นางจิ้งจอกสาวบำเพ็ญตบะมาห้าร้อยปีจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เพื่อให้คงความอมตะ จึงต้องดูดพลังชีวิตของบุรุษ นางจึงใช้ร่างกายงดงามของนางยั่วยวนเหยื่อ ให้หลงเสน่ห์ยอมให้นางจับกิน!
นางจิ้งจอกสาวบำเพ็ญตบะมาห้าร้อยปีจนกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ เพื่อให้คงความอมตะ จึงต้องดูดพลังชีวิตของบุรุษ นางจึงใช้ร่างกายงดงามของนางยั่วยวนเหยื่อ ให้หลงเสน่ห์ยอมให้นางจับกิน!
“หากเจ้ากล้าแลกทุกอย่างตามที่ท่านจิ้งจอกต้องการ เจ้าจะได้สมปรารถนา แต่ข้าขอเตือนไว้ก่อนนะ เจ้าต้องเลือกให้ดีๆ ว่าต้องการอะไร พรจากจิ้งจอกมันมาพร้อมกับคำสาป หากเจ้าเลือกผิดชีวิตก็จะพบกับความวิบัติ ข้าเตือนเจ้าได้เท่านี้”
จงเหลียงบอกกับหม่าจิ้งหยวน ก่อนจะนำทางสหายรักมายังถ้ำแห่งความลับซึ่งอยู่ด้านหลังศาลเทพธิดาจิ้งจอก ที่แห่งนี้เป็นที่กราบไหว้บูชาตั้งขึ้นโดยผู้ศรัทธาในเทพธิดาจิ้งจอก และผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะทำหน้าที่สื่อสารกับเทพธิดาจิ้งจอก
จงเหลียงเป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือก เขาได้รับโอกาสขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอก และได้รับพรนั้นจนทำให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนยากไร้เขาได้กลายมาเป็นคหบดีของเมือง ในที่สุดได้เป็นผู้ดูแลศาลเทพธิดาจิ้งจอก มีชีวิตที่สุขสบายและยังคงเก็บรักษาความลับเรื่องการขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอกเอาไว้ หม่าจิ้งหยวนเคยมีบุญเจ้าช่วยจงเหลียงไว้ครั้งหนึ่งในตอนที่อีกฝ่ายยากจน ดังนั้นเพื่อตอบแทนบุญเจ้าจงเหลียงจึงบอกความลับเรื่องเทพธิดาจิ้งจอกให้หม่าจิ้งหยวนรับรู้ จงเหลียงปล่อยให้สหายเข้ามาภายในถ้ำแห่งนี้ เพื่อขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอกด้วยตนเอง
“ข้าต้องได้ในสิ่งที่อยากได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ข้าจะแลกทุกอย่าง”
หม่าจิ้งหยวนบอกกับตัวเอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืน ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาพาตัวเองเข้าไปด้านในลึกขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่รออยู่จะน่ากลัวแค่ไหน ขอเพียงมันสามารถทำให้เขาสมปรารถนา เขายินดีเผชิญหน้ากับมัน
เขาดั้นด้นมาที่นี่เพราะความปรารถนาส่วนตัวที่ไม่อาจไขว่คว้ามาได้ง่ายๆ หวังเพียงปาฏิหาริย์บางอย่างจากสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำ จะช่วยให้เขาสมหวัง และเขาเคยเห็นคนที่สมหวังเพราะมันมาแล้ว นั่นก็คือจงเหลียงสหายของเขา
บรรยากาศภายในถ้ำจิ้งจอกแห่งนี้ ช่างวังเวงชวนขนลุกไม่น้อย หากจิตไม่แข็งก็ยากจะพาตัวเองก้าวเข้ามาด้านในไหว เมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่าต้องขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอก เขาต้องไม่กลัวอะไร หม่าจิ้งหยวนสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก้าวขาเดินต่อไปอย่างมุ่งมั่น
ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงโถงถ้ำด้านใน ซึ่งกว้างขวางแตกต่างจากทางเข้ามากนัก ผนังถ้ำมีคบไฟติดไว้จนทั่ว ทำให้โถงถ้ำสว่างจนมองเห็นบริเวณนั้นชัดเจน ตรงมุมด้านในสุดมีม่านสีดำโปร่งบางกางกั้นไว้หลายชั้น แต่สายตาของเขาก็สามารถมองเห็นด้านในได้สลัวลาง หลังม่านกั้นมีเตียงวางไว้ บนเตียงมีร่างระหงของสตรีคนหนึ่งนั่งทอดกายเอนอิงหมอนใบใหญ่ นางสวมเสื้อผ้าโปร่งบางสีดำไม่ต่างกับผ้าม่าน ชุดของนางกรุยกรายยาวระพื้น ทว่าเจ้าตัวกับแหวกช่วงกระโปรงให้ผ่ากว้างอวดเรียวขาสวย จากที่เห็นลางๆ รูปร่างของคนที่นั่งอยู่บนเตียงงดงามไม่น้อย ขาขาวเรียวยาวเอวคอดกิ่ว ข้ายาวสลวยสีดำสนิทเงางามราวกับขนกายาวระแผ่นหลังบอบบาง หม่าจิ้งหยวนเขม้นมองลอดผ่านผ้าม่านโปร่งเข้าไป แต่ไม่อาจมองเห็นใบหน้าของสตรีผู้นั้นชัดเจนเพราะอีกฝ่ายใช้ผ้าคลุมหน้าไว้ครึ่งหน้า เขาดับคบไฟเมื่อเห็นว่าที่นี่สว่างมากพอ ร่างกำยำทรุดกายนั่งลงคุกเข่าด้านหน้าม่าน
“ท่านคือ ท่านเทพธิดาจิ้งจอกใช่หรือไม่ ข้าชื่อหม่าจิ้งหยวน เป็นเพื่อนของจงเหลียง ที่เคยมาขอพรจากท่านเทพธิดาจิ้งจอกเมื่อ สี่ปีก่อน จงเหลียงแนะนำให้ข้ามาขอพรจากท่านเทพธิดาจิ้งจอกขอรับ”
หม่าจิ้งหยวนค้อมศีรษะทำความเคารพเทพธิดาจิ้งจอกสาว ที่นั่งอยู่หลังม่าน เขาเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงกะพรวนดังกรุ๋งกริ๋งแว่วมา ร่างอรชรขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งจากนั่งเหยียดเท้า มาเป็นนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง กระโปรงผ่าคลุมเรียวขายาวขาวผ่องแทบไม่มิด คนเห็นลอบกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว ความหวั่นเกรงในตอนแรกเลือนหายไป เหลือเพียงความตื่นเต้นที่ได้พบกับเทพธิดาจิ้งจอกสาวตัวเป็นๆ ดวงตาคมจดจ้องเรือนร่างงามล่มเมืองนั้นแทบไม่วางตา
แม้ไม่ได้เห็นหน้าชัดๆ ไม่ได้มองเรือนร่างเต็มตาเพราะมีม่านกั้น เขาก็รู้สึกแข็งชันจนปวดร้าวไปหมด
แค่นางขยับตัวนิดเดียว คนเห็นแทบคุมตัวเองไว้ไม่ไหว ถ้าเห็นชัดๆ ได้จับตัวเป็นๆ สวรรค์คงลอยมาหาเขาแล้ว หม่าจิ้งหยวนกลืนน้ำลายหลายอึก สายตาจ้องมองเรือนร่างงดงามแทบไม่กะพริบตา
“เจ้าชื่อหม่าจิ้งหยวนหรือ”
เสียงหวานใส ดั่งระฆังแก้วเอ่ยถาม คนฟังขนลุกซู่ จินตนาการไปถึงริมฝีปากจิ้มลิ้มของคนพูด นึกถึงรสหวานของมันทั้งที่ยังไม่ได้เห็นของจริง
“ขอรับ ท่านเทพธิดาจิ้งจอก” หม่าจิ้งหยวนพยักหน้ารับ
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะเรียกเจ้าว่าจิ้งหยวน ข้าชื่อหูหลินหลินเจ้าก็เรียกข้าว่าแม่นางหู ห้ามเรียกท่านเทพธิดาจิ้งจอกอีก ข้าเพิ่งได้รับตำแหน่งได้เพียงเดือนเดียว และเจ้าคือคนแรกที่มาขอพรกับข้า”
จิ้งจอกสาวหัวเราะเสียงใส เมื่อนึกถึงท่านเทพธิดาจิ้งจอกคนก่อน ซึ่งถูกปลดจากการเป็นเทพธิดาจิ้งจอกเมื่อสองเดือนก่อนตามพันธสัญญา ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกมาเป็นเทพธิดาจิ้งจอกต้องทำหน้าที่นี้ครบหนึ่งร้อยปีถึงจะปลดระวาง จิ้งจอกสาวที่ได้รับตำแหน่งเทพธิดาจิ้งจอก สามารถให้พรมนุษย์ที่มาขอพรได้เพียงเก้าคนเท่านั้น ผู้ที่ได้รับพรก็จะได้สมปรารถนาในสิ่งที่ขอเป็นเวลาสี่ปี พรจะเสื่อมไปเมื่อมีคนใหม่มาขอพร ซึ่งจงเหลียงคือคนที่เก้าที่มาขอพรเทพธิดาจิ้งจอกคนก่อน เขาส่งหม่าจิ้งหยวนมาเป็นคนแรกที่จะได้รับพรจากนาง เขาจะได้รับสิ่งที่เขาปรารถนาสองข้อเป็นเวลาสี่ปี
“นับเป็นเกียรติกับข้าขอรับ แม่นางหู”
หม่าจิ้งหยวนเรียกชื่อจิ้งจอกสาวตามที่นางบอกให้เรียก เขาไม่กล้าขัดใจนางเพราะยังไม่ได้ขอพร
“เจ้าอยากขอสิ่งใด ข้าจะได้บอกวิธีขอพรให้เจ้ารู้ว่า ต้องแลกกับสิ่งใดเพื่อพรข้อนั้น”
หูหลินหลินเอ่ยถาม พลางจ้องมองบุรุษหนุ่มผ่านม่านบาง พินิจพิจารณาเขาอย่างสนใจ หม่าจิ้งหยวนรูปร่างสูงใหญ่กำยำราวกับนักรบ จิ้งจอกสาวเขม้นมองใบหน้าของเขาอย่างพอใจ เขารูปงามทีเดียวหล่อเหลากว่าพวกจิ้งจอกหนุ่มในดินแดนของนางเสียอีก
มนุษย์หล่อแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าหนอ ข้าชักอยากเห็นมนุษย์คนอื่นๆ บ้างแล้ว
มนุษย์จะมีความสามารถบางอย่างเทียบเท่าจิ้งจอกหนุ่มหรือเปล่า หรือว่ามีมากกว่าน้อยกว่า ชักอยากลองเสียแล้วสิ
หูหลินหลินรู้สึกเสียววูบในช่องท้อง กายสาวเต้นตุบกระหายบางสิ่งที่ร้างรามานับเดือน ตั้งแต่ถูกส่งตัวมาที่ที่ดินแดนของมนุษย์แห่งนี้
หนึ่งเดือนที่ผ่านมานางต้องนั่งๆนอนๆ อยู่ในถ้ำรอคอยคนมาขอพร ช่างน่าเบื่ออะไรเช่นนี้ จะหนีกลับหุบเขาหูเทียนก็ทำไม่ได้ หากให้พรคนขอคนแรกสำเร็จ นางจะมีโอกาสได้หลอกล่อให้เขา กลายเป็นเหยื่อของนาง
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
หลิวซืออินถูกฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาว ความแค้นของเขาทำลายนางยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นสองชีวิตน้อยๆ ในท้องนาง เมื่อพบกันอีกครั้ง คนชั่วคนนั้นกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ เป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร ต่อให้ท่านเป็นฮ่องเต้ข้าก็ไม่ให้อภัย! แนะนำตัวละคร หลิวซืออิน สตรีผู้เกิดมาอาภัพดั่งถูกสวรรค์แกล้ง ห้าขวบก็กำพร้าไร้บิดามารดา อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลหลิว ไม่ต่างจากบ่าวไพร่คนหนึ่ง ท่านอาแท้ๆ ไม่ใส่ใจ อาสะใภ้ทุบตีรังแก อีกทั้งยังส่งนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว เพื่อแต่งงานกับเจ้าหนี้แทนบุตรีตัวเอง ชะตาลิขิตให้ถูกคนชั่วฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาว ความแค้นของเขาทำลายนางยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นสองชีวิตน้อยๆ ในท้องนาง เมื่อพบกันอีกครั้ง คนชั่วคนนั้นกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ นางจะไม่ยอมให้เขาพราก เจ้าก้อนแป้งฝาแฝดของนางไป ท่านเป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร ต่อให้ท่านเป็นฮ่องเต้ข้าก็ไม่ให้อภัย! *** เยี่ยเหวินจ้าว แม่ทัพใหญ่แห่งเป่ยถัง เขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตใหม่หลังจากถูกเล่ห์ลวงจากหญิงชั่วผู้เป็นป้าสะใภ้หลอกให้เขากลายเป็นคนร้าย ทำลายชีวิตสตรีผู้น่าสงสาร ชะตาลิขิตให้พบเจอบิดาแท้ๆ ทำความดีความชอบในสงคราม จนได้เป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้น สิ่งเดียวที่ยังติดค้างในใจ นั่นคือ การตามหาสตรีนางนั้น ! ///
สาวสวยเปรียบดังลูกกวางน้อยหรือจะรอดพ้นสายตาเสือร้ายไปได้ เมื่อเขาต้องการเอนริโก้หรือจะยอมปล่อยให้หลุดมือ! เป็นเรื่องเอนริโก้ นักธุรกิจหนุ่มรูปงาม เจ้าของบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ เขาหล่อรวย และเร่าร้อน จนสาวๆ ต่างพากันหลงใหล แต่ สาวน้อยลูกครึ่งไทยอังกฤษอย่าง ไปรญา กลับไม่ยอมเป็นทาสเงินตราและเสน่หาจากเขา เธอสวยหุ่นดี กว่าสาวโคโยตี้ในบาร์นั้น แต่เลือกเป็นแค่พนักงานทำความสะอาดอยู่หลังร้าน สาวสวยเปรียบดังลูกกวางน้อยหรือจะรอดพ้นสายตาเสือร้ายไปได้ เมื่อเขาต้องการเอนริโก้หรือจะยอมปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการ ล่ารักจึงบังเกิดขึ้น น้องปลายจะรอดเงื้อมมือเสือร้ายหิวสวาทอย่างเอนริโก้ได้หรือไม่ คำเตื่อน * เรื่องนี้แนวอิโรติก มีบางฉากบางตอนเลิฟซีนร้อนแรงจนเลือดพุ่ง หากไม่ใช่สายหื่นอาจจะน็อกกลางอากาศได้ ใครสายหื่นเชิญอ่านเลยจ้า อิอิ
เพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อ ทำให้ ไลลา ต้องมาชดใช้กรรมแทนพ่อและพี่ชาย ด้วยการถูกบังคับให้กลายมาเป็น ‘เมียเชลย’ ของมาเฟียหนุ่ม ผู้มีรูปลักษณ์แสนดิบเถื่อน ไร้หัวใจ อย่าง ราฟาเอล มาร์เซียอาโน่ รองหัวหน้าแก๊งเลโอปาสคาล แห่งคารัสซีเลีย ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หากเธออยากเป็นอิสระ ก็ต้องมีลูกให้เขา แล้วจากนั้นเธอจะไปไหนก็ไป ไลลากัดฟันทน ทำตามหน้าที่อย่างไม่มีทางเลือก เธอได้แต่สัญญากับตัวเองว่า จะไม่ยอมให้หัวใจตัวเอง พ่ายแพ้ให้กับเขาเด็ดขาด เธอต้องไม่รักเขา เหมือนที่เขาเคยประกาศไว้ว่า อย่าคิดหวังเป็นเมียเขา เพราะเธอเป็นได้แค่ เมียเชลย ที่เขาไม่มีวันรัก ! /// “คุณเอาตัวฉันมาทำไม” ไลลาถามเสียงแผ่ว เรื่องที่ได้ยินทำให้เธอไม่อยากเชื่อ แต่ท่าทางของคนพูดทำให้เธอจำต้องเชื่อเขา “เธอต้องอยู่เป็นเชลย จนกว่านายอังตวนจะหาทางชดใช้ความเสียหายได้ทั้งหมด หรืออังเดรยอมกลับมารับโทษ ให้พูดตรงๆ คือมาอยู่ขัดดอกยังไงล่ะ” สิ่งที่ได้ยินทำเอาไลลาหัวใจหล่นไปกองกับพื้น ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ จนทำให้พ่อและเธอต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย “แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง” หญิงสาวกลั้นใจถามออกไป “คุณปู่ของฉัน ท่านต้องการให้ฉันมีทายาท ท่านยื่นข้อเสนอให้พ่อของเธอว่า ภายในหนึ่งปีนี้หากเธอมีลูกให้ฉันได้ ก็จะยกหนี้ทั้งหมดให้” ราฟาเอลบอกข้อเสนอของคนเป็นปู่ให้เธอรับรู้ “ถ้า... ถ้าฉันยอมรับข้อเสนอ หนี้ของพ่อฉันจะได้รับการชดใช้ใช่ไหมคะ” เธอถามเขาเสียงเจือสะอื้น อีกฝ่ายพยักหน้ารับ “ใช่ ขอแค่เธอยอมทำตามเงื่อนไข เธอจะชดใช้หนี้แทนพ่อเธอได้” “แล้วความผิดของพี่อังเดรล่ะค่ะ ฉันจะชดใช้ให้แทนได้ไหม” ไลลาถามอย่างมีความหวัง “เธอนี่ได้คืบจะเอาศอก ถ้าเธอมีลูกให้ฉัน ค่อยมาพูดเรื่องนี้กัน” ราฟาเอลบอกเสียงเข้ม เขากระตุกยิ้มหยัน เมื่อเห็นสายตาผิดหวังของหญิงสาว “ฉัน... ฉันยอมรับข้อเสนอค่ะ” ไลลากลั้นใจพูดออกไป ก้มหน้าหลบสายตาของเขา มือน้อยกำแน่นข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เธอไม่มีทางเลือกอื่น อนาคตความฝันพังพินาศลงไปแล้ว เมื่อต้องเอาร่างกายของตัวเองชดใช้ความผิดแทนพี่ชาย “เข้าใจอะไรง่ายๆ ก็ดีแล้ว” ราฟาเอลเชยคางหญิงสาวขึ้นมา ก่อนจะก้มลงไปแตะริมฝีปากจุมพิตเรียวปากอิ่มอย่างดุดัน ไลลาตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้แล้วเบือนหน้าหนีเขา มือยกผลักแผงอกหนาให้ออกห่าง “นี่คุณทำอะไร” “หึ ก็ทดสอบคุณภาพยังไงล่ะ ซื้อผ้ายังต้องดูเนื้อ นี่เลือกแม่พันธุ์ทำลูก มันต้องทดสอบคุณภาพสักหน่อยสิ” ถ้อยคำหยาบหยามนั้น ทำเอาคนฟังน้ำตาคลอ ศักดิ์ศรีถูกเขาเหยียบย่ำลงไปอย่างไร้ทางสู้ หญิงสาวได้แต่ฝืนข่มกลั้นความอดสูนั้นไว้ หนึ่งปีเท่านั้นเธอต้องอดทน เธอต้องทำเพื่อพ่อและพี่ชาย “จำเอาไว้ว่า อย่าคิดหวังจะเป็นเมียฉัน เพราะเธอเป็นได้แค่ เมียเชลย !”
ทัณฑ์ร้ายจากเขาสร้างราคีให้กับเธอยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่เธอมิอาจทำลายได้ "ฉันทำผิดอะไร นายถึงได้ทำกับฉันแบบนี้" มัสลินเอ่ยถามผู้ชายที่ทำลายความสาว สร้างราคีคาวให้เธอ ด้วยน้ำเสียงขมขื่น เธอไม่เคยรู้จักเขา ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า แต่ทำไมเขาถึงทำร้ายเธออย่างไร้ความปรานี "ผิดสิ ผิดที่เธอเป็นเจ้าสาวของไอ้ภานุยังไงล่ะ ถ้าเธอไม่แต่งงานกับมัน ฉันคงไม่เอาตัวเธอมา" หากเธอไม่ใช่เจ้าสาวของคนที่เขาเกลียดชัง หากเธอไม่แต่งงานกับคนที่ทำให้พี่ชายเขา ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เขาคงไม่ลากตัวเธอมาเป็นเครื่องมือในการล้างแค้นในครั้งนี้!
เขาต้องการมีลูก แต่ไม่ต้องการมีเมีย ทางเลือกที่ดีคือการจ้างผู้หญิงสักคนมาอุ้มบุญ ทว่า... เธอกลับขโมยลูกของเขาไปนี่สิ โทษของเธอคือ ต้องมาเป็นเมียจริงๆ ของเขา /// ริคคาโด้ มาร์เซียอาโน่ ทายาทคนโตของตระกูลมาร์เซียอาโน่ ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของประเทศคารัสซีเลีย เบื้องหลังเขาคือหัวหน้าแก๊งเลโอปาสคาล แก๊งมาเฟียหนึ่งในสี่แก๊งใหญ่ของคารัสซีเลีย ชีวิตท่ามกลางคมกระสุนและควันปืน ทำให้เขาไม่ปรารถนาจะมีคู่ครองให้เป็นจุดอ่อน ทว่า... นายฟรองซัว มาร์เซียอาโน่ ปู่ของเขากลับเคี่ยวเข็ญให้หลานชายมีทายาท ริคคาโด้จึงเลือกจ้างผู้หญิงคนหนึ่งมาอุ้มบุญให้เขา โดยมีเงื่อนไขคือ 1. เขาต้องการลูกชายเท่านั้น 2. ไม่จำเป็นต้องพบหน้ากัน จ่ายเงินเมื่อเด็กคลอดคือจบสัญญา 3. ห้ามให้ใครรู้ว่าเป็นแม่ของลูกเขา เขาได้ลูกชายตัวน้อยสมใจ โดยไม่เคยสนใจว่าแม่ของเด็กคือใคร! อลิชา กิตติรำไพ หญิงสาวลูกครึ่งไทย-คารัสซีเลีย เธอเป็นเจ้าของโฮมสเตย์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ทางตอนใต้ของคารัสซีเลีย อลิชาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับน้องโรซีลูกสาวตัวน้อยวัยห้าขวบ และนายพัชรบิดาของเธอ วันหนึ่งอลิชาได้ช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งไว้ นั่นทำให้ชีวิตแสนสงบ ต้องพบกับความวุ่นวาย เมื่อเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่เขาคือ หัวหน้าแก๊งมาเฟีย เธอจะทำเช่นไร กับมาเฟียหนุ่มแสนร้ายกาจคนนี้ คนที่ครั้งหนึ่งเคยว่าจ้างให้เธอ เป็นแม่อุ้มบุญลูกชายของเขา! * เพิ่มตอนพิเศษ โรซี่น้อยตอนโต ** ฝากโรซี่น้อยไว้ในอ้อมใจของนักอ่านด้วยนะคะ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY