ก!
ห้องนอนซีนาย...
“ฮึกๆ ...” เสียงฟ้าร้องนั่นทำให้ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นจนต้องมานอนในที่หลบภัย และห้องแด๊ดซีนายก็ไม่ได้ล็อกพอดี ฉันหมุนตัวเข้าไปซุกกอดแด๊ดเพราะหาเกาะป้องกันจากเสียงฟ้าร้องที่ดังคำรามน่ากลัวนั่น และถึงฉันจะเหม็นกลิ่นเหล้าที่ตัวแด๊ดมากแค่ไหนก็ต้องฝืนนอนที่นี่เพราะแด๊ดเคนโซ่ล็อกห้องนอนไว้ฉันเลยเข้าไม่ได้
“กินหรืออาบมาเนี่ยแด๊ด!” ขนาดฉันพูดบ่นขนาดนี้แด๊ดซีนายยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยไม่รู้ว่าหลับหรือน็อกเหล้าตายไปแล้ว แต่ก็ยังดีกว่านอนในห้องคนเดียวล่ะวะ
เวลา9โมงเช้า...
ผมนอนหลับตาลูบคลำเรือนร่างของผู้หญิงที่ผมหิ้วมานอนที่บ้านเมื่อคืนหลังกลับจากไปเที่ยวผับ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงที่ผมพากลับมาหน้าตาเป็นยังไงแต่เพียงแค่ได้กลิ่นหอมๆ จากซอกคอของเธอและผิวเนียนนุ่มที่เหมือนผิวเด็กบนร่างเล็กๆ นี่แล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเธอต้องสวยมากแม้จะยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองก็ตาม
ผมเริ่มลากมือขึ้นมาบีบก้อนเนื้อนุ่มบนหน้าอกของเธออย่างเบามือพร้อมกับใช้แกนชายที่เริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นบดเบียดเด้าบั้นท้ายสวยของเธอ
(แต่...เมื่อคืนกูแดกเหล้าที่บ้านนี่หว่า)
พอผมเริ่มสร่างเมาขี้ตาและจำความได้ก็ลืมตาขึ้นมองคนที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของผมทันทีว่าเธอคือใครและผมก็ต้องเห็นเข้ากับสีหน้าของเด็กสาวที่ผมคุ้นชินกับใบหน้าของเธอดีและตอนนี้เธอกำลังขมวดคิ้วและยกคิ้วข้างนึงขึ้นก่อนจะลากสายตาขึ้นลงมองที่หน้าของผมด้วยท่าทางกวนโอ๊ย
“ทำอะไรของแด๊ดเนี่ย!” ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะรู้สึกเจ็บที่แด๊ดบีบนวดตัวฉัน ไม่รู้ว่าที่เขาทำเพราะนอนละเมอหรือจะแกล้งให้ฉันตื่นกันแน่
“หยุดเอาอะไรแข็งๆ มาทิ่มก้นมายูได้แล้ว มายูจะนอน” ผลัก! ฉันใช้มือดันของแข็งที่กำลังทิ่มก้นของฉันอยู่ให้ออกห่างจากก้นของฉันเพราะสิ่งนั้นมันทำให้ฉันรำคาญและมันก็กวนเวลานอนพักผ่อนยาวๆ ในวันหยุดแบบนี้
มือน้อยของมายูหมับเข้าที่แกนชายของผมก่อนจะดันเป้าผมให้ถอยออกห่าง “อุ๊ย! มายูกลับไปนอนห้องดีกว่าไหม”
ตอนนี้ผมอยากให้เธอย้ายกลับไปนอนที่ห้องของตัวเองมากๆ เพราะว่าผมเกิดรู้สึกผิดที่มีอารมณ์แบบนั้นกับมายูแถมผมยังเผลอไปลวนลามเธออีก แล้วดูท่าแกนชายของผมจะยิ่งขยายใหญ่มากขึ้นเมื่อมันโดนสัมผัสด้วยมือเล็กของเด็กคนนี้ เฮ้อ…
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY