เพราะถูกทรยสหักหลังจากเพื่อนและแฟน เธอจึงรับงานเป็นเด็กนั่งดริงก์ ทำให้เธอได้พบกันเขา ชายผู้มอบสัมผัสแห่งปรารถนาให้อย่างเร่าร้อน ก่อนเขาจะกลายเป็นผู้กุมชะตาชีวิตเธอในฐานะนางบำเรอชั่วคราว
เพราะถูกทรยสหักหลังจากเพื่อนและแฟน เธอจึงรับงานเป็นเด็กนั่งดริงก์ ทำให้เธอได้พบกันเขา ชายผู้มอบสัมผัสแห่งปรารถนาให้อย่างเร่าร้อน ก่อนเขาจะกลายเป็นผู้กุมชะตาชีวิตเธอในฐานะนางบำเรอชั่วคราว
ท่ามกลางแสงสี กลิ่นเหงื่อ คราบไคล จากการบดเบียดวาดลวดลาย จากโต๊ะสู่โต๊ะ ยกแก้วกระดกดื่ม พูดคุยยิ้มแย้มร่างกายโอบรัดกอดกระหวัดกันไม่ห่าง ของแต่ละคู่ซึ่งมาท่องราตรีกันในผับชื่อดัง นามดาร์กมูน ญรินดา นภาพิสุทธิ์ เจ้าหน้าที่บัญชีสถานบันเทิงย่านทองหล่อ เจ้าของดวงตากลมโต ผิวสีชมพูระเรื่อ คิ้วยาวเรียว ริมฝีปากบางสีชมพู กำลังจ้องมองผู้คนมากมายแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
เธอเกลียดสถานที่แห่งนี้ ยกเว้นเจ้าของผับที่ใจดีเสมอมา
“รินจ๊ะ วันนี้สนใจไหมเอ่ย...” เจ้าของผับนามราตรียังคงถามเธออีกครั้ง เรื่องการทำงานพิเศษ ชื่อว่าเด็กนั่งดริงก์
“ไม่ค่ะพี่ตรี อย่าให้รินทำเลยค่ะ” หญิงสาวตอบแล้วส่ายหน้า
“ทำไมล่ะริน เงินดีออก ยิ่งหน้าตาอย่างรินพี่ว่าคืนหนึ่งห้าหมื่นสบายๆ เรื่องกินเหล้าไม่ต้องห่วง มันฝึกกันได้พี่การันตี”
“ขอโทษนะคะพี่ตรี ที่รินตอบสนองความต้องการของพี่ไม่ได้” หญิงสาวระบายลมหายใจ “รินมีแฟนแล้ว รินไม่อยากให้วินต้องรู้สึกไม่ดีค่ะ”
ราตรีถอนหายใจด้วยความเสียดาย หากได้ญรินดามาเป็นเด็กในร้านอีกคน เงินคงไหลมาเทมาเป็นแน่
“เฮ้อ... พี่อยากให้รินหมดหนี้เร็วๆ จริงๆ นะ พี่เป็นห่วงริน สักวันรินอาจไม่ได้นั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศแบบนี้ พี่กลัวพี่ชายรินมันจะทำอะไรห่ามๆ เอาน่ะสิ” แค่คิดก็รู้สึกขนลุกแล้ว คนอย่างญรันต์ติดการพนันขนาดนั้น คงหาทางเอาน้องตัวเองเร่ขายเป็นแน่ รินไม่รู้ผ่าเหล่าผ่ากอมาจากไหน ถึงได้ออกมาหน้าตาสะสวยอย่างนี้
“ขอบคุณมากค่ะพี่ตรี แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ รินใช้หนี้พี่หมดแน่นอน” ญรินดาบอกแล้วยกยิ้ม ก่อนลุกยืนเพื่อเตรียมเลิกงาน
กระเป๋าถูกหยิบขึ้นสะพาย ร่างบางก้าวออกมานอกออฟฟิศ แล้วเดินออกมาหลังร้าน เพื่อทักทายเพื่อนรักอย่างนาริสา สาวนั่งดริงก์อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน นาริสาเป็นเพื่อนกับเธอตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย ก่อนแยกย้ายกันไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย
นาริสาออกกลางคัน ผันตัวมาทำงานกับเจ๊ราตรีเสียก่อน เพื่อนเธอได้รับเงินแต่ละเดือนไม่น้อยเลย ถึงนาริสาไม่ได้สวยเท่าเธอ แต่ทรวดทรงนั่น นับได้ว่าเป็นนางแบบได้สบาย
“สา” เธอเรียกเพื่อน สาวหุ่นน่ามองหันมาแล้วยิ้มกว้าง เร่งฝีเท้าเข้ามาหา
ญรินดากวาดตามองชุดที่เพื่อนใส่แล้วอดเขินอายแทนไม่ได้ วันนี้ทางร้านจัดชุดบิกินี่สีแดงสด พร้อมถุงน่องตาข่าย คาดผมกระต่ายสีดำ เห็นชัดทุกสัดส่วน ว่าใครมีเท่าไหร่
“ไงริน เลิกงานแล้วเหรอ” นาริสาทักทาย
“ใช่จ้ะ”
นาริสากวาดตามองหาใครบางคน แล้วหันกลับมาหาเพื่อน
“พี่วินไม่มาเหรอจ๊ะวันนี้”
“มาจ้ะ ใกล้ถึงแล้วล่ะ”
เสียงรถยนต์จอดเทียบด้านหลัง ญรินดาชะเง้อมองเช่นเดียวกับเพื่อนเธอ ไม่นานนักหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกางเกงสแลคสีดำ ผมรองทรง จมูกโด่งรับกับใบหน้า คิ้วเข้มตรง ดวงตาเรียวยาวออกเชื้อสายทางจีน ก้าวเข้ามาในร้าน พนักงานนั่งดริงก์ต่างรุมล้อมแสร้งลูบเนื้อตัวหนุ่มฮอต เขารีบเบี่ยงกายหนีแล้วหัวเราะ ก่อนเดินเข้ามาหาคนของหัวใจ
“รอพี่นานไหมครับ” กวินทรถาม แล้วเหลือบมองหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในชุดทำงานของร้าน พาให้เลือดในกายร้อนฉ่า มุมปากกระตุกเล็กน้อย ก่อนยิ้มกลบเกลื่อน
เจ้าของเรือนร่างเย้ายวนยิ้มน้อยๆ แล้วเดินห่างออกมา ก่อนปรายตาในทางเชิญชวน กวินทรไม่วานเหลือบมองเล็กน้อยแล้วหันกลับมาหาแฟนตนเอง
“ไม่นานค่ะ รินเพิ่งเลิกงานเมื่อกี้เองค่ะ เลยลงมาคุยกับสา”
“อ่อครับ” ชายหนุ่มรับคำแล้วยิ้ม “วันนี้ที่ร้านจัดชุดให้เด็กเปรี้ยวจังเลยนะครับ”
ญรินดายิ้มบางๆ “ชอบเหรอคะ” แกล้งแซวแฟนตัวเอง
ใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำเมื่อถูกแซว ยกมือเกาศีรษะ แล้วดึงมือบางมากุมไว้พาเดินออกนอกร้านด้วยกัน ญรินดามองมือใหญ่ รับรู้ถึงความอบอุ่นในนั้น ความสุขกำลังแผ่ซ่าน ในความโชคร้าย ยังโชคดีที่มีเขาคอยเคียงข้าง
ประตูรถเปิดออก คนตัวเล็กนั่งด้านหน้าคู่คนขับ ภาพสองคนอยู่ในสายตาของนาริสา ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสดกัดแน่น ในอกร้อนผ่าว สักวันชายคนนั้นต้องเป็นของเธอ จะไม่มีวันให้คนอย่างญรินดาชุบมือเปิบไปแน่นอน
เธอรัก เขามาก่อน...
รถยนต์จอดเทียบหน้าคอนโด ญรินดาชะงักมองแฟนหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจ
“พี่วินพารินมาที่คอนโดทำไมคะ” เธอถาม สีหน้าสับสน
กวินทรหันมา ก่อนดึงมือบางมากุมจุมพิตแผ่วเบา
“เราคบกันมาปีกว่าแล้วนะครับ พี่อยากอยู่กับรินจริงจังสักที คืนนี้รินค้างกับพี่ได้ไหม” น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยถาม แววตาหวานฉ่ำ
ริมฝีปากบางสั่นระริก บิดมือตนเองออกมาจากการเกาะกุม
“ปีกว่ามันน้อยไปนะคะ น้อยไปที่เราจะรู้จักกันจริงๆ พี่วินอย่าใจร้อนได้ไหมคะ” หญิงสาวพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า เพื่อให้เขาเข้าใจ
“มันไม่น้อยไปหรอกริน คู่ไหนเขาก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้น รินสวยขนาดนี้พี่กลัวนะครับว่าจะมีใครมาแย่งรินไป” กวินทรค่อยๆ ขยับกายเข้าหา
สำหรับเขา ญรินดานั้นงดงามเกินกว่าจะยอมปล่อยให้หลุดมือ ผู้ชายย่อมอยากชมดอกไม้งาม และเธอคือดอกไม้ที่เขาอยากดอมดมจนแทบทนไม่ไหว ไม่เคยคิดมาก่อนว่าญรินดาจะยอมคบหาด้วย ทว่าตอนนี้เขาสมหวังแล้ว และต้องการอีกเรื่องเดียวเท่านั้น
“รินไม่พร้อมคะพี่วิน รินไม่อยากเสียใจทีหลัง” หญิงสาวตัดบทในทันที สำหรับเธอกวินทรคือคนดี แต่การคบหากันแค่ปีกว่าไม่ได้บอกอะไรได้ทั้งหมด
โชคชะตาเล่นตลกกับเธอหรือไร แค่ต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวแต่กลับถูกลักพาตัว เธอตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคยมิหนำซ้ำยังมารู้ความจริงอีกว่า ชายรูปหล่อที่ตนตบหน้าในคืนนั้น ดันเป็นกษัตริย์แห่งประเทศซากวัย ความซวยยังไม่หมด เมื่อฝ่าบาททรงยืนยันต้องการให้เธอเป็นสนม แต่มีหรือคนอย่างนิลลนาจะยินยอม ต่อให้ใหญ่มาจากไหน เธอไม่เคยเกรง แต่แล้วทำไมจากพระพักตร์บึ้งตึง ดันกลับกลายมาเป็นอ่อนโยน เวลายิ่งผันผานหัวใจยิ่งแปรเปลี่ยน
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
นางขอสมรสพระราชทานเพราะรัก แต่คืนแต่งงาน เขารังเกียจนางและทิ้งไป ห้าปีผ่านไปพระชายาที่ถูกลืม กลับเป็นสตรีที่เขาต้องตามจีบ และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเขาก็คือลูกชายของตนเอง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด