ทางเลือกที่แตกต่าง บนกรอบของคำว่า "พรหมจรรย์" เธอ...เลือกที่จะอยู่โดยไม่มีเขา แต่เขา...เลือกที่จะใช้กลลวงหลอกล่อให้เธออยู่
ทางเลือกที่แตกต่าง บนกรอบของคำว่า "พรหมจรรย์" เธอ...เลือกที่จะอยู่โดยไม่มีเขา แต่เขา...เลือกที่จะใช้กลลวงหลอกล่อให้เธออยู่
รษาขยับเปลือกตาอันหนักอึ้งปรือตารับแสงของวันใหม่ รู้สึกร้อนวูบวาบปวดร้าวบวกกับอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจับไข้ นึกย้อนถึงเรื่องราวรางเลือนเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่น่าหลงเชื่อแรงยุของเพื่อนดื่มจนเมามายแทบครองสติไม่อยู่เลยจริงๆ เพราะนิสัยไม่ยอมคนของเธอแท้ๆ
หญิงสาวสำรวจกลอกตามองรอบห้องพลางยกมืออังหน้าผากวัดระดับความร้อนของร่างกาย ทว่าเมื่อเหลือบเห็นเนื้อนุ่มขาวนวลเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ใดห่อหุ้ม ไร้ผ้าห่มปิดผิวกายกับความเย็นวาบฉาบผิวเป็นเครื่องยืนยัน
มันเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
“กรี๊ดด!”
หญิงสาวหวนนึกย้อนไปถึงความรู้สึกก่อนที่สติทั้งหมดที่มีของเธอจะหลุดลอยไป
ใช่! เธอถูกชายกลุ่มหนึ่งทำร้าย
หญิงสาวไม่อาจจดจำใบหน้าของคนพวกนั้นได้ทั้งหมด ทุกอย่างในความทรงจำเลือนรางเหมือนภาพในความฝัน ฝันร้ายที่เธอไม่อยากพบพาน หญิงสาวพยายามพยุงร่างกายที่บอบช้ำแสนปวดร้าวเดินโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำอย่างยากลำบาก
“กรี๊ด! กรี๊ดดด!! ” หญิงสาวกรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมาอีกครั้ง รอยแดงเป็นจ้ำที่เกิดขึ้นบนผิวผ่อง เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยตอกย้ำยืนยันเรื่องราวที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ใช่ความฝันของเธออีกต่อไป ความทรงจำเลือนรางสุดท้ายก่อนสิ้นสติหลุดลอยถาโถมประดังประเดเข้ามาในสมองไม่ขาดสาย
‘ฉันสูญเสียพรหมจรรย์ให้กับพวกเขาจริงหรือ’
“กรี๊ด! ไม่จริง!”
เสียงสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากบวมเจ่อ พร้อมกับสติของเธอดับวูบทรุดกองลงบนพื้นเย็นเฉียบ
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก เจ้าของร่างสูงเดินกลับมาในห้องพักของหญิงสาวอีกครั้ง หลังจากที่เขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อย สองขายาวก้าวมาที่เตียงหลังจากสั่งให้พนักงานปิดข่าวให้เรียบร้อย ทั้งนี้ก็เพื่อหญิงสาวที่ถูกกระทำเสียหาย ทั้งต้องรักษาชื่อเสียงของโรงแรม
เขาเพิ่งก้าวเข้ามาบริหารโรงแรมไม่นานไว้ด้วย ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไปมันคงไม่เป็นผลดีกับโรงแรมและผับที่เขากำลังจะเปลี่ยนระบบการบริหารใหม่
เมื่อนึกถึงใบหน้าบอบช้ำของหญิงสาวเคราะห์ร้ายเขาก็ยิ่งสงสารและเป็นกังวล จนต้องเขามาดูเธอเธอด้วยตัวเองอีกครั้ง ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องเองแบบนี้ เพียงแค่สั่งสองสามประโยคทุกอย่างก็เรียบร้อย แต่ใบหน้านวลของสาวเคราะห์ร้ายกลับวนเวียนในหัวไม่หยุด ในที่สุดเขาก็มายืนอยู่ตรงนี้
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงผ่านมา ถ้าหากคนของเขาไม่เฉลียวใจในสิ่งผิดปกติและเข้ามารายงานเขาได้ทัน เขาไม่รู้เลยว่าเธอจะมีสภาพเป็นอย่างไร ขนาดว่าเขาเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน สภาพของเธอก็ยังไม่ต่างจากโดนรุมโทรมสักนิด
หัวคิ้วหนาขมวดมุ่นเมื่อไม่เห็นหญิงสาวนอนอยู่บนเตียงอย่างที่ควรจะเป็น เขากวาดสายตามองรอบห้องเร็วๆ ก่อนจะมองเลยผ่านเตียงกว้างไปโฟกัสไปที่ห้องน้ำและเดินตรงไปดูที่ห้องน้ำ และเขาก็ต้องตกใจหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่า เมื่อเห็นร่างบางที่เขากำลังมองหานอนอยู่บนพื้นในห้องน้ำ
“คุณ! คุณ! เป็นอะไรไป ทำไมมานอนอยู่ตรงนี้” มือหนาแตะไหล่กลมกลึงเขย่าเรียกหญิงสาวให้ได้สติ แต่คนที่เขาพยายามเรียก กลับยังนอนนิ่งเงียบไม่ไหวติงสักนิด
‘บ้าเอ๊ย เป็นอะไรอีกเนี่ย เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ ป่านนี้ที่บ้านจะรู้หรือยัง แล้วจะเป็นห่วงมากมายขนาดไหนกัน’ ชายหนุ่มสบถเบาๆ
ปรินทรย่อตัวช้อนร่างเปลือยเปล่าขึ้นมาในวงแขน อุ้มเธอเดินมาที่เตียง เขาค่อยๆ วางร่างบางลงอย่างเบามือ เหมือนกลัวว่าเธอจะได้รับการกระทบกระเทือนจนเจ็บหนักเพิ่มขึ้นอีก จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำและเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าชุบน้ำอุ่นในมือ เขาใช้มันแตะซับไปทั่วใบหน้าอย่างเบามือ
นานหลายชั่วโมงที่หญิงสาวหลับใหลไม่ได้สติ ชายหนุ่มเจ้าของโรงแรมก็ยังนั่งอยู่อย่างนั้น เขาเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ทำไมจะต้องอยู่ ในเมื่องานของตัวเองก็ล้นมือ
หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนค่ำ ดวงตาค่อยๆ กระพริบฝ่าความพร่าเลือน จากนั้นเธอก็ค่อยๆ หันไปมองรอบตัว เมื่อเห็นชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงกุมมือของเธอนั่งอยู่ก็ตกใจ แม้สายตาของคนมองจะแสดงออกถึงความอาทรห่วงใยก็ตาม
หญิงสาวรีบชักมือกลับและรีบกระถดตัวหนีออกห่างจากการเกาะกุมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเอง เธอพ่นวาจาแสบร้อนที่ออกมาจากปากบางที่ฟื้นไข้ขึ้นมาไม่กี่นาที
“กรี๊ด! ไอ้บ้ากาม! แกข่มขืนฉัน”
ไม่เพียงแค่นั้น มือของเธอยังรัวทุบร่างหนาไม่ยั้ง ทั้งที่ยังเจ็บร้าวในร่างกาย จากความรู้สึกโกรธทะลุจุดเดือดของเจ้าของฉายาคุณหนูขี้วีนอย่างเธอ พ่นคำด่าทอออกมาจากปากซีดบวมเป่งไม่หยุด
“ไอ้หน้าด้าน! ไอ้ซาตานชั่ว! ไอ้มั่วไม่เลือกที่! ไอ้ไม่มีที่ดีในสันดาน! ไอ้”
เธอเป็นลูกสาวคนเล็กที่ถูกตามใจและทุกคนต้องยอมให้เธอ หลังจากที่พ่อเสียไป พี่ชายเพียงคนเดียวก็ประเคนให้เธอทุกอย่าง
ชายหนุ่มรวบสองมือของหญิงสาวเอาไว้ จ้องนิ่งไม่วางตา
“หยุด! พอได้แล้ว! ฟังผมก่อน เรื่องเมื่อคืน...” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้มและเตรียมจะอธิบาย แต่ก็พูดไปได้แค่ครึ่งเดียว แต่หญิงสาวสะบัดแขนอย่างแรงให้หลุดจากพันธนาการ ร้องเสียงแหลมแสบโสตประสาทหูตวาดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่! ไอ้สารเลว ไอ้หน้าตัวเมีย ไอ้คนชอบรังแกผู้หญิง ไอ้ชิงหมาเกิด ฉันจะกลับบ้าน แล้วจะเอาตำรวจมาลากคอแกเข้าคุก และต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด รวมทั้งผับและโรงแรมเส็งเคร็งนี่ด้วย” เธอพ่นคำด่าออกมาอีกเป็นชุด โดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นถึงผู้บริหารของที่นี่
“ถ้าจะไม่ฟังอะไรก็เอาเถอะ” ชายหนุ่มบอกอย่างเหนื่อยหน่าย นั่นยิ่งทำให้คนเอาแต่ใจโกรธมากขึ้น
“แกรู้ไหม! ว่าฉันเป็นใคร” หญิงสาวบอกเสียงดังลั่นไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น
‘โธ่! แม่คุณเอ๊ย เป็นคนใหญ่คนโตเสียด้วย’ เขาคิดในใจอย่างระอา คงเป็นลูกหลานผู้มิอิทธิพลแถวนี้สักคน แม้เขาจะกลับมาอยู่เมืองไทยไม่นาน แต่ก็เจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ จนชิน โดยเฉพาะในผับ แต่เขาก็ไม่หวันเกรงสักนิด
เมื่อก่อนพ่อของเขาอาจจะเกรงกลัวคนมีอิทธพลแถวนี้ แต่สำหรับเขาไม่ใช่แน่นอน เขากระตุกยิ้มมุกปากเล็กน้อย
“ผมไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใคร ยิ่งใหญ่มาจากไหน แต่ถ้าคุณอยากให้ผมรู้ว่าคุณเป็นใครก็บอกมาก็แล้วกัน” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงยียวน
“กวนประสาท!” หญิงสาวง้างมือจะตบอีกรอบ แต่ชายหนุ่มที่มองอยู่ตลอดเวลาก็รวบมือบางไว้ได้ทันเสียก่อน
มือใหญ่ข้างเดียวของเขารวบมือของเธอไว้ได้ทั้งสองข้าง คราวนี้เขากำแน่นขึ้นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เธอทำร้ายเขาต่อ แน่นอนว่าเขาไม่สะทกสท้านกับแรงของเธอ
เมื่อโดนจับไว้คนร่างบางกลับยิ่งโกรธและดิ้นแรงให้หลุดพ้น แต่เมื่อทำอะไรเขาไม่ได้เธอก็ได้แต่พ่นคำออกจากปากหวังให้เขาได้เจ็บแสบที่สุดเท่านั้น
“ไอ้สารเลว ปล่อยนะ คนชั่ว หน้าตัวเมีย รังแกผู้หญิง”
“บอกให้หยุด แล้วฟัง ฟังก่อน! ทำไมไม่ยอมฟังบ้างเลย มีสติ อย่าเพิ่งโวยวายได้ไหม” ชายหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งบอกเสียงเข้มขึ้นอย่างไม่พอใจ
ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาหญิงสาวก็ได้แต่ร้องต่อว่าเขาเสียงแสบหูโวยวายสติแตกตลอดเวลา จนความอดทนของเขาใกล้จะหมดลงเต็มที
“ฉันไม่ฟัง แกมันชั่ว แกมันเลว” ชายหนุ่มขบกรามแน่นกับถ้อยคำที่พ่นออกมาไม่หยุดจากปากกระจับได้รูปของหญิงสาวแก้มใส
‘โธ่เว้ย! แค่ต้องการอธิบายว่าเป็นคนดี ทำไมมันถึงได้ยากเย็นอย่างนี้วะ ผู้หญิงไทยทำไมถึงเข้าใจอะไรยากเย็นอย่างนี้’ ในเมื่อเขาจะอธิบายให้ฟังดีๆ แล้วไม่ยอมฟังก็ปล่อยให้เข้าใจผิดไปเลยก็แล้วกัน
ชายหนุ่มปล่อยมือหญิงสาว แล้วขยับตัวลุกออกจากเตียงขู่เสียงเข้ม จ้องตาไม่กะพริบ
“เออ! ถ้าอยากเป็นข่าวก็เอาเลย! คนในครอบครัวจะได้รู้ว่าลูกสาวทำตัวแย่ขนาดไหน อายุแค่นี้ก็กินเหล้าเมายา กอดจูบผู้ชายในผับ แถมมีสามีทีเดียวพร้อมกันตั้งสี่ห้าคน” ชายหนุ่มบอกอย่างประชด ไม่คิดว่าเรื่องราวจากนี้จะแย่ลงเพราะคำพูดของเขา
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
“ถ้าเก่งเรื่องพยาบาล ก็ช่วยพยาบาลให้บางส่วนในร่างกายฉันที่กำลังตื่นตัว สงบลงด้วยก็แล้วกัน หวังว่าคงจะไม่แค่ปากดีนะ” ‘ดารัณ’ จำต้องยอมรับข้อเสนองานใหม่... เพื่อนำรายได้มาสะสางหนี้สินของครอบครัว แต่เมื่ออดีตพยาบาลสาวเดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา เธอกลับพบว่างานของเธอ คือการดูแล... ‘คาร์ดิโก้ นอร์ตัน’ เพลย์บอยหนุ่มผู้บริหารสายการบินยักษ์ใหญ่ ผู้ไม่คิดจะสูญเสียสถานภาพความโสดให้กับผู้หญิงคนใดทั้งสิ้น… กฎเหล็กของคาร์ดิโก้ คือ...เขาจะไม่มีวันพาผู้หญิงไทยขึ้นเตียงเด็ดขาด เมื่อเขาพบว่าพยาบาลสาวไทยที่มารดาของเขาหามาดูแลอาการป่วย แท้จริงมีหน้าที่แอบแฝงคือคอยกีดกันและเก็บกวาดบรรดาคู่นอนชั่วคราวของเขาไปจนหมดสิ้น เขาก็ยิ่งโกรธ มีหรือ...เสือร้ายอย่างเขาจะยอมโดนลบคม เนื้อนุ่มๆ หวานๆ อยู่ตรงหน้า เสืออย่างเขาต้องขย้ำเท่านั้น คาร์ดิโก้จำต้องปรับเปลี่ยนแผน หันมากินอดีตพยาบาลคนสวย โดยไม่รู้สักนิดว่าผู้หญิงคนนั้นก็ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ที่มารดาของเขาตั้งใจหามาให้ตั้งแต่แรก สุดท้ายเขาก็ต้องจมดิ่งไปกับกฎเหล็กและแรงพิศวาสของตัวเองอย่างถอนตัวไม่ขึ้น “จะหนียังไงก็คงไม่รอดหรอกสาวน้อย ตอนนี้ เวลานี้ เธอต้องทำหน้าที่ของเธอแล้ว” หญิงสาวเงยหน้ามองเจ้านายหนุ่มอย่างตื่นตระหนก ค่าจ้างสูงลิ่วที่เธอได้รับเหมารวมกับทุกการบริการเช่นนี้เลยหรืออย่างไร
เธอบังอาจจับเขามาแต่งงานหลอกๆ แต่เขาเกิดอยากจับเธอมาเป็นภรรยาจริงๆ ป่านฝัน เจ้าสาววิวาห์ล่มจำต้องจับเขามาแต่งงานหลอกๆ เพื่อแก้หน้าให้ แต่เจ้าบ่าวจัดฉากกลับทำเกินหน้าที่ เขาทั้งกอด ทั้งจับ ทั้งจูบ จนหัวใจแข็งกระด้างของเธออ่อนไหวไปกับเขาหลายต่อหลายครั้ง ทวิช ทายาทคนเล็กของบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ในเมืองไทย เขาต้องตกกระไดพลอยโจนร่วมเล่นละครจัดฉากป่านฝันเป็นผู้กำกับ ทว่าคนเจ้าเล่ห์ก็ตีบทกระจาย ขยันหากำไรจากเรือนกายภรรยาสาวบ่อยครั้ง จากตอดเล็กตอดน้อย ปะทะคารม หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ รู้ตัวอีกครั้งหัวใจของเขาก็ไปอยู่อุ้งมือของแม่สาวขี้วีนเสียแล้ว แลกกับตำแหน่งภรรยาพฤตินัยและนิตินัยที่เป็นของเขาเช่นกัน “ปล่อยป่านนะ!” “เรื่องอะไรจะปล่อย...มันก็ไม่ผิดกติกานะ วันนี้คุณมานอนนอกห้องกับผมเอง” “คนเจ้าเล่ห์! ใครบอกว่าป่านจะออกมานอนข้างนอกกับคุณ” “บอกอยู่นี่ไง หรือว่าจะเถียง...คุณออกมาหาผมเอง ขึ้นชื่อว่าผู้ชายเจ้าเล่ห์กันทุกคนแหละครับทูนหัว ออกมาแล้วก็อย่าหวังเลยว่าจะได้กลับเข้าไปในห้องอีก” “ถ้าคุณไม่ปล่อย ป่านโกรธคุณจริงๆ ด้วย” หญิงสาวบอกเสียงดุ แต่คนเจ้าเล่ห์กลับยิ่งรัดตัวหญิงสาวแน่นขึ้น “คืนนี้ขอแค่ได้นอนกอดเมีย พรุ่งนี้ผมยอมรับโทษทุกอย่าง” คนเจ้าเล่ห์บอกเสียงอ้อน ทอดสายตาหวานซึ้ง ขณะที่ปลายจมูกโด่งยังคลอเคลียอยู่ข้างแก้มนุ่มไม่ยอมห่าง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนิ่งเขาก็ยิ่งรุกหนัก กดริมฝีปากบนเรียวปากนุ่มดูดชิมความหวานอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ความเร่าร้อนเพิ่มพูนจนคนใต้ร่างไม่อาจต้านทานความเรียกร้องไหว ...ป่านฝันไม่เคยชนะลูกอ้อนของเขาได้สักที
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด