“ยะ อย่านะ ฉันจะไปหาพ่อ” “ผมนี่ไง พ่อของคุณ” เขากระซิบเสียงแผ่วเมื่อค่อยๆเลิกเสื้อของเธอขึ้นสูงจนอยู่เหนือบราเซียตัวจิ๋วสีดำสนิท “พ่อของลูกคุณนะ ...”
“ยะ อย่านะ ฉันจะไปหาพ่อ” “ผมนี่ไง พ่อของคุณ” เขากระซิบเสียงแผ่วเมื่อค่อยๆเลิกเสื้อของเธอขึ้นสูงจนอยู่เหนือบราเซียตัวจิ๋วสีดำสนิท “พ่อของลูกคุณนะ ...”
แสงไฟกระพริบวับแวม เสียงดนตรีดังกระหึ่มเป็นจังหวะร็อค ทำให้เหล่านักท่องราตรีทั้งหลายอดใจไม่ไหวต้องขยับตัวตามท่วงทำนองเพลงที่เร้าใจ
แสงสี แอลกอฮอล์ ทุกอย่างปลุกเร้าให้ผู้คนเกิดความคึกคัก เต้นสะบัด ส่ายสะโพกโยกเอว บางคนก็จับกันเป็นคู่ๆทั้งกอดทั้งจูบกันโดยไม่อายสายตาใคร
ใครบางคนก็ว่ามันคือแหล่งบันเทิง แต่คนบางคนกลับมองว่ามันเป็นแหล่งอโคจรที่สาวใจแตกทั้งหลายชอบมาเที่ยวกัน
ศิวานั่งเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ สายตาเหลือบแลไปทั่วงานทั้งๆที่ข้างกายของเขามีผู้หญิงอวบอึ๋มนั่งเบียดอยู่ใกล้ๆ
“ซีคะ ไม่สนใจ…” หญิงสาวยังท้วงไม่ทันจบ ริมฝีปากก็ถูกบดขยี้ด้วยปากร้อนๆของชายหนุ่มเข้าเสียก่อน จุมพิตที่ดูดดื่มแทบจะทำให้เธอลืมความน้อยใจไปหมดสิ้น ยกแขนขึ้นรัดรอบคอแกร่ง สนองจูบของเขาอย่างเร่าร้อนด้วยความชำนาญ
ยังจูบไม่ทันจะเสร็จ เสียงกระแอมกระไอของใครบางคนก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
“อะแฮ่มๆๆ” ทั้งอินอรและศิวาต่างพากันผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่คิ้วเข้มๆของชายหนุ่มจะขมวดเข้าหากันแน่นเมื่อถามออกมาอย่างไม่พอใจ
“ขัดจังหวะทำไม”
“แหมมมมมมมมมม” หญิงสาวผู้ที่มาทีหลัง ยืนเท้าเอวด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็สะบัดไปมาอย่างมีจริต “ขอโทษด้วยนะคะที่ขัดจังหวะ แต่ฉันแค่อยากจะถามคุณว่า…จะรับเครื่องดื่มอะไรดี พอคุณสั่งเสร็จ คุณก็เชิญจูจุ๊บกับแฟนของคุณต่อได้เลยค่ะ”
ศิวาถลึงตาใส่นาวิกาอย่างไม่พอใจ ตาคู่คมกวาดมองไปทั่วร่างบางเป็นเชิงดูถูก
ร่างระหงสวมเสื้อเกาะอก โชว์หน้าท้องแบนราบและหน้าอกอวบอิ่มที่แทบจะทะลักออกมานอกตัวเสื้อ ที่สะดือของเธอถูกเจาะเอาไว้แล้วใส่เพชรเม็ดเล็กๆเป็นประกายวิบวาม ช่วงล่างสวมกางเกงขาสั้นแค่คืบ เน้นสะโพกผายตึงและช่วงขาเรียวยาวสวยเหมือนขานางแบบ
ดวงตาคู่เข้มเลื่อนขึ้นมาพิศใบหน้าของเธอบ้างอย่างรวดเร็ว
ผมของเธอถูกตัดออกซอยสไลด์ยาวถึงกลางหลัง รับกับใบหน้าเรียวมน คิ้วโก่งราวเสี้ยวจันทร์ ตากลมโตดำขลับ จมูกโด่งรั้น ปากอิ่มสีชมพูระเรื่อถูกทาด้วยลิปกลอสจนแวววาว เธอเป็นคนผิวสีน้ำผึ้ง ไม่ได้สวยผุดผาดบาดตาเหมือนผู้หญิงผิวขาว แต่เธอนั้นจัดอยู่ในประเภท…งามพิศ ยิ่งมองก็ยิ่งสวย ไม่เบื่อ
เมื่อรู้สึกตัวว่าจะมองเธอนานเกินไป เขาจึงกระพริบตาถี่ๆแล้วพูดออกมาว่า “ขอเหล้าที่ราคาแพงที่สุดในผับนี้”
“ค่ะ” นาวิการับคำ ก่อนจะเดินตัวปลิวผละออกไป โดยไม่รู้เลยว่ามีลูกตาคมๆของใครบางคนลอบมองช่วงเอวเล็กคอดกิ่วและสะโพกผายตึงของเธอจนลับสายตา
“มองตาค้างเชียวนะคะ” อินอรแขวะอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นผู้ชายที่เธอหมายตาเอาไว้เอาแต่มองนาวิกาชนิดที่ไม่ยอมสนใจเธอเลยสักนิด
“แล้วไง…” แทนที่ศิวาจะปฏิเสธ เขากลับหันมาย้อนถามเธอ เล่นเอาความโกรธของหญิงสาวพุ่งปรี๊ดขึ้นจนทะลุองศาเดือด
“พูดแบบนี้หมายความว่าไงกันคะซี นังนั่นสวยก็ไม่เห็นสวย ตัวก็ดำ”
ศิวายิ้มนิดๆที่มุมปาก ยามที่หันมากระซิบบอกที่ข้างๆหูอินอรอย่างไม่เกรงใจเลยว่า
“ผมไม่ได้ชอบคนสวย ผมชอบคน…เซ็กซี่”
“อ๊ายยย ทำไมพูดแบบนี้คะซี” ต่อให้อินอรจะกรี๊ดจนคอแทบแตกแต่เสียงเครื่องดนตรีที่ดังกระหึ่มอยู่ในขณะนี้ก็แทบจะกลบเสียงเธอไปได้จนหมด
ศิวาปรายตามองอินอรเล็กน้อยอย่างรำคาญ ก่อนจะถอนใจเฮือกแล้วเอนหลังขึ้นพิงพนักเก้าอี้ ความจริงแล้วเขาเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยในระดับพันล้าน ชีวิตของเขาคืองานและเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องความรักน่ะตัดออกไปได้เลย เขาไม่ชอบเที่ยว แต่คืนนี้เขารู้สึกเครียดจากงานที่สะสมมานาน จึงคิดอยากจะมาผ่อนคลายในสถานเริงรมย์บ้าง โดยไม่ลืมที่จะหนีบคู่นอนอย่างอิงอรมาด้วย
ใช่! เขาจัดอินอรให้อยู่ในประเภท‘คู่นอน’เท่านั้น ก่อนที่จะเริ่มคบหากัน เขาเคยบอกเธอแล้วว่า…จะไม่มีข้อผูกมัดใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเธอก็ยอมตกลงแต่โดยดี
แต่พอนานวันเข้า อินอรก็ชักจะไม่เป็นอย่างที่เธอเคยรับปากกับเขาเอาไว้ เธอชอบทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของของเขาจนน่าอึดอัด ถ้าไม่ใช่เพราะว่ายังเสียดายเธออยู่ เขาคงสลัดรักเธอไปนานแล้วล่ะ
เพียงมองตาเธอ เขาก็รู้แล้วล่ะว่า…เธอต้องการเพียงเงินของเขาเท่านั้น ไม่ได้รักเขาที่หัวใจบริสุทธิ์ เมื่อเธอมองเห็นคุณค่าของเขาที่จำนวนเงินทองในธนาคาร เขาก็จะตีค่าเธอให้เป็นเพียงแค่คู่ขา ไม่ใช่คู่ชีวิต
“มาแล้วค่ะ” เสียงใสๆดังขึ้น ฉุดดึงให้เขาตื่นจากภวังค์ความคิด ชายหนุ่มกระพริบตาปริบๆเพื่อจูนสมองให้อยู่กับเหตุการณ์ปัจจุบัน
นาวิกาวางแก้วเหล้าสองแก้วลงบนโต๊ะก่อนจะเตรียมเดินหันหลังกลับ แต่ได้ยินเสียงห้วนๆเรียกเอาไว้เสียก่อน เธอจึงชะงักเท้าลง ก่อนจะหันมามองอย่างสงสัย
“เดี๋ยว”
“มีอะไรคะ” นาวิกาถาม พลางมองผู้หญิงแต่งหน้าจัดจ้านที่นั่งคู่กับศิวาและกำลังลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเธออย่างสงสัย
“ฉันหมั่นไส้หล่อนน่ะสิ” อินอรเปิดฉากหาเรื่องก่อน ความหึงความหวงมันทำให้เธอมองไม่เห็นความถูกผิด ตอนนี้เธอรู้สึกแค่ว่า เธอเกลียดยัยคนตัวดำ หุ่นเอ็กซ์คนนี้ที่สุด
“จะตบฉันงั้นเหรอคะ” นาวิกาถาม
“ก็ใช่น่ะสิ” อินอรตะคอกใส่ ในขณะที่นาวิกาขยับยิ้มเยือกเย็นเมื่อพูดออกมาว่า
“ข้อหาอะไรคะ”
“เกลียดหล่อน” พูดจบ อินอรก็ยกฝ่ามือขึ้นสูง ทำท่าจะตบลงมา แต่ศิวาห้ามเอาไว้เสียงดัง
“เฮ้ย! อรจะทำแบบนี้ทำไม กลับไปเลยไป” ชายหนุ่มออกปากไล่ตรงๆพร้อมกับลุกขึ้นมายืนข้างๆอินอรเพื่อห้ามปราม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะฝ่ามือของอินอรถูกฟาดใส่แก้มใสของนาวิกาอย่างแรงจนเธอหน้าหัน
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
คุณหนูใบ้ที่ถูกข่มเหงรังแกหลังจากฟื้นขึ้นมากลับกลายเป็นสาวนักธุรกิจที่ทะลุมิติมาเข้าร่าง ในเมื่อชีวิตเก่าเจ้าของร่างอาภัพนักชีวิตใหม่นี้ฉู่เสวียนหนี่ขอสาบานว่าจะทำให้ดีเอง! *********** ผลจากการโหมงานหนักทำให้ฉู่เสวียนหนี่สิ้นใจตายคาโต๊ะทำงาน เดิมที่คิดว่าความตายคือจุดจบ...แท้จริงแล้วมันคือจุดเริ่มต้น เพราะวิญาณของเธอได้ทะลุมิติเข้ามายังยุคโบราณล้าหลัง เหมือนชะตากลั่นแกล้งไม่ผิดเพี้ยน ฉู่เสวียนหนี่ดันเข้ามาอาศัยอยู่ในร่างของคุณหนูสามที่ชีวิตสุดแสนบัดซบ ได้รับผลข้างเคียงจากพิษแมงมุม คู่หมั้นที่เคยถูกหมายตาไว้ยื่นหนังสือถอนหมั้น หนำซ้ำยังถูกอุบายลวงญาติริษยาต้องออกจากจวนไปอาศัยกับแม่ชีที่อาราม
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
คุณแต่งกับผมเพราะอยากแต่ง ผมแต่งกับคุณเพราะต้องแต่ง เราต่างกัน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด