ทัณฑ์สวาทมาเฟีย (ซีรี่ส์มาเฟียยอดรัก ลำดับที่3) โชคชะตากำลังเล่นตลกร้ายกับม่านไหมเมื่อถูก หลี่ไท่หยาง หรือ โจนาธาน ลี เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มสุดหล่อแต่แสนโหด ลากตัวมาชดใช้ความผิดที่ไม่ได้กระทำเพราะความเข้าใจผิด การลงทัณฑ์ที่แสนโหดแต่เร่าร้อนจึงเกิดขึ้น
ทัณฑ์สวาทมาเฟีย (ซีรี่ส์มาเฟียยอดรัก ลำดับที่3) โชคชะตากำลังเล่นตลกร้ายกับม่านไหมเมื่อถูก หลี่ไท่หยาง หรือ โจนาธาน ลี เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มสุดหล่อแต่แสนโหด ลากตัวมาชดใช้ความผิดที่ไม่ได้กระทำเพราะความเข้าใจผิด การลงทัณฑ์ที่แสนโหดแต่เร่าร้อนจึงเกิดขึ้น
ตอนที่ 1.
ผมขอโทษนะเจนนี่ ที่ทำให้คุณเข้าใจผิดว่าผมรู้สึกพิเศษกับคุณ สำหรับผมแล้วเราคงเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อกัน นี่คงเป็นข้อความสุดท้ายที่ผมจะส่งถึงคุณ ขอให้ระหว่างเราจบลงพร้อมกับข้อความนี้
ลาก่อน.... Laimake
เจนนี่จดจ้องข้อความนั้นพร้อมน้ำตาไหลรินอาบแก้ม มือน้อยจับเมาส์คลิกดูหน้าไทม์ไลน์ของชายหนุ่มที่ชื่อลายเมฆคนนั้น ผู้ชายที่เธอรู้จักผ่านสังคมออนไลน์ในอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่าเฟซบุ๊ก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาทำให้เธอขอแอดเป็นเพื่อน เมื่อเข้าไปกดไลค์รูปถ่ายในอัลบั้มส่วนตัวของอีกฝ่าย ก็ได้รับการตอบรับโดยการกดไลค์ข้อความที่เธอโพสต์ไว้ตอบกลับบ้าง ผ่านไปร่วมเดือนเธอถึงกล้าส่งข้อความไปทักทายเขา ชายหนุ่มก็ทักทายกลับ เมื่อได้พูดคุยกันเขาเป็นผู้ชายที่ทำให้เธอรู้สึกว่าโลกแคบๆ ของเธอเปิดกว้างขึ้น หลังจากนั้นเธอกับเขาก็แชตคุยกันเสมอ จนถึงขั้นแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กัน เจนนี่รู้สึกสดชื่นแจ่มใสอารมณ์ดีทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับเขา เธอกับเขาติดต่อกันนานหลายเดือนจนกลายมาเป็นความผูกพันโดยไม่รู้ตัว
ลายเมฆบอกว่าเขาทำงานเป็นพนักงานดูแลระบบคอมพิวเตอร์ให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เจนนี่เล่าเรื่องราวของเธอให้เขาฟังว่าเธอป่วยเป็นโรคหัวใจตั้งแต่เด็ก ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนคนอื่นเขา เธอกลัวการผ่าตัดจึงไม่ยอมไปรักษาให้หายขาดทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ ลายเมฆไม่ได้แสดงความรังเกียจเธอเหมือนเพื่อนหลายคนที่เธอเคยคุยด้วย เขาให้กำลังใจเธอผ่านบทเพลงหลากหลาย โดยการนำมาโพสต์ให้เธอที่หน้าเพจแทบทุกวัน ทำให้หัวใจของสาวน้อยอบอุ่นชื่นบาน จนคนในครอบครัวสังเกตเห็น
ลายเมฆทำให้เธอเชื่อใจว่าเขาคือเพื่อนและพี่ชายที่แสนดีของเธอ จนเจนนี่ยอมเล่าความฝันของตัวเองให้เขาฟัง ว่าเธออยากทำกิจการสักอย่างให้พี่ชายภูมิใจ ในตัวน้องสาวขี้โรคคนนี้ว่ามีความสามารถทำกิจการของตัวเองจนประสบความสำเร็จ ลายเมฆให้คำแนะนำว่าเธอชอบอะไรก็ควรทำกิจการที่ตัวเองชอบ เขาให้กำลังใจเธอจนเจนนี่รู้สึกถึงความจริงใจของเขา หัวใจของสาวน้อยเริ่มมีแสงแห่งความอบอุ่นฉาดฉายเข้ามา จนหลงลืมความเงียบเหงาจากการต้องอยู่แต่ในบ้านไปหมดสิ้น เธอผูกพันกับเขายกให้เป็นคนสำคัญในใจ หากวันไหนไม่ได้พูดคุยด้วยก็รู้สึกว่าขาดอะไรไปสักอย่าง ลายเมฆเองก็พูดจาดีกับเธอ แม้ช่วงหลังเขาจะไม่ว่างมาคุยกับเธอได้บ่อยๆ แต่เมื่อเธอโทรไปหาเขาก็พูดคุยด้วยดี จนครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนก่อนลายเมฆก็ขาดการติดต่อไป โทรศัพท์ของเขาก็ปิดเครื่องไม่ยอมรับสาย เฟซบุ๊กร้างไม่มีการอัพเดตสถานะ เจนนี่กระวนกระวายหาทางติดต่อเขาทุกอย่างแต่ก็ไร้การตอบรับ จนวันนี้เขาส่งข้อความมาพร้อมกับคำบอกลาที่แสนเจ็บปวด
“ทำไม ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย เจนนี่ทำอะไรผิด ลายเมฆถึงได้ไม่คุยกับเจนนี่”
เด็กสาวขี้โรคคร่ำครวญด้วยความเจ็บช้ำ ร่างน้อยงองุ้ม ซุกซบใบหน้ากับฝ่ามือ ปล่อยน้ำตาให้รินไหลออกมา ล้างความโง่เง่าของตัวเอง
‘เจนนี่ น้องต้องระวังให้มาก สังคมในโลกออนไลน์ ล้วนแต่หลอกลวง ผู้คนในนั้นกับผู้คนในโลกจริงๆ แตกต่างกัน’
ครั้งหนึ่งพี่ชายของเธอเคยเตือน เมื่อเห็นเธอเอาแต่เล่นอินเทอร์เน็ต คำเตือนของพี่ชายใหญ่กลายเป็นจริงในวันนี้ เมื่อลายเมฆที่แสนดีออกลายให้เห็น เขาก็เป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่เบื่อคบหากับคนโลกแคบอย่างเธอ ผู้หญิงขี้โรคที่ได้แต่หมกตัวอยู่ภายในบ้าน แม้จะมีเงินทองและคนดูแลอำนวยความสะดวกทุกอย่าง แต่ขาดซึ่งอิสระในการโบยบินออกไปในโลกกว้าง อิสรภาพที่ต้องแลกมากับการเข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ หากเธอไม่กล้าจะเข้ารับการผ่าตัดจึงปฏิเสธเรื่อยมา พี่ชายจึงไม่ยอมให้เธอออกไปนอกบ้านในสภาพของเด็กขี้โรคแบบนี้ นั่นทำให้เธอไม่เคยมีเพื่อนจนได้รู้จักกับลายเมฆ เขาเป็นเพื่อนคนเดียวที่เธอมี ตอนนี้ลายเมฆได้ทอดทิ้งเธอไปเสียแล้ว
เด็กสาวปล่อยให้ความเสียใจกลั่นตัวเป็นหยดน้ำตานานกว่าชั่วโมงน้ำตาถึงหยุดไหล ใบหน้าแดงก่ำดวงตายาวเรียวหม่นเศร้า เจ้าตัวหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้ม มือน้อยยื่นไปแตะแป้นคีย์บอร์ดก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆ แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
ขอบคุณ สำหรับมิตรภาพที่มอบให้ แม้มันจะไม่ยาวนานแต่เป็นสิ่งที่ทำให้เจนนี่มีความสุขมาก เจนนี่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไรถึงทำให้ลายเมฆไม่อยากพูดคุยด้วย แต่ขอให้รู้ว่าลายเมฆเป็นเพื่อนคนเดียวที่เจนนี่รู้สึกดีด้วย นี่จะเป็นข้อความสุดท้ายที่เราจะได้พูดคุยกันอีก เพราะต่อไปนี้จะไม่มีผู้หญิงที่ชื่อ เจนนิเฟอร์ ลี อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป
ลาก่อนค่ะ…
หลี่อี้เจิน หรือ เจนนิเฟอร์ ลี กดส่งข้อความนั้นด้วยน้ำตาไหลนอง เธอหยิบขวดยาบนโต๊ะมาเปิด เทมันออกมาทั้งขวดจนเต็มฝ่ามือ หย่อนยาเม็ดแล้วเม็ดเล่าเข้าปาก แล้วกลืนมันลงไปเหมือนขนมหวาน ก่อนจะดื่มน้ำตามเมื่อยาเม็ดสุดท้ายไหลลงคอ มือน้อยเอื้อมไปเปิดลิ้นชักหยิบสิ่งหนึ่งออกมาดู ประกายเงาวับของใบมีดคัตเตอร์ที่ถูกเลื่อนออกมาจากปลอก สะท้อนแสงแดดที่ส่องผ่านกรอบหน้าต่างเข้ามา เธอจ้องมองปลายคมมีดก่อนจะค่อยๆ กดมันลงที่ข้อมือน้อยช้าๆ ดวงตาเรียวยาวกระตุกไหวเล็กน้อย เมื่อความเจ็บแปลบแล่นวาบเข้ามาในความรู้สึก เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผล เจ้าตัวมองหยดเลือดที่ไหลย้อยลงมาตามปลายนิ้วด้วยดวงตาเหม่อลอย มือปล่อยมีดคัตเตอร์ให้ร่วงลงบนพื้นห้อง แขนห้อยลงข้างตัวปล่อยให้หยดเลือดไหลนองพื้นจนแดงฉาน พร้อมกับสติที่เริ่มหลุดลอยออกจากร่าง เมื่อยานอนหลับกำนั้นเริ่มออกฤทธิ์
“กรี๊ด! เจนนี่ เจนนี่ลูกแม่ ใครก็ได้ช่วยที เจนนี่ฆ่าตัวตาย”
เสียงกรีดร้องของจางหลินหลิน แม่ของเจนนี่ดังก้องขึ้น เมื่อเธอเข้ามาหาลูกสาว แล้วพบกับภาพสยดสยอง
คนรับใช้ที่อยู่บริเวณนั้นรีบวิ่งเข้ามา ก่อนจะช่วยกันอุ้มร่างไร้สติของคุณหนูเล็กขึ้นรถเพื่อไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ขณะที่คนในบ้านรีบโทรศัพท์ไปบอกคุณชายใหญ่ของบ้านให้ทราบเรื่อง แม้รู้ว่าหากผู้เป็นประมุขของบ้านทราบเรื่อง พวกตนไม่แคล้วต้องถูกลงโทษหรือถูกไล่ออก แต่กฎย่อมเป็นกฎ เรื่องราวทุกอย่างในบ้านต้องเรียนให้เจ้าบ้านรับรู้ทุกเรื่อง
ร่างเล็กของสาวน้อยที่นอนหลับตาพริ้มหายใจรวยริน ทำให้คนมองเจ็บปวดแทบขาดใจตาย มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะทุยนั้นเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปแตะข้อมือที่ถูกผ้าพันแผลพันไว้ ดวงตายาวเรียวทอประกายวาวโรจน์เมื่อมองเห็นหยดเลือดไหลซึมออกมาเปื้อนผ้าสีขาวนั้นจางๆ เลือดของน้องสาวที่น่าสงสารของเขาหลั่งรินออกมาเพราะเธอใช้มีดคัต
เตอร์กรีดข้อมือตัวเอง อีกทั้งยังกินยานอนหลับเข้าไปเป็นจำนวนมาก ฤทธิ์ยาทำลายประสาทจนทำให้ไม่อาจฟื้นตัวได้โดยง่าย บวกกับร่างกายที่อ่อนแอเป็นทุนเดิม ทำให้สาวน้อยวัยสิบเก้าปีคนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนนิ่งไม่ต่างจากผักมาร่วมอาทิตย์
ร่างสูงถอนหายใจยาว แล้วเดินออกมาจากห้องคนเจ็บ ชายฉกรรจ์ในชุดดำสี่คนที่ยืนรออยู่หน้าห้อง โค้งคำนับให้ผู้เป็นนายอย่างนอบน้อม เขาเดินตรงไปยังลิฟต์โดยมีชายทั้งสี่เดินประกบไม่ห่าง แม้จะอยู่ในโรงพยาบาลแต่ใช่ว่าจะปลอดภัย เมื่อเจ้านายของพวกเขาคือ หลี่ไท่หยาง หรือ โจนาธาน ลี ผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของฮ่องกง
ผูกขาดกิจการท่าเรือมีสถานีขนส่งสินค้าเก้าสถานีและท่าเรือจอดเรือร่วมยี่สิบสี่ท่า สำหรับขนถ่ายตู้คอนเทรนเนอร์สินค้าจากประเทศต่างทั่วโลก การครอบครองธุรกิจท่าเรือเรือขนาดใหญ่ซึ่งสำคัญต่อเส้นทางการค้าเพียงผู้เดียว
นางจิ้งจอกสาวบำเพ็ญตบะมาห้าร้อยปีจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เพื่อให้คงความอมตะ จึงต้องดูดพลังชีวิตของบุรุษ นางจึงใช้ร่างกายงดงามของนางยั่วยวนเหยื่อ ให้หลงเสน่ห์ยอมให้นางจับกิน!
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
หลิวซืออินถูกฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาว ความแค้นของเขาทำลายนางยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นสองชีวิตน้อยๆ ในท้องนาง เมื่อพบกันอีกครั้ง คนชั่วคนนั้นกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ เป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร ต่อให้ท่านเป็นฮ่องเต้ข้าก็ไม่ให้อภัย! แนะนำตัวละคร หลิวซืออิน สตรีผู้เกิดมาอาภัพดั่งถูกสวรรค์แกล้ง ห้าขวบก็กำพร้าไร้บิดามารดา อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลหลิว ไม่ต่างจากบ่าวไพร่คนหนึ่ง ท่านอาแท้ๆ ไม่ใส่ใจ อาสะใภ้ทุบตีรังแก อีกทั้งยังส่งนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว เพื่อแต่งงานกับเจ้าหนี้แทนบุตรีตัวเอง ชะตาลิขิตให้ถูกคนชั่วฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาว ความแค้นของเขาทำลายนางยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นสองชีวิตน้อยๆ ในท้องนาง เมื่อพบกันอีกครั้ง คนชั่วคนนั้นกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ นางจะไม่ยอมให้เขาพราก เจ้าก้อนแป้งฝาแฝดของนางไป ท่านเป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร ต่อให้ท่านเป็นฮ่องเต้ข้าก็ไม่ให้อภัย! *** เยี่ยเหวินจ้าว แม่ทัพใหญ่แห่งเป่ยถัง เขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตใหม่หลังจากถูกเล่ห์ลวงจากหญิงชั่วผู้เป็นป้าสะใภ้หลอกให้เขากลายเป็นคนร้าย ทำลายชีวิตสตรีผู้น่าสงสาร ชะตาลิขิตให้พบเจอบิดาแท้ๆ ทำความดีความชอบในสงคราม จนได้เป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้น สิ่งเดียวที่ยังติดค้างในใจ นั่นคือ การตามหาสตรีนางนั้น ! ///
สาวสวยเปรียบดังลูกกวางน้อยหรือจะรอดพ้นสายตาเสือร้ายไปได้ เมื่อเขาต้องการเอนริโก้หรือจะยอมปล่อยให้หลุดมือ! เป็นเรื่องเอนริโก้ นักธุรกิจหนุ่มรูปงาม เจ้าของบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ เขาหล่อรวย และเร่าร้อน จนสาวๆ ต่างพากันหลงใหล แต่ สาวน้อยลูกครึ่งไทยอังกฤษอย่าง ไปรญา กลับไม่ยอมเป็นทาสเงินตราและเสน่หาจากเขา เธอสวยหุ่นดี กว่าสาวโคโยตี้ในบาร์นั้น แต่เลือกเป็นแค่พนักงานทำความสะอาดอยู่หลังร้าน สาวสวยเปรียบดังลูกกวางน้อยหรือจะรอดพ้นสายตาเสือร้ายไปได้ เมื่อเขาต้องการเอนริโก้หรือจะยอมปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการ ล่ารักจึงบังเกิดขึ้น น้องปลายจะรอดเงื้อมมือเสือร้ายหิวสวาทอย่างเอนริโก้ได้หรือไม่ คำเตื่อน * เรื่องนี้แนวอิโรติก มีบางฉากบางตอนเลิฟซีนร้อนแรงจนเลือดพุ่ง หากไม่ใช่สายหื่นอาจจะน็อกกลางอากาศได้ ใครสายหื่นเชิญอ่านเลยจ้า อิอิ
เพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อ ทำให้ ไลลา ต้องมาชดใช้กรรมแทนพ่อและพี่ชาย ด้วยการถูกบังคับให้กลายมาเป็น ‘เมียเชลย’ ของมาเฟียหนุ่ม ผู้มีรูปลักษณ์แสนดิบเถื่อน ไร้หัวใจ อย่าง ราฟาเอล มาร์เซียอาโน่ รองหัวหน้าแก๊งเลโอปาสคาล แห่งคารัสซีเลีย ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หากเธออยากเป็นอิสระ ก็ต้องมีลูกให้เขา แล้วจากนั้นเธอจะไปไหนก็ไป ไลลากัดฟันทน ทำตามหน้าที่อย่างไม่มีทางเลือก เธอได้แต่สัญญากับตัวเองว่า จะไม่ยอมให้หัวใจตัวเอง พ่ายแพ้ให้กับเขาเด็ดขาด เธอต้องไม่รักเขา เหมือนที่เขาเคยประกาศไว้ว่า อย่าคิดหวังเป็นเมียเขา เพราะเธอเป็นได้แค่ เมียเชลย ที่เขาไม่มีวันรัก ! /// “คุณเอาตัวฉันมาทำไม” ไลลาถามเสียงแผ่ว เรื่องที่ได้ยินทำให้เธอไม่อยากเชื่อ แต่ท่าทางของคนพูดทำให้เธอจำต้องเชื่อเขา “เธอต้องอยู่เป็นเชลย จนกว่านายอังตวนจะหาทางชดใช้ความเสียหายได้ทั้งหมด หรืออังเดรยอมกลับมารับโทษ ให้พูดตรงๆ คือมาอยู่ขัดดอกยังไงล่ะ” สิ่งที่ได้ยินทำเอาไลลาหัวใจหล่นไปกองกับพื้น ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ จนทำให้พ่อและเธอต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย “แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง” หญิงสาวกลั้นใจถามออกไป “คุณปู่ของฉัน ท่านต้องการให้ฉันมีทายาท ท่านยื่นข้อเสนอให้พ่อของเธอว่า ภายในหนึ่งปีนี้หากเธอมีลูกให้ฉันได้ ก็จะยกหนี้ทั้งหมดให้” ราฟาเอลบอกข้อเสนอของคนเป็นปู่ให้เธอรับรู้ “ถ้า... ถ้าฉันยอมรับข้อเสนอ หนี้ของพ่อฉันจะได้รับการชดใช้ใช่ไหมคะ” เธอถามเขาเสียงเจือสะอื้น อีกฝ่ายพยักหน้ารับ “ใช่ ขอแค่เธอยอมทำตามเงื่อนไข เธอจะชดใช้หนี้แทนพ่อเธอได้” “แล้วความผิดของพี่อังเดรล่ะค่ะ ฉันจะชดใช้ให้แทนได้ไหม” ไลลาถามอย่างมีความหวัง “เธอนี่ได้คืบจะเอาศอก ถ้าเธอมีลูกให้ฉัน ค่อยมาพูดเรื่องนี้กัน” ราฟาเอลบอกเสียงเข้ม เขากระตุกยิ้มหยัน เมื่อเห็นสายตาผิดหวังของหญิงสาว “ฉัน... ฉันยอมรับข้อเสนอค่ะ” ไลลากลั้นใจพูดออกไป ก้มหน้าหลบสายตาของเขา มือน้อยกำแน่นข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เธอไม่มีทางเลือกอื่น อนาคตความฝันพังพินาศลงไปแล้ว เมื่อต้องเอาร่างกายของตัวเองชดใช้ความผิดแทนพี่ชาย “เข้าใจอะไรง่ายๆ ก็ดีแล้ว” ราฟาเอลเชยคางหญิงสาวขึ้นมา ก่อนจะก้มลงไปแตะริมฝีปากจุมพิตเรียวปากอิ่มอย่างดุดัน ไลลาตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้แล้วเบือนหน้าหนีเขา มือยกผลักแผงอกหนาให้ออกห่าง “นี่คุณทำอะไร” “หึ ก็ทดสอบคุณภาพยังไงล่ะ ซื้อผ้ายังต้องดูเนื้อ นี่เลือกแม่พันธุ์ทำลูก มันต้องทดสอบคุณภาพสักหน่อยสิ” ถ้อยคำหยาบหยามนั้น ทำเอาคนฟังน้ำตาคลอ ศักดิ์ศรีถูกเขาเหยียบย่ำลงไปอย่างไร้ทางสู้ หญิงสาวได้แต่ฝืนข่มกลั้นความอดสูนั้นไว้ หนึ่งปีเท่านั้นเธอต้องอดทน เธอต้องทำเพื่อพ่อและพี่ชาย “จำเอาไว้ว่า อย่าคิดหวังจะเป็นเมียฉัน เพราะเธอเป็นได้แค่ เมียเชลย !”
ทัณฑ์ร้ายจากเขาสร้างราคีให้กับเธอยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่เธอมิอาจทำลายได้ "ฉันทำผิดอะไร นายถึงได้ทำกับฉันแบบนี้" มัสลินเอ่ยถามผู้ชายที่ทำลายความสาว สร้างราคีคาวให้เธอ ด้วยน้ำเสียงขมขื่น เธอไม่เคยรู้จักเขา ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า แต่ทำไมเขาถึงทำร้ายเธออย่างไร้ความปรานี "ผิดสิ ผิดที่เธอเป็นเจ้าสาวของไอ้ภานุยังไงล่ะ ถ้าเธอไม่แต่งงานกับมัน ฉันคงไม่เอาตัวเธอมา" หากเธอไม่ใช่เจ้าสาวของคนที่เขาเกลียดชัง หากเธอไม่แต่งงานกับคนที่ทำให้พี่ชายเขา ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เขาคงไม่ลากตัวเธอมาเป็นเครื่องมือในการล้างแค้นในครั้งนี้!
หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY