“อะไรนะ...นี่คุณต้องไปค้างคืนด้วยหรือ”
‘เวียร์’ รู้สึกไม่พอใจที่รู้ว่าสัปดาห์หน้า ‘รสา’ ผู้เป็นภรรยาจะต้องตามบอสไปทำงานไกลถึงต่างประเทศ
“โธ่...สาไปทำงานนะเวียร์...ฮ่องกงก็แค่นี้เอง”
หญิงสาวนิ่วหน้า รู้สึกหนักใจไม่น้อยไปกว่าเขา แต่งานก็คืองาน เมื่อมีคำสั่ง...หล่อนจะปฏิเสธได้ยังไง
อันที่จริงเวียร์ไม่ชอบให้รสาทำงานเลขา เพราะเขาเป็นคนขี้หึงขี้หวงแบบไม่มีเหตุผล เวียร์คงดูหนังโป๊ฝรั่งมามาก ประเภทที่เจ้านายมีเซ็กซ์กับเลขาในห้องทำงาน เขาเคยดูบ่อยๆ ก็เลยนึกกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว เพราะรสาก็เป็นเลขาและสวยสะดุดตาผู้ชาย
ก่อนหน้านี้รสาเคยเป็นเลขาให้บอสคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชาย รสาทำงานได้ไม่นาน เวียร์ก็บ่นจนหล่อนต้องยื่นใบลาออกเพื่อมาทำงานอีกบริษัทซึ่งมีบอสเป็นผู้หญิง
“ไปกี่คืน”
เวียร์เสียงอ่อนลง เข้าใจว่า ‘บอส’ ที่รสาเอ่ยถึงก็คือเจ้านายผู้หญิงที่รสาทำหน้าที่เป็นเลขามานานกว่าสามปี แม้ที่ผ่านๆ มาก็มีเดินทางไปต่างจังหวัดกับเจ้านายหลายครั้ง แต่เวียร์ก็ไม่ห่วงเพราะว่าบอสของรสาเป็นผู้หญิงเหมือนกัน
แต่ครั้งนี้มีสิ่งที่รสาปกปิดเอาไว้...เพราะว่า ‘บอส’ ที่หล่อนต้องติดตามไปทำงานให้ในครั้งนี้ก็คือ ‘อังเดร’ หนุ่มใหญ่วัยเกือบสี่สิบปี เขาเป็นบอสใหญ่คนหนึ่งที่มีหุ้นส่วนอยู่ในบริษัทที่ประเทศอังกฤษ
“ไปคืนเดียวค่ะ”
รสาตอบ ภาวนาขออย่าให้สามีของหล่อนซักไซ้อะไรมากไปกว่านี้
“ดูแลตัวเองนะ”
เวียร์รู้ว่ารสารักงานเลขา ทุกวันนี้หล่อนทำได้ดีจนน่าทึ่ง ผลการประเมินงานในแต่ละปีออกมาดีเยี่ยมตลอด
รสาได้ปรับเงินเดือนบ่อยจนทุกวันนี้เงินเดือนของหล่อนมากกว่าของเวียร์เสียอีก ซึ่งอาจเป็นเพราะว่ารสาสามารถพูดได้มากกว่าสี่ภาษา ทั้งจีน อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน
“ไม่ต้องห่วงค่ะ...อยากได้ของฝากอะไรไหมคะสาจะซื้อมาให้”
รสาถามสามี
“ได้ทั้งนั้น...แล้วแต่คุณ”
บอกพลางโน้มกายลงมาหอมแก้มนวลของภรรยา ก่อนจะแยกกันไปทำงาน ทุกวันนี้เวียร์กับรสาทำงานคนละที่ จึงต้องใช้รถคนละคัน
สัปดาห์ต่อมา ที่สนามบินในฮ่องกง
ภายหลังลงจากเครื่อง รสานั่งรอบอสใหญ่อยู่ที่ร้านกาแฟภายในสนามบินตามเวลาที่ได้นัดหมายเอาไว้ เพราะอังเดรเดินทางมาจากประเทศอังกฤษ
“คุณคือรสาใช่ไหม”
หญิงสาวสะดุ้งกับเสียงทุ้มกังวานที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“ค่ะบอส...สวัสดีค่ะ”
รสาหันมาส่งยิ้ม จับมือทักทายผู้เป็นนาย ทั้งสองพูดคุยกันด้วยภาษาอังกฤษ
“ผมอังเดรครับ”
หนุ่มใหญ่แนะนำตัว ตอนแรกที่รสารู้ว่าผู้ชายคนนี้อายุเฉียดสี่สิบ หล่อนนึกว่าเขาจะต้องแก่ เชย รูปร่างเหมือนฝรั่งอ้วน แต่ที่ไหนได้ อังเดรยังดูหนุ่มมาก รูปร่างของเขาสูงใหญ่เหลือเกิน ความสูงเท่าที่ประมาณด้วยสายตาน่าจะเกินสองเมตร แม้ว่าเขาใส่สูทเรียบหรู แต่ก็ยังสามารถสังเกตเห็นว่ากล้ามเนื้อตึงเต็มสะดุดตา
“ไปกันเลยนะคะ”
รสามองไปยังจุดที่รถของทางโรงแรมมาจอดรอ เพราะว่าอังเดรเป็นบอสใหญ่ มาจากบริษัทผลิตรถยนต์ที่มีชื่อเสียงชั้นนำของยุโรป เขาจัดอยู่ในกลุ่มลูกค้าวีไอพีที่ทางโรงแรมต้องให้การดูแลต้อนรับเป็นพิเศษ
เมื่อมาถึงโรงแรมหรูบนเกาะฮ่องกง อังเดรกับรสาแยกกันพักคนละห้อง แต่อยู่ติดกัน รสารู้สึกโล่งใจที่เห็นว่าอังเดรดูเหมือนผู้ใหญ่ใจดี เขาเป็นคนพูดจาสุภาพ นุ่มนวล มีรอยยิ้มอบอุ่น
แม้แผงหนวดเป็นแพดกหนาเหนือริมฝีปากบางจะทำให้เขาดูเข้มดุเวลาที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทางสีหน้า ทว่าเวลาที่ริมฝีปากขยับยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ให้ตายเถอะโรบิ้นให้ดับดิ้นเถอะโรเบิร์ต...อีตาบอสคนนี้หล่อเหลากระชากใจหล่อนเหลือเกิน
เช้าวันรุ่งขึ้น
การเจรจาธุรกิจผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ภายหลังเสร็จงานอังเดรเอ่ยชมรสาหลายครั้ง เกี่ยวกับภาษาจีนของหล่อนที่สามารถพูดได้อย่างชัดเจนฉะฉาน
อังเดรรู้สึกทึ่งที่รสาสามารถพูดได้หลายภาษา ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการเจรจาธุรกิจกับลูกค้าหลายรายในแถบเอเชีย
“ตอนเย็นผมอยากเลี้ยงฉลองความสำเร็จของเรา มาคราวนี้ลูกค้าออร์เดอร์ สินค้าของเราเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ผมอยากฉลองยอดขายที่ได้เกินเป้า”
อังเดรยิ้มมีความสุข
“ทุ่มนึงเจอกันที่ห้องสูทจัดเลี้ยงชั้นบนนะครับ คืนนี้ผมเปิดห้องพิเศษเอาไว้สำหรับเราสองคน”
บอสใหญ่กำลังทำให้รสาประหลาดใจ นี่เขาถึงกับเปิดห้องพิเศษเชียวหรือ
“ค่ะบอส” รสาพยักหน้ารับ รู้สึกตื่นเต้นและรอคอยให้ถึงเวลานั้น
เมื่อถึงเวลานัดหมาย
“ว้าว...นี่มันเนื่องในโอกาสอะไรกันคะบอส”
รสาอุทานเสียงสูงด้วยความลืมตัว ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่งานเลี้ยงฉลองยอดขายธรรมดาอย่างแน่นอน เมื่อสายตาของหล่อนกวาดสำรวจเข้ามาในห้องแล้วปะทะเข้ากับเค้กก้อนใหญ่ที่วางเอาไว้บนโต๊ะ