ลัคณาต้องทำหน้าที่แฟนจำเป็นให้กับ จอมทัพ รุ่นพี่สุดหล่อ สาวกรี๊ดของมหาวิทยาลัย มันเป็นความไม่ตั้งใจแต่เธอ ตกหลุมรักเขาจริง ๆ ส่วนเขาล่ะจะรู้หรือเปล่าว่าเธออยากเป็นของเขาสุดหัวใจ
ลัคณาต้องทำหน้าที่แฟนจำเป็นให้กับ จอมทัพ รุ่นพี่สุดหล่อ สาวกรี๊ดของมหาวิทยาลัย มันเป็นความไม่ตั้งใจแต่เธอ ตกหลุมรักเขาจริง ๆ ส่วนเขาล่ะจะรู้หรือเปล่าว่าเธออยากเป็นของเขาสุดหัวใจ
“นี่เมื่อไหร่หล่อนจะเลิกใส่แว่นสวมกระโปรงยาวอย่างนี้ซะที่นะยัยลัคกี้ รู้ไหมว่ายิ่งนับวันฉันก็เหมือนเดินกับป้าในมหาวิทยาลัยเข้าไปทุกที แล้วนี่อะไรยะ มาเที่ยวทั้งทีหล่อนต้องหัดใส่คอนแท็คเลนส์ซะบ้างนะ”
อัญชัญบ่นกระปอดกระแปดขณะนั่งจิบไวน์ในผับแห่งหนึ่งที่หล่อนเคยมาอยู่เป็นประจำ และครั้งนี้หล่อนไม่ได้มาคนเดียวแต่ยังกระเตงเพื่อนสนิทอย่าง ลัคณา ซึ่งหล่อนเรียกติดปากว่าลัคกี้ สาวหน้าใสเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยปีหนึ่งที่กำลังมองลอดผ่านแว่นตาแล้วยิ้มแหย ๆ กับคำติเตือนของอัญชัญซึ่งหล่อนถือว่าไม่ได้ทำให้เจ็บอกเจ็บใจ ตรงข้ามหล่อนชินเสียแล้วกับนิสัยของเพื่อนสนิทที่ยอมคบกับสาวเรียบร้อยแต่หัวใจว้าวุ่นอย่างเธอ เธอไม่สะทกสะท้านกับคำพูดประชดประชันนั้นสักนิดแถมยังตอบกลับด้วยเสียงหวานใส
“ป้าที่ไหน นี่พวกเราพึ่งเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่งเองนะ ดูพูดเข้าซี ฉันก็ใส่แว่นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วนะอัญ”
“ไม่เห็นน่ารักเล้ยให้ตายเถอะ เปลี่ยนเป็นสาวสวยบ้างซียะ หน้าตาหล่อนก็ออกจะน่ารักแต่ชอบทำตัวเป็นป้า วัน ๆ อ่านแต่หนังสือ แล้วนี่ฉันชวนหล่อนมาเที่ยวนะยะ นี่มันผับไม่ใช่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัย ต้องปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองออกมาซะบ้าง ไม่ใช่ทำเจี๋ยมเจี้ยม แบบนี้ผู้ชายที่ไหนจะมาจีบล่ะยะหล่อน”
“ที่มานี่อัญแค่อยากจะมายั่วผู้ชาย?”
“โอ๊ย! ชู่ว!...เบา ๆ หน่อยซี นั่นน่ะมันจุดประสงค์หลัก จุดประสงค์รองแค่มาอวดความสวยเท่านั้น”
ลัคนาเบ้ปากแต่เธอไม่เคยโกรธเพื่อนสนิทเวลาถูกลัคณาตอกกลับมาอย่างซื่อใส แค่ส่ายหน้าเหมือนเอือมระอาแต่แล้วสายตาของหล่อนกลับกวาดไปเห็นอะไรบางอย่างที่จุดความสนใจ
“เฮ้ย! ลัคกี้...หล่อนดูนั่น”
“อะไร...ผู้ชายเหรอ?”
“เอ๊า...นังลัคกี้นี่...เออ...ก็ผู้ชายนะสิยะ แต่ที่มันน่าสนใจมากกว่านั้นก็เพราะว่านั่นน่ะเป็นรุ่นพี่ปี่สี่คณะวิศวะที่อยู่ทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัยไง...อืม???”
“อะไร...เธอมองหาอะไร?”
ลัคณาถามเพราะเห็นเพื่อนสนิททำท่าเมียงมองไปยังกลุ่มผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้บาร์เครื่องดื่มท่ามกลางแสงไฟและเสียงเพลงที่เปิดคลอไปด้วย ผับแห่งนี้ไม่เน้นเสียงดังสนั่นและลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกคนมีสตางค์แถมหน้าตาดี ลัคณาทำท่าครุ่นคิดเหมือนหล่อนกำลังมองหาอะไรบางอย่างในกลุ่มคนกลุ่มนั้นอย่างจริงจังก่อนจะตอบลัคณากลับไปว่า
“ฉันกำลังมองหารุ่นพี่คนหนึ่งอยู่ ปกติเขาจะมากับกลุ่มนี้นะ อืม...แต่คืนนี้ฉันไม่ยักเห็นเขามาด้วยแฮะ”
“ใครเหรอ?”
“ก็พี่จอมทัพ สุดหล่อสาวกรี๊ดทั้งมหาวิทยาลัยคนนั้นนะซี”
“พี่จอมทัพ...นักฟุตบอลประจำมหาลัยคนนั้นน่ะเหรอ”
ลัคณาทำท่านึกได้ ก็จะไม่ให้เธอนึกออกอย่างรวดเร็วได้อย่างไรในเมื่อคนที่อัญชัญกล่าวถึงคือคนเดียวกับรุ่นพี่ที่เธอแอบปลื้มเขาอยู่ ลัคณาจดจำได้แม่นมั่นว่าจอมทัพหน้าตาเป็นอย่างไร หล่อเหลาและสมาร์ทขนาดไหนและที่สำคัญไม่มีสาวคนไหนในมหาวิทยาลัยไม่รู้จักรุ่นพี่ชื่อดังคนนี้ ขณะนั้นอัญชัฯก็พูดต่อพร้อมทำหน้าฝันหวาน
“อืม...พี่จอมทัพนะทั้งหล่อเข้ม เรียนเก่งกีฬาเด่น ผู้ชายอะไรจะเพอร์เฟ็คปานนี้ พูดแล้วก็ยังอดที่จะคิดไม่ได้เลยว่าถ้าฉันได้เป็นแฟนของเขาแล้วมันจะเป็นยังไง”
“เธอชอบคนหน้าตาแบบนั้นเหรออัญชัญ แต่จะว่าไปเขาก็หน้าตาดีอยู่นะ”
“จะไม่ให้ฉันหลงใหลเขาได้ยังไง ก็เขาน่ะเป็นลูกครึ่งหลายเสี้ยว ทั้งเกาหลีไทยอเมริกัน นี่เขาดังขนาดนี้ผู้หญิงทั้งมหาลัยฝันถึงกันทั้งนั้นสงสัยมีแต่หล่อนคนเดียวมั้งลัคกี้ที่ไม่เคยฝันถึงผู้ชายคนไหนเลยน่ะ”
อัญชัญกระแนะกระแหนแต่ลัคณากลับส่ายหน้าแล้วตั้งใจจิบไวน์ซึ่งสำหรับเธอแล้วรสชาติมันปะแล่ม ๆ ต่อ ปกติเธอไม่เคยลองของพวกนี้แต่เพราะขัดใจเพื่อนสนิทไม่ได้เลยต้องมาเที่ยวผับเป็นเพื่อนอัญชัญเพราะกลัวว่าหล่อนจะเหงา
ลัคณาเป็นสาวน้อยที่มาจากต่างจังหวัด ครอบครัวของหล่อนอยู่ในระดับปานกลาง พื้นเพก็ไม่ได้เป็นคนโก้หรูและมีนิสัยชอบเก็บตัวเงียบ ๆ ทั้งที่หน้าตาของเธอสะสวยเข้าขั้นดาวมหาวิทยาลัยแต่เธอกลับไม่ยอมเข้าประกวดประขันช่วงชิงตำแหน่งกับใครเพราะความขี้อายเลยเป็นสาวแว่นชอบเข้าห้องสมุดอยู่เป็นประจำมากกว่าจะเดินนวยนาดแต่งตัวอวดความมีฐานะแข่งกับเพื่อนคนอื่น ดูแล้วเหมือนว่าจะน่าเบื่อด้วยซ้ำแต่ด้วยนิสัยไม่ขัดคอใครและพูดจาไม่กระโชกโฮกฮากทำให้คบเป็นเพื่อนสนิทกับอัญชัญที่ชอบส่งเสียงดังและชอบทำให้หนุ่ม ๆ สนใจแม้หน้าตาจะสวยน้อยกว่าลัคณาอยู่มากโข
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย
© 2018-now MeghaBook
บนสุด