เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
มือเรียวเล็กปรับเบาะรถทางฝั่งคนขับให้เอนไปด้านหลัง หล่อนขึ้นคร่อมเขาเอาไว้ กระโปรงของชุดเดรสที่สวมใส่อยู่ถลกขึ้นมาจนเห็นชั้นในบางเบา ‘เดชาธร’ ที่ยังมีสติไม่ได้เมามายขนาดนั้นพยายามผลักเธอออก หากแต่หญิงสาวที่เวลานี้เร่าร้อนไปทั่วทั้งกายกลับไม่ยอมแพ้ เธอสอดแขนออกจากชุดเดรสของตัวเองแล้วดึงต่ำลงจนอกอวบอิ่มโผล่พ้นออกมาปรากฏแก่สายตาของเขา
“นี่คุณ ใจเย็นก่อน” เขาห้าม ทว่าอีกฝ่ายกลับใช้ดวงตาคู่สวยนั้นมองเขาด้วยความเว้าวอน
“ทำไมล่ะ แม้แต่คุณก็รังเกียจฉันหรือ ฉันมันน่าเกลียดนักหรือไง”
เธอถามทั้งน้ำตา น้ำเสียงแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจที่สั่งสมมานานบ่งบอกได้ว่าเธอไม่สามารถทนรับเรื่องพวกนี้ได้อีกแล้ว บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปจนเกือบหมดลังยิ่งทำให้เธอไร้ซึ่งสติ
“ผมไม่ได้รังเกียจคุณ แต่คุณจะมาปล้ำผมแบบนี้ไม่ได้”
ร่างสูงตอบ พยายามเบือนหน้าหันไปอีกทางเพราะไม่อยากจะล่วงเกินเธอทางสายตามากนัก
“ฮิๆ ปล้ำงั้นเหรอ คุณนี่...น่ารักจังเลยนะ”
เล็บยาวที่ทาสีแดงเอาไว้กรีดไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ อย่างยั่วยวน เธอโน้มตัวมาด้านหน้า ถูไถอกอิ่มกับแผงอกกว้างของเขา
“ฉันอยากเป็นของคุณจัง”
เธอมองเขาดวงตาเลื่อนลอยก่อนจะเขยิบตัวเข้าหามากขึ้น บดเบียดกายสาวกับความแข็งขืนของชายหนุ่มที่ถูกปลุกเร้า ริมฝีปากเล็กประกบเข้าที่ลำคอของเขา หล่อนดูดมันเต็มแรง
“นี่คุณ...!”
จะผลักออกก็ออกแรงได้ไม่เต็มที่ด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้มตามเข้าครอบงำ เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ถูกผู้หญิงสวยราวนางฟ้าแถมยังเซ็กซี่ระดับ ฮอตสตาร์แบบนี้ยั่วยวน มีหรือจะไม่ตบะแตก นาทีนี้เดชาธรกำลังตีกับความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก
“นี่ไง เท่านี้คุณก็เป็นของฉันแล้ว”
ร่างบางชี้ไปที่รอยจูบตรงต้นคอของเขาซึ่งเธอเป็นคนทำไว้เมื่อครู่ ใบหน้าสวยที่ยื่นมาใกล้สะกดเขาให้มองตาม ริมฝีปากเรียวเล็กได้รูปแต้มสีแดงสดเอาไว้ จมูกที่เชิดรั้น และดวงตาคู่สวยแสนเย็นชา ทุกอย่างหลอมรวมให้หล่อนกลายเป็นหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง
“พอได้แล้ว ถ้าผมทนไม่ไหวขึ้นมา คุณจะยุ่งเอานะ แขไข...”
เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง สองมือจับรวบแขนของอีกฝ่ายเอาไว้
“คุณเป็นคนสวยนะ อย่าทำแบบนี้เลย”
เดชาธรพยายามเตือนสติหล่อน เขารู้ดีว่าที่เธอเป็นแบบนี้สาเหตุมาจากอะไร
หญิงสาวคนนี้คืออดีตแฟนของเพื่อนรักของเขา จริงอยู่ว่าเธอเป็นฝ่ายทิ้งเพื่อนของเขาไป หากแต่เธอคงยังรักเขาอยู่และคิดที่จะกลับมาขอคืนดี ทว่าอีกฝ่ายแต่งงานไปแล้วทำให้เธอรู้ตัวว่าไม่มีทางสู้ต่อไปได้ การที่เธอดื่มเบียร์เป็นลังๆ แล้วเมาขนาดนี้คงเพราะตัดสินใจที่จะตัดใจจากเพื่อนของเขาแล้ว
“ถ้าฉันสวย คุณก็กอดฉันสิ” เธอมองเขาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“กอดฉันหน่อยนะคะ คุณเดช...”
ชายหนุ่มตาโตเมื่อถูกเธอเรียกชื่อ เป็นการยืนยันได้ว่าเธอไม่ได้มองเห็นเขาเป็นคนอื่นแล้วมาทำรุ่มร่ามด้วย แต่เธอรู้ดีแต่แรกว่าเป็นเขา...
เธอต้องการเขาจริงๆ...
“ผมอดทนได้ไม่นานนะครับ พอเถอะ”
เดชาธรย้ำอีกครั้ง เฮือกสุดท้ายของการระงับสติของเขาเอง ถ้าจากนี้เธอยังไม่หยุด เขาก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะหยุดความต้องการของตัวเองเอาไว้ได้
“ก็ไม่ต้องทนสิคะ ฉันไม่เคยบอกให้คุณอดทนสักหน่อย”
สิ้นคำ หญิงสาวแสนสวยคนนี้ก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบเขาอย่างร้อนแรง หล่อนสอดลิ้นเข้ามากวาดไปทั่วโพรงปากของเขา รสชาติของเบียร์ติดอยู่ในปากของคนทั้งคู่
หมับ!
มือหนาจับเข้าที่เต้าอวบแล้วบีบเคล้นมันเต็มแรง เขาเริ่มจูบตอบโต้เธอจนร่างบางอ่อนระทวยในอ้อมแขน เดชาธรจูบไล่ต่ำลงมาจนถึงซอกคอ เขาฝากรอยแดงเอาไว้หลายต่อหลายจุด หญิงสาวตระกองกอดเขาเข้ามาแนบอก บราเซียสีเดียวกับชุดถูกปลดออก ปทุมถันสีชมพูสวยปรากฏแก่สายตา ร่างสูงไม่รอช้า ก้มต่ำลงไปครอบครองมันเอาไว้ ดูดกลืนให้หายเข้าไปในโพรงปาก
“อ๊า...!” แขไขครางเสียงหวาน
เธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าของเธอและเขามันช่างเกะกะเหลือเกิน มือเล็กช่วยปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย เหมือนอย่างที่เขาช่วยถอดชุดเดรสของเธอออกให้ ร่างบางเกือบจะเปลือยเปล่า เหลือเพียงชั้นในบางเบาที่ปกปิดส่วนสำคัญที่สุดเอาไว้
เดชาธรเลื่อนมือต่ำลงไปกอบกุมกายสาวเอาไว้ เขาแหวกอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วออกไปด้านข้าง ถูไถนิ้วเรียวกับร่องสาวที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำแห่งความสุข โดยไม่ลืมที่จะปรนเปรอสองเต้าด้วยริมฝีปากและมืออีกข้าง แขไขโอบกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น เธอแอ่นตัวเข้าหาเขาด้วยความต้องการมันล้นปรี่ออกมา
“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ อ๊า...”
เธอครางไม่เป็นคำพูด ขณะนิ้วยาวแทงเข้าออกอยู่ภายในกาย เป็นครั้งแรกที่เธอได้ร่วมบทรักอันร้อนแรงในรถแคบๆ แบบนี้
ใช่แล้ว...ทั้งคู่อยู่กันในรถของเดชาธรนั่นเอง
ระหว่างที่เขากำลังจะกลับบ้าน ก็ตั้งใจจะแวะไปที่บ้านของ ‘นนท์นธี’ เพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของไร่แสงตะวันและเป็นแฟนเก่าของหญิงสาวคนนี้ หากแต่ระหว่างทางที่กำลังจะไป เขาเห็นเธอนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้ารีสอร์ทของไร่จึงจอดรถแวะดู ท่าทางของหล่อนไม่ค่อยดี หากปล่อยเอาไว้เขากังวลกลัวเธอจะคิดสั้นเลยชวนขึ้นรถพามาขับรถเล่น จนมาถึงหน้าบึงน้ำไม่ไกลจากรีสอร์ท ระหว่างนั้นหล่อนก็สังเกตเห็นว่าที่เบาะหลังรถของเขามีเบียร์วางอยู่หลายลัง เป็นเบียร์ที่เขาถูกคนที่บ้านฝากซื้อ แขไขขอเขากินเบียร์พวกนั้นจนเกือบหมดลัง และเริ่มปรับทุกข์ให้ชายหนุ่มฟังจนกระทั่งเมื่อเธอเมาได้ที่ และเขาเองก็เริ่มเมานิดๆ เช่นกัน
“อ๊ะ อื้อ...”
หญิงสาวครางได้ไม่เต็มเสียงนักเมื่อความคับแน่นกำลังคืบคลานเข้ามา ท่อนลำขยายใหญ่กว่าที่เธอเคยผ่านมา ยิ่งอยู่ในท่านั่งบนรถแคบๆ การจะสอดใส่อย่างรวดเร็วจึงเป็นไปได้ยากนัก
“ซี๊ด คุณแข...คุณรัดผมแน่นไปแล้ว”
เดชาธรบอกขณะพยายามบดเบียดยัดเยียดตัวตนเข้าไป แม้จะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนแรกของเธอ แต่ความคับแน่นที่ยังดูสดใหม่นี้ก็สร้างความพึงพอใจให้ไม่น้อย เขาแลบลิ้นไปตวัดเลียเม็ดบัวตรงอกตูมของเธอ ละเลงเสียจนหญิงสาวเสียวซ่านไปหมด
พยายามอยู่ไม่นานเขาก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ แขไขเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงด้วยตัวเองเพื่อเป็นฝ่ายคุมเกม เธอร่อนสะโพกไปมา กัดริมฝีปากตัวเองและมองหน้าเขาอย่างยั่วยวน ทุกการกระทำของเธอเซ็กซี่บาดใจเขาเหลือเกิน เดชาธรแทบไม่ต้องทำอะไรเพราะเธอจัดให้ทั้งนั้น ที่เขาทำมีเพียงนอนราบไปกับเบาะ สองมือขยำเต้าอวบเพื่อปลุกเร้าเธอเท่านั้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อื้อ อ๊ะ!”
ภาพของเธอที่เขามองเห็นในตอนนี้ช่างติดตาตรึงใจจนยากจะถอน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมอบความสุขให้เขาแบบนี้มาก่อน อันที่จริงถ้าจะพูดให้ถูก...เขาเคยผ่านผู้หญิงมาแค่คนเดียวเท่านั้นคือตอนจบมหาวิทยาลัยที่อเมริกาและที่นั่นจัดงานเลี้ยงกัน คืนนั้นเขาเมามากเลยเผลอได้เสียกับเพื่อนรวมชั้นไป ซึ่งมันก็ผ่านมาหลายปีมากๆ แล้ว
เดชาธรดึงเธอเข้ามาจูบเมื่อจุดสูงสุดกำลังใกล้เข้ามา แขไขจูบตอบอย่างร้อนแรง เธอขยับสะโพกเร็วขึ้นๆ เพราะตัวหล่อนก็ใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้วเช่นกัน สองร่างนัวเนียลูบไล้กันและกัน มือหนากดสะโพกเธอเอาไว้ ปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระเพื่อปลดปล่อยเสียงคราง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า!!!”
“อ่า...” ทั้งคู่กระตุกเกร็ง เดชาธรปลดปล่อยทุกอย่างใส่กายสาวไม่เหลือ ร่างบางทิ้งตัวลงนอนซบกับอกกว้าง หอบแฮ่กด้วยความเพลีย
“ชอบจัง...”
เธอพึมพำแต่เขาได้ยินชัดเจน การเป็นที่ต้องการของใครสักคนในเวลานี้ทำเอาชายหนุ่มใจฟู เขาเชยคางหญิงสาวขึ้นมาให้สบตากัน
“ผมถูกใจคุณซะแล้วสิ” ใบหน้าหล่อเหลาเอ่ย แขไขมองความหล่อนั้นด้วยแววตาเลื่อนลอย
“คุณเหมือนเทวดาเลย หล่อจัง”
แขไขเขยิบตัวขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อจูบที่ปลายคางของเขา เดชาธรใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าเธอเอาไว้แล้วก้มลงจูบเธออย่างอ่อนโยน
“คุณก็สวยเหมือนนางฟ้าเช่นกัน นางฟ้าของผม”
วงแขนแกร่งโอบกอดร่างบางไว้แน่น เขาชักอยากจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแล้วสิ ไม่อยากจะให้เธอ...ต้องมีน้ำตาอีกต่อไปแล้ว
ทว่าแม้จะมีความคิดแบบนั้น หากแต่ในหัวใจของเขาก็ยังมีภาพของผู้หญิงอีกคนชัดเจนอยู่...
ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเขาและทำให้เขาตัดสินใจที่จะเป็นหมอ...
...ภรรยาของเพื่อนสนิทเขา ‘หวานเย็น’
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
อวิ๋นซือเป็นบุตรสาวของขุนนางใหญ่กับภริยาเอก นางเพียบพร้อมคู่ควรกับฐานะฮูหยินใหญ่ วัยสิบห้าหญิงสาวขึ้นเกี้ยวสีเเดงหลังใหญ่ ใช้แปดคนหามเข้าสู่ตระกูลสามี วัยสิบเจ็ดนางถือหนังสือหย่าออกจากจวนอย่างทระนง เป็นฮูหยินใหญ่เเล้วอย่างไร เมื่อในใจสามียังสู้อนุคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
© 2018-now MeghaBook
บนสุด