เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
มือเรียวเล็กปรับเบาะรถทางฝั่งคนขับให้เอนไปด้านหลัง หล่อนขึ้นคร่อมเขาเอาไว้ กระโปรงของชุดเดรสที่สวมใส่อยู่ถลกขึ้นมาจนเห็นชั้นในบางเบา ‘เดชาธร’ ที่ยังมีสติไม่ได้เมามายขนาดนั้นพยายามผลักเธอออก หากแต่หญิงสาวที่เวลานี้เร่าร้อนไปทั่วทั้งกายกลับไม่ยอมแพ้ เธอสอดแขนออกจากชุดเดรสของตัวเองแล้วดึงต่ำลงจนอกอวบอิ่มโผล่พ้นออกมาปรากฏแก่สายตาของเขา
“นี่คุณ ใจเย็นก่อน” เขาห้าม ทว่าอีกฝ่ายกลับใช้ดวงตาคู่สวยนั้นมองเขาด้วยความเว้าวอน
“ทำไมล่ะ แม้แต่คุณก็รังเกียจฉันหรือ ฉันมันน่าเกลียดนักหรือไง”
เธอถามทั้งน้ำตา น้ำเสียงแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจที่สั่งสมมานานบ่งบอกได้ว่าเธอไม่สามารถทนรับเรื่องพวกนี้ได้อีกแล้ว บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปจนเกือบหมดลังยิ่งทำให้เธอไร้ซึ่งสติ
“ผมไม่ได้รังเกียจคุณ แต่คุณจะมาปล้ำผมแบบนี้ไม่ได้”
ร่างสูงตอบ พยายามเบือนหน้าหันไปอีกทางเพราะไม่อยากจะล่วงเกินเธอทางสายตามากนัก
“ฮิๆ ปล้ำงั้นเหรอ คุณนี่...น่ารักจังเลยนะ”
เล็บยาวที่ทาสีแดงเอาไว้กรีดไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ อย่างยั่วยวน เธอโน้มตัวมาด้านหน้า ถูไถอกอิ่มกับแผงอกกว้างของเขา
“ฉันอยากเป็นของคุณจัง”
เธอมองเขาดวงตาเลื่อนลอยก่อนจะเขยิบตัวเข้าหามากขึ้น บดเบียดกายสาวกับความแข็งขืนของชายหนุ่มที่ถูกปลุกเร้า ริมฝีปากเล็กประกบเข้าที่ลำคอของเขา หล่อนดูดมันเต็มแรง
“นี่คุณ...!”
จะผลักออกก็ออกแรงได้ไม่เต็มที่ด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้มตามเข้าครอบงำ เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ถูกผู้หญิงสวยราวนางฟ้าแถมยังเซ็กซี่ระดับ ฮอตสตาร์แบบนี้ยั่วยวน มีหรือจะไม่ตบะแตก นาทีนี้เดชาธรกำลังตีกับความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก
“นี่ไง เท่านี้คุณก็เป็นของฉันแล้ว”
ร่างบางชี้ไปที่รอยจูบตรงต้นคอของเขาซึ่งเธอเป็นคนทำไว้เมื่อครู่ ใบหน้าสวยที่ยื่นมาใกล้สะกดเขาให้มองตาม ริมฝีปากเรียวเล็กได้รูปแต้มสีแดงสดเอาไว้ จมูกที่เชิดรั้น และดวงตาคู่สวยแสนเย็นชา ทุกอย่างหลอมรวมให้หล่อนกลายเป็นหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง
“พอได้แล้ว ถ้าผมทนไม่ไหวขึ้นมา คุณจะยุ่งเอานะ แขไข...”
เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง สองมือจับรวบแขนของอีกฝ่ายเอาไว้
“คุณเป็นคนสวยนะ อย่าทำแบบนี้เลย”
เดชาธรพยายามเตือนสติหล่อน เขารู้ดีว่าที่เธอเป็นแบบนี้สาเหตุมาจากอะไร
หญิงสาวคนนี้คืออดีตแฟนของเพื่อนรักของเขา จริงอยู่ว่าเธอเป็นฝ่ายทิ้งเพื่อนของเขาไป หากแต่เธอคงยังรักเขาอยู่และคิดที่จะกลับมาขอคืนดี ทว่าอีกฝ่ายแต่งงานไปแล้วทำให้เธอรู้ตัวว่าไม่มีทางสู้ต่อไปได้ การที่เธอดื่มเบียร์เป็นลังๆ แล้วเมาขนาดนี้คงเพราะตัดสินใจที่จะตัดใจจากเพื่อนของเขาแล้ว
“ถ้าฉันสวย คุณก็กอดฉันสิ” เธอมองเขาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“กอดฉันหน่อยนะคะ คุณเดช...”
ชายหนุ่มตาโตเมื่อถูกเธอเรียกชื่อ เป็นการยืนยันได้ว่าเธอไม่ได้มองเห็นเขาเป็นคนอื่นแล้วมาทำรุ่มร่ามด้วย แต่เธอรู้ดีแต่แรกว่าเป็นเขา...
เธอต้องการเขาจริงๆ...
“ผมอดทนได้ไม่นานนะครับ พอเถอะ”
เดชาธรย้ำอีกครั้ง เฮือกสุดท้ายของการระงับสติของเขาเอง ถ้าจากนี้เธอยังไม่หยุด เขาก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะหยุดความต้องการของตัวเองเอาไว้ได้
“ก็ไม่ต้องทนสิคะ ฉันไม่เคยบอกให้คุณอดทนสักหน่อย”
สิ้นคำ หญิงสาวแสนสวยคนนี้ก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบเขาอย่างร้อนแรง หล่อนสอดลิ้นเข้ามากวาดไปทั่วโพรงปากของเขา รสชาติของเบียร์ติดอยู่ในปากของคนทั้งคู่
หมับ!
มือหนาจับเข้าที่เต้าอวบแล้วบีบเคล้นมันเต็มแรง เขาเริ่มจูบตอบโต้เธอจนร่างบางอ่อนระทวยในอ้อมแขน เดชาธรจูบไล่ต่ำลงมาจนถึงซอกคอ เขาฝากรอยแดงเอาไว้หลายต่อหลายจุด หญิงสาวตระกองกอดเขาเข้ามาแนบอก บราเซียสีเดียวกับชุดถูกปลดออก ปทุมถันสีชมพูสวยปรากฏแก่สายตา ร่างสูงไม่รอช้า ก้มต่ำลงไปครอบครองมันเอาไว้ ดูดกลืนให้หายเข้าไปในโพรงปาก
“อ๊า...!” แขไขครางเสียงหวาน
เธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าของเธอและเขามันช่างเกะกะเหลือเกิน มือเล็กช่วยปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย เหมือนอย่างที่เขาช่วยถอดชุดเดรสของเธอออกให้ ร่างบางเกือบจะเปลือยเปล่า เหลือเพียงชั้นในบางเบาที่ปกปิดส่วนสำคัญที่สุดเอาไว้
เดชาธรเลื่อนมือต่ำลงไปกอบกุมกายสาวเอาไว้ เขาแหวกอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วออกไปด้านข้าง ถูไถนิ้วเรียวกับร่องสาวที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำแห่งความสุข โดยไม่ลืมที่จะปรนเปรอสองเต้าด้วยริมฝีปากและมืออีกข้าง แขไขโอบกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น เธอแอ่นตัวเข้าหาเขาด้วยความต้องการมันล้นปรี่ออกมา
“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ อ๊า...”
เธอครางไม่เป็นคำพูด ขณะนิ้วยาวแทงเข้าออกอยู่ภายในกาย เป็นครั้งแรกที่เธอได้ร่วมบทรักอันร้อนแรงในรถแคบๆ แบบนี้
ใช่แล้ว...ทั้งคู่อยู่กันในรถของเดชาธรนั่นเอง
ระหว่างที่เขากำลังจะกลับบ้าน ก็ตั้งใจจะแวะไปที่บ้านของ ‘นนท์นธี’ เพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของไร่แสงตะวันและเป็นแฟนเก่าของหญิงสาวคนนี้ หากแต่ระหว่างทางที่กำลังจะไป เขาเห็นเธอนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้ารีสอร์ทของไร่จึงจอดรถแวะดู ท่าทางของหล่อนไม่ค่อยดี หากปล่อยเอาไว้เขากังวลกลัวเธอจะคิดสั้นเลยชวนขึ้นรถพามาขับรถเล่น จนมาถึงหน้าบึงน้ำไม่ไกลจากรีสอร์ท ระหว่างนั้นหล่อนก็สังเกตเห็นว่าที่เบาะหลังรถของเขามีเบียร์วางอยู่หลายลัง เป็นเบียร์ที่เขาถูกคนที่บ้านฝากซื้อ แขไขขอเขากินเบียร์พวกนั้นจนเกือบหมดลัง และเริ่มปรับทุกข์ให้ชายหนุ่มฟังจนกระทั่งเมื่อเธอเมาได้ที่ และเขาเองก็เริ่มเมานิดๆ เช่นกัน
“อ๊ะ อื้อ...”
หญิงสาวครางได้ไม่เต็มเสียงนักเมื่อความคับแน่นกำลังคืบคลานเข้ามา ท่อนลำขยายใหญ่กว่าที่เธอเคยผ่านมา ยิ่งอยู่ในท่านั่งบนรถแคบๆ การจะสอดใส่อย่างรวดเร็วจึงเป็นไปได้ยากนัก
“ซี๊ด คุณแข...คุณรัดผมแน่นไปแล้ว”
เดชาธรบอกขณะพยายามบดเบียดยัดเยียดตัวตนเข้าไป แม้จะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนแรกของเธอ แต่ความคับแน่นที่ยังดูสดใหม่นี้ก็สร้างความพึงพอใจให้ไม่น้อย เขาแลบลิ้นไปตวัดเลียเม็ดบัวตรงอกตูมของเธอ ละเลงเสียจนหญิงสาวเสียวซ่านไปหมด
พยายามอยู่ไม่นานเขาก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ แขไขเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงด้วยตัวเองเพื่อเป็นฝ่ายคุมเกม เธอร่อนสะโพกไปมา กัดริมฝีปากตัวเองและมองหน้าเขาอย่างยั่วยวน ทุกการกระทำของเธอเซ็กซี่บาดใจเขาเหลือเกิน เดชาธรแทบไม่ต้องทำอะไรเพราะเธอจัดให้ทั้งนั้น ที่เขาทำมีเพียงนอนราบไปกับเบาะ สองมือขยำเต้าอวบเพื่อปลุกเร้าเธอเท่านั้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อื้อ อ๊ะ!”
ภาพของเธอที่เขามองเห็นในตอนนี้ช่างติดตาตรึงใจจนยากจะถอน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมอบความสุขให้เขาแบบนี้มาก่อน อันที่จริงถ้าจะพูดให้ถูก...เขาเคยผ่านผู้หญิงมาแค่คนเดียวเท่านั้นคือตอนจบมหาวิทยาลัยที่อเมริกาและที่นั่นจัดงานเลี้ยงกัน คืนนั้นเขาเมามากเลยเผลอได้เสียกับเพื่อนรวมชั้นไป ซึ่งมันก็ผ่านมาหลายปีมากๆ แล้ว
เดชาธรดึงเธอเข้ามาจูบเมื่อจุดสูงสุดกำลังใกล้เข้ามา แขไขจูบตอบอย่างร้อนแรง เธอขยับสะโพกเร็วขึ้นๆ เพราะตัวหล่อนก็ใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้วเช่นกัน สองร่างนัวเนียลูบไล้กันและกัน มือหนากดสะโพกเธอเอาไว้ ปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระเพื่อปลดปล่อยเสียงคราง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า!!!”
“อ่า...” ทั้งคู่กระตุกเกร็ง เดชาธรปลดปล่อยทุกอย่างใส่กายสาวไม่เหลือ ร่างบางทิ้งตัวลงนอนซบกับอกกว้าง หอบแฮ่กด้วยความเพลีย
“ชอบจัง...”
เธอพึมพำแต่เขาได้ยินชัดเจน การเป็นที่ต้องการของใครสักคนในเวลานี้ทำเอาชายหนุ่มใจฟู เขาเชยคางหญิงสาวขึ้นมาให้สบตากัน
“ผมถูกใจคุณซะแล้วสิ” ใบหน้าหล่อเหลาเอ่ย แขไขมองความหล่อนั้นด้วยแววตาเลื่อนลอย
“คุณเหมือนเทวดาเลย หล่อจัง”
แขไขเขยิบตัวขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อจูบที่ปลายคางของเขา เดชาธรใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าเธอเอาไว้แล้วก้มลงจูบเธออย่างอ่อนโยน
“คุณก็สวยเหมือนนางฟ้าเช่นกัน นางฟ้าของผม”
วงแขนแกร่งโอบกอดร่างบางไว้แน่น เขาชักอยากจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแล้วสิ ไม่อยากจะให้เธอ...ต้องมีน้ำตาอีกต่อไปแล้ว
ทว่าแม้จะมีความคิดแบบนั้น หากแต่ในหัวใจของเขาก็ยังมีภาพของผู้หญิงอีกคนชัดเจนอยู่...
ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเขาและทำให้เขาตัดสินใจที่จะเป็นหมอ...
...ภรรยาของเพื่อนสนิทเขา ‘หวานเย็น’
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY