เพราะฉันดันไปสาดน้ำมันพรายใส่ผิดคน จากหนุ่มหล่อเนิร์ดกลายเป็นไอ้บ้าหน้าเลือดที่น่ากลัวสุดๆ ฉันหาข้ออ้างให้เขาหายไป หากแต่เขาชี้ปลายมีดมาเข้าที่หน้าฉัน "มาเป็นแฟนฉัน ไม่งั้นตาย" กลัวแล้ว ;-;
เพราะฉันดันไปสาดน้ำมันพรายใส่ผิดคน จากหนุ่มหล่อเนิร์ดกลายเป็นไอ้บ้าหน้าเลือดที่น่ากลัวสุดๆ ฉันหาข้ออ้างให้เขาหายไป หากแต่เขาชี้ปลายมีดมาเข้าที่หน้าฉัน "มาเป็นแฟนฉัน ไม่งั้นตาย" กลัวแล้ว ;-;
อยากได้
ยิ่งมองฉันก็ยิ่งอยากได้ ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันเหมือนถูกสร้างสรรค์ด้วยน้ำมือของพระเจ้า นัยน์ตาสีเฮเซลแสนหวาน ริมฝีปากอมชมพูระเรื่อ จมูกโด่ง มองซ้ายก็มาร์คก็อตเซเว่น มองขวาก็มาร์คก็อตเซเว่น
ทั้งหล่อ ทั้งดูดี แถมยังยืนสูบบุหรี่อยู่ที่ Smoke Area เขาคือพี่ไว รุ่นพี่ปีสี่ที่ฉันแอบมองมานาน และฉันอยากได้เขามาก หากแต่ฉันไม่มีความกล้าที่จะเข้าไปจีบ เพราะไม่ว่าฉันจะมองเขาเวลาไหน ฉันก็เจอเขาอยู่กับผู้หญิงตลอด ไม่รู้ว่านางเป็นแฟนพี่ไวรึเปล่า
ฉันเบ้หน้าก่อนจะสะดุ้งโหยงและหมุนตัวหลบเข้ากับมุมกำแพงเมื่อจู่ๆ พี่ไวก็ปรายสายตาหล่อพิฆาตมาทางฉัน ใจฉันสั่นและหน้าแดงไปหมด
ฮือ เป็นบุญจัง พี่ไวมองมาทางฉันด้วย
คนทุกคนมีความฝันและความฝันของฉันก็คือพี่ไว ฉันไม่รู้จะทำยังไงให้ได้เขา จะจีบก็คงนก จะอ่อยก็คงแห้ว จะมอมเหล้ายิ่งแล้ว...เป็นไปไม่ได้ และในวันที่ท้องฟ้ามืดมนฝนตก ฉันจมอยู่กับความสิ้นหวัง หมอนข้างเปียกไปด้วยน้ำตา ป้าฉันที่กลับมาพร้อมของฝากเป็นน้ำหอมมหาเสน่ห์ส่งตรงจากอียิปต์ที่ชายใดต้องมนตร์จะต้องรัก ต้องหลง ไม่ลืมหู ลืมตา แถมยังกำหนดวันหมดอายุเดือนหน้าอีกต่างหาก
เพราะป้าฉันสปอยหนักมากว่าน้ำหอมนี้มันดีอย่างนั้น อย่างนี้ แถมที่ป้าได้สามีหน้าเหมือนเจคอบทไวไลท์ก็เพราะไอ้น้ำหอมหาเสน่ห์นี่แหละ ฉันก็ไม่เชื่อนักหรอกแต่ไม่รู้ทำไมมันถึงมาอยู่ในมือของฉันได้ แถมฉันยังเตรียมพร้อมจะฉีดไอ้น้ำหอมไร้สาระนี่ใส่พี่ไวด้วย
เออ ลองดูละกันได้ก็ดี ไม่ได้ก็นก ฉันก็แค่กลับไปอยู่ในจุดเดิมนั่นแหละ
คงเพราะฉันอยากได้พี่ไวจนหน้ามืด ฉันยืนทำใจอยู่สักพักก่อนจะสบถเพื่อรวบรวมความกล้าเข้าหาพี่ไว ในใจคิดว่า เอาวะ เป็นไงเป็นกัน
ฉันหันหน้า หมุนองศาเท้าเข้าไปทางพี่ไวและเปิดฝาขวดน้ำหอมกะจังหวะว่าเดินเข้าไปหาฉันจะสาดเข้าใส่หน้าเขาเลย เผื่อว่าแค่ฉีดมันจะไม่ขลังพอ! ถ้าน้ำหอมนี่มันออกฤทธิ์ได้ดีจริงอย่างที่ป้าว่าพี่ไวจะต้องรักฉันหลงฉันตลอดกาลข้ามชาติข้ามภพแน่!
ฉันเดินขึงขังเข้าไปด้วยใบหน้าจริงจัง กำลังจะอ้าปากเอื้อนเอ่ยชื่อพี่ไวสุดหล่อ หัวใจเต้นตึกตักจนจะหลุดออกมาข้างนอก หากแต่ว่าในจังหวะที่ฉันกำลังจะสาดน้ำหอมมหาเสน่ห์เข้าใส่หน้าพี่ไว จู่ๆ ก็มีไอ้บ้าหน้าเลือดพุ่งมาจากทิศไหนไม่รู้
“เฮ้ย ไอ้ภาม นั่นไง ไอ้ไวอยู่นั่น!”
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะเสียงหมอนั่นทำให้ใบหน้าพี่ไวเปลี่ยนองศา
ซ่า!
และน้ำหอมของฉันก็ดันสาดเข้าที่หน้าเขาแทน!!
Light Says….
ซ่า!
ของเหลวไร้ที่มาสาดเข้าที่หน้าผมจนเย็นวาบพร้อมกับกลิ่นฉุนที่ทำเอาผมชะงักฝีเท้าและสะบัดใบหน้าแรงๆ ผมเผลอหลับตาด้วยสัญชาตญาณทำให้หลังไอ้ไวที่ผมกำลังตามอยู่หายไปจากสายตา
“น้ำเหี้ยอะไรวะเนี่ย!” ผมสบถก่อนจะดึงคอเสื้อขึ้นมาเช็ดหน้า กลิ่นของมันฉุนมาก มากจนสมองผมมึนไปหมด และในขณะที่ผมยืนอยู่กับที่ จู่ๆ ไอ้ภามที่กำลังวิ่งตามมาก็กระแทกเข้าที่ด้านหลังผม!
“เฮ้ย ไอ้ไลท์ มึงหยุดวิ่งทำไมเนี่ย ไอ้ไวมันวิ่งไปโน่นแล้ว!” เสียงของมันทำให้ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น ผมพยายามใช้มือปาดบริเวณที่เปื้อนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะปรายสายตาไปต้นทางและเห็นผู้หญิงคนนึงยืนค้างอยู่ในท่าเตรียมสาด มือข้างนึงถือขวดอะไรสักอย่างที่น่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ของไอ้น้ำเวรๆ นี่!
แม่งใครวะ หาเรื่องเหรอ!
ผมถลึงตาโกรธจนคนตัวเล็กกว่าทำหน้าอึ้งๆ มือของเธอสั่นกึกๆ ราวกับควบคุมไม่ได้จนไอ้ขวดที่เธอถืออยู่หล่นกับพื้นดังเคร้ง
“ก็ผู้หญิงคนนี้อะดิ อยู่ดีๆ ก็สาดน้ำเข้าที่หน้ากู” ผมสบถพร้อมเงื้อมือทำท่าจะฟาดเข้าสักทีนึง ผมไม่สนหรอกว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าใครมากวนตีนก็คือกวนตีน มันต้องโดนสักที เธอสะดุ้งและหดไหล่หลับตาปี๋ ตัวสั่นระริกเหมือนลูกหมาตกน้ำ
“ใจเย็นๆ ดิวะ เขากลัวจนฉี่จะราดแล้วมั้งน่ะ”
“ใจไม่เย็นหรอก เย็นแต่หน้ากูเนี่ย สาดเข้าเต็มแก้มกูเลย” ผมเบะปากพลางมองเธอด้วยสายตาหงุดหงิด เธอสูงราวร้อยหกสิบเซนติเมตร ผิวขาวละเอียด ผมยาวไปถึงกลางหลัง
“แล้วตกลงคุณสาดมาทำไมครับ ต้องการอะไร ผมขอเหตุผลที่คุณสาดน้ำกลิ่นแปลกๆ นี่ใส่หน้าผมหน่อย” ผมมองแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มเข้าที่หน้าผากคนตัวเล็กกว่าแรงๆ จนหัวเธอเซไปข้างหลัง เธอลืมตาขึ้นมาทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ยกมือสองข้างมาพนมเหมือนจะขอร้อง
“ไม่ต้องมาไหว้ ไม่รับ”
“คะ คือว่า...” เธออึกอัก
“ไม่ต้องห่วงหรอก"ฉันเอ่ยปากพลางตบบ่าไอ้นุ่นเพื่อให้มันคลายความกังวลใจเรื่องที่ฉันอยู่มหาลัยจนจะปีสี่แล้วยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าสักที "ถ้าหาใครไม่ได้ กูก็จะเอามึงนี่ล่ะ"
“โรคนี้ รักษาได้อยู่สามวิธีนะ ใช้ยา ผ่าตัดและ... ท้อง” คำตอบของคุณหมอทำให้หญิงสาวเงียบไปอึดใจก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ “งั้นวิธีสุดท้ายแล้วกันค่ะ...รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ"
"ตบแล้วทำไม จะจูบแบบในละครไง?"ฉันหัวเราะเมื่อแกล้งตบตรงรอยช้ำที่ผิวแก้มของเพื่อนสนิทเพื่อยั่วประสาทมันเล่นๆ ไอ้เตย์ชักสีหน้าไม่พอใจ"ตบจูบมันน้อยไปนะเวย์..." มันยกยิ้ม "ระดับพี่เตย์ต้องตบตับ!!!"
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY