น้องสาวข้างบ้านสุดเผ็ดร้อนกำลังยืนเปลื้องผ้าอยู่ปลายเตียงนอนในห้องของเขา มีหรือเขาจะไม่รีบดึงเธอมาร่วมเตียง แม้ใจจะไม่คิดเอาน้องสาวเพื่อนแต่เธอร้อนแรงจนความเป็นชายแข็งขื่อเพียงเธอสัมผัสโดนตัวเขา!
น้องสาวข้างบ้านสุดเผ็ดร้อนกำลังยืนเปลื้องผ้าอยู่ปลายเตียงนอนในห้องของเขา มีหรือเขาจะไม่รีบดึงเธอมาร่วมเตียง แม้ใจจะไม่คิดเอาน้องสาวเพื่อนแต่เธอร้อนแรงจนความเป็นชายแข็งขื่อเพียงเธอสัมผัสโดนตัวเขา!
1
พี่ชายข้างบ้าน
"แพรว ยายแพรว นี่ๆ ฉันมีกรุ๊ปไลน์คลิปเด็ด ฉันจะดึงแกเข้านะ รับรองตอบสนองความต้องการขอแกแน่"
เสียงเรียกจากเพื่อนสนิทที่วิ่งหน้าตั้งมาหาแพรวนลินที่นั่งกรอกข้อมูลลงระบบของมหาวิทยาลัยจำต้องหยุดลงและหันไปมองเพื่อนที่วิ่งมานั่งลงข้างๆ พร้อมยื่นโทรศัพท์ซึ่งปรากฏหน้าจอแอปพลิเคชันไลน์ก่อนจะกดเข้าไปในกรุ๊ปทันที
"กรุ๊ปอะไรของแก ไม่กรอกข้อมูลลงระบบที่จะไปฝึกงานเดือนหน้าเหรอ"
แพรวนลินกล่าวถาม แต่สายตาก็ยังคงให้ความสนใจสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
"ยังอ่ะ รอแกกรอกเสร็จก่อน นี่ไง!"
ศิขรินกล่าวตอบพลางเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือจนเจอสิ่งที่ต้องการให้แพรวนลินเห็นก่อนจะยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าของแพรวนลิน
"กรุ๊ปอะไรของแกเนี่ย!"
แพรวนลินร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อสิ่งที่เห็นเป็นคลิปมากมายที่เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายและผู้หญิง
"หยุด หยุด หยุดทำท่าเป็นผู้หญิงใสซื่อเลย แกควรมีผัวได้แล้วนะยะ ทั้งกลุ่มมีแค่แกคนเดียวที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใยอยู่แบบนี้"
ศิขรินทำสีหน้าหวาดกลัวเมื่อเห็นกิริยาของแพรวนลินก่อนจะหันมาดึงไลน์ของแพรวนลินเข้ากลุ่มพร้อมกับดึงโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวมากดเข้าร่วมทันที
"แฟนก็พอ" แพรวนลินแย้งอย่างไม่จริงจัง
"ก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ เออใช่ ถ้าแกไม่ถูกใจหนุ่มที่มอก็คว้าเพื่อนพี่ชายที่อยู่ข้างบ้านมาทำผัวเลยสิ สนิทกันไม่ใช่เหรอ"
ศิขรินบอกปัดก่อนจะอุทานออกมาเมื่อนึกไปถึงเพื่อนพี่ชายของแพรวนลินที่อยู่ข้างบ้าน แม้อายุจะเข้าเลขสาวแต่ยังดูเหมือนเด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบไปมาดๆ แถมยังฮอตในหมู่สาวๆ เสียด้วย
"จะบ้าเหรอและฉันก็ไม่ได้สนิทด้วย แค่มักถูกพี่พสุทิ้งให้อยู่ในโอวาทเขาก็เท่านั้นเวลาบินไปต่างประเทศ"
แพรวนลินแก้ความเข้าใจของศิขรินใหม่
"ก็ตีสนิทสิ ออกจะหล่อล่ำขวัญใจสาวๆ ไม่ใช่เหรอ ลองไปกินพี่เขาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจและน้องสาวที่มีใยแมงมุมเต็มไปหมด ควรให้พี่เขาช่วยทำความสะอาดให้ได้แล้วนะ"
"ฉันไม่..."
"อย่ามาปฏิเสธ ถามหน่อย แกก็อยากใช่ไหมล่ะ พูดความจริงนะ"
"เออ ก็อยาก"
แพรวนลินตอบออกไปด้วยความเขินอาย แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะของเพื่อนได้เป็นอย่างดี
"ฮ่าๆ เพื่อนฉันจะได้มีผัวสักที ฉันช่วยเอามั้ย พรุ่งนี้พี่พสุก็บินไปจีนไม่ใช่เหรอ ใช้โอกาสนี้รวบหัวรวบหางเลย"
"บ้าสิ ไม่เอาด้วยหรอก ต่อให้ฉันคิดอยากลองก็ตาม" แพรวนลินปฏิเสธทันควัน
"งั้นแกก็ดูคลิปเด็ดช่วยตัวเองไปก็แล้วกัน อุตส่าห์จะช่วย ไหน แกลงที่ฝึกงานที่ไหนไป ฉันว่าจะไปที่เดียวกับแก"
ศิขรินบอกปัดพลางดึงโน้ตบุ๊กของแพรวนลินให้อยู่ในระดับสายตาพลางเลื่อนมองข้อมูลที่ถูกกรอกไปแล้วเกือบเสร็จ
แพรวนลินมองเพื่อนก่อนจะหันมาหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองเข้าไปที่กรุ๊ปไลน์คลิปเด็ดพลางนึกไปถึงพี่ชายข้างบ้านพวงตำแหน่งเพื่อนพี่ชายอย่างใช้ความคิดกับสิ่งที่เพื่อนพูดออกมา
แพรวนลินไม่ใช่ผู้หญิงที่บริสุทธิ์แล้วต้องใสซื่อเหมือนผู้หญิงที่อยู่ในกรอบจนไม่เข้าใจในสิ่งที่ศิขรินพูดออกมา แต่เธอเองก็รู้สึกและมีความต้องการสูงเพียงแต่เธอยังไม่เจอคนที่พร้อมจะมอบความสาวให้ก็เท่านั้น จะเว้นก็แต่เพื่อนพี่ชายที่เธอรู้สึกอยากลองพลีกายให้
แต่เพราะคำว่าเพื่อนพี่ชายทำให้เธอต้องรักษาระยะห่างเอาไว้แม้จะแอบไปฝันถึงอยู่บ่อยครั้งที่ได้เห็นเพื่อนพี่ชายเดินถอดเสื้อมาหาพี่ชายถึงที่บ้านและบ่อยครั้งที่เธอจินตนาการถึงพี่ชายข้างบ้านอย่างดนัย สถาปนิกหนุ่มหล่อล่ำเพื่อช่วยตัวเองในทุกครั้ง หากให้ลองคิดทบทวนก็พบว่าตัวเธอคิดอกุศลกับดนัยตั้งแต่ขึ้นมัธยมปลายจนถึงตอนนี้ จนรู้สึกอยากลองสัมผัสแทนการจินตนาการอย่างที่ศิขรินแนะนำเสียแล้วสิ
เธอเองก็เริ่มอยากทำตามที่ศิขรินบอกขึ้นมาทันที ใช้โอกาสที่พี่ชายไม่อยู่รวบหัวรวบหางพี่ชายข้างบ้านเสียเลย
อ่อยเล็กน้อยมารยาหน่อยก็คงไม่ยาก
ยิ่งรู้มาว่าพี่ชายบินไปจีนนานเป็นเดือนแถมยังฝากเธอให้อยู่ในโอวาทเหมือนเดิม ถึงเวลาแล้วที่เธอจะพลีกายให้ผู้ชายที่เธอจินตนาการมานานหลายปี
แพรวนลินเดินผ่านหน้าบ้านของดนัยพลางแอบชำเลืองดูก็พบว่าชายหนุ่มอยู่บ้าน วันนี้เธอตัดสินใจเดินเข้าซอยบ้านแทนการเรียกวินมอเตอร์ไซต์เพื่อที่จะได้มองบ้านของชายหนุ่มพลางนึกไปถึงเมื่อตอนกลางวันที่คุยกับศิขรินก่อนจะเบนสายตาไปทางเสียงทุ้มของพี่ชายที่เดินออกมาเห็นเธอเขาพอดี
"แพรว ทำไมวันนี้เดินกลับ"
"อยากเดินบ้าง"
เธอกล่าวตอบพลางเดินเข้าบ้านเมื่อพี่ชายเปิดประตูให้กับเธอ
"พรุ่งนี้พี่บินแต่เช้า อย่าออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนละ ไอ้นัยมีงานให้ร่างแบบตึกคงไม่มีเวลามาคุมเธอหรอก"
"รู้แล้วน่า มีแต่จะออกไปหาข้าวกลางวันกินกับเพื่อนเท่านั้นแหละ"
"ก็ดี ไปเข้าบ้าน เย็นมาแล้ว ดูสิ กระโปรงก็สั้น เสื้อก็รัด เปลี่ยนได้แล้วนะ"
พสุธรบ่นน้องสาวพลางเดินตามหลังเข้าบ้านไป เสียงโวยวายที่ได้ยินไม่ชัดทำให้ดนัยที่กำลังนั่งร่างแบบตึกต้องลุกขึ้นมามองสองพี่น้องที่กำลังเดินเข้าบ้านไปโดยไม่ทันสังเกต ดนัยมองน้องสาวเพื่อนอย่างสำรวจก็พบว่าเธอสวมใส่เสื้อนักศึกษาพอดีตัวจนออกจะรัดรูปเสียมากกว่า อีกทั้งกระโปรงทรงเอที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาคืบเดียวจนเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจนก่อนจะเดินกลับมานั่งทำงานของตัวเองต่อทันที
เมื่อเข้ามาในบ้านก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปชวนเพื่อนมาทานข้าวเย็นทันที ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าน้องสาวที่เดินไปล้มตัวลงนอนบนโซฟาพร้อมกับเปิดโทรทัศน์ดูแทนที่จะขึ้นไปเก็บกระเป๋าอาบน้ำเปลี่ยนชุด
"วันนี้ไอ้นัยจะมากินข้าวด้วย ขึ้นไปเก็บกระเป๋าแล้วอาบน้ำเปลี่ยนชุดซะ อายไอ้นัยบ้าง"
"ไม่อายอ่ะ เห็นกันอยู่ตั้งหลายปี พี่นัยก็เหมือนพี่ชายแพรวอีกคนนั่นแหละ"
หญิงสาวแย้ง สายตาจับจ้องรายการยามเย็นโดยไม่หันมามองพสุธร
"ให้ตายสิ น้องสาวฉันเมื่อไหร่จะสำรวมกิริยามารยาทบ้าง"
"ก็ต่อเมื่อพี่แต่งงานมีครอบครัวนั่นแหละ"
แพรวนลินกล่าวสวนไปทันควัน แต่สายตาไม่ได้กลับไปมองพี่ชายที่มองมาด้วยสายตาหาเรื่องที่ถูกเธอเร่งให้เขารีบมีครอบครัว
"พี่คงต้องรออีกนาน พี่จะไปทำกับข้าวก่อน เสร็จแล้วจะเรียก"
"รับทราบค่ะ"
"เฮ่อ...อ้าว ทำไมมาเร็ววันนี้ งานเสร็จแล้วเหรอ"
พสุธรถอนหายใจก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินไปห้องครัวก็ต้องเอ่ยขึ้นมาด้วยความแปลกใจที่เห็นดนัยเดินเปิดประตูเข้าบ้านมา
"ใกล้แล้ว"
ดนัยกล่าวตอบพลางแอบเหลือบสายตาไปมอง แพรวนลินที่นอนตะแคงข้างดูรายงานโทรทัศน์โดยไม่รู้ตัวว่ากระโปรงทรงเอที่เธอใส่ร่นขึ้นไปเกือบเห็นแก้มก้นแต่ก็เผยให้เห็นต้นขาเรียวเล็กขาวใสก่อนจะเบนสายตามาที่พสุธร ซึ่งเดินไปทางห้องครัวพลางบ่นน้องสาวที่ไม่รู้สึกรู้สา
เมื่อดนัยก้าวเดินตามพสุธรไป แพรวนลินจึงหันมามองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มพลางแอบยิ้มกรุ้มกริ่ม
แพรวนลินนั่งมองพี่ชายทั้งสองพลางตักข้าวเข้าปากหลังจากถูกเรียกให้เดินมาทานมื้อเย็นหลังจากกับข้าวทำเสร็จจนครบ เธอมองทั้งสองชายหนุ่มอย่างเงียบๆ ก่อนจะกล่าวหยอกเย้าพี่ชายทั้งสอง
"ถ้าแพรวไม่ใช้น้องพวกพี่ ก็คิดว่าพวกพี่เป็นแฟนกันนะ เรียกกินข้าวทุกวัน"
"คิดได้ไง ฉันมีสาวๆ ตรึม" พสุธรหันมาเขกศีรษะน้องสาวทันที
"น้องแกก็คิดอยู่ออกบ่อย ชินได้แล้วมั้ง" ดนัยเอ่ยขึ้นบ้าง
"ไม่ปฏิเสธ หรือพี่นัยชอบพี่พสุ!"
"คิดไปได้ มันมีแฟนแล้ว เหมือนคืนนี้จะมาค้างที่บ้านด้วยใช่มั้ย"
พสุธรเขกศีรษะแพรวนลินอีกครั้ง หญิงสาวยู่หน้าพลางยกมือลูกศีรษะเบาๆ แอบมองดนัยเพื่อรอคำตอบจากปากชายหนุ่ม
"เลิกกันแล้วเมื่อเช้า" ดนัยตอบ "แม่พี่ส่งคุกกี้มาให้ เธออยากกินหรือเปล่า" ก่อนจะหันมาถามแพรวนลิน
"เหงาหงอยอีกละสิ" พสุธรเย้าเพื่อน
"อยากกินสิคะ แพรวเข้าไปเอาได้เลยมั้ย" หญิงสาวรีบตักข้าวเข้าปากคำสุดท้ายพลางลุกขึ้น
"เข้าบ้านคนอื่นโดยไม่มีเจ้าบ้านได้ไง รอให้นัยกินอิ่มก่อนสิ" พสุธรปรามน้องสาว
"กินคาวไม่กินหวาน สันดานไพร่นะพี่พสุ" หญิงสาวกล่าวเย้าพี่ชายก่อนจะหันมามองดนัย "พี่นัยกินอิ่มก็เรียกแพรวนะ เดี๋ยวแพรวขึ้นไปเก็บของก่อน"
แพรวนลินพูดจบก็ลุกไปวางจานที่อ่างล้างก่อนจะเดินตรงไปหยิบกระเป๋าเดินขึ้นบ้านไปทันที ทิ้งให้พี่ชายนั่งคุยงานกันต่อ แพรวนลินวางกระเป๋าลงบนโต๊ะริมหน้าต่างซึ่งอยู่ฝั่งที่เห็นห้องของดนัยก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอนบนเตียงเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นพอดีที่แชทกรูปไลน์เด้งขึ้นมา แพรวนลินจึงลองเปิดเข้าไปดูก็พบข้อความของคนในกรุปที่กำลังพูดถึงคลิปเด็ด หนึ่งในนั้นก็มีศิขลินและมาวิน เพื่อนร่วมสาขากำลังเร่งเร้าคนที่กำลังจะลงคลิป
แพรวนลินเลื่อนอ่านข้อความของคนอื่นๆ จนกระทั่งวิดีโอคลิปโหลดสำเร็จ ภายในเวลารวดเร็วมีคนอ่านเป็นยี่สิบคน เธอจึงเอื้อมมือไปหยิบหูฟังซึ่งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาเสียบฟังทันที
แพรวนลินเปิดเข้าไปดูก็เริ่มต้นด้วยผู้ชายผู้หญิงนัวเนียกันอยู่บนโต๊ะอาหารในบ้าน ทำให้เธอนึกไปถึงโต๊ะอาหารบ้านของตัวเองที่เพิ่งจากออกมา เพียงเธอดูไปได้สิบนาทีความใคร่ในกายก็ปะทุขึ้น
หญิงสาวถกกระโปรงขึ้นมาถึงเอว ชันขาขึ้นและอ้าออกจนเป็นรูปตัวเอ็มก่อนจะวางมือนุ่มของตัวเล็กลูบไล้ผ่านกางเกงในเนื้อบ้างซึ่งเริ่มเปียกแฉะด้วยน้ำหวานที่ไหลออกมาตามอารมณ์ที่ปะทุขึ้น มือเล็กสอดเข้าไปภายใต้กางเกงใน ลูบไล้กลีบเนื้อนุ่มที่แฉะชื้นได้ที่และแหวะออกก่อนจะสอดนิ้วกลางและนิ้วนางเข้าโพรงคับแคบที่กำลังตอดรัดเมื่อนิ้วสอดเข้าไป หญิงสาวชักนิ้วเข้าออกไปตามท่วงทำนองอารมณ์ใคร่ ใช้นิ้วโป้งบดขยี้เม็ดเสียวของตัวเองอยู่สองสามทีเสียงครางแผ่วก็หลุดออกมา นานอยู่หลายนาทีที่แพรวนลินชักนิ้วเข้าออกรูสวาทของตนเอง
"อ่า..."
เรียวขาเล็กแนบเข้าหากันเมื่อเริ่มรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างกาย นิ้วเล็กเร่งรูดเข้าออกถี่จนน้ำหวานไหลเยิ้มไปถึงร่องก้น เพียงชั่วอึดใจหญิงสาวก็ถึงจุดสุดยอดหลังจากช่วยตัวเองตอบสนองความใคร่ ขาที่ตั้งชันราบไปกับที่นอนนุ่มอย่างอ่อนแรง มือเล็กที่อยู่ภายใต้กางเกงในดึงออกวางลงบนโหนกเนินของตัวเองก่อนจะรีบลุกขึ้นวิ่งไปเข้าห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงเรียกของพสุธร
"ไอ้นัยจะกลับแล้วแพรว จะไปเอาคุกกี้มั้ย"
"ไปค่ะไป"
หลังจากเข้าไปทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นและถอนกางเกงในทิ้งลงตะกร้า แพรวนลินก็จัดเสื้อนักศึกษาและกระโปรงให้เรียบร้อยโดยไม่ลืมที่จะหวีผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยรีบเดินออกจากห้องวิ่งลงบันไดลงไปชั้นล่างทันที แม้จะรู้สึกเย็นวาบที่ไม่ได้ใส่กางเกงใน เมื่อลงมาก็พบดนัยและพสุธรยืนรออยู่
"พี่ไม่ไปด้วยนะ จะรีบเก็บของ รีบไปก็รีบกลับละ" พสุธรกล่าวสั่ง
แพรวนลินพยักหน้ารับก่อนจะเดินตัวเกร็งตามดนัยมาที่บ้านของชายหนุ่มทันที เมื่อเข้ามาในบ้านชายหนุ่ม แพรวนลินก็สำรวจไปทั่วบ้านพลางเดินตามดนัยไปที่ห้องครัวก่อนจะสะดุดสายตาที่กรอบรูปสีขาว วางอยู่บนชั้นวางของซึ่งเป็นฉากกันระหว่างทางเดินและห้องครัว
"แฟนพี่นัยสวยมากเลย ไม่น่าจะเลิกกันนะคะ"
แพรวนลินเอ่ยพลางยืนจ้องรูปถ่ายคู่ดนัยและแฟนสาว
"ทำไม มันเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ"
ดนัยเดินมาช้อนด้านหลังหญิงพลางกล่าวถาม
ด้วยความตกใจจึงเผลอถอยหลังออกห่างจากชั้นวางของไปชนเข้ากับดนัยที่ยืนอยู่ด้านหลัง เพื่อไม่ให้ล้มลงไปก้นจ้ำเบ้าด้วยกันทั้งคู่ ดนัยจึงรีบคว้าเอวหญิงสาวอีกมือคว้าจับชั้นวางของ ทว่าก้นกลมกลึงของเธอกลับกำลังสัมผัสโดนกายแกร่งที่อยู่ภายใต้กางเกงผ้าขายาวสีดำ
ยิ่งเธอขยับกายเล็กน้อยก็ยิ่งบดเบียดจนดนัยกำมือที่จับชั้นวางของแน่น ขบกรามข่มอารมณ์ที่พลุกพล่านเพียงหญิงสาวสัมผัสโดนร่างกายจนรู้สึกได้ว่ากายแกร่งของตัวเองเริ่มแข็งขึ้น ดนัยแอบสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและพ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะผละออกจากแพรวนลินที่เริ่มยืนทรงตัวได้
"แพรวขอโทษนะคะ คุกกี้อยู่ไหนเหรอคะ แพรวจะรีบไปเอาค่ะ พี่นัยจะได้ทำงานต่อ"
แพรวนลินขอโทษขอโพยดนัยพลางขยับออกห่าง สายตาสอดส่ายหาขนม
"อยู่ในครัว ตามมาสิ"
ดนัยควบคุมอารมณ์จนมั่นคงเดินนำมาที่ห้องครัว แพรวนลินแอบพ่นลมหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินตามเข้าห้องครัวไป ซึ่งพอดีกับที่ดนัยกำลังแบ่งคุกกี้ใส่ขวดโหลอีกขวด เธอจึงเดินเข้ามาไปยืนอยู่ข้างๆ ดนัย
"แม่พี่นัยทำเหรอคะ" แพรวนลินถาม
"อืม ลองกินสิ"
ดนัยตอบกลับเสียงนุ่มพลางหยิบคุกกี้มาหนึ่งชิ้นจ่อไปที่ปากของแพรวนลิน สายตาจับจ้องไปที่เรียวปากบางกระจับสีชมพูเป็นธรรมชาติของแพรวนลิน เธอไม่รีรออ้าปากกัดคุกกี้พลางช้อนสายตามองดนัยคล้ายจะขอบคุณแต่ลึกๆ เธอกำลังแอบอ่อยอีกฝ่ายเงียบๆ ไม่ให้โจ่งแจ้งจนเกินไป
"อร่อยมากค่ะ ขอบคุณสำหรับคุกกี้"
แพรวนลินกลืนคุกกี้ลงคอก่อนจะพูดออกไปและหันมาสนใจหยิบคุกกี้แบ่งใส่ขวดโหล
ดนัยรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจติดขัดเมื่อสบสายตาหวานของแพรวนลิน อีกทั้งริมฝีปากนุ่มที่สัมผัสโดนนิ้วทำให้กายแกร่งที่เพิ่งสงบลงเริ่มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง สายตาสำรวจเรียวหน้าสวยหวานที่กำลังสนใจคุกกี้โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องมองด้วยสายตาสำรวจ สายตาเลื่อนต่ำมาที่ลำคอขาวระหงจนอยากลองขบเม้มชิมความหอมหวานก่อนจะเลื่อนลงต่ำมาที่สองเต้าอกอวบที่มองก็รู้แล้วว่าคัพซี เอวคอดซึ่งดูออกได้ง่ายเมื่อเสื้อนักศึกษารัดจนเห็นได้ชัด สะโพกผาย ก้นกลมกลึงอย่างชัดเจนยิ่งได้กระโปรงทรงเอรัดรูปเป็นตัวช่วย เรียวขายาวจนอยากใช้ริมฝีปากสัมผัสไปตามผิวเนื้อยิ่งได้กลิ่นกายหอมละมุนจากตัวแพรวนลินก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์ราคะให้ดนัยมากขึ้น
แม้จะเห็นหญิงสาวอยู่ทุกวันแต่ไม่ได้ใช้สายตามองสำรวจให้ชัดเจนเท่าวันนี้ ยิ่งสำรวจรูปร่างก็ยิ่งชัดเจนเมื่อเธอเป็นผู้หญิงที่ถูกใจเขาเสียเหลือเกิน หากแต่เขาไม่นิยมน้องสาวเพื่อนให้ต้องมาวุ่นวายทีหลัง โดยเฉพาะเพื่อนสนิทอย่างพสุธรที่หวงน้องสาวยิ่งกว่าไข่ในหิน ด้วยเพราะเขายังไม่พร้อมที่จะผูกมัดกับใคร ยังอยากสนุกไปก่อนที่จะต้องใช้เวลาทั้งหมดให้กับผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยา แต่คำว่าครอบครัวสำหรับเขาก็ยังคงเป็นเรื่องที่ห่างไกลแม้จะอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตาม
"แพรวแบ่งเต็มโหลเลยนะคะพี่นัย"
แพรวนลินหันมาเงยหน้ามองดนัยด้วยรอยยิ้ม ทว่าก็ต้องตกใจผงะถอยหลังเมื่อพบว่าใบหน้าของดนัยอยู่ใกล้เพียงคืบเดียว แขนแกร่งรีบคว้าเอวหญิงสาวไม่ให้หงายหลังเอาไว้ สบสายตากันด้วยความบังเอิญแต่ทำให้หัวใจสั่นไหว เธอไม่รู้ว่าเขายื่นใบหน้ามาเมื่อไหร่และทำไม
แต่การหันมาเจอใบหน้าของดนัยอยู่ใกล้จนน่าตกใจความรู้สึกอย่าสัมผัสใบหน้าด้วยมือเล็ก เรียวปากน่าจูบ เมื่อยิ่งถูกชายหนุ่มโอบกอดเอวไว้ยังไม่ยอมปล่อย ร่างกายตอบสนองความรู้สึกเป็นอย่างดี
ใบหน้ารูปไข่ของแพรวนลินเคลื่อนไปใกล้ใบหน้าหล่อคมของดนัยที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เช่นกัน เพียงเสี้ยวนาทีริมฝีปากบางทั้งสองก็ประกบจูบกันอย่างหวานละมุนก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรง มือเล็กที่ถือขวดโหลกำเอาไว้แน่นอยู่ระหว่างหน้าอกของเธอและเขา มือแกร่งรั้งสะโพกหญิงสาวชิดใกล้พลางลูบคลึงสะโพกเลื่อนลงต่ำไปที่ก้นกลมกลึงซึ่งทำให้ดนัยรู้สึกได้ทันทีว่าหญิงสาวไม่ได้สวมใส่กางเกงในยิ่งเพิ่มอารมณ์ดิบเถื่อนให้ชายหนุ่มมากขึ้น ยิ่งเรียวปากบางของแพรวนลินตอบรับจูบแม้มีท่าทางเงอะงะแต่สุดท้ายก็เผยอริมฝีปากออกให้ลิ้นอุ่นของดนัยสอดเข้าไปเกี่ยวกระหวัด ลิ้นเล็กไม่ปล่อยให้โดนเอาเปรียบเกี่ยวกระหวัดตอบ
กายสาวร้อนเป็นไฟกับรสจูบเร่าร้อนของชายหนุ่มทวีคูณเมื่อมือแกร่งบีบคลึงก้นกลมกลึงของตัวเองพลางดันคนตัวเล็กให้ยืนชิดเคาน์เตอร์ ใช้แขนแกร่งเพียงข้างเดียวยกตัวหญิงสาวขึ้นนั่งบนขอบอย่างหมิ่นเหม่ทั้งที่ไม่ยอมปล่อยจูบ มืออีกข้างลูบไล้ไปตามต้นขาอ่อนด้วยอารมณ์ความต้องการที่จะสัมผัสให้มากกว่าแค่ลูบ สอดมือเข้าไปใต้กระโปรงทรงเองที่ร่นขึ้นจนเกือบเผยให้เห็นเนื้อหนังความสาวของแพรวนลิน
ทว่า ก่อนที่มือของดนัยจะสัมผัสโดนเนื้อสาวที่เปียกชุ่มเสียงตะโกนเรียกของพสุธรก็ดังขึ้นมาจากทางหน้าบ้าน จึงทำให้ดนัยและแพรวนลินรีบผละออกจากกันในทันที หญิงสาวรีบวางขวดโหลลงบนเคาน์เตอร์และจัดการชุดนักศึกษาตัวเองให้เรียบร้อยเมื่อพบว่ากระดุมถูกปลดออกตอนไหนก็ไม่รู้ตัว ดนัยเห็นหญิงสาวกำลังจัดการตัวเองให้เรียบร้อยจึงเดินไปดักพสุธรที่กำลังเปิดประตูเข้ามา
แต่ไม่ทันที่ดนัยจะถึงประตู พี่ชายของหญิงสาวก็เปิดเข้ามาซึ่งเป็นโชคดีของแพรวนลินที่เธอจัดการกระดุมจนเสร็จและเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมขวดโหลใส่คุกกี้
"เอาคุกกี้แค่นี้ทำไมนานจังยายแพรว"
พสุธรที่เห็นน้องสาวเดินออกมากล่าวถามเสียงห้วน
"พี่นัยหาขวดโหลที่จะแบ่งใส่ไม่เจอ เลยเสียเวลาหา มีพสุมีอะไรหรือเปล่า"
แพรวนลินแก้ตัวออกไปโดยไม่ได้มองดนัยที่มองมาด้วยความอึ้งที่เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เพิ่งจูบกันจนเกือบเลยเถิดถ้าพสุธรไม่มาตาม
"พี่หาเสื้อตัวโปรดไม่เจอนะสิ ถึงได้มาตามให้ไปช่วยหา ได้แล้วใช่มั้ย"
พสุธรบ่นอุบก่อนจะถามเมื่อเห็นขวดโหลในมือแพรวนลิน
"ได้แล้ว ขอบคุณนะคะพี่นัย"
แพรวนลินชูขวดโหลขึ้นให้พสุธรดูก่อนจะหันไปช้อนตามองดนัยพลางเอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้มหวานอย่างยั่วยวนเบาๆ และหันหลังกลับออกจากบ้านของชายหนุ่มไปพร้อมพี่ชาย ทิ้งให้คนที่อารมณ์ดิบเถื่อนยังค้างคาอยู่ขบกรามแน่น ปวดร้าวที่กายแกร่ง ทันทีที่สองพี่น้องเดินออกจากบ้านไปดนัยจึงรับกดล็อกประตูบ้านพาตัวเองวิ่งขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อจัดการอารมณ์ของตัวเองที่ปะทุขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่เพียงเพราะรสจูบและผิวเนื้อเนียนนุ่มของแพรวนลิน
ดนัยรีบถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะเข้าห้องน้ำไปทันทีเมื่อเดินเข้ามาถึงในห้องนอน ดนัยเปิดน้ำจากฝักบัวทิ้งไว้เพื่อชำระความร้อนจากกาย ทว่าไม่เป็นผลเมื่อท่อนเอ็นที่แข็งขึ้นอย่างหักห้ามไม่ได้ ชายหนุ่มเท้าแขนกับกำแพงห้องน้ำทันที อีกมือกำท่อเอ็นของตัวเองพลางลูกขึ้นลงอย่างเชื่องช้าขัดกับอารมณ์ที่มันพุ่งสูง
เพียงครู่เดียวที่ชักมือขึ้นลงก็แปรเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นตามาอารมณ์ เสียงครางหลุดออกมาเป็นระยะตามความรู้สึกเสียวซ่าน มือแกร่งที่ชักท่อนเอ็นขึ้นลงด้วยความเร็วและเกร็งมือจนเห็นเส้นเลือดขึ้นบูดอย่างเห็นได้ชัด
"อือ...แพรว...อ่า"
ดนัยครางออกมาเมื่อความเสียวที่ท่อนเอ็นทวีคูณขึ้นพร้อมกับใบหน้าและเรือนร่างเปลือยเปล่าของแพรวนลินลอยเข้ามาในหัวเมื่อเขาเผลอจินตนาการไป ทั้งที่บอกตัวเองเสมอว่าเธอเป็นเพียงน้องสาว แต่การสัมผัสและได้ใกล้ชิดก็ห้ามตัวเองไม่อยู่อย่างไม่เข้าใจ
แพรวนลินมีแรงดึงดูดจนเขาเองยังตกใจเพียงแค่สัมผัสภายนอกเท่านั้น ชายหนุ่มเร่งมือที่ชักขึ้นลงอีกสองสามครั้ง น้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมาเป็นสายพร้อมกับเสียงครางกระเส่าของชายหนุ่ม
"อ่า..."
แม้การช่วยตัวเองเพื่อบรรเทาความปวดร้าวแต่ก็ไม่ได้ช่วยเขามากเท่าไร เพราะอารมณ์และความรู้สึกต้องการเข้าไปในตัวหญิงสาวมีมากกว่า ชายหนุ่มจึงเริ่มชักมืออีกครั้งเพื่อให้กายแกร่งของเขาสงบลง ราวยี่สิบนาทีกว่ากายชายหนุ่มจะสงบลงและเขาได้อาบน้ำชำระร่างกาย ร่างแกร่งเปลือยท่อนบนเดินออกมาจากห้องน้ำตรงไปยังตู้เสื้อผ้า ทว่าสายตาดันเหลือบไปเห็นแพรวนลินที่เดินเข้ามาในห้องของตัวเอง ซึ่งห้องของเธอตรงกับห้องของเขาโดยไม่ได้ปิดผ้าม่านต่างจากเขาที่เปิดผ้าม่านเพียงกระจกบานเดียว
ดนัยเดินไปยืนหลังผ้าม่านที่ปิดไว้พลางมองแพรวนลินที่เดินไปทั่วห้องเหมือนกำลังหาของบางอย่างพลางเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกก่อนจะโยนทิ้งไปทางอื่น ซึ่งเผยให้เห็นหน้าอกอวบกลมขาวที่อยู่ภายใต้บราเซียร์ลายลูกไม้สีเนื้อ เพียงแค่เธอถอดเสื้อออกกายของชายหนุ่มก็ร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง ท่อนเอ็นที่เพิ่งสงบไปเริ่มดุนดันผ้าขนหนูจนดนัยขบกรามแน่นรีบผละออกจากหน้าต่างโดยไม่ลืมปิดผ้าม่าน รีบสาวเท้าตรงไปที่เตียงโน้มตัวเท้ามือกับขอบเตียงละเริ่มออกแรงดันตัวขึ้นลงในการออกกำลังเพื่อระงับอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง
หนี้ที่ไม่ได้ก่อ เธอ ต้องใช้แทนเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อเลี้ยงที่เลี้ยงเธอมาจนโต ทว่า ความเป็นจริงกลับทำร้ายเธอ เมื่อพ่อเลี้ยงได้สร้างรอยแค้นให้ เขา มาเฟียหนุ่มฮ่องกง ไม่ใช่แค่เพียงหนี้ก้อนโต เขา...มาเฟียไร้หัวใจ อดีตเขาเคยมีหัวใจ ทว่า เมื่อเขาสูญเสียคนรักไปด้วยฝีมือลูกหนี้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของความแค้น ที่ทำให้เขากลายเป็นคนไร้หัวใจ ไร้ความปรานี และปิดกั้นความรักตั้งแต่นั้นมา เธอ...หญิงสาวสู้ชีวิต ตั้งแต่มอปลาย เธอทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนมาตลอด เมื่อผู้เป็นแม่เสียชีวิต เธอก็ใช้ชีวิตกับพ่อเลี้ยง มาตลอดจนเรียนจบด้วยความยากลำบาก เธอมีหัวใจที่เข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เพื่อตอบแทนบุญคุณ
เธอมีแฟนมาแล้วหลายคนก็จริง แต่ไม่เคยมีสักคนที่จะได้แอ้มเธอ แต่ไหงกลับกลายเป็นพี่ชายของเพื่อนกันที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอไปได้เล่า! ไม่ใช่เธอไม่อยากมีแฟนเสียหน่อย แต่มีแล้วก็ไม่ได้อยากปล่อยเนื้อปล่อยตัวนะ! --------------------------------- คุณเชื่อเรื่อง 'ตกหลุมรัก' ตั้งแต่แรกพบหรือไม่ มันมีอยู่จริงหรือ กับรักแรกพบที่มาพร้อมกับสัมพันธ์ที่เร่าร้อน! เซนนิก้า นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเกิดอาการแปลกๆ เมื่อได้เห็นวงหน้าของเธอ คุณหนูเชอเอม แต่เขาแค่เพียงหวังจะเครมเธอเท่านั้น เพราะเหยื่อยังไงก็คือเหยื่อ ทว่าไม่รู้ว่าใครลิขิตหรือกลั่นแกล้งกันแน่ ลิขิตให้คนทั้งสองคือรักแรกพบ! เรือนร่างที่เสียให้กับเขาเป็นคนแรกที่ได้แอ้มเธอคือกำไร หวั่นไหวคือโบนัส ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอย่างเร่าร้อนที่เริ่มง่ายก้จบงาน แต่เชอเอมไม่จบ! ทว่า เขาก็ไม่จบเช่นกันเมื่อก้อนเนื้อในอกยังคงเรียกร้องหาเธอไม่ต่างกันกับเธอ
สัญญา มีเงื่อนไขของมันเสมอ แต่ทว่า สัญญา ที่เต็มไปโดยความแค้นและความรัก...จุดจบของสัญญาครั้งนี้จะลงเอยเช่นไร และเธอกับเขาจะเลือกอะไรระหว่งความแค้น กับ ความรัก
เธอลุ่มหลงไปกับรสสวาทในตัวเขา พลันเปลี่ยนเป็นความรักอย่างไม่รู้ตัว ทว่าช้ากว่าเขาที่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น!
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY