มาเฟียหนุ่มคลั่งรัก หลงรักเพื่อนของแฟนเพื่อนจนยากจะถอนตัว ตอนแรกก็เจียมตัวดี แค่ได้ชอบเธอก็พอแล้ว เธอมันนางฟ้าเขามันซาตาน แต่ดันตกกระไดพลอยโจรไปกับแผนการจับคู่ของเพื่อน จากที่ไม่เคยคิดจะครอบครอง กลับกลายเป็นต้องแย่งมา ...
มาเฟียหนุ่มคลั่งรัก หลงรักเพื่อนของแฟนเพื่อนจนยากจะถอนตัว ตอนแรกก็เจียมตัวดี แค่ได้ชอบเธอก็พอแล้ว เธอมันนางฟ้าเขามันซาตาน แต่ดันตกกระไดพลอยโจรไปกับแผนการจับคู่ของเพื่อน จากที่ไม่เคยคิดจะครอบครอง กลับกลายเป็นต้องแย่งมา ...
จ๊วบ~
"อ๊าาา~ นิ้งครับพี่จะไม่ไหว"
มือหนาลูบที่กลุ่มผมดำของหญิงสาวที่กำลังนั่งลงตรงกลางหว่างขาของมาเฟียหนุ่ม
มือเรียวกำรอบแก่นกายใหญ่รูดมันเข้าออกอย่างช้าๆ
เรียวลิ้นเล็กตวัดทักทายหัวเห็ดปลายบานของไทเลอจนเปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำลายใส
"ซี๊ดดดดด~ ขะ ... ขอแตกใส่ปากนะครับ"
ไทเลอจับศีรษะของคนตัวเล็กเอาไว้มั่นก่อนจะเป็นฝ่ายขยับสะโพกเข้าออกเริ่มจากจังหวะเนิบนาบลามไปจนถึงหนักหน่วง หญิงสาวจับต้นขาของเขาแน่นจิกเล็บลงบนต้นขาแกร่งจนเกิดรอยแดง แต่ในจังหวะนี้ไทเลอไม่สนใจอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว
สะโพกหนาเริ่มกระแทกกระทุ้งในโพรงปากบางด้วยจังหวะระรัวไทเลอเชิดหน้าอยากจะปลดปล่อยเต็มที่ เขาจับศีรษะของคนตัวเล็กขยับโยกไปตามแรงอารมณ์ปรารถนาก่อนจะปลดปล่อยห้วงอารมณ์แห่งความหฤหรรษ์ออกมาให้เธอได้กลืนกิน
"อะ ... อ๊าาา! นิ้งงงง ช่วยกลืนให้พี่หน่อยครับ อ่าาา!"
ครืด~ ครืด~ ครืด~
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นข้างๆ มาเฟียหนุ่มที่เพิ่งจะปลดปล่อยห้วงอารมณ์แห่งความหฤหรรษ์ออกมา มือหนาควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนจะกดรับสายโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาขัดจังหวะความสุขของตัวเอง
"ฮัลโหล"
น้ำเสียงยานคางถูกปล่อยออกจากปากของมาเฟียหนุ่มที่เป็นผู้กดรับสายเรียกเข้าเมื่อครู่ ก่อนที่เสียงปลายสายจะตอบกลับมาทำเอาไทเลอต้องรีบดีดตัวลุกขึ้นในทันที
"ไอ้ไทค์มึงยังไม่ถึงโกดังอีกเหรอวะ ลูกค้าจะมาถึงในอีกสามชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว มึงจะไม่มาเช็กของหน่อยเหรอ"
"เฮนรี่เหรอ"
"เออ กูเองมึงจะนอนตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้เลยรึไง นี่มึงนอนหรือซ้อมตายกูถามจริง"
"เออๆ เดี๋ยวกูไป"
ไทเลอกดวางสายก่อนจะก้มหน้ามองดูที่เป้ากางเกงของตัวเอง เขาฝันเปียกอีกแล้ว ตั้งแต่กลับมาจากห้างที่ถูกออสตินกับเจสสิก้าฝากให้ดูแลน้องจีน่าวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอกับคะนิ้งอีกเลยได้แต่ตามติดชีวิตเธอผ่านไอจีเพียงเท่านั้น
กลิ่นหอมของเธอยังคงตราตรึงติดใจ ผิวเนียนนุ่มของเธอยังคงทำให้เขาคะนึงหา น้ำเสียงหวานใสดังระฆังแก้วของเธอยังทำให้เขาอยากได้ยินทุกๆ ครั้ง หากได้ยินเสียงเธอมาครางข้างๆ เขาเหมือนอย่างที่เขาฝันถึงเป็นประจำมันก็คงจะดีไม่น้อย
ไทเลอก้มหน้าใช้สองมือหนาปิดหน้าของตัวเองก่อนก้มมองความเปียกแฉะจากผลกระทบที่เขามัวแต่เฝ้าฝันถึงเธออยู่ร่ำไปจนไม่อาจจะห้ามใจไว้ได้ แต่ก็ต้องคอยหักห้ามหัวใจของตัวเองเอาไว้เธอมันสายขาว เขามันสายดำ เขาเป็นซาตานส่วนเธอคือนางฟ้าที่แสนน่ารักน่าทะนุถนอม
"พอๆๆ กูจะต้องเลิกฝันเปียกให้ได้"
เห้อ! พูดแล้วก็เครียดโตขนาดนี้ยังฝันเปียกอยู่อีกมีลูกก็อายลูกมีหลานก็อายหลานไม่อยากจะคิดเลยว่าหากได้เจอหน้าเธออีกครั้งเขาจะเป็นยังไง นี่ขนาดแค่เจอตัวจริงเพียงไม่กี่ครั้ง นี่แค่ขนาดตามติดชีวิตเธออยู่ห่างๆ เขายังเก็บเอาเธอมาฝันได้ขนาดนี้
ขณะที่ไทเลอกำลังขับรถมุ่งหน้าไปที่โกดังเก็บของเถื่อนแถวคลองเตยเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาไถหน้าจอกดเข้าไปที่โพรไฟล์ของคะนิ้งที่เขามักจะทำเป็นประจำ
"ทำไมวันนี้มาแถวนี้ มากับใครวะ"
เมื่อภาพในโซเชียลบ่งบอกว่าหญิงสาวอยู่ร้านกาแฟแถวๆ คลองเตยไทเลอก็รีบหมุนพวงมาลัยมุ่งหน้าไปที่สถานที่ที่เธอไปวันนี้ เขามักจะทำแบบนี้เป็นประจำเฝ้าคอยตามดูเธออยู่ห่างๆ หากใครรู้เข้าก็คงคิดว่าเขาเป็นโรคจิตไปแล้วแน่ๆ
"มากับใครวะ"
ชายหนุ่มที่ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปนั่งในร้านกาแฟร้านเดียวกันโดยเว้นระยะห่างเพียงสองสามโต๊ะไทเลอก้มหน้ามองดูนาฬิกาข้อมือของตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วจนชนกัน
"มากินกาแฟตอนหกโมงเย็นเนี่ยนะ"
มาเฟียหนุ่มเคาะนิ้วไปที่โต๊ะเบาๆ อย่างไม่แรงมากนัก เขามักจะจ้องมองเธออยู่อย่างนี้เป็นประจำ ตามเธอไปทุกที่ราวกับเป็นแฟนคลับของเธอทุกครั้ง เวลาที่เขาว่างเขามักจะทำอย่างนี้ไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย เพียงเพราะการจับคู่ของออสตินกับเจสสิก้าวันนั้นมันทำให้เขาแทบคลั่งเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ เธอ
"ฉิบหาย!"
จะไม่ฉิบหายได้ยังไงในเมื่อคะนิ้งมองมาเจอเขาแล้วส่งยิ้มหวานมาให้เขา ให้ตายเถอะจะละลายแล้วโว้ย อย่ายิ้มได้ไหมวะ ไม่อยากจะคิดเลยถ้าคะนิ้งรู้ว่าเขาเอาเธอมาฝันเปียกเป็นเดือนๆ เธอจะเข้าใจหรือรังเกียจเขาไหม
ตึก ตึก ตึก ตึก
ไม่ใช่เสียงหัวใจ แต่เป็นเสียงรองเท้าผ้าใบสีขาวที่คะนิ้งใส่อยู่เดินตรงมาทางเขา วันนี้เธอใส่กางเกงยีนขาสั้นอวดต้นขาขาวอวบกับเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนนิดหน่อย ข้างในใส่เป็นเสื้อสายเดี่ยว ให้ตายเถอะอยากจะจับตีก้นนักทำไมต้องแต่งตัวโชว์นั่นโชว์นี่ด้วยวะ
"ใช่พี่ไทค์รึเปล่าคะ พี่จำนิ้งได้ไหมคะเพื่อนของเจสซี่"
คะนิ้งเดินตรงมาทักทายเขาตามมารยาทเธอย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วทักทายเขาทำเอาคนที่จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนทำตัวไม่ถูกได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ หัวใจแกร่งมันเต้นแรงราวกับมีคนมาตีกลองชุดอยู่ในหัวใจของเขา
"เอ่อ ... พี่มาคนเดียวเหรอคะ มาทำอะไรแถวนี้"
"น้องนิ้ง พะ ... พะ คะ .. คือ พะ .. พี่มารอเพื่อนน่ะครับ"
ทักทายประโยคแรกเขาก็สอบตกแล้ว ติดอ่างเฉยแค่คนสวยเดินมาคุยด้วยแค่นั้นเองไอ้ไทค์มึงต้องใจเย็นเอาไว้นะเว้ย มึงอย่าประหม่า อาการประหม่าของมึงจะทำให้เขารู้ว่ามึงคลั่งเขามากแค่ไหน
"มารอเพื่อนเหรอคะ ดีเลยนิ้งก็รอเจสซี่อยู่เหมือนกันค่ะ"
"เอ่อ ครับ"
"พี่ไทค์เป็นคนไม่ค่อยพูดแบบนี้อยู่แล้วเหรอคะวันนั้นที่เราไปด้วยกันพี่ก็ไม่ค่อยพูดนิ้งแค่สงสัยน่ะค่ะอย่าถือสาเลยนะ"
'พี่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่พี่ทำอย่างอื่นเก่งมากครับ อยากให้น้องนิ้งมาลองกับพี่นะครับรับรองความหรรษา'
อยากตอบไปแบบนี้ฉิบหายแต่ทำไม่ได้ต้องคีพลุคเอาไว้ เผื่อแห้วจะได้ไม่อายมาก โถ่แม่คุณจะรู้ไหมว่าตอนนี้เขาเกร็จจนฉี่เหนียวไปหมดแล้วยังจะชวนคุยเก่งจริงๆ เลย
"ครับ พี่ไม่ค่อยพูดแล้วน้องนิ้งสบายดีนะครับ"
"นิ้งสบายดีค่ะพี่ไทค์ ว่าแต่พี่ไทค์ดูผอมไปไหมคะเนี่ย"
"พี่ทำงานหนักน่ะครับ แล้วนี่สั่งอะไรหรือยังสั่งได้เลยนะเดี๋ยวพี่จ่ายให้"
คะนิ้งส่งยิ้มหวานมาให้เธอยกสองมือขึ้นกระพุ่มไหว้ขอบคุณไทเลอที่แสดงความมีน้ำใจ ไทเลอก็ยกมือขึ้นรับไหว้เธอตามธรรมเนียมไทย แม้เขาจะไม่ใช่คนไทยแต่ก็พอจะรู้ธรรมเนียมนี้อยู่บ้างติดแค่ว่าเขาไม่ใช่คนไทยฉะนั้นคนไม่รู้ทำอะไรก็ไม่ผิดใช่ไหม ...
"เอ่อ พี่ไทค์คะปล่อยมือนิ้งได้แล้วค่ะ"
แฟนเก่า (เคย) ร้าย จะกลับมาง้อขอเธอคืนดี เขาจะขนกลเม็ดเท่าที่คิดได้มาตามตื้อ มารื้อความทรงจำ (ที่ดีๆ) ของเขากับเธอ จะมาทวงเธอคืน และจะมารักษาแผลใจของเธอที่เขาเป็นคนทำไว้ให้หายขาด อย่าคิดหนี เพราะเธอหนีเขาไม่พ้นหรอก ไม่ว่าจะหนีไปไหนครั้งนี้เขาก็จะตามติดเป็นเงาจนเธอต้องยอมคืนดีกับเขาจนได้อย่างแน่นอน
เขาเห็นเธอเป็นเพียงของตายไม่ว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน กลับมาทีไรก็ยังคงเจอเธอเสมอ เมื่อแรกรักอะไรก็ดี แต่ทำไมตอนนี้ทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ มันเพราะเขาหมดรักเธอแล้วหรือเพราะเธอเป็นเพียงของที่เขาจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ เธอเจ็บซ้ำๆ มากขนาดนี้ เธอโง่และไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมากขนาดนี้ ควรจะพอได้แล้วใช่ไหม เธอเจ็บพอหรือยัง? เธอยังควรให้โอกาสเขาอยู่ไหม?
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]
ในคืนแต่งงาน เธอไม่ได้พบเจ้าบ่าว ชายแปลกหน้าที่บุกเข้ามา ทำลายทุกอย่างของเธอ แม่สามีทั้งทุบตีและดูหมิ่น สามีเย็นชาและไร้ความปรานี อีกทั้งยังมีหญิงอื่นหัวเราะเยาะและอวดโอ้ เธอจึงถูกไล่ออกไปจากบ้าน ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นทนายความมือหนึ่ง ที่สามารถใช้เอกสารฟ้องร้องชายที่ทำลายชีวิตเธอได้ แต่เธอไม่รู้ว่าชายคนนั้นคือเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในเมืองใหญ่ คนผู้นี้ผ่านผู้หญิงมาหลายคนแต่ไม่เคยผูกพันกับใครเลย มีความสะอาดอย่างมาก อารมณ์แปรปรวน เป็นคนดื้อรั้นและเผด็จการ บังคับให้เธอแต่งงานกับเขา ทำทุกวิธีทางที่เขาจะทำได้ เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม...
นางขอสมรสพระราชทานเพราะรัก แต่คืนแต่งงาน เขารังเกียจนางและทิ้งไป ห้าปีผ่านไปพระชายาที่ถูกลืม กลับเป็นสตรีที่เขาต้องตามจีบ และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเขาก็คือลูกชายของตนเอง
เขาเหลือบสายตามองแก้มบางที่อยู่ไม่ห่างจากปาก จมูกน้อย ๆ ของนางคลอเคลียอยู่ที่ลำคอของเขาเมื่อก้าวเดิน เขาไม่คิดให้เสียเวลา ลดฝีเท้าในการเดินให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วคิดกำไรด้วยการจูบมุมปากและหอมแก้มของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ก็แผ่วเบานุ่มนวล เพราะไม่อยากทำให้นางตื่นจนเสียโอกาส มือไม้ก็ลูบไล้ความนุ่มเนียนจนลื่นมือของผิวแท้ ที่มีเพียงผ้าผืนน้อยปิดกั้นไว้ “สตรีขี้เมามันไม่งาม แต่ข้าก็ชอบถ้าเป็นเจ้า” เขาพึมพำชิดริมฝีปากอวบอิ่ม ประทับจูบลงไปแนบแน่นเมื่อวางร่างของนางลงบนเตียงเรียบร้อยแล้ว...
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด