คุณหนูเสิ่นใช้ชีวิตเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยแสนร้ายกาจอยู่ดี ๆ ก็หลุดเข้ามาในการ์ตูนที่เปิดอ่านผ่าน ๆ ซะอย่างนั้น (อ่านฟรีวันละ 1 ตอนจนกว่าจะจบ)
คุณหนูเสิ่นใช้ชีวิตเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยแสนร้ายกาจอยู่ดี ๆ ก็หลุดเข้ามาในการ์ตูนที่เปิดอ่านผ่าน ๆ ซะอย่างนั้น (อ่านฟรีวันละ 1 ตอนจนกว่าจะจบ)
1
แคร้ง!!!
เสียงแก้วกระเบื้องเคลือบชั้นดีถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี เศษกระเบื้องบางส่วนกระเด็นโดนข้างแก้มของชายสูงวัยที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง
หญิงสาวหน้าตาสะสวย แต่ใบหน้ากำลังบูดเบี้ยวเกรี้ยวกราดด้วยความโกรธ การที่ผู้หญิงคนนั้นมีตัวจนได้กลับเข้ามาเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเสิ่น เป็นความผิดของเขา ถ้าหากเขาไม่ไปเที่ยวที่เมืองนั้น ก็คงไม่ได้เจอหล่อนที่นั่น
ตั้งแต่ที่ทุกคนรับรู้ถึงการมีตัวตนของหล่อน หลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนไป คนในครอบครัวทุกคนต่างก็เอาอกเอาใจหล่อนทุกอย่าง เธอควรเป็นจุดศูนย์กลางของความรักเพียงคนเดียวสิ ไม่ใช่แม่นั่น
“เพราะลุงฮั่วคนเดียว ทำให้เรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้” เสิ่นอ้ายฉิงโวยวายใส่ชายสูงวัย
“ผม ขอโทษครับ แต่คุณหนูใหญ่อ้ายเหรินก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลนี้ ผมจึงต้องพิสูจน์ตัวตนของเธอ เธออยู่ข้างนอกลำบากมามากแล้ว” ฮั่วเฉินตอบ
คำตอบของชายสูงวัยยิ่งทำให้เธอโมโห ตอนที่ยังเด็กอ้ายฉิงมีส่วนที่ทำให้พี่สาวต่างมารดาพลัดหลงกับครอบครัว เธอไม่ต้องการให้บ้านนี้มีคุณหนูสองคน เธอต้องเป็นคนเดียวที่ได้รับความรัก
“เสียแรงที่ฉันรักลุงฮั่วเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าลุงฮั่วจะทำร้ายฉันแบบนี้”
ชายสูงวัยที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง เงยหน้ามองใบหน้างดงามแสนร้ายกาจของหล่อน
“ตอนที่คุณหนูยังเด็กผมไม่น่าหลงเชื่อแววตาใสซื่อของคุณเลย ผมน่าจะบอกทุกคนไปว่าคุณรู้ว่าพี่สาวคุณไปไหน และคุณเองนั่นแหละที่เป็นคนโกหกทุกคน” ฮั่วเฉินพูดอย่างเจ็บแค้น ตอนนี้เขาถูกอันธพาลที่เสิ่นอ้ายฉิงจ้างมาทำร้าย จุกจนแทบพูดอะไรไม่ออก
“ฮั่วเฉิน จะมากไปแล้วนะ ลุงมีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ ลุงมันก็แค่เลขาแก่ ๆ ของคุณพ่อ ลองดูแล้วกันว่าถ้าลุงหายไปคุณพ่อจะตามหาลุงไหม”
เสิ่นอ้ายฉิงมองเหยียดชายสูงวัยด้วยแววตามาดร้าย ชายคนนี้พูดมากเกินไปแล้ว ระหว่างที่เธอกำลังตัดสินใจเรื่องความเป็นความตายของเขา แสงไฟจากรถลีมูซีนคันใหญ่ก็สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
ที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศที่เธอแอบซื้อเอาไว้ คุณพ่อเธอรู้ได้ยังไง
ชายสูงวัยอีกคนท่าทางภูมิฐานแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชั้นดีราคาแพง ก้าวลงจากรถด้วยสีหน้าถมึงทึง เขาเดินเข้าไปในตัวบ้านเพื่อระงับเหตุการณ์ไม่ดี
“อ้ายฉิงหยุดได้แล้ว” เสิ่นเหยาซิ่วนายใหญ่แห่งอาณาจักรเสิ่นก้าวลงจากรถเพื่อห้ามปรามบุตรสาวของตนไม่ให้ถลําลึกไปมากกว่านี้
“คุณพ่อ” เสิ่นอ้ายฉิงยืนนิ่งด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าบิดาของตนจะตามเจอ
บอดี้การ์ดฝีมือดีหลายคนของนายใหญ่เสิ่นลงจากรถตู้มาพร้อมกัน เป็นการรับรองว่าเสิ่นเหยาซิ่วผู้นี้จะปลอดภัย
อันธพาลที่เสิ่นอ้ายฉิงจ้างมาเมื่อเห็นคนท่าทางภูมิฐานดูมีฝีมือพวกนั้น ก็ใจฝ่อวิ่งหนีกันหัวหดทิ้งให้คุณหนูเสิ่นยืนตัวสั่นอยู่ผู้เดียว
เสิ่นอ้ายฉิงยืนนิ่งราวกับเวลาหยุดหมุน เธอไม่คิดว่าบิดาของตนจะเจอเธอในภาพลักษณ์แบบนี้ เธอยังอยากเป็นคุณหนูเสิ่นผู้ใสซื่อในสายตาของบิดาและทุกคน
“ฮั่วเฉินลำบากนายแล้ว” เสิ่นเหยาซิ่วเดินมาประคองเลขาคนสนิทของตนด้วยตัวเอง
เขาและฮั่วเฉินรู้จักกันมาหลายสิบปี ผ่านความยากลำบากมาด้วยกันมาก็มาก บางเรื่องเขาก็ติดค้างฮั่วเฉิน ในใจคิดแต่จะตอบแทนบุญคุณอยู่เสมอ แต่ไม่คิดเลยว่าบุตรสาวของตนจะทำเรื่องร้ายกาจได้แบบนี้
“แค่ก แค่ก” ฮั่วเฉินไม่พูดอะไร ร่างกายที่ถูกทำร้ายมาอย่างหนักกำลังไอออกมาเป็นสีเลือด
“คุณพ่อ หนูไม่ได้ทำ” เสิ่นอ้ายฉิงพยายามปฏิเสธ เธอพยายามบีบน้ำตา แผนนี้มันสำเร็จทุกครั้ง
นายใหญ่แห่งอาณาจักรเสิ่นมองหน้าบุตรสาวที่ตนเองรักอย่างผิดหวัง เขามอบความรักให้บุตรสาวเลี้ยงดูอย่างดี ไม่เคยทำสิ่งใดขาดตกบกพร่อง ทุกคนก็รักเธอแต่ทำไมเรื่องราวมันถึงดำเนินมาจนจุดนี้ได้
เพี๊ยะ!!
ฝ่ามือใหญ่ของเสิ่นเหยาซิ่วฟาดลงไปที่ใบหน้าสวยงามของลูกสาวหนึ่งครั้ง
คนตัวเล็กเอนตัวไปตามแรงตบ จากที่เคยคิดว่าจะบีบน้ำตาเรียกร้องความสงสารจากคนที่เธอเรียกว่าพ่อ ตอนนี้หยาดน้ำตานั่นมันเป็นของจริง
“เสิ่นอ้ายฉิง หยุดได้แล้ว ทุกคนรักลูกและทะนุถนอมลูกมาเป็นอย่างดี ลุงฮั่วก็ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของพวกเรา พ่อไม่เคยสอนให้ลูกเป็นแบบนี้ ทำไมถึงได้มีนิสัยร้ายกาจกัน”
ชายสูงวัยที่ร่างกายสะบักสะบอมมองเธอด้วยสายตาไร้อารมณ์ แต่ก่อนเขาคิดว่าถ้าเธอโตขึ้นคงจะทิ้งนิสัยร้ายกาจนั่นไปได้ แต่ตอนนี้เขาต้องคิดใหม่ เพราะเธอยิ่งโตยิ่งร้ายหากเธอมีส่วนร่วมในอาณาจักรเสิ่นเมื่อไหร่ อำนาจและความมั่งคั่งคงทำให้เธอยิ่งร้ายกาจมากกว่าเดิม
“คุณชายพอเถอะครับ” เขาเข้าห้ามนายของตน ฮั่วเฉินยังคงเรียกนายใหญ่เสิ่นว่าคุณชายตามความเคยชินแม้จะอายุมากขึ้น
เสิ่นเหยาซิ่วหมุนตัวกลับ เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของบุตรสาว แต่เธอต้องได้รับบทเรียน ต่อไปนี้เขาจะไม่ใจดีกับเธออีกแล้ว จากนั้นบอดี้การ์ดของตระกูลเซิ่นจึงก้าวอาด ๆ มาควบคุมตัวเธอเอาไว้ก่อนจะพาขึ้นรถกลับไปด้วยกัน
ช่วงแรกเธอก็ต่อสู้ดิ้นรนให้พ้นจากมือบอดี้การ์ดตระกูลเสิ่น แต่เมื่อทำอย่างไรพวกเขาก็ไม่ปล่อย เธอจึงกลับมานิ่งเงียบยอมให้พวกเขาควบคุมตัวแต่โดยดี
รถลีมูซีนและรถตู้ เคลื่อนตัวออกจากบ้านพักตากอากาศนอกเมือง เสิ่นอ้ายฉิงถูกสั่งให้ไปนั่งในรถอีกคัน ส่วนนายใหญ่และเลขานั่งไปกับรถลีมูซีน ขบวนรถกำลังเดินทางกลับเข้าไปในเมือง รอบข้างจากที่มืดสนิทเริ่มมีความสว่างจากแสงไฟยามค่ำคืน เสิ่นเหยาซิ่วจึงเปิดปากพูดกับเลขาคนสนิทของตน
“อาเฉิน เรื่องนี้นายอย่าเอาความไหม”
ฮั่วเฉินนั่งนิ่งฟัง
“ถือว่าฉันขอนะอาเฉิน อย่าให้อ้ายฉิงต้องมีคดีติดตัวไปเลย เธอยังเด็กยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก”
“.....” ฮั่วเฉินสายตานิ่งสนิท ในสมองกำลังประมวลผลเรื่องราว เขาเกือบตายจากน้ำมือลูกสาวของเสิ่นเหยาซิ่วเชียวนะ
“ฉันจะชดเชยให้นายและครอบครัวอย่างถึงที่สุด”
“อายุ 25 ไม่เด็กแล้วนะคุณชาย ตอนที่เธอยังเป็นเพียงเด็กผู้หญิง ผมก็รู้สึกรักและเอ็นดูเธอเหมือนหลานสาวของตัวเอง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้ให้คุณชายคอยเช็ดล้าง” ฮั่วเฉินมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด
“คราวนี้ฉันจะจัดการเธออย่างจริงจัง ฉันรู้ว่าฉันตามใจเธอมากเกินไป ต่อไปนี้จะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
“คุณชาย ถ้าคนนั้น ๆ ที่ถูกทำร้ายไม่ใช่ผม คุณจะทำอย่างไร ถ้าเธอพลั้งมือฆ่าใครสักคนตายล่ะ” น้ำเสียงของฮั่วเฉินเริ่มเจือความโกรธ
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” เสิ่นเหยาซิ่วรู้สึกผิดกับฮั่วเฉินจึงได้แต่เอ่ยคำขอโทษอย่างจริงใจโดยหวังว่าฮั่วเฉินจะละเว้นลูกสาวเขาสักครั้ง
ฮั่วเฉินนั่งคิดอยู่นาน กว่าจะยอมเอ่ยปากพูดอะไร
“ได้ ครั้งนี้ผมจะยอมสักครั้ง ผมเองก็ไม่ใช่ไม่รักไม่เอ็นดูเธอ หวังว่าเธอจะเรียนรู้ความผิดครั้งนี้”
เสิ่นเหยาซิ่วได้แต่พูดขอบคุณและขอโทษเมื่อฮั่วเฉินยอมให้อภัย
ในใจของฮั่วเฉินตอนนี้ทั้งโกรธและเคียดแค้น ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปเด็กคนนั้นจะเป็นเช่นไร หากมีอีกครั้ง ให้เธอไปอ้อนวอนกับยมบาลเถอะ
เพราะคืนนี้ทำให้ด้ายแดงเริ่มทำงานผูกพันธ์หัวใจของทุกคนไว้ด้วยกัน มาดูกันสิะว่าพวกเขาจะแก้เรื่องราวยุ่งเหยิงนี้ได้หรือไม่ นัทธนิษฐ์ นักธุรกิจสาวชาวไทยวัย 30 ปี ที่กำลังสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้ติดตลาดเอเชีย กลับต้องกลายเป็นคู่นอนข้ามคืนของซู่เหลียงฉีนักธุรกิจคู่แข่งคนสำคัญของเธอ กลายเป็นว่าพอรู้ตัวอีกที เธอก็ลืมคืนนั้นไม่ได้ ส่วนเขาล่ะยังจำคืนนั้นได้หรือเปล่า
เพราะความแค้นและจมไม่ลงของณิชา ทำให้เธอต้องลงสนามเข้าสู่วังวนของความสัมพันธ์ต้องห้ามของเธอกับพ่อของอดีตแฟน ครั้งแรกของเธอถูกมอบให้กับชยนต์เพื่อแลกกับการได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ "มาเถอะฉันจะสอนเธอเอง" เธอต้องการทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้ณิชาตัดสินใจยอมเดินเข้าไปหาพ่อของผู้ชายที่ทิ้งเธอไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น เขาถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะยอมทำข้อตกลงกับเขาใช่ไหม และเธอก็ตอบตกลงรับข้อเสนอของเขาอย่างไม่ลังเล
พราะเข้าไปช่วยชีวิตผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ทำให้ชีวิตดั่งเจ้าหญิงของเฮเซลเปลี่ยนไปตลอดกาล
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
© 2018-now MeghaBook
บนสุด