S2.1 ...แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทยย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน... (ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า)
S2.1 ...แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทยย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน... (ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า)
INTRO!(สำคัญ)
"ทำความเข้าใจก่อนอ่าน"
S1อาหมอ S2.1 บำบัดรักแฟนเพื่อน (OLD.)
ควรอ่านตามนี้เพื่อไม่ให้งง มี2แบบ ดังนี้.
เริ่มอ่าน s1อาหมอ ต่อด้วย s2.1 บำบัดรักแฟนเพื่อน (ตอนจบแบบเก่า)
เริ่มอ่าน s1อาหมอ ต่อด้วย s2.2 คุณหมอสองรัก (ตอนจบแบบใหม่)
ปล.ใครยังไม่เคยอ่านเรื่องแรก สามารถเริ่มอ่านเรื่องใหม่ 'บำบัดรักแฟนเพื่อน' ได้เลยนะครับ เดี๋ยวไรท์จะลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ ของS1ไว้ให้ เผื่อใครอยากเริ่มอ่านที่เรื่องนี้เลย
S1.ญะญ๋าและหมอปืนทั้งคู่เป็นอาหลาน (เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของพ่อ) ญ๋ามาอาศัยอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของหมอปืนและทำงานที่เดียวกันจึงเกิดความรักขึ้น ญะญ๋าป่วยเป็นแพนิคและซึมเศร้า มีเรื่องฝังใจมากมาย เช่น ความเครียดในวัยเด็ก เธอมีเพื่อนคนเดียวคือแสนดีเพราะหลายคนไม่ชอบที่เธออ่อนแอและความกดดันจากการเรียนแพทย์ (ญ๋าเรียนไม่เก่ง หัวไม่ดีแต่ก็พยายามถึงที่สุดเพื่อจะเป็นหมอ) บุกคลิกของเธอที่เป็นสาวหวานน่ารักไร้เดียงสา ท่าทางของเธอไม่ถูกใจเพื่อนร่วมงานจนถูกเอาไปนินทาในกลุ่มลับว่าเธอเป็นพวกแอ๊บใส ซึ่งต่อหน้าทุกคนทำเป็นพูดดีด้วยแต่ลับหลังพูดถึงเธอเสียๆ หายๆ ถึงอาการป่วยที่เธอเป็น (ว่าเป็นโรคอ่อยผู้ชายยอดฮิต) แต่เธอกลับมองว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่น่ารักกลุ่มหนึ่งซึ่งความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เหตุการณ์ฝั่งใจที่ทำให้อาการเธอแย่ขั้นสุด คือเธอไม่สามารถรักษาคนไข้ต่อได้เพราะอาการแพนิคกำเริบจนทำคนไข้เสียชีวิตคาเตียงผ่าตัด เรื่องที่ต้องปิดบังพ่อแม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ของเธอกับหมอปืน และเหตุผลอีกมากมายที่ทำให้คนอ่อนแออย่างญะญ๋าตัดสินใจฆ่าตัวตาย (ในตอนจบของเรื่อง s1อาหมอ) จนเป็นที่มาให้หมอปืนคนรักของเธอเสียสติ
ตอนจบเก่า OLD! [แสนดีตั้งใจที่จะเรียนจิตแพทย์เพื่อญะญ๋า แต่กลับต้องมารักษาอาการป่วยจิตให้กับหมอปืนแฟนของเธอแทน]
...ฉันจะรักษาหมอปืนให้หาย แกไม่ต้องเป็นห่วงนะญะญ๋า...
ไปเริ่มกันเลย!!
• ACTION •
วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องมาพบกับคนไข้จิตเวชคนพิเศษ หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันนานสามปี เพราะหลังจากที่พวกเราสูญเสียญะญ๋าไปทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง และกว่าที่จะตั้งหลักกับความเป็นจริงที่ไม่มีญ๋าได้ฉันก็ใช้เวลาไปเป็นปี
แต่ยังมีอยู่คนนึงที่ติดอยู่กับเหตุการณ์ในอดีตไม่ยอมไปไหน และหากว่าเขายังเป็นแบบนี้อยู่อีกไม่นานก็คงเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้น เพราะการที่เขาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์หรูนี้ลำพังและไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ไม่นานความโดดเดี่ยวจะฆ่าเขาในที่สุด
หลังจากที่แสนดีปฏิเสธการรักษาหมอปืนอยู่หลายครั้ง เพราะกลัวว่าการที่ได้เจอหมอปืน มันจะทำให้พากันเศร้าทั้งคนไข้แล้วก็หมอ แต่สุดท้ายเธอก็รับรักษาคนไข้คนนี้เหตุผลก็เพราะเพื่อนรักของเธอ
ติ๊งต่อง!
พอได้ยินเสียงคนกดกริ่งเจ้าบ้านก็เดินมาเปิดประตูทันที แล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าแสนดีมาที่นี่
“อ้าวแสนดี ไม่เจอกันนานเลย มาหาญะญ๋าเหรอ...”
คำพูดนั้นของหมอปืนทำให้เธอจุก จนแน่นิ่งไปสักพัก “ค่ะหมอ” นี่แหละสิ่งที่ฉันกลัว การที่หมอปืนยังพร่ำเพ้อพูดถึงญ๋าอยู่แบบนี้
“เข้ามาก่อนสิ ญ๋ายังหลับอยู่เลย”
หลับอยู่เหรอ “...หมอปืนสบายดีใช่ไหมคะ”
แสนดีมองดูสภาพผมยาวเฟื้อยหนวดไม่ได้โกน ร่างกายซูบผอมของคนไข้ของเธอแล้วก็รู้สึกเวทนา
“ก็สบายดีนะ แต่ญ๋านี่สิเอาแต่นอนอย่างเดียวขี้เกียจตัวเป็นขนเลย ฮ่าๆ” หมอปืนหัวเราะออกมาทั้งที่สีหน้าของตัวเองนั้นดูเศร้ามากและมันก็ยิ่งทำให้คนที่เห็นรู้สึกหดหู่จนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “นั่งก่อนสิแสนดี”
“ค่ะหมอ”
เธอนั่งลงที่โซฟาห้องรับแขกและมองไปรอบๆ บ้านก็เห็นว่าที่นี่ดูสะอาดตาดีเหมือนว่าหมอปืนจะเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านเป็นปกติ แต่ที่ดูรกหูรกตาที่สุดก็หน้าจะเป็นเจ้าของบ้านนี่แหละ ตอนนี้หมอปืนผมยาวกว่าเธอซะอีกแถมหนวดเคราก็ยาวรกรุงรังปิดหน้าไปหมด พอเห็นสภาพคนไข้แล้วเธอก็รู้สึกท้อใจเพราะเขาดูแย่กว่าที่เธอคิดไว้
หมอปืนเดินเข้าไปเอาน้ำในครัวมาวางไว้ให้แสนดี ก่อนจะถามถึงธุระของเธอ “มีธุระอะไรกับญ๋าเหรอ?”
“แค่คิดถึงญ๋าเฉยๆ น่ะค่ะ ก็เลยแวะมาหา” เธอรู้ว่าถ้าบอกคนไข้ไปตามตรงว่าเธอจะมารักษาเขา เธอคงจะโดนเขาไล่ออกจากบ้านแน่
“ช่วงนี้ญ๋าเอาแต่นอน ข้าวปลาก็ไม่ยอมลุกมากิน..ถ้าอยากเจอก็ลองเข้าไปเรียกดูสิเผื่อว่าญ๋าจะตื่น” ผู้ป่วยคิดไปว่าถ้าแฟนของตนเห็นว่าเพื่อนมาหาเธออาจจะดีใจ
“ไปเรียกเหรอคะ”
“ใช่ ในห้องนั้น เดินเข้าไปได้เลย”
“ค่ะ”
ถึงจะรู้ว่าภายในห้องนั้นไม่มีใคร แต่ฉันก็ต้องลุกไปดูญ๋าตามที่คนไข้ของฉันบอก เพราะการได้รู้ความเป็นอยู่ของเขามันน่าจะมีอะไรที่ฉันสามารถเก็บข้อมูลไว้ไปทำการรักษาเขาได้
พอเปิดเข้ามาในห้องนี้ก็ดูสะอาดตาเหมือนกับภายนอก พอมองไปที่เตียงฉันก็เห็นญ๋าของคนไข้ฉันจริงๆ หมอนข้างที่สวมชุดนอนสีฟ้าอ่อนมีโบผูกผมมัดไว้ที่จุกหมอนข้าง
ภาพที่เห็นทำให้แสนดีกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะเธอเองก็ยังจดจำญะญ๋าได้ดีไม่เคยลืม “ฮึกๆ ญ๋า”
เธอฟุบหน้าร้องไห้กับหมอนข้างตัวแทนของญ๋าที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียง เพราะภาพจำทั้งหมดมันยากเกินจะทนเจ็บ เมื่อได้นึกถึง
“ตั้งสติหน่อยสิแสนดี แกมารักษาหมอปืนนะ” เธอพูดเตือนตัวเองที่กำลังร้องไห้ฟูมฟาย
“ญ๋าตื่นหรือเปล่าแสนดี?”
“เอ่อ..ญ๋าบอกว่าอยากนอนต่ออีกหน่อยน่ะค่ะ” แสนดีรีบยกมือขึ้นมาปาดเช็ดน้ำตาออก เพื่อไม่ให้หมอปืนเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ “เราออกไปข้างนอกกันดีกว่านะคะ”
จิตแพทย์อย่างแสนดีเริ่มคิดหาวิธีที่จะทำการรักษา และเขาควรจะได้รับยาเพื่อปรับสารเคมีในสมองที่เป็นผลต่อโรคให้มีความสมดุล ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะให้คนไข้จิตเวชทานยาตามที่หมอสั่ง
“หมอปืนอยู่แต่บ้านไม่ออกไปไหนเลยเหรอคะ?”
“ใช่..หมอไม่ได้ออกไปไหนหรอกอยู่บ้านเป็นเพื่อนญ๋าน่ะ จะมีก็แต่ไอเซฟกับแสนรักที่มาหาบ้าง”
“อ๋อจริงสิ หนูมีของฝากมาให้หมอปืนด้วยน่ะค่ะ” ฉันหยิบกระปุกยาวิตามินอาหารเสริมที่ด้านในถูกสลับเปลี่ยนเป็นยาที่หมอปืนควรจะได้รับเพื่อการรักษา
“วิตามินอาหารเสริมค่ะ ยี่ห้อนี้กินดีมากเลยนะคะ” ฉันวางกระปุกยาไว้ที่โต๊ะตรงโซฟาก่อนจะหาเรื่องชวนหมอปืนกินข้าว “หมอปืนทานข้าวหรือยังคะ”
“กินหรือยังเหรอ?” เขาพยายามนึกว่าตนเองทานข้าวไปหรือยัง แต่ก็นึกไม่ออก มือที่สั่นไม่หยุดเพราะอดข้าวตอบกลับอีกคนได้เป็นอย่างดี
“เราทานข้าวกันดีไหมคะ หนูยังไม่ได้กินอะไรมาเลย”
“ได้สิ เดี๋ยวหมอทำอะไรให้กินนะ” เขาพูดจบก็ลุกเดินเข้าครัวไป แต่เมื่อเปิดดูของในตู้เย็นและตู้เก็บของในครัวก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเหลืออยู่ จะมีก็แค่มาม่าคัพเท่านั้น
“อ้าว ลืมไปว่าในตู้เย็นไม่มีของเลย...ทำไงดีล่ะ”
“ไม่มีของเหรอคะ?”
“ใช่ หมอไม่ได้ออกไปซื้อของมาตุนไว้เลยน่ะ”
“งั้นเราออกไปซุปเปอร์ใกล้ๆ ซื้อของกันก่อนดีไหมคะ” ฉันหลอกล่อหมอปืนให้ออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง เผื่อว่าการที่เขาได้เห็นอะไรแปลกหูแปลกตา จะช่วยกระตุ้นให้เขาตื่นตัวพร้อมรับกับการรักษาของฉัน
“ไม่ได้หรอก หมอทิ้งญ๋าไว้บ้านคนเดียวไม่ได้ เธอเป็นซึมเศร้าอยู่แสนดีลืมเหรอ” การทิ้งผู้ป่วยไว้คนเดียวเป็นเรื่องที่อันตราย ผมทำแบบนั้นไม่ได้
“แต่เมื่อกี้ญ๋าก็บ่นว่าหิวเหมือนกันนะคะ เห็นบอกว่าอยากจะกินตีนไก่เผ็ดด้วย สงสัยเธอคงต้องอดกินแล้วล่ะ” เธอยกญะญ๋าขึ้นมาอ้างเพื่อหลอกล่อหมอปืน
“เอ่อ...” หมอปืนทำท่าทางคิดหนัก
“เราไปซื้อของกันแล้วให้ญ๋านอนรออยู่ที่บ้าน พอทำเสร็จค่อยไปเรียกญ๋ามากินข้าวด้วยกันดีไหมคะ”
“แต่ว่ารถหมอ...”
“หนูเอารถมาค่ะ ไปรถหนูก็ได้”
“งั้น..หมอขอไปบอกญ๋าก่อนนะว่าจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวตื่นมาแล้วหาหมอไม่เจอเดี๋ยวจะงอแงอีก”
“ได้ค่ะ..ฝากถามญ๋าด้วยนะคะว่าอยากกินอะไรเพิ่มไหม”
การที่จะเป็นจิตแพทย์ได้ฉันก็ต้องเข้าใจคนไข้ที่ตัวเองรักษาโดยการเอาตัวเข้าไปอยู่ใกล้เขา แบ่งปันเรื่องเล่าความทุกข์จากเขาและบางทีฉันก็ยังต้องทำตัวบ้าเหมือนเขาอีกด้วย เคสหมอปืนก็ยังถือว่าดีกว่าคนไข้ของฉันก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองเป็นนางทาสในสมัยรัชกาลที่5 ซึ่งฉันก็แปลงร่างเป็นคุณหญิงเพื่อช่วยบำบัดคนไข้มาแล้ว เรื่องตามน้ำคนไข้จิตแพทย์แบบฉันถนัดเรื่องนั้นที่สุด
ฉันสัญญานะญ๋า ว่าจะรักษาคนรักของแกให้หายกลับมาเป็นปกติให้ได้...
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY