มันช่างน่าอับอายขายขี้หน้าจริงๆ ! นี่ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่ในห้องทำงานของคนแปลกหน้า ใน 'สภาพเกือบล่อนจ้อน' !!!
มันช่างน่าอับอายขายขี้หน้าจริงๆ ! นี่ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่ในห้องทำงานของคนแปลกหน้า ใน 'สภาพเกือบล่อนจ้อน' !!!
แนะนำเรื่อง....
มันช่างน่าอับอายขายขี้หน้าจริงๆ !
นี่ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่ในห้องทำงานของคนแปลกหน้า ใน 'สภาพเกือบล่อนจ้อน' มีแค่ชุดชั้นในบางๆ ปกปิดร่างกาย แล้วสถานการณ์ก็ยิ่งแย่หนักลงไปอีก เมื่อ 'ปวิณ' นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของห้องที่หล่อและฮอตขนาดที่แค่ยิ้มก็ทำให้ผู้หญิงตบตีกันตายได้ ดันเปิดประตูเข้ามาเห็นสารรูปของฉันแบบเต็มๆตาเสียอีก สิ่งที่ทำได้จึงมีแต่การเก็บเศษใบหน้าของตัวเองแล้วหายตัวไปจากที่นั่น และลบทุกอย่างออกไปจากเมมโมรีให้หมดโดยเร็วที่สุด แต่ทว่า...
“ปะ...ปล่อยฉัน”
“วางใจเถอะ ฉันไม่ใช่สายข่มขืน ถ้าไม่ยินยอมพร้อมใจก็จบ”
“ถ้าฉันเชื่อก็โลกแตกแล้วย่ะ” ฉันขู่ฟ่อ แต่อีกฝ่ายไม่ได้เห็นอาการเหมือนเด็กงอแงในสายตาเลยแม้แต่น้อย ฉันจึงตระหนักแล้วว่าการเหวี่ยงใส่เขาไม่เป็นผลดีเลย จะตีโจรก็ต้องทำให้โจรตายใจ ฉันจึงเลือกใช้น้ำเสียงใหม่ แต่ก็อายมากๆ จนพูดตะกุกตะกักและหลบตาไปทางอื่น “ดะ...ได้โปรดเถอะค่ะ... ยะ...อย่างน้อยก็ขอเสื้อผ้าให้ฉันใส่ได้ไหมคะ... นะคะ”
“แล้วถอดเสื้อผ้าทำไม" เขาขำ แต่ฉันนี่สิ แทบจะแทรกแผ่นดินหนี!
****นิยายเรื่องนี้เป็นงานเก่าหมดสัญญา สนพ. อินเลิฟ และวางจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊คแล้ว ท่านใดที่เคยโหลดซื้อแล้ว สามารถรีเฟรชอัพเดทได้เลยค่ะ (เนื้อหาเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง)
+++ ผลงานของไรท์มีหลายนามปากกานะคะ เรื่องนี้ใช้นามปากกา Sazaki Aiko จ้า +++
บทนำ
“เงินน่ะเธอก็จะได้ตามสัญญาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เธอต้องจ่ายเพิ่มก็คือเซ็กซ์... ถอดสิ”
น้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขากระซิบแผ่วเบาผ่านความมืดสลัว มีเมฆหนาทึบหมุนวนอยู่ด้านนอก ฟ้าส่งเสียงคำรามครั่นครืน ส่องแสงสว่างวาบก่อนจะตามด้วยเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง! ช่วงวินาทีนั้นเผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มดุจรูปสลัก เย็นชาและดุร้ายราวกับเหยี่ยว รอยยิ้มนั้น... รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความโอหังยังคงระบายอยู่บนริมฝีปาก
ส่วนร่างกายแข็งเครียด... นิ่งสนิท
ร่างกายของฉันสั่นสะท้านและเบือนหน้าไปทางอื่น ฉันเคยฝันถึงเจ้าชายในนิทาน ฝันว่าจะมีใครสักคนโอบกอดฉันไว้อย่างอ่อนโยนและจุมพิตฉันด้วยความรัก... ตลอดกาล... ตลอดไป แต่คืนนี้ฉันค้นพบแล้วว่ามันเป็นแค่ความฝันโง่งม ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันไม่ใช่เจ้าชาย แต่เป็นปีศาจร้ายต่างหาก
ฟ้าผ่าดังโครมอีกครั้ง
“ถอดให้หมด แล้วเราจะได้เริ่มกันสักที”
“ค่ะ” บนโต๊ะตรงหน้าฉันมีถุงยางอนามัยวางอยู่เกลื่อนกลาดนับร้อยๆ ชิ้น มันแปลว่าฉันต้องจำยอมให้เขาใช้ถุงยางเหล่านี้จนหมดก่อน ฉันถึงจะเป็นอิสระ ฉันตัวสั่นเทาก่อนจะหลับตาลงอย่างตัดสินใจ แม้ว่าอยากจะร้องไห้แต่ก็ต้องทนเพราะนี่เป็นทางที่ฉันเลือกเอง ฉันข่มความกลัว ค่อยๆ เปลื้องผ้าออกทีละชิ้นต่อหน้าเขา ความร้อนในห้องพลันร้อนระอุขึ้นทุกลมหายใจ สายตาคมกริบของเขาจับนิ่งอยู่ที่ฉันราวกับสัตว์ร้าย
“ฉะ...ฉันไม่ถอดแล้ว” บราเซียร์ลูกไม้สีขาวหลุดออก เผยให้เห็นโนมเนื้อขาวผ่องล้อแสงจันทร์ แต่ฉันยกมือขึ้นกอดอกไว้ด้วยความไม่สบายใจ และปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น “ได้โปรดเถอะ ปล่อยฉันไปเถอะ”
“สาวน้อย... ดูเหมือนเธอจะชอบเอ่ยคำขอร้องแบบนี้กับฉันเสมอ คงจะไม่ลืมใช่ไหมว่าทุกอย่างเธอเป็นคนเลือกเอง”
“ฉะ...ฉัน...” ฉันพูดอะไรไม่ออก รู้แค่ว่าฉันกลายเป็นเพียงตุ๊กตาบนเตียงของเขาทันทีที่เหรียญถูกดีดขึ้นไปนั่นแหละ ฉันพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้กลัว ค่อยๆ ปลดตะขอกระโปรงแล้วรูดลงไปกองที่เท้า ฉันเหลือเพียงอันเดอร์แวร์สีขาวตัวจิ๋ว แววตาของเขาก็ยิ่งฉายแววร้อนแรงเข้มข้นเหมือนตอนที่เราพบกันครั้งแรกไม่มีผิด
“ถอดอีก... ถอดให้หมด” เสียงดุๆ สำทับมา ร่างสูงใหญ่เต็มเปี่ยมด้วยมัดกล้ามของเขาอยู่ในเงามืด นั่งอยู่ตรงโซฟา แววตาที่เป็นประกายในความมืด “ถ้าต้องการเงินก็ต้องแลกด้วยเซ็กซ์”
“ฉะ...ฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ” ฉันกลัวเขา ผู้ชายคนนี้ทำให้ผู้คนเกรงขามได้เพียงแค่ปรายตามอง อากาศหนักอึ้งจนหายใจไม่ออก สายฝนที่ซัดกระหน่ำรุนแรงยิ่งบีบคั้นให้ฉันหวาดกลัว เขามีบุคลิกแฝงอำนาจชนิดที่ตำรวจเดินสวนกับเขาแล้วยังต้องเป็นฝ่ายหลีกทาง ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว รีบคว้าเสื้อผ้ามากอดอย่างหวาดหวั่น “ลืมเรื่องข้อเสนอนั่นไปซะเถอะค่ะ ฉะ...ฉันไม่ต้องการเงินของคุณอีกแล้ว”
“เสียใจด้วยนะ... ข้อตกลงของเราว่าไว้อย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ถึงเธอจะไม่รับเงินก็เรื่องเธอ แต่เธอต้องทำให้ฉันพอใจก่อน”
“แล้วเมื่อไหร่เธอถึงจะปล่อยฉัน”
“ก็ต้องลองดูสักครั้งก่อนว่าเธอเด็ดแค่ไหน...
เขาลุกขึ้นเต็มความสูง แล้วค่อยๆ เดินย่างสามขุมเข้ามา ฉันกลัวจนเซถอยหลังชนผนัง มือแกร่งทั้งสองข้างวางทาบลงบนผนัง กักขังฉันไว้ในอ้อมแขนทรงพลัง มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาใช้แตะต้องร่างกายของฉันก็คือริมฝีปาก จุมพิต หยอกเย้ายอดอกสีกุหลาบ ปลายนิ้วเกี่ยวขอบกางเกงชั้นในของฉันแล้วดึงลงมาค้างบนหน้าขา เท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะจุดระเบิดทุกสิ่งทุกอย่างขึ้น
“เธอเปลือยเหมือนคืนแรกที่เราเจอกันเลย...”
มือร้อนผ่าวของเขากอบกุมทรวงอกเปล่าเปลือยเต็มไม้เต็มมือของฉัน หยอกเย้า ลูบไล้และใช้ปลายลิ้นสัมผัสทักทายจนกระทั่งยอดอกของฉันแข็งเขม็งชูชัน เขายิ้มพึงพอใจก่อนจะกระซิบพึมพำแนบชิดโนมเนื้อขาวผ่อง “เรายังมีหนี้ที่ต้องชำระกัน จำได้ใช่ไหม”
“ไม่! มันจบไปนานแล้ว”
“คนที่จะบอกว่า ‘จบ’ หรือ ‘ไม่จบ’ คือฉัน ไม่ใช่เธอ... สาวน้อย”
“ยะ...อย่า” ฉันตกใจที่จู่ๆ ก็ถูกจู่โจมด้วยจุมพิตร้ายกาจ อ้อยอิ่งและอ่อนโยนเกินต้านทาน เขาประกบริมฝีปากแนบแน่นล้ำลึกจนไม่อาจหลุดพ้นฉันเปล่าเปลือยอยู่ภายใต้ร่างร้อนรุ่มของเขา รองรับจุมพิตนับร้อยนับพันที่เขามอบให้และไม่อาจขัดขืนเมื่อเขาช้อนตัวฉันขึ้นอุ้ม... อุ้มไปสู่เตียงนอนสะอาดสะอ้าน
ท่ามกลางแสงฟ้าแล่บแปลบปลาบ ลมกระโชกพัดครั่นครืน ทั้งร่างกาย... ทั้งลมหายใจติดตรึงอยู่ใต้ร่างกำยำและเริ่มต้นพันธะสัญญากับปีศาจร้ายอย่างร้อนแรง
“คนอย่างคุณก็ทำได้แค่ใช้เงินหลอกล่อผู้หญิง รู้ไว้ด้วยว่าคุณจะไม่มีวันได้รับความรักจริงใจจากใคร”
“ความรักไร้สาระนั่นมันจำเป็นต่อชีวิตนักรึไง พวกผู้หญิงอย่างเธอถึงได้พร่ำหากันนัก” สีหน้าของเขาฉงนแกมสมเพช มองทุกอย่างเป็นแค่เรื่องบ้าบอของผู้หญิง “ช่างเรื่องความรักนั่นไปเถอะ อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ล่อผู้หญิงได้คนหนึ่ง ส่วนเธอก็ได้เงิน สมเหตุสมผลแล้วไม่ใช่เหรอ”
สวรรค์! เขาเป็นผู้ชายที่แย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอ ‘เซ็กซ์’ เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาสนใจจากฉัน
เงินคือสิ่งที่ผูกมัดฉันไว้กับเขา ทางเดียวที่ฉันจะขัดขืนได้ก็คือนอนนิ่งเป็นท่อนไม้ เม้มริมฝีปากแน่นและกอดตัวเองไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แต่เขาสามารถแกะมือของฉันออกจากทรวงอกคู่งามได้อย่างง่ายดาย เขาจุมพิตฉันใช้ลิ้นสะกิดยอดถันทีละข้างอย่างเชื่องช้า ดูดกลืนหายลับไปในอุ้งปากร้อนจัด ฉันพยายามกลั้นเสียงครางไว้แต่ก็ทำไม่ไหว...
“อึ่ก... อา...” เขายิ้มเย็นเยียบ นั่นแปลว่าฉันพ่ายแพ้แล้ว
“จูบสิ” เขาสั่งพลางโน้มริมฝีปาก แต่ฉันสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ไม่อยากมอง ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น นั่นยิ่งทำให้แววตาของเขาเป็นประกายมากขึ้น “แปลว่าชอบแบบโหดๆ”
“ปล่อยฉันนะ” เขาตรึงแขนของฉันทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะอย่างกระชากกระชั้น จ้องมองความงามสะพรั่งเต่งตูมด้วยความหิวกระหาย รอยแสยะยิ้มของเขาทำให้ฉันกลัวจนตัวสั่น
“หวังว่าจะเป็นของสดใหม่อย่างที่พูดนะ” เขากระซิบ... ริมฝีปากร้อนจัดประกบลงมาแนบสนิท รุกเร้าเย้าแหย่ปลายลิ้นอย่างหฤหรรษ์จนคนที่ไม่คุ้นชินกับรสสัมผัสอย่างฉันสำลักตัวโยน แต่ทว่าปีศาจร้ายก็หาได้ปรานีแต่อย่างใดเขาเชยคางเล็กๆ ขึ้นแล้วบรรจงบดจูบซ้ำแล้วซ้ำอีก ฉันพยายามเบือนหน้าหนีแต่ไม่สำเร็จ ไม่อาจขัดขืน ไม่อาจปฏิเสธ
ฉันหอบหายใจแรง ชีพจรเต้นรัวและสะดุ้งสุดกายเมื่อความเป็นอิสตรีถูกนิ้วร้อนๆ แทรกผ่านเข้ามา ขยับเสียดสีเข้าออกเร็วแรง ฉันร้องไห้ขอความเมตตา แต่ว่าฉันน่าจะรู้ว่าเขาโหดร้ายเพียงใด ยิ่งฉันร้องเขาก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักกระแทกแรงขึ้น
“อีกนิดเดียว... แล้วเธอจะชอบ”
เขากระซิบ ฉันก็สิ้นเรี่ยวแรงขัดขืน ร่างทั้งร่างเกร็งซ่านจนปลายเท้าจิกพื้นเตียง หอบหายใจและร้องครางกระเส่า จังหวะของเขาทวีความร้อนแรงขึ้น ทว่านุ่มนวลราวกับนักดนตรีที่พรมนิ้วลงบนเปียโน ใกล้แล้ว... ใกล้แล้ว... ฉันกระซิบบอกเขาผ่านแววตา เขานำพาฉันทะยานขึ้นสู่ความสุขสมถึงขีดสุด ร่างกายสั่นสะท้าน ดิ้นพล่านและหอบฮักอยู่นาน สมองมึนงงกับความร้อนรุ่มที่ซัดสาดเข้ามาอย่างรุนแรงจนแทบสิ้นสติ กว่าจะทันรู้ตัวยอดอกสีชมพูหวานก็ถูกดูดดึงแรงๆ ในอุ้งปากร้อนเสียแล้ว
“ยะ...อย่า!”
“พร้อมนะ” เขากระซิบ หากเขาขยับสะโพกอีกเล็กน้อย ฉันก็จะไม่ใช่ตัวของฉันเองอีกต่อไป ความร้อนแรงของเขาทำให้ฉันกลายเป็นหญิงสาวที่พร้อมสำหรับชายฉกรรจ์ เป็นนักโทษที่อ้อนวอนขอทัณฑ์ทรมาน...
แต่ฉันเกลียดเขา...
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY