ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
“ท่านประธานคะ...วันนี้มีประชุมด่วนตอนเช้านะคะ”
นันทินี เลขาสาวสวยวัยยี่สิบเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องทำงานโอ่อ่าแล้วต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าข้างในปราศจากเงาของคนที่หล่อนต้องการพบ หญิงสาวร่างระหงในชุดสูทเรียบเก๋ สวมแว่นตาอย่างสาวออฟฟิศก้าวเข้าไปแล้วปิดประตู แต่ทันใดนั้นก็ต้องตกใจเมื่อจู่ ๆ ถูกท่อนแขนแข็งแกร่งรวบเอวบาง ใครคนหนึ่งโอบกอดหล่อนไว้จากด้านหลัง กลิ่นโคโลญจน์หอมอวลแตะจมูก เป็นกลิ่นที่หล่อนจำได้
“อุ๊ย! ท่านประธานคะ...ทำอะไรคะเนี่ย” หล่อนร้องออกมาทั้งที่ถูกสวมกอดจากข้างหลัง เสียงของหล่อนแหบพร่ามากกว่าร้องออกมาด้วยความตกใจ
“นุ่น...วันนี้มีประชุมอีกเหรอ” เจตต์ ประธานบริหารระดับสูงสุดของ วัฒนรักษ์ กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีโรงแรมหรูระดับห้าดาวในเครือทั้งในและต่างประเทศกระซิบถาม นันทินีหันไปเผชิญหน้ากับเขาในระยะประชิด ท่านประธานของหล่อนคือหนุ่มวัยสามสิบสองหน้าตาหล่อเหลาบาดจิต รูปร่างสูงใหญ่เพราะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติ เจตต์เป็นนักธุรกิจระดับแถวหน้าที่มีชื่อเสียงในวงสังคมระดับสูง เป็นที่หลงใหลคลั่งไคล้ของสาว ๆ แม้แต่พนักงานในบริษัทก็ยังแสดงออกว่าต่างหลงเสน่ห์ความเท่ห์ หล่อร้าย แต่ไม่มีใครรู้ระแคะระคายว่าแท้จริงแล้วเขามีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับเลขาสาวที่เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวกับเขาเป็นเวลาเกือบสามเดือน นันทินีเรียนจบแค่ระดับอาชีวศึกษา แต่หล่อนเป็นคนสวยและพกความเก่งจนเอาชนะใจ เจตต์รับหล่อนเข้าทำงานในตำแหน่งเลขานุการ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเปิดเผยความรู้สึกและนันทินีก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย หล่อนยอมเป็นของเขาหลังเข้ามาทำงานไม่ถึงเดือน เจตต์ไม่ใช่เจ้านายปากหวาน เขาไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติก ตรงข้ามไม่ค่อยพูดจาแต่เด็ดขาดในการทำงาน เขาจะหวานและดึงดูดใจมากก็ตอนมีเซ็กส์ เรื่องนี้หล่อนรู้ดี
“ค่ะ...ท่านประธาน...วันนี้มีประชุมตอนเช้าเลยนะคะ เป็นประชุมด่วนด้วยค่ะ”
“ทำไมต้องด่วนวันนี้ด้วยนะ ถ้าไม่ไปประชุมจะเป็นยังไง”
“ก็ไม่เป็นไงหรอกค่ะ แต่มันอาจจะกระทบกับงานของท่านประธานนะสิคะ”
“ประชุมกี่โมงกันล่ะ”
“เก้าโมงครึ่งค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงสินะ”
“ท่านประธานจะทำอะไรคะ” หล่อนถามเสียงพร่า ก่อนท่านประธานหนุ่มจะเฉลยด้วยการก้มหน้าลงมาหา ประกบปิดปากเพื่อกลืนเสียงหวานของหล่อนเข้าไปในปากของเขา ฉกลิ้นสากหนาเข้าไปในโพรงปากของเลขาสาว วินาทีนั้นหล่อนก็ระทดระทวยและแทบทรงตัวยืนไม่อยู่ เสื้อสูทของหล่อนถูกดึงออกไปโดยแทบไม่รู้ตัว เจตต์ถอดมันออกจากตัวหล่อนวางกองบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ
“อือ...อ่าส์....ทะ...ท่านประธานขา”
“เราต้องรีบสักหน่อยแล้วนะ นุ่น...อืม...” เขาส่งเสียงงึมงำอยู่บนกลีบปากของหล่อน มือทั้งสองเลื่อนเข้าไปใต้ชายเสื้อเชิ้ตที่เขาดึงมันออกจากขอบกระโปรงตัวสวย ลูบไล้สัมผัสรอยนูนบนลูกไม้บราเซียที่แนบบนสองเต้าอวบอิ่ม เจตต์พ่นลมหายใจร้อนรุ่มออกมาราดรดบนหน้าของนันทินี หล่อนอ้าปากรับลิ้นร้อนของเขาที่ฉกเข้าไปลิ้มรสหวาน สักครู่เขาช้อนร่างนั้นขึ้นแล้วอุ้มหล่อนไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ วางหล่อนให้นั่งแล้วถอดเสื้อสูทของตัวเองออก ทิ้งมันลงพื้นอย่างไม่ใยดี เจตต์ไม่เสียเวลาถอดเสื้อเชิ้ตออก เขาประชิดเข้าหา ยืนตรงกลางระหว่างเรียวขางามที่เขาจับมันแยกออก ท่านประธานหนุ่มลูบไล้ถุงน่องสีดำตั้งแต่ขาอ่อนลงมาถึงปลีน่องขาวเนียน ในช่วงเวลานั้นนันทินีหอบหายใจด้วยความเสียวซ่าน บ่อยครั้งที่หล่อนกับเจตต์มีเซ็กส์กันอย่างเร่าร้อนในห้องทำงาน ทั้งบนโซฟา บนโต๊ะทำงาน บนพื้นห้อง แต่ดูเหมือนวันนี้เขาเร่าร้อนเป็นพิเศษ ทุกครั้งเขาจับหล่อนถอดเสื้อผ้าจนหมด และเขาเองก็ถอดจนหมดเช่นเดียวกัน แต่วันนี้เขารีบเร่งอย่างแปลกประหลาด เจตต์ถลกกระโปรงสั้นขึ้นและถอดสายรัดถุงน่องบนเรียวขานวลเนียน เขารูดจีสตริงสีชมพูพ้นจากขาเรียวงามแล้วจับเข่าทั้งสองของหล่อนให้แยกถ่างกว้าง
“อ๊า...ท่านประธาน...ซี๊ดดดด....อ่าส์...อูยยยย....ซี๊ดดดด”
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
เธอยังคงรักเขา... ผู้ชายที่แต่งงานกับเธอโดยปราศจากความรัก และเขายังคงผูกหัวใจเจ็บแค้น พยาบาทยังฝังแน่นเพราะ เธอ...เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ ทศรัสมิ์เคยมีใจผูกพันกับอณัศยา แต่เมื่อเขาพาเธอไปรู้จักกับครอบครัว กลับกลายเป็นพ่อของทศรัสมิ์ที่หลงใหลแม่ของอณัศยาถึงขั้นหย่ากับแม่ของเขาที่ตรอมใจจนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ ความรักของเขาและเธอจบสิ้นลง ทศรัสมิ์หายไปจากชีวิตของอณัศยาจวบจนกระทั่งวันที่เขากลับมาร่วมงานศพบิดาและรับรู้ว่าเขาคือผู้ครอบครองอาณาจักรธุรกิจหมื่นล้านของครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว แม่ของอณัศยาร้องขอให้เขาช่วยเหลือและทศรัสมิ์จะไม่มีวันปฏิเสธโอกาสอันงดงามนี้...โอกาสที่เขาจะได้เอาคืน ล้างหนี้แค้นที่สองแม่ลูกเคยทำให้ชีวิตของเขาแทบสิ้นไร้ทางเดิน
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY